ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1620

ตอนที่ 1620 กู้จุน
ณ สถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักแห่งหนึ่งของมหาสมุทรอุดร ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ท่ามกลางเสียงใบไม้ที่เสียดสีกัน ปรากฏชายหนุ่มท่าทีที่อหังการปราศจากผู้เทียบเทียมเดินเข้ามาในเวลานี้ เมื่อเขาก้าวเท้าเข้ามาบนผืนแผ่นดินนี้พลันทำให้หมอกควันที่ปกคลุมอยู่จางหายไป

ชายหนุ่มผู้นี้มีกลิ่นอายเซียนที่ลอยออกมาจากตัว และก่อเกิดปรากฏการณ์ประหลาดต่างๆ ขึ้นมา เขามีบุคลิกลักษณะที่สุดยอดมาก ทำให้ผู้พบเห็นถึงกับต้องกราบไหว้ เหมือนดั่งเขาคือราชันเซียนในวัยหนุ่ม ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องหวั่นเกรงในตัวของเขา

ยามที่ชายหนุ่มผู้นี้เหยียบย่ำเข้าไปในดินแดนแห่งนี้ พื้นพสุธาประสานเสียงให้กับเขา ท่วงทำนองสัจธรรมดังไม่ขาดสาย การปรากฏของเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ขึ้นมา ย่อมบ่งบอกว่าชายหนุ่มผู้นี้มีความน่ากลัวเพียงใด และมีความแข็งแกร่งเช่นใด

หลงอ้าวเทียน เป็นชื่อที่อยู่ในตำนาน ดำรงอยู่ในฐานะที่สูงส่งยิ่งนัก ได้รับการยกย่องว่าเป็นโอรสราชันในยุคปัจจุบัน

หลงอ้าวเทียนได้หยุดลงเมื่อก้าวเท้าเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ สายตาของเขาตกอยู่ที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง ใต้ต้นไม้มีบุรุษนั่งอยู่คนหนึ่ง บุรุษผู้นี้แลดูมีอายุมาก แม้ว่าผมของเขาจะยังคงดำสนิท แต่ว่า ให้ความรู้สึกผู้คนเหมือนว่าเขากำลังใกล้จะตายอยู่แล้ว เหมือนว่าเขาคืออาทิตย์อัสดง พร้อมตกได้ทุกเมื่อ

บุรุษในวัยชราผู้นี้สวมชุดสีเทาทั้งชุด นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างตามอารมณ์ ไม่ปรากฎบุคลิกลักษณะอะไรเป็นพิเศษ ท่าทีดูธรรมดาไม่น้อยทีเดียว

“ผู้อาวุโสกู้จุน…” แม้ว่าบุรุษผู้นี้ดูจะปราศจากชื่อเสียง แต่ว่า หลงอ้าวเทียนยังคงเรียกเขาว่าผู้อาวุโสคำหนึ่ง ควรจะรู้ว่า หลงอ้าวเทียนนั้นคือโอรสราชันในยุคปัจจุบัน สามารถทำให้เขาเรียกว่าเป็นอาวุโสหาใช่เป็นเรื่องง่ายดาย

กู้จุน หนึ่งในสิบสุดยอดอัจฉริยะบุคคลนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผู้ครองอำนาจอยู่เบื้องหลังของเมืองสมุทรสยบฟ้า ชื่อเสียงของเขาไม่ได้โด่งดังเป็นพิเศษ แต่ทว่า คนที่รับรู้ถึงความน่ากลัวที่แท้จริงของเขา ต้องให้ความยำเกรงตัวเขายิ่งนัก

“โอรสราชันเดินทางมาไกล ไม่ทันได้ต้อนรับ” กู้จุนยังคงนั่งตามอารมณ์อยู่ตรงนั้น เพียงพูดออกมาเรียบเฉยโดยไม่มีทีท่าจะลุกขึ้นต้อนรับ

ดวงตาทั้งสองของหลงอ้าวเทียนจ้องมองไปที่กู้จุน พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สายตาสามารถมองทะลุผ่านหยินและหยาง เหมือนต้องการมองกู้จุนให้ขาดอย่างนั้น

กู้จุนนั่งอยู่ตรงนั้นกลับไม่ตระหนกวิตกแต่อย่างใด ต่อให้สายตาของหลงอ้าวเทียนน่ากลัวยิ่งกว่านี้ ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อเขาแม้แต่น้อย เหมือนว่าทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ ธรรมดาๆ อย่างนั้น

