ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1471

ตอนที่ 1471 ทวนหงส์เพลิงตระกูลซู

“ตูม…ตูม…ตูม…” ภายใต้การสยบของมือยักษ์ทั้งเก้า แคว้นลัคนาของซูหย่งหวงเริ่มเกิดอาการสั่นไหวขึ้นมา กระทั่งปรากฏเสียงดังคร๊ากกดังขึ้นมาเป็นระลอก พื้นดินของแคว้นลัคนาเริ่มมีการแตกร้าวและแยกออก ปรากฏเป็นรอยแยกขนาดใหญ่แต่ละเส้นขึ้นมา

จะอย่างไรเสียก็คือถุงมือเทพเจ้าแห่งทะเล เป็นอาวุธเทพเจ้าแห่งทะเลที่ทรงพลังมากที่สุดของสำนักแตรสังข์ และหลอมสร้างมากับมือจากเทพเจ้าแห่งทะเลหอยสังข์เอง อาวุธเทพเจ้าแห่งทะเลลักษณะเช่นนี้ แม้ว่าโอรสสวรรค์ปกสมุทรเพิ่งจะมีโอกาสได้ใช้เป็นครั้งแรก แต่ว่า จากการที่มาจากสายเดียวกัน จึงทำให้โอรสสวรรค์ปกสมุทรสามารถสำแดงพลังเทพเจ้าแห่งทะเลที่ทรงพลังยิ่งออกมาได้

“แช้งค์…” ทันใดนั้น ปรากฏทวนอยู่ในมือของซูหย่งหวง เป็นทวนยาวที่สีแดงชาดดั่งเพลิง ตัวของทวนยาวเสมือนหนึ่งเป็นเปลวเพลิงที่กระโดดโลดเต้น ยามเมื่อทวนยาวอยู่ในมือของซูหย่งหวงแล้ว ได้ยินเสียงดัง ตูม” ร่างกายของซูหย่งหวงเหมือนถูกจุดติดอย่างนั้น นางไม่เพียงมีเปลวเพลิงที่พลุ่งพล่านรุนแรง ร่างของนางยังทีปณิธานการต่อสู้ที่ทรงพลัง พร้อมกวาดล้างปราบปรามทั่วหล้าถูกจุดติดขึ้นมาสายหนึ่ง เหมือนว่าเวลานี้นางก็คือเทพสงครามที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่

“อิ้วว…” เสียงร้องยาวดังออกมา หนึ่งทวนของซูหย่งหวงที่สะเทือนฟ้า หงส์เพลิงบินร่อน เดิมหงส์เพลิงตัวนี้มีความแข็งแกร่งยิ่งอยู่แล้ว เวลานี้ มันได้หลอมรวมเข้ากับกายสุริยัน ย่อมหมายถึงมันมีพลังที่ล้ำเลิศที่สุด คล้ายดั่งวิหคศักดิ์สิทธิ์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกอีกครั้งและกำลังอาบเอิบอยู่กับเพลิงแก่นสุริยันอยู่ กลิ่นอายที่ปราศจากผู้ต่อกรของสัตว์เทพพลันปกคลุมไปทั่วฟ้าดิน

หนึ่งทวนที่แทงออกไป หงส์เพลิงเหินบิน หนึ่งทวนสะเทือนฟ้าดิน ทำให้ซูหย่งหวงในเวลานี้มีท่าทีที่สุดยอด หมางเมินเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน เป็นที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งยิ่งนักแก่ผู้ที่พบเห็น

“ทวนหงส์เพลิงตระกูลซู!” หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มที่เรียบเฉยออกมาเมื่อได้เห็นทวนที่อยู่ในมือของซูหย่งหวง มองดูท่วงท่าที่เปี่ยมด้วยปณิธานการต่อสู้ที่ฮึกเหิมแล้ว ทันใดนั้น หลี่ชิเย่เหมือนดั่งได้มองเห็นขุนพลหญิงตระกูลซูในครั้งครานั้น!

เสียง “ปัง…” ดังสนั่นไปทั่ว หงส์เพลิงกวาดล้างไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน การโจมตีด้วยปีกทั้งคู่ของมัน มือขนาดใหญ่ที่ปิดบังฟ้าดินกระเด็นกระดอน ต่อให้เป็นมือของเทพเจ้าแห่งทะเลก็ไม่อาจต้านทานกับการโจมตีที่สะเทือนฟ้าเช่นนี้ได้

แม้กล่าวว่า ถุงมือเทพเจ้าแห่งทะเลที่สวมอยู่บนมือของโอรสสวรรค์ปกสมุทรนั้นทรงพลังยิ่งนัก มันคืออาวุธเทพเจ้าแห่งทะเลที่ทรงพลังมากที่สุดของสำนักแตรสังข์ แต่ทว่า ประวัติความเป็นมาของทวนหงส์เพลิงตระกูลซูก็ไม่ธรรมดา มันเคยติดตามนายหญิงแห่งตระกูลซูกวาดล้างไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินมาก่อน และด้วยทวนหงส์เพลิงตระกูลซูที่อยู่บนมือเล่มนี้ ทำให้ขุนพลหญิงตระกูลซูสร้างผลงานการรบที่โด่งดังให้กับราชันเซียนหมิงเหริน ทำการกวาดล้างสิ่งกีดขวางจำนวนมากบนเส้นทางก้าวไปสู่ราชันเซียนของราชันเซียนหมิงเหรินจนราบเรียบ!

หนึ่งทวนที่กวาดออกไป โอรสสวรรค์ปกสมุทรถึงกับกระอักเลือดออกมาอย่างแรง โอรสสวรรค์ปกสมุทรทั้งเก้าหายไป และปรากฏโอรสสวรรค์ปกสมุทรที่เป็นร่างจริงขึ้นมา

“ตึง” หนึ่งทวนที่สะบัดไปเบื้องบน ไปแล้วไปลับ พุ่งเป้าไปที่โอรสสวรรค์ปกสมุทร กระบวนท่านี้อหังการยิ่งนัก โดยเฉพาะเมื่อต้องมาอยู่ในแคว้นลัคนาของซูหย่งหวงด้วยแล้ว ต่อให้เป็นเทพแท้จริงก็รับกับกระบวนท่านี้ไม่ได้

“บังอาจ…” หนึ่งทวนนี้มีความอันตรายยิ่งนัก ทำให้จักรพรรดิหอยสังข์ถึงกับนั่งไม่ติดลุกขึ้นยืนในทันที เงาลางๆ ที่อยู่ด้านหลังของเขาพลันปะทุอำนาจเทพเจ้าแห่งทะเลที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา

ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับร่างสั่นเทิ้มขึ้นมาทีหนึ่งกับอำนาจเทพเจ้าแห่งทะเลเช่นนี้ ช่างเป็นอำนาจเทพเจ้าแห่งทะเลที่ทรงพลังยิ่งเหลือเกิน

“จักรพรรดิหอยสังข์ เจ้าคิดจะลงมือรึ?” ในขณะที่จักรพรรดิหอยสังข์คิดจะลงมือเข้าช่วยเหลืออยู่นั้น เทพธิดาเจินหวู่พลันก้าวเดินออกมาในเวลานี้ โดยที่นางไม่ได้สำแดงกระบวนท่าใดๆ ทั้งสิ้น

ฉับพลันนั้นเอง ด้านหลังของเทพธิดาเจินหวู่ ปรากฏดวงตาคู่หนึ่งลืมตาขึ้นมา เป็นคู่ดวงตาที่ส่องสว่างไปทั่วฟ้าดิน มองหยินและหยางอย่างทะลุปรุโปร่ง ครอบคลุมวัฏจักร

ดวงตาคู่นี้มีความลึกล้ำยิ่งนัก เป็นคู่ดวงตาที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนนับไม่ถ้วน ยามที่ดวงตาคู่นี้ลืมตาขึ้นมา เหมือนเป็นเทพเจ้าแห่งทะเลที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาองค์หนึ่ง ดวงตาคู่นั้นส่องสว่างฟ้าดิน ทำให้สรรพชีวิตในเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินจำนวนนับไม่ถ้วนต้องรู้สึกยำเกรง

“เนตรเทพเจ้าแห่งทะเล…” ยามที่ดวงตาคู่นี้ลืมตาขึ้นมา ไม่รู้ว่ามีปีศาจทะเลจำนวนเท่าไรที่ร้องเสียงแหลมออกมา และเสียงทิ้งตัวคุกเขาลงดังขึ้น ปีศาจทะเลจำนวนมากคุกเข่ากับพื้นก้มหน้าต่ำ ไม่กล้าสบตากับดวงตาคู่นั้น

จักรพรรดิหอยสังข์คือบุตรของเทพเจ้าแห่งทะเล แต่ เทพธิดาเจินหวู่ก็เป็นบุตรีเทพเจ้าแห่งทะเลเช่นกัน อีกทั้งพรสวรรค์ของเทพธิดาเจินหวู่สูงกว่าจักรพรรดิหอยสังข์อยู่มากมาย

“จักรพรรดิหอยสังข์ เจ้าน่ะแก่แล้ว เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ของข้า!” ขณะที่ดวงตาคู่นี้ลืมตาขึ้นมานั้น ประกายเทพเจ้าแห่งทะเลได้อาบเอิบบนตัวของเทพธิดาเจินหวู่ ทันใดนั้น ในเสี้ยววินาทีนี้เองเทพธิดาเจินหวู่ ก็คล้ายดั่งเป็นเทพเจ้าแห่งทะเลองค์หนึ่งอย่างนั้น

ผู้คนจำนวนมากรู้สึกสั่นเทาภายในใจ เมื่อได้เห็นเทพธิดาเจินหวู่ อาบเอิบอยู่ภายใต้ประกายเทพเจ้าแห่งทะเล เทพธิดาเจินหวู่มีความแข็งแกร่งมากกว่าที่ทุกคนได้จินตนาการเอาไว้ นางมีสิทธิ์เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลได้อย่างแน่นอน และมีสิทธิ์มากกว่าทุกคน

นาทีนี้กระทั่งมีผู้คิดว่า ต่อให้มีใครสักคนที่ได้รับการยอมรับจากทวนสามง่ามไปแล้ว ถ้าหากเทพธิดาเจินหวู่คิดจะอาศัยกำลังแย่งชิงเอาทวนสามง่ามมาเป็นของตน เกรงว่านางก็คงเป็นเทพเจ้าแห่งทะเลได้เช่นกัน!

คำพูดที่ตรงไม่มีการอ้อมค้อมของเทพธิดาเจินหวู่ พลันทำให้สีหน้าของจักรพรรดิหอยสังข์ถึงกับดำคล้ำ แต่ทว่า ต่อให้เขาโกรธจัดก็ต้องจนด้วยเกล้า เนื่องจากการลืมตาขึ้นมาของเนตรเทพเจ้าแห่งทะเลคู่นั้นที่อยู่ด้านหลังของเทพธิดาเจินหวู่ เขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันบ่งบอกสิ่งใดออกมา

จักรพรรดิหอยสังข์ที่ฐานะเป็นบุตรเทพเจ้าแห่งทะเลเหมือนกัน เขาย่อมมีความเข้าใจในอำนาจของเทพเจ้าแห่งทะเล การที่เนตรเทพเจ้าแห่งทะเลคู่นั้นที่อยู่ด้านหลังของเทพธิดาเจินหวู่สมจริงได้ขนาดนี้ ทำให้เขารู้ว่าเทพธิดาเจินหวู่ได้มีการสืบทอดพลังส่วนหนึ่งของเทพเจ้าแห่งทะเลเจินหวู่เอาไว้ ถึงแม้ตัวเขาจะได้รับความคุ้มครองจากบิดาของเขา แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเทพธิดาเจินหวู่ เขาก็ยากที่จะต่อกรด้วย

“อ๊ากก…” เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น เลือดสดๆ กระจายตกลงมาในเวลานี้ ทวนหงส์เพลิงตระกูลซูแทงทะลุเข้าไปยังหัวใจของโอรสสวรรค์ปกสมุทร ศพของโอรสสวรรค์ปกสมุทร ถูกทวนหงส์เพลิงตระกูลซูยกขึ้นสูง

ภาพนี้นับว่าสร้างความสะเทือนหวั่นไหวเหลือเกิน เคยเป็นดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดของเผ่าปีศาจทะเล เวลานี้กลับตามมาตายภายใต้เงื้อมมือของเผ่าพันธุ์มนุษย์คนหนึ่ง ขณะที่ศพของเขาถูกเกี่ยวและชูขึ้นสูงนั้น ภาพที่เลือดสดๆ ไหลรินหยดลงมานั้น ช่างสร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจเสียเหลือเกิน!

สุดท้าย ซูหย่งหวงเรียกคืนลัคนากลับมา ทวนยาวในมือสะบัดไปตามอารมณ์ “ปัง” ศพของโอรสสวรรค์ปกสมุทรพลันกลายเป็นหมอกเลือด ไม่เหลือทิ้งเอาไว้แม้แต่ซาก

สีหน้าของจักรพรรดิหอยสังข์ดำคล้ำเย็นยะเยือกดูไม่จืดถึงขีดสุด เขาอยู่ในฐานะผู้คุ้มครองของโอรสสวรรค์ปกสมุทร แต่ทว่า ท้ายที่สุดแล้วกลับไม่สามารถช่วยเหลือโอรสสวรรค์ปกสมุทรเอาไว้ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล