ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1579

ตอนที่ 1579 สยบ

ข่งเชียะหมิงหวางมองดูผู้อาวุโสซุน เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ผู้อาวุโสซุน ใช่ว่าข้าจะไปรับตำแหน่งไม่ได้ ข้าต้องการพบเจ้าสำนัก ถ้าหากเจ้าสำนักมาพบข้าที่เมืองหมิงจู ข้าก็จะพิจารณาไปรับตำแหน่ง!”

พวกของเย่จิ่วโจวต้องการโยกข่งเชียะหมิงหวางออกไป ขณะที่ข่งเชียะหมิงหวางในเวลานี้ก็ได้มอบโจทย์ยากให้กับพวกของเย่จิ่วโจว เวลานี้แม้ว่าข่งเชียะหมิงหวางติดต่อกับจื่อชุ่ยหนิงไม่ได้ แต่นางเชื่อว่าจื่อชุ่ยหนิงได้ถูกพวกของเย่จิ่วโจวกักบริเวณเอาไว้แล้ว

ถ้าหากจื่อชุ่ยหนิงมาที่เมืองหมิงจูจริงล่ะก็ นับว่าเป็นโอกาสสำหรับข่งเชียะหมิงหวาง เพราะว่าใม่เพียงมีโอกาสช่วยเหลือจื่อชุ่ยหนิงเอาไว้ ขณะเดียวกันยังสามารถร่วมมือกับจื่อชุ่ยหนิง รุกกลับพวกของเย่จิ่วโจว

“หมิงหวาง เรื่องนี้ทำให้ข้าลำบากใจเสียแล้ว” ผู้อาวุโสซุนถึงกับหัวเราะแห้งๆ กล่าวว่า “เวลานี้เจ้าสำนักยากที่จะปลีกตัว พวกของบรรพบุรุษซานล้วนแล้วแต่ถูกขังเอาไว้ในห้องประชุมมังกรดำ ทำให้เจ้าสำนักร้อนใจเป็นยิ่งนัก เวลานี้ เจ้าสำนักกำลังกักตนเพื่อศึกษาความลี้ลับมหัศจรรย์ของห้องประชุมมังกรดำ ไม่สามารถปลีกตัวได้ หากหมิงหวางไม่ขัดข้องล่ะก็ สามารถไปที่สำนักเพื่อพบกับเจ้าสำนัก…”

ข่งเชียะหมิงหวางส่ายหัวกล่าวตัดบทผู้อาวุโสซุน “ผู้อาวุโส ข้าได้ให้คำตอบแล้ว ไม่ก็ให้เจ้าสำนักมาพบข้า ไม่ก็เอาโองการที่ถูกต้องตามกฎของสำนักมา มิฉะนั้นล่ะก็ ข้าจะไม่ไปจากเมืองหมิงจูอย่างเด็ดขาด!”

ผู้อาวุโสซุนรีบกล่าวขึ้นว่า “หมิงหวาง ไฉนจะต้องเคร่งครัดกับกฎเก่าๆ เล่า หมิงหวางไม่ลองปรับเปลี่ยนสักนิด บางทีสิ่งนี้อาจมีประโยชน์ยิ่งต่อหมิงหวางในอนาคต การไปที่สำนักของหมิงหวางในครั้งนี้เป็นอนาคตที่ไม่อาจประเมินได้ การก้าวสู่จุดสูงสุด…”

“ผู้อาวุโส ไม่จำเป็นต้องกล่าวมากความ พวกเรายังคงปฏิบัติตามกฎเถอะ ไร้กฎระเบียบงานไม่สำเร็จ” ข่งเชียะหมิงหวางกล่าวตัดบทผู้อาวุโสซุน

“หมิงหวางทำใหข้าต้องลำบากแล้ว” ผู้อาวุโสซุนถึงกับพูดว่า “ข้าต้องกลับบ้านมือเปล่า แล้วจะให้คำตอบเจ้าสำนักอย่างไร ให้คำตอบบรรดาผู้อาวุโสได้อย่างไร?”

“เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ก็ต้องอาศัยวิธีการที่อ้อมค้อม กู้จุนก็ดี เย่จิ่วโจวก็ช่าง ออกจะขาดลักษณะอันน่าเกรงขามไป ชาตินี้กู้จุนดูจะระมัดระวังตัวมากไปแล้วกระมัง” ในเวลานี้เอง หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา ส่ายหน้าและกล่าวว่า “กู้จุนในครั้งนั้นนับว่าเปี่ยมด้วยลักษณะความเป็นอันธพาล ครั้งนั้นมีเรื่องอะไรที่เขาไม่กล้าทำ? หากเปลี่ยนเป็นตัวเขาในครั้งนั้น เมื่อต้องการเมืองหมิงจูก็จะส่งกองทัพมาโจมตีเอาตรงๆ เวลานี้ ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นใช้วิธีการเด็กๆ เช่นนี้ เรียกว่าดูไม่ได้เลย”

เดิมหลี่ชิเย่นั่งสงบเงียบอยู่ตรงนั้นโดยตลอดไม่ได้พูดอะไรออกมา ผู้อาวุโสซุนก็ไม่ได้ให้ความสนใจเขามากนัก น่าเสียดาย พลันที่เขาปริปากก็คุยโวโอ้อวดอย่างไร้ยางอาย ทำให้สีหน้าของผู้อาวุโสซุนเปลี่ยนไปมากทีเดียว

“ไอ้หนู เจ้าเป็นใคร!” ผู้อาวุโสซุนตวาดเสียงดังออกมาทันที

อย่างไรก็ตาม หลี่ชิเย่ไม่ได้มองไปที่ผู้อาวุโสซุน เขาเพียงมองไปที่คนๆ หนึ่งเท่านั้น เผยให้เห็นรอยยิ้มเต็มใบหน้าออกมา และกล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “เป็นเพียงบุคคลภายนอกคนหนึ่งเท่านั้น บุคคลภายนอกที่ชอบแส่เรื่องชาวบ้านคนหนึ่ง”

“หมิงหวาง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” สีหน้าของผู้อาวุโสซุนพลันเปลี่ยนไป กล่าวเสียงทุ้มต่ำกับข่งเชียะหมิงหวางว่า “นี่มันเป็นเรื่องความลับภายในสำนักของพวกเรา ให้คนนอกมาอยู่ด้วย เท่ากับเป็นโทษหนักฐานขโมยความลับ ขณะที่หมิงหวางรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ใช่คนของสำนัก ยังคงพาเขาเข้ามาอยู่ตรงนี้ หมิงหวาง นี่เป็นการเห็นแก่ความสัมพันธ์ส่วนตัว…”

“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดเสียเลิศหรูก็ได้” ข่งเชียะหมิงหวางยังไม่ทันได้ตอบ หลี่ชิเย่โบกมือตัดบทผู้อาวุโสซุน ยิ้มกล่าวว่า “ไปๆ มาๆ พวกเจ้ายังคงต้องการแย่งชิงเมืองหมิงจู เฮ่อ เย่จิ่วโจวน่ะแก่แล้ว กู้จุนก็ใจเสาะเสียแล้ว ด้วยอารมณ์ของพวกเขาในอดีต หากต้องการก็จะมาแย่งชิงเอาตรงๆ ! เอาล่ะ กลับไปเสีย ไปบอกกู้จุนก็ดี เย่จิ่วโจวก็ช่าง ไสหัวไปเสีย”

“ผู้เยาว์ อย่าได้ลบหลู่บรรพบุรุษของข้า!” สีหน้าของผู้อาวุโสซุนเปลี่ยนไปมาก ร้องเสียงดังออกมาว่า “เด็กๆ จับมันเอาไว้!”

เวลานี้ ชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่สองข้างซ้ายขวาของห้องโถงได้ก้าวออกมาทันที เข้าล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้! พวกเขามีท่าทีที่ดุดันและกลิ่นอายสังหาร ไม่ได้คิดจะจับเป็นหลี่ชิเย่

“หมิงหวาง เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา จะต้องมีคำอธิบายกับทางสำนัก…” ผู้อาวุโสซุนกล่าวเสียงทุ้มต่ำต่อข่งเชียะหมิงหวาง

กล่าวสำหรับพวกของผู้อาวุโสซุนแล้ว พวกเขาต้องการให้เรื่องนี้ลุกลามใหญ่โตให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เมี่อเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็จะมีเหตุผลในการส่งกำลังทหารเข้ามาประจำการในเมืองหมิงจู

เสียง “ปัง ปัง ปัง…” ดังขึ้น ทันใดนั้นเอง ยอดฝีมือทั้งหมดที่เข้าไปรายล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้ล้วนแล้วแต่ตัวลอยออกไป กระอักเลือดออกมาอย่างแรง จากนั้นได้ยินเสียงดังปุปุปุ ทั้งหมดถูกกระแทกไปตกอยู่ด้านนอกห้องโถง ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ในขณะนี้

หลี่ชิเย่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้ขยับตัวด้วยซ้ำ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าเขาลงมือได้อย่างไร

“ให้คำตอบ? ข้าจะให้คำตอบกับเจ้า” ผู้อาวุโสซุนพูดยังไม่ทันขาดคำ มือของหลี่ชิเย่กางออก ดั่งเป็นภูเขาขนาดใหญ่ลูกหนึ่งที่ซัดเข้าหาผู้อาวุโสซุน

สีหน้าของผู้อาวุโสซุนเปลี่ยนไป เมื่อเห็นมือขนาดใหญ่ที่เสมือนดั่งภูเขาขนาดยักษ์ซัดเข้ามา จึงร้องเสียงดังออกไป พร้อมกับเสกเอาอาวุธวิเศษของตนออกมา

“ปัง” แต่ว่า ผลที่ออกมายังคงเหมือนเดิม ต่อให้อาวุธวิเศษของผู้อาวุโสซุนทรงพลังเป็นอันมากก็จริง ยังคงไม่สามารถคุ้มครองเขาได้ ตัวเขาลอยไปตามแรง กระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง

“อาจารย์…” ศิษย์ที่ทำหน้าที่ยกถาดน้ำชาให้กับผู้อาวุโสซุนถึงกับผวา เมื่อเห็นผู้อาวุโสซุนถูกกระแทกจนตัวลอยออกไป ชายหนุ่มผู้นี้ถึงกับวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าที่ขาวซีด รีบเร่งพยุงตัวผู้อาวุโสซุนขึ้นมา

หลี่ชิเย่ไม่สนใจผู้อาวุโสซุน มองดูชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังผู้อาวุโสซุน ยิ้มกล่าวว่า “เจ้าชื่ออะไร?”

