ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1490

ตอนที่ 1490 หมัดเดียวทะลวงอก

มองดูมนุษย์ทองคำที่มีรูปร่างสูงใหญ่ถึงเพียงนี้แล้ว แม้แต่ระดับอ๋องเทพก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นช่างเล็กจิ๋วเสียเหลือเกิน เมื่อต้องมาอยู่ตรงหน้าของมนุษย์ทองคำที่ใหญ่โตจนสุดเปรียบเปรยเช่นนี้ ระดับอ๋องเทพจะรู้สึกว่าตัวเองเล็กจนคล้ายดั่งมดปลวก กระทั่งไม่เท่ามดปลวกเสียด้วยซ้ำ เป็นเพียงฝุ่นผงเม็ดหนึ่งเท่านั้นเอง

“ตูม” บังเกิดเสียงดังสนั่น ในเวลานี้เองประกายสีทองที่ถูกยิงออกมาจากสวรรค์สาดส่องดูเป็นแก่นแท้มากขึ้นในทันใด พุ่งเข้าหาหลี่ชิเย่ด้วยความเร็วสูงสุด

ประกายสีทองเช่นนี้มีอานุภาพที่รุนแรงจนสุดเปรียบเปรย การพุ่งเข้าใส่ของมันดูเหมือนจะไม่มีสิ่งใดสามารถต้านทานได้ ไม่มีใครสามารถต้านรับกับมันได้ มันสามารถพุ่งชนและทำลายสรรพชีวิตและทุกสิ่งทุกอย่างให้มลายกลายเป็นเถ้าธุลีได้ในทันที!

“ตูม ตูม ตูม” จังหวะที่ประกายสีทองพุ่งเข้ามานั้น หลี่ชิเย่ได้รวมสิบสองหมัดเป็นหนึ่ง นาทีนี้ ไม่ว่าสิบสองหมัดรวมเป็นหนึ่งจะปะทุเป็นพลังเช่นใดออกมาก็ตาม ไม่ว่าจะก้าวข้ามกาลเวลาเช่นใด ไม่ว่าจะทำการสลายอย่างใด ก็ไม่สามารถทำการสลายประกายสีทองที่พุ่งเข้าหาในลักษณะเช่นนี้ไปได้

ประกายสีทองที่พุ่งเข้ามานั้นรุนแรงเหลือเกิน และเปี่ยมด้วยพลังที่แข็งแกร่งมากเหลือเกิน ภายใต้การพุ่งเข้าใส่ของประกายสีทองลักษณะเช่นนี้ ทำให้สิบสองหมัดรวมเป็นหนึ่งของหลี่ชิเย่ไม่สามารถสลายหรือทำลายมันได้อยู่แล้ว

“ปัง” ประกายสีทองพลันส่งร่างของหลี่ชิเย่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า นาทีนี้ท้องฟ้าคล้ายดั่งเป็นกำแพงด้านหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของหลี่ชิเย่ ร่างกายของหลี่ชิเย่จึงกระแทกเข้ากับกำแพงที่อยู่ด้านหลังอย่างจัง ทำให้ฟ้าดินถึงกับสั่นไหวโคลงแคลงไปมา ตัวของหลี่ชิเย่ถูกประกายสีทองสยบเอาไว้บนท้องฟ้า ภายใต้การสยบของประกายสีทองปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ ทำให้หลี่ชิเย่ยากที่จะสำแดงสิบสองหมัดรวมเป็นหนึ่งออกมาได้

“ปัง ปัง ปัง” เสียงสั่นไหวดังขึ้นเป็นระลอก แม้ว่าหมัดขวาของหลี่ชิเย่จะทำการโต้กลับครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ ภายใต้การสยบของประกายสีทอง การโต้กลับของหมัดขวาหลี่ชิเย่ต้องประสบกับความล้มเหลวทุกครั้ง ร่างกายของหลี่ชิเย่ถูกสยบตรึงเอาไว้บนท้องฟ้า ยากที่จะเคลื่อนไหวได้

ในเวลานี้ ประกายสีทองที่เสมือนดั่งเป็นมือขนาดยักษ์จัดการสยบหลี่ชิเย่เอาไว้บนท้องฟ้า เหมือนว่ามือยักษ์นี้จะมีพลังที่สามารถสยบได้ทุกอย่าง

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนรู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อมองเห็นประกายสีทองที่เสมือนดั่งเป็นมือขนาดยักษ์จัดการสยบหลี่ชิเย่เอาไว้บนท้องฟ้า เวลานี้ ประกายสีทองที่เหมือนจริงมากคล้ายเป็นมือขนาดยักษ์ข้างหนึ่งที่ตลบอบอวลไปด้วยพลังที่ไร้ขีดจำกัด เหมือนว่ามือยักษ์ข้างนี้คือมือของราชันเซียน จึงมีพลังที่สามารถสยบเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน สยบสัจธรรมฟ้าดินได้ทั้งหมด

ภายใต้มือยักษ์เช่นนี้แล้ว เหมือนว่าการต่อสู้ขัดขืนทุกอย่างล้วนแล้วแต่เหนื่องเปล่า ภายใต้มือยักษ์ที่มีพลังไร้ขีดจำกัดแล้ว ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะมีความแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ดูเหมือนสุดที่จะต้านทานได้

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนถึงกับเหงื่อเย็นไหลโทรมตัว เมื่อเห็นประกายสีทองลักษณะเช่นนี้ได้ทำการสยบหลี่ชิเย่เอาไว้บนท้องฟ้า เวลานี้ บางคนอดที่จะเอามือสัมผัสกับคอหอยของตนเอง พวกเขารู้สึกเหมือนมีมือขนาดยักษ์มาบีบคอของตนเอาไว้อย่างนั้น พวกเขากระทั่งได้ยินเสียงของกระดูกที่แตกหักดังขึ้นมา เหมือนว่ามือยักษ์นั้นได้บีบจนคอของตนแหลกละเอียดไปแล้ว ไม่เพียงเป็นความรู้สึกที่ทำให้อึดอัดจนหายใจไม่ออก ยังมีความรู้สึกเหมือนวิญญาณได้ล่องลอยออกจากร่างอย่างนั้น

“เจ้าไม่ควรเป็นศัตรูกับข้า!” ในขณะนี้ ประกายสีทองได้สยบหลี่ชิเย่เอาไว้บนท้องฟ้า นัยน์ตาทั้งสองของเมิ่งเจิ้นเทียนเย็นชา ตลบอบอวลไปด้วยปณิธานการฆ่าที่น่ากลัว ในเวลานี้ ท่าทีเมิ่งเจิ้นเทียนที่หมางเมินทั่วหล้า ท่าทางเหมือนราชาที่อยู่เหนือผู้คนทั้งหลายทั้งปวง ไม่ว่าใครก็ตามล้วนต้องสั่นเทา รู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก

“จบสิ้นกันแล้วรึ เมิ่งเจิ้นเทียนจะได้รับชัยชนะแล้วรึ?” มีผู้พึมพำออกมา เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ที่ถูกสยบอยู่บนท้องฟ้า

กระทั่งมียอดฝีมือเผ่าวิญญาณเทพกล่าวว่า “เมิ่งเจิ้นเทียนย่อมเป็นเมิ่งเจิ้นเทียน ทอดสายตามองออกไปในแดนวิญญาณสวรรค์ คงมีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่เป็นราชันเซียนได้!”

หลี่ชิเย่เพียงยิ้มนิดหนึ่งกับคำพูดเช่นนี้ของเมิ่งเจิ้นเทียน “แว้งค์” ร่างกายของหลี่ชิเย่พลันเปล่งประกายเจิดจ้า ทันใดนั้น กายเซียนเหิน กายเทวะสยบอเวจี กายพิสุทธิ์ และกายขวานทลายฟ้าได้ปะทุพลังขึ้นมาพร้อมๆ กัน

ก้าวข้าม พลัง น้ำหนัก สลายทั้งสี่ประการได้ระเบิดพลังจนถึงขีดสูงสุด ทันใดนั้น รอบๆ ตัวของหลี่ชิเย่ได้ดันตัวขึ้นมากลายเป็นอาณาจักรที่กว้างขวางใหญ่โตมาก โดยมีหลี่ชิเย่เป็นผู้บงการทั้งหมดอยู่ท่ามกลางอาณาจักรแห่งนี้

“ตูม” เสียงดั่งสนั่นดังขึ้น หมัดขวาของหลี่ชิเย่พลันก้าวข้ามทะลุขีดสูงสุดขั้นแล้วขั้นเล่า เมื่อเกิดการระเบิดพลังขึ้นมาของกายเซียนทั้งสี่ เมื่อได้รับการสนับสนุนจากกายเซียนทั้งสี่แล้ว ทำให้ทำลายพันธนาการทั้งหมดของกาลเวลา ช่องว่าง พลัง ก้าวออกจากการถูกพันธนาการทุกสิ่งทุกอย่าง ทะลุผ่านลักษณะของคอขวดไปได้

“ตูม” ภายใต้พลังหมัดๆ นี้ แม้แต่เทพบนสวรรค์ของเก้าแดนยังคงต้องสั่นเทา

หมัดเดียวทำลายทุกสิ่งจนแหลกลาญ เวลานี้ ประกายสีทองที่เหมือนจริงก็ถูกทำลายจนปุนปี้ไปในพริบตา เวลานี้ทุกอย่างเหมือนเชื่องช้าลง ทุกคนสามารถมองเห็นหนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ที่ปล่อยออกไป ปรากฏเศษทองคำจำนวนนับไม่ถ้วนที่ปลิวว่อน เศษเหล่านั้นค่อยๆ โปรยปรายลงมากระจายไปทั่วฟ้าดิน เหมือนหนึ่งท้องฟ้าได้ปรากฏเป็นฝนทองคำตกลงมาอย่างนั้น!

“ปัง” ทุกคนรู้สึกเหมือนฟ้าดินได้หยุดเวลาเอาไว้กับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า ทุกคนต่างมองเห็นหมัดขวาของหลี่ชิเย่ที่ทะลวงผ่านหน้าอกของเมิ่งเจิ้นเทียนไป

เลือดสดๆ แตกกระจายจนทำเอาท้องฟ้ากลายเป็นสีแดง เมื่อเมิ่งเจิ้นเทียนถูกหมัดทะลวงอกเช่นนั้น ทำให้ร่างของเขาพุ่งตกจากที่สูงดั่งดาวตก กระแทกเข้ากับพื้นของเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์อย่างแรง

เวลานี้ เลือดสดๆ ได้ไหลย้อมพื้นของเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์จนแดงฉาน ปรากฎเป็นหลุมที่ลึกมากอันเกิดจากการชนกระแทก ทำให้พื้นของเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์แตกเป็นทาง หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าเวทีต่อสู้ดึกดำบรรพ์อาจจะถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง

นาทีนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนหยุดลง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่หยุดอยู่กับนาทีนี้ ดวงตาแต่ละคู่ที่จับจ้องไปยังภาพนี้ ไม่อาจพูดคำใดๆ ออกมาเป็นเวลานาน

ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำเอาบรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนถึงกับอ้าปากค้าง อ้าปากกว้างขนาดสามารถยัดเอาไข่ไก่เข้าไปได้ทั้งฟอง

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดรู้สึกเหมือนหายใจลำบากเมื่อเห็นเมิ่งเจิ้นเทียนถูกหมัดทะลวงอก เวลานี้ หลี่ชิเย่ก็คล้ายดั่งเป็นเทพมารที่ปราศจากผู้ต่อกรสยบอยู่กลางใจของคนทุกคน ทำให้ทุกคนหายใจไม่ออก ทำให้ทุกคนรู้สึกสั่นเทา

เวลานี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดไม่รู้ว่าจะหาคำๆ ใดมาเปรียบเปรยความรู้สึกในขณะนี้ พวกเขาไม่สามารถหาคำใดมาเปรียบเปรยกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าได้อีกแล้ว

ยิ่งบรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนเผ่าวิญญาณเทพด้วยแล้ว ก่อนหน้านั้นยังเข้าใจว่าเมิ่งเจิ้นเทียนจะต้องเป็นฝ่ายชนะถึงกับมีสีหน้าที่ซีดเผือดในเวลานี้ ขาทั้งสองข้างสั่นเทา กระทั่งมีบางคนที่ถึงกับทิ้งตัวก้นกระแทกกับพื้น

บรรดาผู้บำเพ็ญตนเหล่านี้เพิ่งจะชื่นชมเมิ่งเจิ้นเทียนที่สามารถสยบหลี่ชิเย่เอาไว้ได้ก่อนหน้า ไม่นึกเลยว่าเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น หลี่ชิเย่ก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย และทะลวงอกของเมิ่งเจิ้นเทียน ได้ในหมัดเดียว

ขณะเดียวกัน ขุนพลชุดขาวเองก็มีใบหน้าที่ขาวซีดในเวลาเดียวกัน เขาเองก็นึกไม่ถึงว่าอาจารย์ของตนจะมีวันที่พ่ายแพ้อย่างยับเยินได้ ถูกผู้เยาว์คนหนึ่งอาศัยเพียงหมัดเดียวถึงกับทะลวงอกไปได้ เป็นภาพที่เขาไม่ส่ามารถจินตนาการได้เลย

ขณะที่ทุกคนนิ่งเงียบอย่างนั้นอยู่เป็นเวลานาน นี่เขาคือเมิ่งเจิ้นเทียนนะเนี่ย ผู้ได้รับการยกย่องว่าสามารถเรียกพี่เรียกน้องกับราชันเซียนได้ แต่ มาวันนี้กลับถูกผู้เยาว์คนหนึ่งวัดจนอกทะลุ เรื่องเช่นนี้ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากไม่สามารถยอมรับกับความจริงเช่นนี้ได้

“คำๆ นี้ควรเป็นข้าพูดแล้วล่ะ” หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่บนท้องฟ้ากล่าวเฉยเมยว่า “เจ้าไม่ควรเป็นศัตรูกับข้า! ”

เวลานี้ หลี่ชิเย่กล่าวคำๆ นี้ออกมาได้เรียบเฉยมาก แต่ด้วยคำพูดที่เรียบเฉยนี่แหละ ทำให้ทำคนถึงกับหายใจไม่ออก คำพูดนี้ช่างพาลเหลือเกิน เป็นคำพูดที่เค้นคอของทุกๆ คนเอาไว้โดยตรง เพียงคำพูดคำเดียวสามารถบีบคอของทุกคนเอาไว้จนพูดอะไรไม่ออก

ในเวลานี้เอง ปรากฏเศษหินดินทรายกระจัดกระจาย เมิ่งเจิ้นเทียนได้พุ่งตัวออกมาจากหลุมลึกบนพื้นดินนั้น เวลานี้ทั้งตัวของเขาชุ่มไปด้วยเลือด บริเวณหน้าอกที่ถูกทะลวงจนเป็นรูยิ่งปรากฏเลือดสดๆ ที่ไหลหยดลงมา ทำให้รู้สึกสยดสยองเหลือเกิน

เกรงว่านี่คงเป็นการพ่ายแพ้อย่างยับเยินที่สุดนับตั้งแต่เมิ่งเจิ้นเทียนเข้าสู่ยุทธภพเป็นต้นมา กล่าวสำหรับเขาแล้วนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาถูกผู้อื่นทะลวงอก

“ยังดี” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยถึงกับโล่งอก เมื่อเห็นเมิ่งเจิ้นเทียนกลับออกมา ขอเพียงเมิ่งเจิ้นเทียนยังคงมีชีวิตอยู่ ก็ยังคงมีโอกาสเอาชนะหลี่ชิเย่ได้

ในเวลานี้ ทุกคนล้วนแล้วแต่นิ่งเงียบ สายตาแต่ละคู่ต่างจ้องไปที่หลี่ชิเย่ และเมิ่งเจิ้นเทียน ทุกคนแทบจะไม่กล้าหายใจแรง เวลานี้ทุกคนล้วนแล้วแต่ดูออกว่า หลี่ชิเย่นั้นครองความได้เปรียบอยู่อย่างเห็นได้ชัด ทุกคนต่างต้องการรู้ว่าเมิ่งเจิ้นเทียนยังจะมีวิธีการใดมาพลิกสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าได้อีก

“จี๊ด จี๊ด จี๊ด” เวลานี้ บริเวณหน้าอกของเมิ่งเจิ้นเทียนที่ถูกทะลวงจนเป็นรูเริ่มทำการซ่องแซมขึ้นเอง เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น หน้าอกของเขาก็กลับมาอยู่ในสภาพดังเดิม

การซ่อมสร้างร่างกายสำหรับเมิ่งเจิ้นเทียนที่อยู่ในระดับนี้แล้วถือเป็นเรื่องจิ๊บๆ เท่านั้น แต่ทว่า มันยังคงทำให้เมิ่งเจิ้นเทียนรู้สึกไม่ดี สีหน้าของเขาจึงดูซีดเผือด

การที่ต้องถูกหลี่ชิเย่โจมตีด้วยท่าที่ปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ ไม่เพียงทำให้หน้าอกของเขาถูกทะลวงเป็นรูเท่านั้น ยังทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส แค่ต้องทำให้หน้าอกที่ทะลุเป็นรูกลับสู่สภาวะปรกติก็ทำให้เขาต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทนไม่น้อยเลย

เวลานี้ สายตาของเมิ่งเจิ้นเทียนที่จ้องมองหลี่ชิเย่นั้นถึงกับเต้นกระตุกทีหนึ่ง และม่านตาของเขาต้องหดตัวทีหนึ่ง ทันใดนั้น เมิ่งเจิ้นเทียนเองบังเกิดเป็นภาพมายาขึ้นมา เขารู้สึกได้โดยพลันว่าตัวเองไม่มีความมั่นใจอีกแล้ว พลันรู้สึกว่าไม่ได้เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นอีก

ในฐานะที่เป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคล เขามีความมั่นใจในตัวเองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะพบเจอกับอันตรายใดๆ ก็ตาม เขาสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที แต่ทว่า เวลานี้เขากลับรู้สึกลังเลขึ้นมาบ้าง

กล่าวสำหรับเมิ่งเจิ้นเทียนแล้ว ชั่วชีวิตของเขานี่เป็นครั้งที่สองที่ทำให้เขารู้สึกไม่มีความมั่นใจ เป็นครั้งที่สองที่เขามีเชื่อมั่นไม่เต็มร้อย

ครั้งแรกที่ทำให้เมิ่งเจิ้นเทียนมี่มีความมั่นใจไม่เชื่อมั่นในตนเองนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว ครั้งนั้นเขาเผชิญหน้ากับราชามังกรดำ หลังจากที่ถูกราชามังกรดำตำหนิรุนแรง ด้วยท่าทีของราชามังกรดำนั้น ทำให้เขาต้องปลีกตัวออกจากยุทธภพไม่กล้าปรากฎตัวออกมาอีก

แต่ทว่า เรื่องราวในครั้งนั้นกล่าวสำหรับเมิ่งเจิ้นเทียนแล้ว การที่เขารู้สึกหวาดกลัวใช่เป็นเรื่องที่น่าอับอายอะไรนัก จะอย่างไรเสีย ราชามังกรดำอยู่ในฐานะเป็นที่คำรพนับถือมาถึงสามยุคสามสมัย แม้กระทั่งราชันเซียนยังคงต้องให้เกียรติเขาอยู่สามส่วน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น กระทั่งราชันเซียนท่าคงผู้ซึ่งสาบานเป็นพี่น้องกับเขานั้น หลังจากได้เป็นราชันเซียนแล้ว ท้ายสุดยังถูกราชามังกรดำฉีกทำลายชะตาฟ้าไป

ดังนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมา เมิ่งเจิ้นเทียนได้ปกปิดเรื่องนี้เอาไว้จนสนิท แต่ เขาเองไม่รู้สึกว่าการเกรงกลัวต่อราชามังกรดำนั้นเป็นความอัปยศอย่างหนึ่ง!

อย่างไรก็ตาม เวลานี้หลี่ชิเย่ได้ทำให้จิตใจของเขาต้องสั่นคลอน ทำให้ความเชื่อมั่นของเขาต้องหวั่นไหว และเกิดความหวั่นเกรงขึ้นมา กระทั่งรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง

สิ่งนี้สำหรับผู้ที่มีปณิธานต้องการครอบครองตำแหน่งราชันเซียนแล้ว มันคือความอัปยศอย่างหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล