ตอนที่ 1576 ยวีจั่น
“เกาะนั่นน่ะหรือ” หลี่ชิเย่ยิ้มอย่างมีเลศนัย กล่าวท่าทีเอ้อระเหยว่า “นั่นเป็นเกาะที่ท่านเซียนอาศัยอยู่ ดังนั้น ข้าขึ้นไปบนเกาะโดยไม่ตั้งใจ ได้พบกับท่านเซียน เป็นการพบกันโดยโชคแท้ๆ ท่านเซียนมอบตะเกียงเซียนให้กับข้า ดังนั้น พอตะเกียงเซียนสว่างขึ้น ไม่ว่าใครก็ต้องถูกสยบเอาไว้”
“คุณชายพูดเล่นแล้ว” ข่งเชียะหมิงหวางย่อมไม่เชื่อคำพูดลักษณะเช่นนี้ กล่าวว่า “โลกนี้มีเซียนที่ไหนกัน?”
ข่งเชียะหมิงหวางหาใช่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป และไม่ใช่ผู้บำเพ็ญตนทั่วไปย่อมไม่เชื่อคำพูดเช่นนี้อยู่แล้ว อย่างไรเสียโลกนี้ไม่มีเซียนอยู่แล้ว
หากเป็นคนอื่น และประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ เมื่อเจอกับเล่ห์เหลี่ยมของหลี่ชิเย่เข้าให้ เกรงว่าคงเชื่อในสิ่งที่พูด ไม่แน่นักอาจมีการปากต่อปากพูดกันไปว่าบนโลกนี้มีเซียนอยู่จริง มีผู้ที่ได้รับการชี้แนะจากเซียน…เป็นต้น
“เรื่องราวบนโลกนี้ยากจะคาดคะเนนะ” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา กล่าวด้วยท่าทีลึกลับว่า “โลกนี้มีเรื่องราวมากมาย ใครเล่าสามารถกล่าวได้ชัดเจน ไม่แน่นักโลกนี้อาจมีเซียนอยู่จริงก็เป็นได้ เพียงแต่ไม่ต้องการให้มนุษย์ปุถุชนธรรมดาพบเห็นเท่านั้น มิฉะนั้นล่ะก็ บนโลกนี้ยังจะมีสิ่งใดสามารถสยบเจ้าโดยพลันได้?”
ข่งเชียะหมิงหวาง ถึงกับยิ้มเจื่อนๆ รู้ว่าหลี่ชิเย่ไม่ต้องการบอก แต่ว่า เมื่อนึกถึงการถูกเสาผลึกสยบโดยทันทีทันใด ทำให้นยางรู้สึกหวาดหวั่นในใจยิ่งนัก ต่อให้นางแข็งแกร่งมากกว่านี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเสาผลึกก็สุดที่จะรับมือได้ ถูกสยบในชั่วพริบตาเดียว เมื่อต้องมาอยู่ต่อหน้าเสาผลึกเช่นนี้ นางดูช่างอ่อนแอ และปราศจากเรี่ยวแรงเหลือเกิน
แต่ว่า โชคดีตรงที่หลี่ชิเย่ไม่ได้คิดทำอะไรนาง มิฉะนั้นล่ะก็ สุดจะคาดเดาถึงผลที่เกิดขึ้น เมื่อนึกถึงจุดนี้แล้ว ข่งเชียะหมิงหวางถึงกับมีจิตที่คล้อยตาม หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าคงไม่ปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดลอยไปง่ายๆ
“คุณชายหลี่ไปพักที่เมืองหมิงจูสักระยะหนึ่งดีไหม?” ข่งเชียะหมิงหวางไม่อยากถามให้มากความ จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเสีย เมื่อเห็นว่าหลี่ชิเย่คงไม่ยอมบอกกล่าวเรื่องนี้แก่นาง
หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ได้ ข้าเองกำลังคิดจะไปที่เมืองสมุทรสยบฟ้าพบกับกู้จุนสักครั้งเหมือนกัน” ครั้นกล่าวมาถึงตรงนี้ เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เขาอยากรู้เหมือนกันว่ากู้จุนจะมีวิธีการอย่างไร อยากรู้นักว่ากู้จุนพยายามอยู่ตั้งนาน สามารถมีท่าไม้ตายที่สะเทือนฟ้าดินอย่างไรบ้าง
ขณะที่หลี่ชิเย่กับข่งเชียะหมิงหวางกำลังจะเดินทางกลับไปยังจวนที่พักนั้น ทันใดนั้น เสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก เรือขนาดยักษ์ลำหนึ่งแล่นฝ่าเกลียวคลื่นเข้ามาด้วยความเร็วที่สูงมาก รวดเร็วดั่งลมกรดและสายฟ้าแลบ
เรือลำยักษ์ลำนี้นับว่าเป็นของวิเศษที่ไม่เลวชิ้นหนึ่ง บนเรือแขวนธงขนาดใหญ่เอาไว้ มีอักษรขนาดใหญ่คำว่า “ยวี” ปรากฏอยู่บนผืนธง ตัวอักษรคำว่า “ยวี” นี้ไม่เพียงมีขนาดใหญ่แล้ว ทั้งยังเป็นการปักด้วยไหมทองอีกด้วย เมื่ออยู่ภายใต้แสงอาทิตย์แล้ว จะเห็นได้ว่า ตัวอักษรคำว่า “ยวี” เปล่งเป็นประกายสีทองระยิบระยับ ดูแสบตายิ่งนัก ดังนั้น ขณะที่เรือลำนี้ยังอยู่ในระยะที่ห่างไกลมากก็สามารถมองเห็นตัวอักษรคำว่า “ยวี” ที่ระยิบระยับได้แล้ว
“คนของตระกูลยวี” แม้แต่ข่งเชียะหมิงหวางก็รู้สึกเหนือความคาดคิด กล่าวเสียงทุ้มต่ำออกมา เมื่อเห็นตัวอักษรคำว่ายวีที่อยู่บนธงของเรือยักษ์ลำนั้น
“ตระกูลยวี” หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นคำว่ายวีนั่น กล่าวว่า “ตระกูลยวีแห่งเมื่องฟงเหวิน”ในเวลานี้เอง เขาถึงกับนึกถึงเรื่องบางเรื่องขึ้นมา
ในเวลานี้เอง เสียงดัง “ตูม” เรือยักษ์ลำนี้ได้แล่นเข้ามาถึง บริเวณหัวเรือปรากฎชายหนุ่มผู้หนึ่งอยู่ในชุดทะมัดทะแมง ด้านหลังของชายหนุ่มมีชายฉกรรจ์ที่อยู่ในชุดแบบเดียวกันยืนอยู่บริเวณดาดฟ้าเรือ ทักษะยุทธของชายฉกรรจ์เหล่านี้ไม่เบาทีเดียว
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนหัวเรือดูเหมือนราวสิบเจ็ดสิบแปดเท่านั้นเอง ท่วงท่าสง่าผ่าเผย ลักษณะท่าทางโอหังอวดดี มีท่าทีที่ลำพองใจ ดูจากดวงตาแล้วมีทีท่าที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา
“นี่ เจ้าอยู่ตรงนี้เห็นอะไรบางอย่างที่ส่งเป็นประกายออกมาบ้างหรือไม่?” พลันที่เรือยักษ์เทียบเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มผู้นี้ก็ตะโกนใส่หลี่ชิเย่ด้วยเสียงดัง
หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ กับการตะโกนใส่ของชายหนุ่มผู้นั้น โดยไม่ได้ตอบคำถามของเขา และขี้คร้านจะตอบ
“ไอ้หนู ข้าเรียกเจ้า ได้ยินหรือเปล่า!” ชายหนุ่มผู้นี้อวดดีจนเคยตัว ในมหาสมุทรอุดรนั้นนับได้ว่ามีฐานะสูงส่ง ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา ดังนั้น จึงตะโกนโหวกเหวกต่อหลี่ชิเย่!
หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะไปสนใจเขา ขณะที่ข่งเชียะหมิงหวางได้ตอบคำถามของเขาช้าๆ “ที่นี่ไม่มีสิ่งที่ส่งประกายอะไรได้ทั้งนั้น”
เวลานี้ สีหน้าของชายหนุ่มดูจะดีขึ้นมานิดหนึ่ง เมื่อมองเห็นสุดยอดหญิงงามเช่นข่งเชียะหมิงหวางเข้า แต่ว่า ท่าทีของเขายังคงหยิ่งยโส เนื่องจากในสายตาของเขามองว่า ในมหาสมุทรอุดรมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่ให้เกียรติแก่ตระกูลยวีของพวกเขา แม้แต่เมืองสมุทรสยบฟ้ายังต้องให้เกียรติแก่ตระกูลยวีของพวกเขาเลย
“ได้ยินมาว่าที่นี่มีของวิเศษปรากฏ ที่ตรงนี้ข้าจองเอาไว้แล้ว หากมีของวิเศษล่ะก็มันจะต้องเป็นของข้า” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างเย็นชา
ครั้นหลี่ชิเย่ได้เห็นท่าทีที่หยิ่งยโสของชายหนุ่มผู้นี้แล้วอยากจะหัวเราะออกมา เขาถึงกับยิ้มกล่าวว่า “ที่นี่คือเกาะกลางแม่น้ำหมิงจู ไม่ใช่เมืองฟงเหวินของเจ้า! ทางที่ดีหัดเจียมตัวเสียบ้างก็ดี”
อาจกล่าวได้ว่า น้อยครั้งนักที่หลี่ชิเย่จะมีท่าทีที่เป็นมิตรเช่นนี้ แต่ว่า ชายหนุ่มผู้นี้กลับดูไม่ออก คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้เขาไม่สบอารมณ์ขึ้นทันที พลันมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป กล่าวท่าทีเย็นชาว่า “เกาะกลางแม่น้ำหมิงจูแล้วไง คุณชายอย่างข้าจะค้นหาสมบัติที่นี่เสียอย่างใครจะกล้าพูดอะไร!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...