ชายหนุ่มลังเลนิดหนึ่ง สุดท้าย รวบรวมความกล้าไม่อยากให้เมืองสมุทรสยบฟ้าเสียหน้า เงยหน้าและพูดออกไปว่า “ข้า ข้า ข้าชื่อว่าหลินฉี”

หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าออกมาให้เห็นขณะมองดูชายหนุ่มผู้นี้ หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่จึงได้ละสายตากลับมา โบกมือเบาๆ ว่า “พวกเจ้าไสหัวไปให้หมด ข้าไม่ต้องการเห็นหน้าพวกเจ้า จะเป็นกู้จุนก็ดี เย่จิ่วโจวก็ช่าง กลับไปบอกพวกเขาว่า ข้า หลี่ชิเย่มาแล้ว!”

สีหน้าของผู้อาวุโสซุนดูไม่จืดยิ่งนัก แต่ว่า เวลานี้เขาไม่หาเรื่องกับข่งเชียะหมิงหวางอีกต่อไป เมื่อต้องพบเจอกับบุคคลเช่นคนโหดอันดับหนึ่งแล้ว วิธีที่ฉลาดที่สุดก็คือรีบหนีไปเสีย มิฉะนั้นล่ะก็ ไม่ว่าผู้นั้นจะมีความแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม ไม่ว่ามีผู้ให้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งเพียงใด ล้วนแล้วแต่ใช้การไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำให้มีชีวิตอยู่ต่อไปก็คือรีบหนีไปเสีย

ผู้อาวุโสซุนไม่พูดให้มากความ รีบเร่งนำพาศิษย์ของตนและคนอื่นๆ หันหลังจากไป เพียงชั่วพริบตาเดียวก็หนีหายไปแล้ว

“คุณชาย เมื่อทำเช่นนี้แล้ว จะทำให้พวกบรรพบุรุษเย่มีข้ออ้างมากขึ้นไปอีกแล้ว” ข่งเชียะหมิงหวางถึงกับยิ้มเจื่อนๆ และพูดออกมาเมื่อเห็นผู้อาวุโสซุนหลบหนีไปแล้ว

หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเฉยเมยว่า “ข้ออ้างไม่ข้ออ้างอะไร พวกเย่จิ่วโจวหากคิดครอบครองเมืองหมิงจู จะมีข้ออ้างหรือไม่มีข้ออ้าง พวกเขาก็จะทำ”

ข่งเชียะหมิงหวางได้แต่ทอดถอนใจเบาๆ เหตุผลข้อนี้เขาก็เข้าใจ สิ่งที่นางสามารถทำได้ก็คือดึงเวลาออกไปเท่านั้น

“ไม่รู้ว่าเจ้าสำนักเป็นอย่างไรบ้าง” ข่งเชียะหมิงหวางถึงกับกล่าวด้วยความกังวล พวกบรรพบุรุษซานที่ถูกขังเอาไว้ในห้องประชุมมังกรดำกลับจะปลอดภัยกว่า ขณะนี้จื่อชุ่ยหนิงซึ่งปราศจากอำนาจกลับจะไม่ปลอดภัย ไม่แน่นัก ชีวิตอาจตกอยู่ในกำมือของพวกเย่จิ่วโจว

“เรื่องนี้เจ้ากังวลมากเกินไปแล้ว” หลี่ชิเย่หัวเราะและส่ายหน้าเบาๆ กล่าวว่า “เจ้าดูถูกนางมากเกินไปแล้ว อีกอย่าง แม้ว่าเย่จิ่วโจวจะแข็งแกร่งมาก แต่ว่า จื่อชุ่ยหนิงมีทวนมังกรดำในมือ หากนางคิดจะหนีจริงๆ เย่จิ่วโจวก็ขวางนางเอาไว้ไม่ได้! การที่นางรั้งอยู่ที่นั่นย่อมต้องมีเหตุผล”

“หวังว่าเป็นเช่นนั้น” ข่งเชียะหมิงหวางกล่าวอย่างจนปัญญา นางเองก็เข้าใจดีว่าเจ้าสำนักเป็นคนที่ฉลาดเฉียบแหลมและมีสายตาที่ยาวไกล ไม่ตกอยู่ในมือของศัตรูง่ายดาย แต่ การอยู่ในถ้ำเสือแดนมังกร ทำให้นางยังคงรู้สึกเป็นกังวล

“เรื่องหยุมหยิมเช่นนี้วางเอาไว้ข้างๆ เถอะ” หลี่ชิเย่พูดเฉยเมยว่า “ตามข้าไปที่เมืองฟงเหวินสักครั้ง ข้าพาเจ้าไปพบกับคนๆ หนึ่ง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล