ตอนที่ 1451 หญิงงามแห่งยุค
หลี่ชิเย่พาเย่เสี่ยวเสี่ยวและซือหม่ายวี่เจี้ยนไปพักที่โรงเตี้ยมแห่งหนึ่งในตัวเมือง สั่งการไปว่า “พวกเจ้าพักอยู่ที่นี่ชั่วคราว รอข้ากลับมา”
“คนอวดดี เจ้าจะไปไหน? ” เย่เสี่ยวเสี่ยวรู้สึกแปลกใจ มาคราวนี้นางรู้สึกว่าท่าทีของหลี่ชิเย่ดูประหลาด ส่วนจะประหลาดอย่างไรนั้น นางเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน
“ไปพบคนๆ หนึ่ง” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง หันหลังจากไปทันที
แต่ทว่า ยังเดินไปไม่ถึงประตูก็หยุดลง นิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง จากนั้นพูดขึ้นมาว่า “ถ้าหากข้าไม่ได้กลับมา พวกเจ้าก็กลับกันไปเอง มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นก็แล้วกัน”
“เพราะอะไร? ” เย่เสี่ยวเสี่ยวรู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี กล่าวว่า “ข้ารอเจ้ากลับมาก็แล้วกัน”
“ไม่แน่ข้าอาจจะตายไปแล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง จากนั้นเดินจากไป
คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้เย่เสี่ยวเสี่ยว และซือหม่ายวี่เจี้ยนต่างรู้สึกงง พวกนางคิดไม่ตกว่าหลี่ชิเย่คิดจะทำอะไร จากการสัมผัสในระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเย่เสี่ยวเสี่ยวหรือซือหม่ายวี่เจี้ยน พวกนางต่างเชื่อว่าหลี่ชิเย่ไม่มีทางตายได้ง่ายขนาดนั้น ต่อให้ถึงวันที่ต้องแย่งชิงชะตาฟ้า เขาก็จะไม่ตายง่ายดายขนาดนั้น
อีกทั้ง ในความทรงจำของพวกนาง หลี่ชิเย่ไม่ใช่คนที่ชอบพูดถึงเรื่องตายง่ายๆ อย่างนั้น เขาเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงมาก ในสายตาของเขานั้น ไม่มีใครสามารถฆ่าเขาให้ตายได้
แต่ทว่า มาวันนี้หลี่ชิเย่กลับพูดถึงความตายขึ้นมากะทันหัน กล่าวสำหรับเย่เสี่ยวเสี่ยว และซือหม่ายวี่เจี้ยนแล้วมันคือลางร้ายอย่างหนึ่ง พวกนางต่างไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรหลี่ชิเย่ถึงพูดถึงเรื่องความตายอย่างกะทันหัน
หลี่ชิเย่ ไปจากเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ มุ่งหน้าตรงลึกเข้าไป เขาเข้าไปยังส่วนที่ลึกเข้าไปของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ แน่นอน การที่เขาเข้าไปภายในเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์หาใช่ต้องการค้นหาอะไร และก็ไม่ได้ต้องการสมุนไพรเซียนอะไรทั้งนั้น หลังจากที่เขาได้เข้าไปยังบริเวณที่ลึกไปกว่านั้นแล้ว ได้ขึ้นไปยังยอดเขาแห่งหนึ่ง
ยอดเขาแห่งนี้สูงเสียบทะลุยันเมฆา สูงขึ้นไปถึงสวรรค์ แม้ยอดเขาแห่งนี้จะไม่ใช่ยอดเขาอันดับหนึ่งของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็คงนับนิ้วได้
หลี่ชิเย่ยืนอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ มองฟ้าดินจากระยะห่างไกลและนิ่งเงียบอยู่เป็นเวลานาน ในเวลานี้ภายในใจของเขาถึงกับตุ้มๆ ต่อมๆ
แม้ว่าหลี่ชิเย่ไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว แต่ทว่า เรื่องบางเรื่องทำให้เขารู้สึกยากที่จะไปเผชิญหน้ากับเขา คนที่เขาต้องไปเผชิญในเวลานี้ คือคนที่ติดค้างต่อเขา
หลี่ชิเย่ยืนนิ่งอยู่บนยอดเขานั่น มองดูพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก มองดูการเปลี่ยนแปลงของฟ้าดิน เขายืนอยู่ตรงนั้นราวกับว่าได้แข็งกลายเป็นหินแล้วอย่างนั้น ยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ไหวติงเหมือนเป็นรูปแกะสลักตนหนึ่ง
ตะวันขึ้นจันทราตก เพียงพริบตาเดียว หลี่ชิเย่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นมาแล้วหลายวัน โดยที่เขาได้ยืนอยู่ในลักษณะเช่นนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวในหลายวันที่ผ่านมา เหมือนว่าขาได้กลายเป็นรูปแกะสลักหินไปแล้ว
ในที่สุด มาวันนี้ขณะที่ดวงตะวันกำลังโผล่ขึ้นมาอย่างช้าๆ ทันใดนั้นบนยท้องฟ้าปรากฏร่างเงาสายหนึ่งที่เหินลงมาจากบนท้องฟ้า ขณะที่ร่างเงานี้ลงมาจากท้องฟ้าคล้ายดั่งการลงมายังโลกของเซียนอย่างนั้น ด้วยท่วงท่าที่สุดยอดมาก
นางเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เหินลงมาจากฟากฟ้า ยืนอยู่กลางอากาศตรงนั้น สายลมพัดมาแผ่วเบา สุริยันจันทรารายล้อม นางเหมือนดั่งเป็นเทพธิดาที่ลงมาจากสวรรค์ ท่วงท่าที่สุดยอดนั้น ไม่ว่าใครที่ได้พบเห็นก็ต้องหลงรักในตัวนาง
ขณะที่ผู้หญิงคนนี้เหินฟ้าลงมา หลี่ชิเย่ที่คล้ายดั่งเป็นรูปแกะสลักพลันลืมตาทั้งสองขึ้นมา ทันใดนั้น สายตาของหลี่ชิเย่ตกไปอยู่บนร่างของผู้หญิงคนนั้น
หัวใจของหลี่ชิเย่ถึงกับเต้นระทึกทีหนึ่งเมื่อมองเห็นผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เขาอดที่จะมองดูผู้หญิงตรงหน้าอย่างละเอียด วันเวลาผ่านไปกี่มากน้อยแล้ว แต่วันเวลากลับไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้บนตัวของนางเลย
เวลานี้ นางที่ยืนอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าเพียงจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยสายตาที่เย็นชา สายตาของนางเย็นยะเยือกยิ่งนัก ไม่มีท่าทีของความโกรธ และไม่ได้จ้องมองอย่างโกรธแค้น เพียงแต่เย็นยะเยือกเหลือเกิน เป็นความเย็นแบบเมินเฉย
หัวใจของหลี่ชิเย่ดุจดั่งถูกใครเขาหยิกเข้าให้อย่างแรง เมื่อมองเห็นสายตาลักษณะเช่นนี้ ครั้งนั้น สายตาคู่นี้ช่างดึงดูดใจผู้คนเหลือเกิน ส่งประกายเจิดจ้าดั่งดวงดาว ทำให้ผู้ที่พบเห็นต้องหลงไหล แต่ มาวันนี้นัยน์ตาที่งดงามคู่นี้กลับกลายเป็นเย็นยะเยือก ทุกอย่างล้วนมีสาเหตุมาจากเขา
“ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องมา” หลี่ชิเย่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “บางที เจ้าอาจรอวันนี้มานานมากแล้ว”
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความเย็นชา สายตาของนางเพียงมองอย่างเมินเฉย เมินเฉยจนกระทั่งเหมือนกำลังมองดูหลี่ชิเย่อย่างนั้น ทันใดนั้น ภายในดวงตาของผู้หญิงคนนี้ มองหลี่ชิเย่ประดุจดั่งหลี่ชิเย่เป็นเพียงนาย ก นาย ข ที่เดินอยู่บนถนนคนหนึ่งเท่านั้น
“ข้ารู้ เจ้าเกลียดข้า” หลี่ชิเย่ได้แต่ยิ้มเฉยเมย และกล่าวว่า “ดังนั้น วันนี้ข้ามาชดใช้หนี้ให้แล้ว มันเป็นเรื่องที่ข้าสมควรต้องสะสางเสียที ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าได้หลบเลี่ยงเรื่องนี้ตลอด เนื่องจากก่อนหน้านี้ข้ามีความรู้สึกว่าข้ายังมีโอกาสได้กล่าวคำว่าขอโทษกับเจ้า แต่ ชาตินี้มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ข้าจะไปแล้ว……………”
“บางที ข้าจะไม่กลับมาอีกตลอดไป………..” เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ถึงกับทอดถอนใจเบาๆ ด้วยท่าทีสลด กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “ดังนั้น ข้าจึงต้องการให้มีการจบสิ้นกับเจ้า นี่คือคำตอบที่ให้กับเจ้า และถือว่าเป็นการทำให้ความปรารถนาได้เสร็จสิ้นลุล่วงไปอย่างหนึ่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...