“การเกี่ยวดองสมรสครั้งนี้ ผู้อาวุโสรับปากด้วยตัวเอง และเมืองสมุทรสยบฟ้าก็จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่” หลงอ้าวเทียนเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “แต่ว่า ผู้อาวุโสกู้จุน เวลานี้เจ้าเมืองของท่านกลับบิดพลิ้วการแต่งงานในครั้งนี้ ขณะที่ผู้อาวุโสกลับนิ่งดูดาย! นี่มันหาใช่เป็นข้อตกลงระหว่างผู้อาวุโสกับพรรคเซียนเหินของพวกเรา!”

“เรื่องการเกี่ยวดองสมรสหาใช่เป็นการบิดพลิ้วของพวกเรา และหาใช่เมืองสมุทรสยบฟ้าของข้าไม่รักษาสัญญา” กู้จุนส่ายหน้าเบาๆ กล่าวว่า “เหตุเกิดเพราะหลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่ตั้งใจจะครอบครองชะตาฟ้า และจงใจเป็นศัตรูกับท่าน เขาหวังอาศัยเรื่องนี้มากระทบจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของท่าน ทำให้จิตของเจ้าสั่นคลอน เพื่อบรรลุการก้าวสู่ราชันเซียนของเขา”

“จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของข้าใช่จะทำให้สั่นคลอนได้ง่ายดายเช่นนั้น!” หลงอ้าวเทียนกล่าวว่า “เพียงแต่ การนิ่งดูดายในครั้งนี้ของผู้อาวุโสทำให้ผู้คนอดคิดไม่ได้ ไม่ทราบว่าเมืองสมุทรสยบฟ้าจะมีคำอธิบายอย่างไร”

การมาที่นี่ของหลงอ้าวเทียนดูเหมือนต้องการจะมาเพื่อต่อว่าตำหนิ คนอื่นไม่กล้าทำเช่นนี้ต่อหน้ากู้จุน แต่หลงอ้าวเทียนกล้าทำ เขารวมความเด่นห้าราชันเซียนอยู่กับตัว และสำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ เคยเกรงกลัวใครตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ยิ่งไปกว่านั้น ด้านหลังของเขายังมีพรรคเซียนเหินที่ปราศจากผู้ต่อกร เรียกได้ว่าเขาไม่เคยเกรงกลัวผู้ใดในหล้าทั้งสิ้น

การที่เขายอมเรียกกู้จุนว่าผู้อาวุโสก็นับว่าได้ให้เกียรติอย่างเต็มที่แล้ว

สำหรับน้ำเสียงที่แสดงถึงการตำหนิติเตียนของหลงอ้าวเทียนนั้น กู้จุนไม่ได้แสดงความโกรธออกมา เขายิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “หากข้าเป็นคนลงมือเองคงไม่มีความหมายอะไรสักเท่าไร โอกาสนี้สมควรเก็บไว้ให้โอรสราชันเช่นท่าน เวลานี้หลี่ชิเย่ชื่อเสียงโด่งดังดั่งพระอาทิตย์กลางหาว คือผู้รับการคัดเลือกเป็นราชันเซียนที่มีความร้อนแรง หากโอรสราชันเอาชนะเขาได้และตัดศีรษะเขาเสีย ย่อมจะทำให้ไม่มีผู้ใดในแดนมนุษย์กษัตราหาญกล้าเทียบรัศมีของโอรสราชัน ทำให้โอรสราชันปราศจากผู้ต่อกร…”

“…กล่าวสำหรับเส้นทางที่ก้าวไปยังราชันเซียนของโอรสราชันนั้น หลี่ชิเย่เป็นเพียงกองกระดูกใต้ฝ่าเท้าของโอรสราชันเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้น สาวงามย่อมต้องเป็นของโอรสราชัน ได้รับการกราบไหว้จากผู้คนใต้หล้า ได้รับการยกย่องในเก้าแดน โอกาสดีๆ เช่นนี้หากข้าลงมือย่อมเป็นการแย่งเอาความโดดเด่นของโอรสราชันไป ต่อให้ข้าเอาชนะหลี่ชิเย่ได้ มันก็เป็นแค่ขี้ปากคนอื่นว่าผู้ใหญ่รังแกเด็กเท่านั้นเอง”

กู้จุนพูดเจื้อยแจ้วไพเราะน่าฟัง ถูกต้องตามจังหวะจะโคน และสมเหตุสมผลอย่างสิ้นเชิง

หลงอ้าวเทียนได้แต่ส่งเสียงฮึออกมาเบาๆ ที่กู้จุนพูดออกมาก็มีเหตุผล และเขาไม่สามารถตอบโต้คำพูดลักษณะเช่นนี้ของกู้จุนได้

“ในเมื่อผู้อาวุโสกู้จุนพูดเช่นนี้ เป็นข้าที่บุ่มบ่ามไปแล้วล่ะ” หลงอ้าวเทียนกล่าวว่า “ไม่ทราบว่าแม่นางชุ่ยหนิงมีเหตุผลอะไร? ทำไมต้องติดตามหลี่ชิเย่ไป”

“เรื่องนี้ โอรสราชันไม่ต้องกังวล เจ้าเมืองได้กลับมาที่เมืองสมุทรสยบฟ้าแล้ว” กู้จุนกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “การเกี่ยวดองสมรสระหว่างสองตระกูลเป็นเรื่องที่แน่นอนดั่งหินผา โอรสราชันไม่ต้องเป็นห่วง สิ่งที่โอรสราชันต้องทำก็คือเอาชนะหลี่ชิเย่ และตัดศีรษะของเขาออกมา สืบทอดชะตาฟ้าในเร็ววัน ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งราชันเซียนจึงเปน็นเรื่องที่ถูกต้อง”

“ขอยืมคำพูดของผู้อาวุโส เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล” หลงอ้าวเทียนมั่นใจสุดๆ เชื่อมั่นในตนเองเต็มเปี่ยม กล่าวว่า “แม้ว่าชื่อเสียงเรื่องความโหดของหลี่ชิเย่จะโด่งดัง มีความฮึกเหิมรุนแรง แต่ว่า ขอเพียงได้พบกับเขาก็จะตัดหัวสุนัขของเขาออกมา เพื่ออาศัยเลือดของเขามาเซ่นไหว้พี่น้องพรรคเซียนเหินที่ตายไป!”

จะโทษหลงอ้าวเทียนที่มั่นใจในตนเองเต็มเปี่ยม เชื่อมั่นในตนเองเต็มที่ก็ไม่ได้ สัจธรรมของเขามีความสมบูรณ์ รวมความโดดเด่นของห้าราชันเซียนกับตัว สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ เวลานี้ เหลือเพียงอย่างเดียวก็คือชะตาฟ้า กล่าวสำหรับเข้าแล้ว ในเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินยังจะมีกลุ่มคนรุ่นใหม่คนไหนเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้?

ในสายตาของหลงอ้าวเทียนมองว่า ต่อให้คนโหดอันดับหนึ่งโอหังเพียงใดก็ตาม การสังหารเขาก็เป็นเพียงสิ่งที่ช้าหรือเร็วเท่านั้น

“อย่าได้ประมาทศัตรู” กู้จุนกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ด้วยความสามารถของโอรสราชัน การที่จะสังหารหลี่ชิเย่ใช่จะเป็นเรื่องยาก แต่ว่า เบื้องหลังของหลี่ชิเย่ก็มีผู้ยิ่งใหญ่ให้การสนับสนุนอยู่ เบื้องหลังของเขามีกายเซียนขั้นสมบูรณ์ของหอวิถีฟ้า องค์หญิงราชวงศ์โบราณคอยให้ท้าย ความแข็งแกร่งของผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะดูถูกไม่ได้เลย!”

“กายเซียนขั้นสมบูรณ์เท่านั้นเอง” หลงอ้าวเทียน กล่าวด้วยความมั่นใจในตนเองว่า “ใช่ว่าจะมีผู้สำเร็จกายเซียนในโลกเพียงคนเดียวเสียเมื่อไหร่ ผู้สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ของหอวิถีฟ้าหากไม่ออกหน้าก็แล้วกัน หากจะยุ่งเรื่องของหลี่ชิเย่ให้ได้ ก็มาสู้กับข้าจะไปยากอะไร!”

ในยุคปัจจุบัน ผู้ที่กล้าดูถูกกายเซียนขั้นสมบูรณ์ถึงเพียงนี้คงมีอยู่ไม่มาก หลงอ้าวเทียนก็คือหนึ่งในจำนวนนั้น ขณะเดียวกัน ตัวเขาเองที่สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์เหมือนกัน เขาเข้าใจเองว่าตัวเองได้รวบรวมจุดเด่นของห้าราชันเซียนมาอยู่กับตัว ด้วยบุคลิกลักษณะที่ไร้ผู้เทียบเทียม เพียงพอที่จะท้าสู้กับผู้สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ทุกๆ คนในหล้า

ความจริงแล้ว การที่หลงอ้าวเทียน มีความมั่นใจในตัวเองก็ใช่จะอวดดี นับแต่เขาเข้าสู่ยุทธภพเป็นต้นมายังไม่เคยได้ลิ้มรสของความพ่ายแพ้ เคยสังหารจักรพรรดิเทพ หมางเมินต่อเหล่าผู้กล้า ไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรได้!

“โอรสราชันอย่าได้ประมาท ความสำเร็จของโอรสราชันในวันนี้นับได้ว่าเป็นหนึ่งไม่มีสอง” กู้จุนกล่าวว่า “แต่ว่า คำโบราณว่าไว้ว่า สองกรผู้กล้ายากจะรับมือสี่กร โอรสราชันสมควรระวังตัวเอาไว้เป็นการดี สมควรที่โอรสราชันเชิญบรรพบุรุษลงมือเป็นผู้คุ้มกันให้กับโอรสราชัน หากกวาดล้างพวกเสือสิงห์กระทิงแรดให้เรียบใยต้องกลัวว่าจะไม่ได้เป็นราชันเซียน ไหนเลยไม่ได้สาวงามไปครอบครองเล่า?”

“เรื่องเช่นนี้ผู้อาวุโสวางใจได้ บรรพบุรุษหลงจะต้องออกมาคุ้มครองให้กับข้าแน่นอน หากจำเป็น บรรพบุรุษหลงจะลงมือไถกลบหอวิถีฟ้าให้ราบเป็นหน้ากลองแน่!” หลงอ้าวเทียนกล่าวหนักแน่นว่า “ใครกล้าเป็นศัตรูกับข้า เป็นศัตรูกับพรรคเซียนเหิน ฆ่าไม่มีละเว้น!”

“แน่นอน” กู้จุนก็พยักหน้า และกล่าวว่า “โอรสราชันหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร หากมีบรรพบุรุษหลงลงมือด้วย โลกนี้ยังจะมีใครกล้าขวางเส้นทางของโอรสราชันอีก ชาตินี้โอรสราชันต้องได้รับความไว้วางใจจากทุกคน ได้เป็นราชันเซียนอย่างแน่นอน และพรรคเซียนเหินก็จะได้เป็นสำนักที่ได้ชื่อว่าหนึ่งสำนักหกราชันเซียน!”

“เรื่องของหลี่ชิเย่คงไม่ต้องให้ผู้อาวุโสเป็นกังวล” หลงอ้าวเทียนกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “แต่มีเรื่องหนึ่งผู้อาวุโสอย่าได้นิ่งดูดาย สำนักท่านกับข้าเป็นพันธมิตรต่อกัน ผลประโยชน์ร่วมกัน!”

“ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร?” กู้จุนก็ตรงไปตรงมายิ่ง กล่าวว่า “ขอเพียงโอรสราชันต้องการอะไร ข้าและเมืองสมุทรสยบฟ้าไหนเลยกล้าปฏิเสธ จะต้องรับใช้โอรสราชันอย่างแน่นอน!”

“เมืองสมุทรสยบฟ้าคือเจ้าถิ่นในมหาสมุทรอุดร เวลานี้มีทหารบางส่วนของเผ่าปีศาจ และปีศาจทะเลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเลลึก ดังนั้น ข้าต้องการให้ผู้อาวุโสกู้จุนส่งคนมาเป็นผู้นำทางให้ข้า จัดการไล่ต้อนพวกทหารที่ยังคงหลงเหลืออยู่ออกมาให้หมด ข้าจะสังหารพวกมันให้สิ้นซากด้วยมือของข้าเอง! ข้าจะต้องสร้างฐานจักรวรรดิที่ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้ในมหาสมุทรอุดรขึ้นมาใหม่!” เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ดวงตาทั้งสองดูน่ากลัว มีลักษณะท่าทีที่ข่มขวัญผู้คน

“ที่แท้คือเรื่องนี้นี่เอง” กู้จุนหัวเราะและกล่าวว่า “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้โอรสราชันวางใจได้ ขอเพียงโอรสราชันมีบัญชา เมืองสมุทรสยบฟ้าจะต้องให้การรับใช้ต่อโอรสราชัน เผ่าปีศาจ และปีศาจทะเลในเวลานี้ถูกโอรสราชันตีจนพ่ายไม่เป็นขบวนไม่คู่ควรจะกล่าวถึงอีกแล้ว พวกเขาได้ยินชื่อของของโอรสราชันก็หวาดกลัวจนหัวหดแล้ว พวกเขาเพียงมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวต่ออำนาจของโอรสราชันเท่านั้น”

หลงอ้าวเทียนรู้สึกดีกับคำชื่นชมลักษณะเช่นนี้ของกู้จุนยิ่งนัก ใต้หล้าไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ชมเปาะต่อตัวเขามิได้ขาด แต่เขากลับไม่เคยเก็บคำชื่นชมเหล่านั้นมาใส่ใจ แต่ทว่า สำหรับผู้ดำรงอยู่ในสถานะเช่นกู้จุนย่อมแตกต่าง

กู้จุนคือหนึ่งในสิบยอดอัจฉริยะบุคคลนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน โชคชะตาของเขาในยุคปัจจุบันก็ไม่มีผู้ใดทาบได้ แม้แต่กู้จุนยังให้คำชื่นชมเขาถึงเพียงนี้ นับว่าเป็นเกียรติอย่างหนึ่งโดยแท้จริง

“งั้นก็ดี ข้าจะรอข่าวจากผู้อาวุโสกู้จุน” หลงอ้าวเทียนพยักหน้า และจากไปอย่างอิ่มอกอิ่มใจ จากเดิมที่ต้องการมาตำหนิติเตียน

เมื่อหลงอ้าวเทียนจากไปแล้ว บุรุษที่รูปร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านหน้ากู้จุน แม้ว่าบุรุษผู้นี้จะแลดูอายุไม่มากนัก แต่ว่า หนวดที่เป็นสีเงินนั้นดูสดุดตามาก คล้ายดั่งลวดสีเงินที่ทิ่มมือยิ่งนัก

บนตัวของเขาสวมเสื้อคลุมที่ยาวมาก เสื้อคลุมยาวสีแดงสดตัดกับหนวดเคราสีเงินของเขาดูขัดกันยิ่งนัก กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาไป

บุคคลผู้นี้ก็คือศิษย์ของกู้จุน และเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อกู้จุนมาโดยตลอดที่ชื่อเย่จิ่วโจว

“จิ่วโจว เจ้าส่งผู้เฒ่าสักหลายคนไปนำทางให้กับเขา จัดการกวาดต้อนพวกปีศาจทะเลที่ซ่อนตัวอยู่ในร่องน้ำลึกใต้ทะเลออกมาให้หมด ให้เขาได้เข่นฆ่าให้หนำใจ เขาจะได้พอใจกับเกียรติอันจอมปลอมนี้ของเขา” กู้จุนสั่งการกับเย่จิ่วโจว

“อาจารย์โปรดวางใจ ข้าจะส่งผู้เฒ่าที่คุ้นเคยกับใต้ทะเลที่สุดไปนำทางให้กับโอรสราชันหลง” เย่จิ่วโจวตอบด้วยความเคารพนอบน้อม

กู้จุนเพียงยิ้มนิดหนึ่ง กล่าวสำหรับ หมากอยู่ในมือของเขา หากพรรคเซียนเหินคิดจะรอดตัวจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปล่ะก็ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“อาจารย์ เจ้าเมืองได้กลับมาแล้ว นางได้เปิดหอประชุมมังกรดำและปล่อยบรรดาบรรพบุรุษออกมาแล้ว” เย่จิ่วโจวได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองสมุทรสยบฟ้าต่อกู้จุน

“ข้ารู้แล้ว” กู้จุนพยักหน้า เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจแม้แต่น้อย กระทั่งกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่ในความคาดคิดของเขาอยู่แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล