ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1619

ตอนที่ 1619 การประนีประนอมของเหมืองแร่เซียนปีศาจระกา
หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยว่า “คนอื่นทำไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าข้าทำไม่ได้ อย่าลืมสิ ข้าคืออีกาทมิฬ ข้าคือหลี่ชิเย่ ดังนั้น เมื่ออยู่ในมือข้ามันก็ง่ายดายเช่นนี้แหละ!”

ปีศาจระกาพลันตกอยู่ท่ามกลางการนิ่งเงียบเป็นเวลานาน แม้ว่ามันไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่าความจริงมันอยู่ตรงหน้า ถึงเขาไม่อยากเชื่อก็ยาก”

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ปีศาจระกาจึงได้สติกลับมา และกล่าวว่า “อีกาทมิฬ เจ้าก็สมควรจะรู้ว่า ของสิ่งนี้มีเพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น ถ้าหากมันจบสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกก็ไม่เหลืออะไรอีกเลย!”

“ข้ารู้ ต่อให้นำมันไปสังหารเหล่าเทพและราชันเซียนทั้งหลายก็เป็นอะไรที่ฟุ่มเฟือยมากเหลือเกิน มีเพียงการสู้รบครั้งสุดท้ายเท่านั้นถึงจะคุ้มกับการใช้มัน แน่นอน หากไม่ถึงที่สุดแล้วข้าก็จะไม่นำมันออกมาใช้” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “ที่ข้าเอามันออกมา ข้าเพียงต้องการบอกข่าวปีศาจระกาเจ้าเรื่องหนึ่ง ข้าเพียงส่งสัญญาณให้กับเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาอย่างหนึ่ง!”

“ในเมื่ออีกาทมิฬอย่างข้าสามารถเอาของสิ่งนี้มาอยู่ในมือได้ เจ้าคิดว่ายังจะมีสิ่งใดบนโลกใบนี้ที่อีกาทมิฬอย่างข้าเอามาไม่ได้อย่างนั้นรึ? หลี่ชิเย่ กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “เจ้าเข้าใจว่าข้าสร้างสถานการณ์เพื่อข่มขวัญตบตาอย่างนั้นรึ? เจ้าคิดว่าข้ามีวิธีการเพียงแค่นี้เองรึ เจ้าคิดว่าข้าทำได้แค่นำพาราชันเซียนออกรบเท่านั้นเองรึ….”

“…พูดตรงไปตรงมาเลยนะ ต่อให้เวลานี้ไม่มีราชันเซียนคอยให้การสนับสนุนข้าอยู่เบื้องหลัง ถ้าหากข้าตั้งใจแน่วแน่ที่จะกวาดเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาให้ราบ เจ้าเชื่อข้าเถอะ ต่อให้ต้องอาศัยทรัพยากรจำนวนเท่าไร ข้าก็จะจัดการกับเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาพวกเจ้าให้ราบเป็นหน้ากลอง! สิ่งที่อีกาทมิฬอย่างข้าตัดสินใจเด็ดขาดไปทำแล้วไม่มีอะไรที่ทำไม่สำเร็จ ข้าสามารถมีชีวิตอยู่ได้กระทั่งสุดปลายทางของโลกมาแล้ว เจ้าคิดว่าข้ายังจะเกรงกลัวใครอีกรึ? กล่าวสำหรับข้าแล้ว ไม่ว่าบุคคลนั้นจะดำรงอยู่ในสถานะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ขอเพียงข้าต้องการ ข้าก็จะทำลายล้างพวกมันเสีย เพียงแต่ต้องแลกด้วยค่าตอบแทนมากหรือน้อยเท่านั้นเอง”

ปีศาจระกาถึงกับนิ่งเงียบ หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้พูดคำข้างต้นออกมา มันไม่ต้องการส่งเสียงใดๆ ออกมา เป็นความจริงที่อีกาทมิฬใช่ว่าจะมีเพียงชื่อเสียงที่จอมปลอม เขาเป็นคนที่พูดได้ทำได้จริง สิ่งที่เขาตัดสินใจทำย่อมทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน และนี่ก็คือสิ่งหนึ่งที่เพราะอะไรผู้คนจำนวนมากจึงให้ความเกรงกลัวต่อเขาตลอดเวลาที่ผ่านมา!

ในสายตาของพวกที่แก่จนสมควรจะตายได้แล้วมองว่า อีกาทมิฬคือประเภทที่ฆ่าไม่ตาย มีจิตใจที่แน่วแน่มั่นคงไม่ท้อถอย ต่อให้พ่ายแพ้ในเวลานี้ สักวันหนึ่งเขาจะหวนคืนกลับมาอีกครั้ง แล้วกวาดล้างศัตรูจนสิ้นซาก! สิ่งนี้แหละคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของอีกาทมิฬ จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาไม่มีสิ่งใดสามารถทำลายได้ เขาสามารถยอมรับได้กับทุกความพ่ายแพ้ หลังการพ่ายแพ้แล้วเขายังคงกลับมาเริ่มต้นได้ใหม่

ในเวลานี้ หลี่ชิเย่จ้องมองไปที่ปีศาจระกา กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “ดังนั้น เวลานี้ขอให้เจ้ามองให้ชัดๆ มองให้ละเอียด มองดูสิ่งที่สุดยอดที่สุดในมือของข้า เจ้าคิดว่ามันมีค่าคู่ควรกับผลึกเซียนหนึ่งร้อยชิ้นหรือไม่ล่ะ?”

“ถือว่าเป็นการขู่กรรโชกของเจ้าอย่างนั้นรึ?” ปีศาจระกาจ้องมองดูหลี่ชิเย่ และกล่าวด้วยท่าทีจนด้วยเกล้าอยู่บ้าง

“เจ้าจะคิดแบบนี้ก็ได้ พวกเจ้าคิดว่าใช่ก็ได้” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยว่า “แน่นอน ถ้าหากพวกเจ้าคิดว่าข้ายังคงเป็นสหายคนหนึ่ง หรือจะบอกว่าเป็นพรรคพวกที่ร่วมมือกัน เช่นนั้นแล้วจะไม่เรียกว่าเป็นการขู่กรรโชก”

“แบบนี้เรียกว่าเป็นการลงทุน เป็นสิ่งที่น่าลงทุนมากที่สุด” หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น และกล่าวว่า “ไม่ว่าจะพูดว่าอย่างไร จะอย่างไรเสีย การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของข้าก็ต้องนำพาโอกาสที่หาได้ยากยิ่งมาให้กับพวกปีศาจระกาเช่นพวกเจ้า ทำให้พวกเจ้าสามารถหายใจได้”

“ฮึ แต่หากว่าเจ้าสู้แล้วแพ้ นั่นย่อมหมายความว่าความมืดจะครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง! บางที ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกจะไม่หลงเหลืออยู่อีกเลย!” ปีศาจระกาถึงกับกล่าวพร้อมกับส่งเสียงฮึแสดงความไม่พอใจออกมา

“แล้วมันจะเป็นอย่างไรกันเล่า?” หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ นิดหนึ่ง กล่าวว่า “นับตั้งแต่พวกเจ้าหลบซ่อนตัวอยู่ในนี้ก็ไม่เคยได้เห็นเดือนเห็นตะวันแล้วนี่ การที่ความมืดจะปกคลุมอีกครั้งแล้วจะไปทำอะไรพวกเจ้าได้? อย่างมากที่สุดก็อาจจะมีความเป็นอยู่ที่ลำบากมากขึ้นอีกนิดก็เท่านั้นเอง เมื่อความมืดมิดผ่านพ้นไปแล้ว ทุกสิ่งที่ชำรุดทรุดโทรมจะได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง พวกเจ้าจะได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่แน่นักเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาพวกเจ้าอาจมีโอกาสได้ต้อนรับฤดูการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ก็เป็นได้! “

“อีกอย่าง สมควรที่พวกเจ้าต้องอวยพรให้กับข้า อวยพรให้ข้ารบชนะ ถ้าหากข้าชนะ เช่นนั้นแล้วพวกเจ้าก็เท่ากับได้ต้อนรับแสงอรุโณทัย พวกเจ้าสามารถเห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้ง ช่างเป็นเรื่องที่ดีอะไรปานนั้น” หลี่ชิเย่หัวเราะพลางและพูดออกมา

“สวรรค์เท่านั้นที่รู้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จ” ปีศาจระกาได้แต่พูดว่า “ทุกๆ ศักราชที่ผ่านมามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่เคยทำเรื่องเช่นนี้มาก่อน แต่ว่า ผลสุดท้ายที่ออกมาเป็นอย่างไรล่ะ? จุดจบน่าเวทนาแค่ไหนข้าคงไม่ต้องไปพูดถึง!”

“ถ้าเป็นเช่นนั้น เจ้ารอดูก็แล้วกัน ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถมีชีวิตอยู่จนถึงวันนั้นได้แน่นอน” หลี่ชิเย่กล่าวไปตามอารมณ์ว่า “เจ้ามีโอกาสได้เห็นว่าข้าตายหรือยังคงมีชีวิตอยู่ ขอแสดงความยินดีกับเจ้า ไม่แน่นัก เจ้าอาจจะได้เป็นพยานให้กับสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่เคยมีมาก่อนก็เป็นได้!”

ปีศาจระกานิ่งเงียบอยู่นานมาก สุดท้ายสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองดูหลี่ชิเย่ กล่าวด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจังว่า “อีกาทมิฬ หนึ่งร้อยชิ้น่ข้ารับปากเจ้าได้ แต่เรื่องอย่างนี้ใช่ว่าข้าคนเดียวสามารถตัดสินใจได้ ข้าจำเป็นต้องปรึกษาหารือกับทุกคนก่อน!”

“ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถโน้มน้าวพวกเขาได้ คำพูดของเจ้ามีพลังโน้มน้าวเสมอมา หรือไม่ใช่?” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “เป็นเจ้าไม่ใช่หรือที่โน้มน้าวให้พวกเขาลงทุนในตัวข้ามาโดยตลอด? ทุกครั้งที่ข้ามาหยิบยืมผลึกเซียนก็เป็นไปอย่างราบรื่นมิใช่รึ? ข้าเชื่อว่า ครั้งนี้ก็จะไม่เป็นปัญหาเหมือนกัน ข้าจะรอฟังข่าวดีจากเจ้า!”

ปีศาจระกาส่งเสียงฮึออกมาแต่ไม่ยอมพูดอะไร หันหลังจากไปทันที หายตัวเข้าไปในถ้ำมืดที่มองไม่เห็นด้านใน

ความจริงแล้ว เฉกเช่นหลี่ชิเย่ได้พูดเอาไว้อย่างนั้น พวกเขาไม่มีทางเลือก ไม่ก็คือให้ผลึกเซียนจำนวนหนึ่งร้อยชิ้นกับหลี่ชิเย่ ไม่ก็ทำสงครามกัน ก่อนหน้านั้น บางทีพวกเขาอาจยังพอมีความมั่นใจที่จะเปิดศึกกับอีกาทมิฬอยู่บ้าง ต่อให้พวกเขาเอาชนะอีกาทมิฬไม่ได้ แต่ว่า พวกเขามั่นใจว่าสามารถรักษาเหมืองแร่เซียนเอาไว้ได้

แต่ทว่า เวลานี้มันต่างกัน เมื่ออีกาทมิฬได้หยิบเอาสุดยอดของสิ่งนั้นออกมาแล้ว ปีศาจระกาก็เข้าใจได้ว่า สิทธิ์การเป็นฝ่ายกระทำได้ตกไปอยู่ในมือของอีกาทมิฬและไม่ได้อยู่ในมือข้างฝ่ายพวกเขาอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล