ชายหนุ่มผู้นี้มีกลิ่นอายเซียนที่ลอยออกมาจากตัว และก่อเกิดปรากฏการณ์ประหลาดต่างๆ ขึ้นมา เขามีบุคลิกลักษณะที่สุดยอดมาก ทำให้ผู้พบเห็นถึงกับต้องกราบไหว้ เหมือนดั่งเขาคือราชันเซียนในวัยหนุ่ม ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องหวั่นเกรงในตัวของเขา
ยามที่ชายหนุ่มผู้นี้เหยียบย่ำเข้าไปในดินแดนแห่งนี้ พื้นพสุธาประสานเสียงให้กับเขา ท่วงทำนองสัจธรรมดังไม่ขาดสาย การปรากฏของเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ขึ้นมา ย่อมบ่งบอกว่าชายหนุ่มผู้นี้มีความน่ากลัวเพียงใด และมีความแข็งแกร่งเช่นใด
หลงอ้าวเทียน เป็นชื่อที่อยู่ในตำนาน ดำรงอยู่ในฐานะที่สูงส่งยิ่งนัก ได้รับการยกย่องว่าเป็นโอรสราชันในยุคปัจจุบัน
หลงอ้าวเทียนได้หยุดลงเมื่อก้าวเท้าเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ สายตาของเขาตกอยู่ที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง ใต้ต้นไม้มีบุรุษนั่งอยู่คนหนึ่ง บุรุษผู้นี้แลดูมีอายุมาก แม้ว่าผมของเขาจะยังคงดำสนิท แต่ว่า ให้ความรู้สึกผู้คนเหมือนว่าเขากำลังใกล้จะตายอยู่แล้ว เหมือนว่าเขาคืออาทิตย์อัสดง พร้อมตกได้ทุกเมื่อ
บุรุษในวัยชราผู้นี้สวมชุดสีเทาทั้งชุด นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างตามอารมณ์ ไม่ปรากฎบุคลิกลักษณะอะไรเป็นพิเศษ ท่าทีดูธรรมดาไม่น้อยทีเดียว
“ผู้อาวุโสกู้จุน…” แม้ว่าบุรุษผู้นี้ดูจะปราศจากชื่อเสียง แต่ว่า หลงอ้าวเทียนยังคงเรียกเขาว่าผู้อาวุโสคำหนึ่ง ควรจะรู้ว่า หลงอ้าวเทียนนั้นคือโอรสราชันในยุคปัจจุบัน สามารถทำให้เขาเรียกว่าเป็นอาวุโสหาใช่เป็นเรื่องง่ายดาย
กู้จุน หนึ่งในสิบสุดยอดอัจฉริยะบุคคลนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผู้ครองอำนาจอยู่เบื้องหลังของเมืองสมุทรสยบฟ้า ชื่อเสียงของเขาไม่ได้โด่งดังเป็นพิเศษ แต่ทว่า คนที่รับรู้ถึงความน่ากลัวที่แท้จริงของเขา ต้องให้ความยำเกรงตัวเขายิ่งนัก
“โอรสราชันเดินทางมาไกล ไม่ทันได้ต้อนรับ” กู้จุนยังคงนั่งตามอารมณ์อยู่ตรงนั้น เพียงพูดออกมาเรียบเฉยโดยไม่มีทีท่าจะลุกขึ้นต้อนรับ
ดวงตาทั้งสองของหลงอ้าวเทียนจ้องมองไปที่กู้จุน พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สายตาสามารถมองทะลุผ่านหยินและหยาง เหมือนต้องการมองกู้จุนให้ขาดอย่างนั้น
กู้จุนนั่งอยู่ตรงนั้นกลับไม่ตระหนกวิตกแต่อย่างใด ต่อให้สายตาของหลงอ้าวเทียนน่ากลัวยิ่งกว่านี้ ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อเขาแม้แต่น้อย เหมือนว่าทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ ธรรมดาๆ อย่างนั้น
“การเกี่ยวดองสมรสครั้งนี้ ผู้อาวุโสรับปากด้วยตัวเอง และเมืองสมุทรสยบฟ้าก็จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่” หลงอ้าวเทียนเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “แต่ว่า ผู้อาวุโสกู้จุน เวลานี้เจ้าเมืองของท่านกลับบิดพลิ้วการแต่งงานในครั้งนี้ ขณะที่ผู้อาวุโสกลับนิ่งดูดาย! นี่มันหาใช่เป็นข้อตกลงระหว่างผู้อาวุโสกับพรรคเซียนเหินของพวกเรา!”
“เรื่องการเกี่ยวดองสมรสหาใช่เป็นการบิดพลิ้วของพวกเรา และหาใช่เมืองสมุทรสยบฟ้าของข้าไม่รักษาสัญญา” กู้จุนส่ายหน้าเบาๆ กล่าวว่า “เหตุเกิดเพราะหลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่ตั้งใจจะครอบครองชะตาฟ้า และจงใจเป็นศัตรูกับท่าน เขาหวังอาศัยเรื่องนี้มากระทบจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของท่าน ทำให้จิตของเจ้าสั่นคลอน เพื่อบรรลุการก้าวสู่ราชันเซียนของเขา”
“จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของข้าใช่จะทำให้สั่นคลอนได้ง่ายดายเช่นนั้น!” หลงอ้าวเทียนกล่าวว่า “เพียงแต่ การนิ่งดูดายในครั้งนี้ของผู้อาวุโสทำให้ผู้คนอดคิดไม่ได้ ไม่ทราบว่าเมืองสมุทรสยบฟ้าจะมีคำอธิบายอย่างไร”
การมาที่นี่ของหลงอ้าวเทียนดูเหมือนต้องการจะมาเพื่อต่อว่าตำหนิ คนอื่นไม่กล้าทำเช่นนี้ต่อหน้ากู้จุน แต่หลงอ้าวเทียนกล้าทำ เขารวมความเด่นห้าราชันเซียนอยู่กับตัว และสำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ เคยเกรงกลัวใครตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ยิ่งไปกว่านั้น ด้านหลังของเขายังมีพรรคเซียนเหินที่ปราศจากผู้ต่อกร เรียกได้ว่าเขาไม่เคยเกรงกลัวผู้ใดในหล้าทั้งสิ้น
การที่เขายอมเรียกกู้จุนว่าผู้อาวุโสก็นับว่าได้ให้เกียรติอย่างเต็มที่แล้ว
สำหรับน้ำเสียงที่แสดงถึงการตำหนิติเตียนของหลงอ้าวเทียนนั้น กู้จุนไม่ได้แสดงความโกรธออกมา เขายิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “หากข้าเป็นคนลงมือเองคงไม่มีความหมายอะไรสักเท่าไร โอกาสนี้สมควรเก็บไว้ให้โอรสราชันเช่นท่าน เวลานี้หลี่ชิเย่ชื่อเสียงโด่งดังดั่งพระอาทิตย์กลางหาว คือผู้รับการคัดเลือกเป็นราชันเซียนที่มีความร้อนแรง หากโอรสราชันเอาชนะเขาได้และตัดศีรษะเขาเสีย ย่อมจะทำให้ไม่มีผู้ใดในแดนมนุษย์กษัตราหาญกล้าเทียบรัศมีของโอรสราชัน ทำให้โอรสราชันปราศจากผู้ต่อกร…”
“…กล่าวสำหรับเส้นทางที่ก้าวไปยังราชันเซียนของโอรสราชันนั้น หลี่ชิเย่เป็นเพียงกองกระดูกใต้ฝ่าเท้าของโอรสราชันเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้น สาวงามย่อมต้องเป็นของโอรสราชัน ได้รับการกราบไหว้จากผู้คนใต้หล้า ได้รับการยกย่องในเก้าแดน โอกาสดีๆ เช่นนี้หากข้าลงมือย่อมเป็นการแย่งเอาความโดดเด่นของโอรสราชันไป ต่อให้ข้าเอาชนะหลี่ชิเย่ได้ มันก็เป็นแค่ขี้ปากคนอื่นว่าผู้ใหญ่รังแกเด็กเท่านั้นเอง”
กู้จุนพูดเจื้อยแจ้วไพเราะน่าฟัง ถูกต้องตามจังหวะจะโคน และสมเหตุสมผลอย่างสิ้นเชิง
หลงอ้าวเทียนได้แต่ส่งเสียงฮึออกมาเบาๆ ที่กู้จุนพูดออกมาก็มีเหตุผล และเขาไม่สามารถตอบโต้คำพูดลักษณะเช่นนี้ของกู้จุนได้
“ในเมื่อผู้อาวุโสกู้จุนพูดเช่นนี้ เป็นข้าที่บุ่มบ่ามไปแล้วล่ะ” หลงอ้าวเทียนกล่าวว่า “ไม่ทราบว่าแม่นางชุ่ยหนิงมีเหตุผลอะไร? ทำไมต้องติดตามหลี่ชิเย่ไป”
“เรื่องนี้ โอรสราชันไม่ต้องกังวล เจ้าเมืองได้กลับมาที่เมืองสมุทรสยบฟ้าแล้ว” กู้จุนกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “การเกี่ยวดองสมรสระหว่างสองตระกูลเป็นเรื่องที่แน่นอนดั่งหินผา โอรสราชันไม่ต้องเป็นห่วง สิ่งที่โอรสราชันต้องทำก็คือเอาชนะหลี่ชิเย่ และตัดศีรษะของเขาออกมา สืบทอดชะตาฟ้าในเร็ววัน ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งราชันเซียนจึงเปน็นเรื่องที่ถูกต้อง”
“ขอยืมคำพูดของผู้อาวุโส เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล” หลงอ้าวเทียนมั่นใจสุดๆ เชื่อมั่นในตนเองเต็มเปี่ยม กล่าวว่า “แม้ว่าชื่อเสียงเรื่องความโหดของหลี่ชิเย่จะโด่งดัง มีความฮึกเหิมรุนแรง แต่ว่า ขอเพียงได้พบกับเขาก็จะตัดหัวสุนัขของเขาออกมา เพื่ออาศัยเลือดของเขามาเซ่นไหว้พี่น้องพรรคเซียนเหินที่ตายไป!”
จะโทษหลงอ้าวเทียนที่มั่นใจในตนเองเต็มเปี่ยม เชื่อมั่นในตนเองเต็มที่ก็ไม่ได้ สัจธรรมของเขามีความสมบูรณ์ รวมความโดดเด่นของห้าราชันเซียนกับตัว สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ เวลานี้ เหลือเพียงอย่างเดียวก็คือชะตาฟ้า กล่าวสำหรับเข้าแล้ว ในเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินยังจะมีกลุ่มคนรุ่นใหม่คนไหนเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...