ตอนที่ 1468 การลงมือของเทพธิดาเก็บจันทรา
หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมาขณะนั่งอยู่บนบัลลังก์ราชันกับคำปฏิเสธของจักรพรรดิหอยสังข์ กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “ถ้าหากโอรสสวรรค์ปกสมุทรไม่ยอมรับคำท้าก็ใช่ว่าจะไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นพวกเจ้าก็จะมีทางเลือกอยู่เพียงแค่ทางเดียว นั่นก็คือข้าจะจัดการกับพวกเจ้าทั้งหมด พวกเจ้าที่ได้ชื่อว่าสี่ยอดฝีมือใครก็อย่าหวังมีชีวิตรอดไปจากที่ประชุมหมื่นเผ่าพันธุ์แห่งนี้”
เมื่อหลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมหมื่นเผ่าพันธุ์ถึงกับนิ่งเงียบ รู้สึกหวาดกลัวขึ้นในใจ การที่มีเมิ่งเจิ้นเทียน องค์ชายแห่งความชั่วร้ายพวกเขาที่เป็นยอดฝีมืออยู่กันพร้อมหน้า ในแดนวิญญาณสวรรค์ใครหน้าไหนหาญกล้าทำกำเริบเสิบสาน แต่ หลี่ชิเย่กลับคุกคามข่มขู่พวกของเมิ่งเจิ้นเทียนสี่คนตรงๆ ช่างทรงกำลังอำนาจขนาดไหน เป็นความพาลไร้เหตุผลเช่นใด โดยไม่เห็นพวกของเมิ่งเจิ้นเทียนทั้งสี่คนอยู่ในสายตาเลย
สีหน้าของพวกเมิ่งเจิ้นเทียน องค์ชายแห่งความชั่วร้ายดูไม่จืดเลย พวกเขาต่างก็เป็นผู้ที่สามารถสั่งลมสั่งฝน อำนาจสยบแดนวิญญาณสวรรค์ทั้งสิ้น จะมีใครกล้ากำแหงต่อหน้าพวกเขา แต่ทว่า มาวันนี้หลี่ชิเย่กลับไม่มองพวกเขาอยู่ในสายตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต่อให้เป็นผู้ที่มีความอดกลั้นดีเยี่ยมก็ต้องมีอารมณ์บ้างเหมือนกัน
“หลี่ชิเย่ เจ้าคิดว่าอาศัยเจ้าลำพังคนเดียวสามารถเอาชนะพวกเราทั้งสี่คนได้จริงหรือ? ” องค์ชายแห่งความชั่วร้ายกล่าวท่าทีน่าเกรงขามออกมา
เสินจื่อโจวนับเป็นพื้นที่อิทธิพลของสำนักเทพเจ้าโบราณน้ำลึก ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกล้าทำกำเริบเสิบสานที่เสินจื่อโจวของพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลักษณะของการท้าทายอำนาจของเทพเจ้าโบราณทะเลลึกของพวกเขา แต่ทว่า เวลานี้หลี่ชิเย่กลับทำการตามอำเภอใจ โดยไม่เห็นเทพเจ้าโบราณทะเลลึกพวกเขาอยู่ในสายตาเลย
“แค่พวกชื่อเสียงจอมปลอมเท่านั้น ไม่มีค่าคู่ควรจะกล่าวถึง” หลี่ชิเย่หัวเราะนิดหนึ่งพร้อมกับกล่าวตามอารมณ์ออกมา
“พูดพล่ามมากเกินไปแล้ว! ” เทพธิดาเก็บจันทราเวลานี้หมดความอดทนแล้ว กล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “พวกเจ้าทั้งสี่ลงมือเลย ปราบพวกเจ้าให้เรียบแล้วจะได้เลิกงานประชุมหมื่นเผ่าพันธุ์ในทันที”
“เทพธิดาเก็บจันทรา เจ้าจะอวดดีเกินไปแล้ว…” สีหน้าของจักรพรรดิลู่เปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดของเทพธิดาเก็บจันทรา ลุกขึ้นยืนและร้องกล่าวเสียงดังออกมาทันที
“อวดดีแล้วไง!” สายตาของเทพธิดาเก็บจันทราดูน่าเกรงขามขึ้นทันที ขาดคำ หนึ่งนิ้วที่กวาดออกไป ปรากฏประกายดาวที่เจิดจ้า ด้วยวาสนาธรรมชาติที่ฟ้าดินประทานมาให้ เป็นปฏิปักษ์กับหยินและหยาง ตัดสินผลกรรม!
ทันทีที่เทพธิดาเก็บจันทราลงมือ ได้แสดงถึงท่วงท่าที่พาลให้เห็นโดยไม่ปิดบังซ้อนเร้นเลย นางไม่เพียงมีท่วงท่าที่งามดั่งเทพธิดาเท่านั้น ทวงท่าเทพธิดาของเขายังพาลอหังการยิ่งนัก!
สีหน้าของจักรพรรดิลู่พลันเปลี่ยนไป เมื่อเห็นหนึ่งนิ้วที่กวาดออกมา จึงกางนิ้วทั้งสิบออกทันที ทันใดนั้น ปรากฎแนวป้องกันเกิดขึ้นยด้านหน้าของจักรพรรดิลู่เป็นชั้นๆ ขึ้นมา กลายเป็นภูเขาที่สูงตระหง่านแต่ละลูกขึ้นด้านหน้าของจักรพรรดิลู่
ภูเขาที่แลดูสูงตระหง่านอันตรายและยิ่งใหญ่ เรียกได้ว่าแม้นยืนเฝ้าเพียงคนเดียว หมื่นคนก็หักหาญเข้าไปไม่ได้ แต่ทว่า ต่อให้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ถูกตั้งวางซ้อนกันเป็นชั้นๆ ภายใต้หนึ่งนิ้วของเทพธิดาเก็บจันทรา “ปัง” เสียงหนึ่งที่ดังขึ้น ภูเขาแต่ละลูกพลันถูกทำลายพังทลายลง ทันใดนั้น ร่างของจักรพรรดิลู่ถูกแรงกระแทกจนตัวลอยออกไป
“เปิด…” ระหว่างที่ร่างของจักรพรรดิลู่ลอยออกไปนั้น จังหวะที่กำลังอยู่ในอันตราย จักรพรรดิลู่คำรามเสียงดังออกมา มือที่กวักออกไปพลันปรากฏเหมือนน้ำตกศักดิ์สิทธิ์ที่ตกลงมาจากฟากฟ้า กลิ่นอายเก่าแก่โบราณแต่ละสายพลันถักทอเข้าด้วยกัน กลายเป็นต้นไม้ขนาดยักษ์ที่สูงตระหง่านเทียมฟ้า โดยที่ต้นไม้ยักษ์ต้นนี้ได้แผ่จิตวิญญาณที่ไม่ขาดสายออกมา ทันใดนั้น ต้นไม้ยักษ์ที่เหมือนดั่งยักษ์ตนหนึ่งได้ปะทุประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา
มาครั้งนี้ ต้นไม้ขนาดยักษ์เสมือนหนึ่งคือปรมาจารย์พฤกษาที่ฟื้นคืนชีพอย่างนั้น หอบเอาท่าทีที่เหนือฟ้าเปรียบประดุจเป็นการลงมือของปรมาจารย์พฤกษา ทันใดนั้น รอบๆ ของต้นไม้ขนาดยักษ์ปรากฎเป็นอักขระยันต์ที่ไม่มีสิ้นสุดออกมาทุกทิศทุกทาง ตัวอักขระยันต์ทุกๆ ตัวเปรียบเหมือนเป็นยันต์ของปรมาจารย์พฤกษาอย่างนั้น อักขระยันต์ทุกๆ ตัวล้วนแล้วแต่สามารถสยบเหล่าชั้นฟ้าได้ทั้งสิ้น
ได้ยินเสียงดัง “ตึง” อักขระยันต์ที่ไม่มีสิ้นสุดได้กลับกลายเป็นกระบี่ขนาดยาวที่ยาวเป็นหมี่นลี้เล่มหนึ่ง หนึ่งกระบี่ที่สามารถฟาดฟันทางช้างเผือกจนขาดกระจุย หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ “ตึง…” กระบี่ส่งเสียงคำรามก้องไปยังเก้าชั้นฟ้า ตรงเข้าฟาดฟันยังตัวของเทพธิดาเก็บจันทราทันที
ในขณะนี้ เทพธิดาเก็บจันทราได้ลงมือแล้ว มือของนางที่กางออกไป หยุดยั้งจักรวาล หยุดกาลเวลาเอาไว้ ยามเมื่อนิ้วทั้งห้าของนางบีบเข้าหา ได้ยินเสียงดัง “ปัง” เหมือนดั่งจักรกวาลถูกบีบจนแหลกละเอียดท่ามกลางนิ้วทั้งห้าของนาง กาลเวลาล่มสลาย ภายใต้การบีบเข้าหากันของนิ้วทั้งห้า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่กลายเป็นเถ้าธุลีไป
“ตึง” เป็นเสียงของกระบี่ที่หักสะบั้นดังขึ้น กระบี่ยาวพลันหักเป็นท่อนๆ กว่าสิบท่อน ขณะเดียวกัน “ตูม” ต้นไม้ขนาดยักษ์ที่สูงเทียมฟ้าถูกบีบจนแหลกละเอียด ปรากฏเป็นเศษไม้จำนวนนับไม่ถ้วนที่ปลิวว่อนเต็มท้องฟ้า
“ปุ…” จักรพรรดิลู่กระอักเลือดออกมาอย่างแรง จากนั้นได้ยินเสียงดัง “คร๊ากก” ร่างของจักรพรรดิลู่ถูกพลังกระแทกเข้าให้จนตัวลอยอีกครั้ง พร้อมกับกระดูกที่แตกร้าวของร่างกาย
จักรพรรดิลู่ในครั้งนี้ไม่ใช่จักรพรรดิลู่ในวันนั้นอีกแล้ว จักรพรรดิลู่ในวันนั้นยังคงเป็นร่างกายของจักรพรรดิลู่เอง มาครั้งนี้ เป็นร่างกายของจักรพรรดิลู่ที่ถูกควบคุมบงการโดยหลงจวู๋หย่าจู่ เขาจึงมีพลังของหลงจวู๋หย่าจู่ส่วนหนึ่งอยู่ในตัว
ต่อให้จักรพรรดิลู่ที่มีพลังบางส่วนของหลงจวู๋หย่าจู่บนตัวในเวลานี้ก็ตาม ภายใต้สองสามกระบวนท่าของเทพธิดาเก็บจันทรายังคงพ่ายแพ้อย่างยับเยิน หาใช่คู่ต่อสู้ของเทพธิดาเก็บจันทราเลย เว้นแต่ร่างจริงของเขาจะมาด้วยตนเอง
.ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าได้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวเหลือเกิน ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่หวั่นไหวจนไม่อาจเรียกสติคืนมาอยู่เป็นเวลานาน หลงจวู๋หย่าจู่ที่สิงอยู่ในร่างของจักรพรรดิลู่ต้องพ่ายแพ้ให้กับเทพธิดาเก็บจันทราเพียงแค่สองสามกระบวนท่าเท่านั้น ผลที่ออกมาเช่นนี้สร้างความสะเทือนใจผู้คนยิ่งนัก!
โดยเฉพาะสำหรับพวกของเมิ่งเจิ้นเทียน องค์ชายแห่งความชั่วร้ายแล้ว พวกเขาถึงกับใจหายใจคว่ำ พวกเขาย่อมรู้ดีว่า จักรพรรดิลู่ที่มีพลังของหลงจวู๋หย่าจู่อยู่ในตัวส่วนหนึ่งนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงใด แต่ทว่า ในเวลานี้ เมื่อต้องเผชิญกับเทพธิดาเก็บจันทรา กลับไม่สามารถรับการโจมตีของเทพธิดาเก็บจันทรา ได้เลย
“ไม่เสียทีที่เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดตลอดกาลของราชันเซียนหญิงหงเทียน” สีหน้าของผู้คนจำนวนมากเปลี่ยนไปมากเมื่อมองเห็นความแข็งกร้าวและพาลของเทพธิดาเก็บจันทรา ถึงกับหวาดกลัวยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...