ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1618

ตอนที่ 1618 สยบด้วยอำนาจ
ปีศาจระกาไม่พูดอะไรสักคำขณะฟังวิธีคำนวณของหลี่ชิเย่ เพียงจ้องมองหลี่ชิเย่อย่างน่าเกรงขาม หลังจากผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ ปีศาจระกาจึงได้กล่าวว่า “อีกาทมิฬ ต่อให้เจ้าพูดได้ถูกต้อง ต่อให้พวกเรามีเหลือเก็บในคลังถึงสองร้อยชิ้น แล้วไงล่ะ?”

“มันคือผลึกเซียนที่มาจากพวกเราทั้งรังช่วยกันประหยัดกินประหยัดใช้มายุคแล้วยุคเล่า พวกเราเองยังเสียดายที่จะใช้มันสุรุ่ยสุร่ายเลย ประหยัดได้เท่าไรก็เท่านั้น! การที่พวกเราเหลือเก็บเอาไว้ถึงสองร้อยชิ้น มันก็เกิดจากความเหนื่อยยากของพวกเรา”

เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ปีศาจไก่กล่าวด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจังว่า “สต็อกสองร้อยชิ้นนี้คือชีวิตของพวกเรา เป็นสิ่งพึ่งพาสุดท้ายเพียงน้อยนิดสำหรับความอยู่รอดของพวกเราทั้งรัง ถ้าหากว่าแค่ชีวิตอันน้อยนิดเพียงเท่านี้เจ้ายังจะแย่งเอาไป พวกเราไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาด พวกเราจะไม่ตกลงตามคำร้องขอของเจ้าอย่างเด็ดขาด”

ท่าทีของปีศาจระกากล่าวมาถึงตรงนี้แล้วได้กลับกลายเป็นแข็งกร้าวขึ้นมา ไม่ยินยอมมอบผลึกเซียนจำนวนหนึ่งร้อยชิ้นให้กับหลี่ชิเย่

หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ข้ารู้ว่ามันไม่ง่ายนักกว่าพวกเจ้าจะสะสมผลึกเซียนได้เพียงเท่านี้ แต่ว่าข้าเองก็ไม่ง่ายเหมือนกัน ดังนั้นทุกคนต่างก็ไม่ง่าย อย่างไรก็ตามความจริงยังคงเป็นความจริง ข้าต้องการหนึ่งร้อยชิ้น!”

“อีกาทมิฬ พวกเราให้ได้อย่างมากยี่สิบชิ้น นี่คือสูงสุดที่ให้ได้แล้ว” ปีศาจระกากล่าวด้วยท่าทีแข็งกร้าวว่า “ถ้าหากเจ้าไม่อยากจะทำ งั้นดี อย่างมากก็ตัวใครตัวมัน!”

“ข้ารู้ว่าอีกาทมิฬเจ้าน่ะยอดเยี่ยม ใครก็ไม่สามารถยุ่งกับเจ้าได้ แต่ว่าเจ้าทำเกินไปแล้ว อย่างมากพวกเราได้แต่ตายไปด้วยกัน” ปีศาจระกากล่าวน่าเกรงขามว่า “สู้กันเดี่ยวๆ พวกเราสู้เจ้าไม่ได้ แต่อย่าลืมสิ พวกเรามีเป็นรัง ถ้าหากเจ้าจะเล่นกันดื้อๆ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต และสิ้นเปลืองสิ่งที่เก็บสต็อกนั้นทั้งหมด พวกเราก็ต้องสู้กับเจ้าให้ตายไปข้างหนึ่ง!”

“แม้ว่าพวกเราไม่สามารถฆ่าเจ้าให้ตายได้ แต่ อีกาทมิฬ ขอเพียงพวกเราสู้เต็มที่เจ้าก็เอาชนะพวกเราไม่ได้ หากเจ้านับวันยิ่งโลภมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเราได้แต่ตายไปด้วยกัน เพื่อยืนยันท่าทีเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาของพวกเรา! ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม เจ้ากับข้าก็ต้องปฏิบัติตามที่เคยตกลงกันในอดีต หาไม่แล้ว ทุกคนอย่าคิดจะได้เล่นต่อไป!”

ครั้นกล่าวถึงตอนท้าย ปีศาจระกาอยู่ในอารมณ์ที่ฮึกเหิมยิ่ง และเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและไม่ได้รับความเป็นธรรมในใจ!

“พวกเจ้าสามารถต่อสู้ให้ถึงที่สุด” หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ในครั้งนี้ไม่คิดจะเจรจากับพวกเจ้า ข้าจะต้องได้ผลึกเซียนปีศาจระกาหนึ่งร้อยชิ้นให้ได้ ต่อให้พวกเจ้าไม่ให้ก็ต้องให้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ให้ข้าสู้ให้ถึงที่สุดพังเล้าไก่เจ้าให้ราบ แล้วเอาผลึกเซียนทั้งหมดไป!”

ปีศาจระกามีท่าทีที่แข็งกร้าว ขณะที่ท่าทีของหลี่ชิเย่ก็แข็งกร้าวยิ่งเช่นกัน

“อีกาทมิฬ ความหมายของเจ้าก็คือต้องการเปิดศึกกับเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาพวกเราน่ะสิ?” ปีศาจระกาถึงกับจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ

“เปิดศึกหรือไม่ ท่าทีนี้อยู่ที่การตัดสินใจของพวกเจ้า” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “สรุปก็คือ ยุคนี้พวกเจ้าจะต้องจ่ายค่าตอบแทน ไม่มีของฟรีในโลกอยู่แล้ว ถือว่าข้าได้ให้ความสงบสุขแก่เหมืองแร่เซียนปีศาจระกาของพวกเจ้ามา เวลานี้หากพวกเจ้ายังคงต้องการความสงบสุขต่อไป ก็ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายมา มันเป็นเรื่องต้องทำอยู่แล้ว!”

อีกาทมิฬ อย่าลืมสิ เหมืองแร่เซียนปีศาจระกาของพวกเราจ่ายค่าใช้จ่ายให้ตลอดมา! เจ้าเองก็หยิบยืมผลึกเซียนของพวกเรามาโดยตลอด แต่มาครั้งนี้เจ้ามันโลภมากเกินไปแล้ว” ปีศาจระกาเอ่ยขึ้นมา

“ยุคนี้ไม่เหมือนกันอีกแล้ว ดังนั้น ที่สมควรต้องจ่ายพวกเจ้าต้องยอมจ่าย” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “ยุคนี้จะเป็นการโจมตีเต็มอัตราศึกของข้า สำเร็จก็อยู่ที่คราวนี้ ล้มเหลวก็อยู่ที่คราวนี้ แต่ว่า ก่อนต่อสู้ชี้ขาดในขั้นสุดท้าย ข้าจำเป็นต้องกวาดล้างบรรดาเหล่าราชันเซียนและเหล่าเทพที่คอยหาเรื่องข้าตลอดให้ราบ ดังนั้น ข้าจึงต้องอาศัยทรัพยากร เมื่อมีทรัพยากรและกวาดล้างสิ่งกีดขวางให้ราบแล้ว ข้าจึงจะสู้รบครั้งสุดท้ายได้อย่างเต็มที่!”

“นั่นมันเรื่องของเจ้า ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา” ปีศาจระกากล่าวเสียงเย็นชา

“ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า?” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมา และกล่าวว่า “ปีศาจระกา ใครเป็นผู้มอบความสงบสุขให้กับพวกเจ้า? ยุคนี้หากว่าข้าสู้รบเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วจะชนะหรือพ่ายแพ้อย่างไร จึงสามารถทำให้พวกเจ้าสามารถหายใจลึกๆ ได้ หากข้าชนะย่อมไม่ต้องพูดถึง พวกเจ้าทั้งเล้าคงไม่จำเป็นต้องหลบๆ ซ่อนๆ อยู่แต่ในสถานที่เฮงซวยอย่างนี้ ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันตลอดไปเช่นนี้! ดังนั้น พวกเจ้าต้องการแสงสว่าง ไม่ต้องการให้สวรรค์โจรจ้องมองไปตลอดชาติ พวกเจ้าสมควรจ่ายค่าตอบแทนใช่หรือไม่? ควรจะสนับสนุนข้าใช่หรือไม่?”

“ดังนั้น กล่าวได้ว่า การที่ข้าขอผลึกเซียนหนึ่งร้อยชิ้น ถือว่าเห็นแก่พวกเราร่วมมือกันด้วยดีเสมอมา มิฉะนั้นล่ะก็ ข้าอ้าปากก็ต้องการผลึกเซียนสองร้อยชิ้นแล้ว! หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีจริงจัง

ปีศาจไก่ถึงกับนิ่งเงียบทีหนึ่งกับคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ สุดท้าย มันยังคงส่ายหน้าเบาๆ กล่าวด้วยท่าทีแข็งกร้าวว่า “อีกาทมิฬ เจ้าจะต่อสู้ขั้นสุดท้าย พวกเราดีใจมาก และคาดหวังให้เจ้าทำสำเร็จ แต่ว่า พวกเราช่วยเหลือเจ้าในเรื่องนี้ไม่ได้…”

“…ไม่มีใครรู้ว่าสงครามครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร พูดอย่างเห็นแก่ตัวเลย หากวันที่มืดมิดปราศจากสิ้นสุดมาถึงจริง พวกเรายังต้องอาศัยอาหารเล็กน้อยนี้อดทนให้ผ่านพ้นวันเวลาอันยาวนานนี้ไป! สต็อกแค่นี้ถือเป็นชีวิตของพวกเรา ถ้าหากเจ้าต้องการจริงๆ พวกเราให้เจ้าได้แค่ยี่สิบชิ้น มากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว พวกเราพูดได้แต่เพียงอยากช่วยแต่ช่วยไม่ได้!”

เมื่อปีศาจไก่กล่าวถึงตรงนี้แล้ว ท่าทีแข็งกร้าวยิ่งนัก ไม่เหลือช่องว่างที่จะเจรจาได้อีกต่อไป

หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ข้าบอกแล้วว่า การมาที่นี้ครั้งนี้ของข้า ไม่ได้มาปรึกษากับพวกเจ้า ข้าต้องการได้ จะให้หรือไม่นั้นแล้วแต่พวกเจ้าไม่ได้ พวกเจ้าจะต้องหยิบผลึกเซียนมาหนึ่งร้อยชิ้นให้ได้!”

ท่าทีของปีศาจระกาแข็งกร้าว ขณะที่ท่าทีหลี่ชิเย่แข็งกร้าวยิ่งกว่า

“อีกาทมิฬ พูดอย่างนี้แสดงว่าเจ้าต้องการเล่นไม้แข็งกับพวกเราจนถึงที่สุดรึ? เป็นการประกาศศึกของเจ้ากับพวกเรา!” ปีศาจระกากล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “เจ้าต้องคิดให้รอบคอบนะ เหมืองแร่เซียนปีศาจระกาพวกเราไม่ใช่ศัตรูของเจ้า หากเจ้าดึงไฟสงครางมาถึงสถานที่ของพวกเรา เกรงว่าคงเป็นนโยบายที่ผิดพลาดที่สุดชั่วชีวิตของเจ้า!”

“ข้าไม่ปฏิเสธว่าเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาพวกเจ้ามีความแข็งแกร่งจริง ในฐานะที่เป็นหนึ่งในหกสถานที่ที่เซียนเคยอาศัยอยู่ แม้แต่ราชันเซียนก็ไม่สามารถตีพื้นที่เหมืองแร่เซียนปีศาจระกาแห่งนี้ลงได้ มิฉะนั้นล่ะก็ เหมืองแร่แห่งนี้ถูกเขาแย่งชิงเอาไปนานแล้ว แต่ว่า เรื่องที่ราชันเซียนทำไม่สำเร็จ ไม่ได้หมายความว่าข้าทำไม่สำเร็จ เพียงแต่ข้าไม่อยากทำเท่านั้นเอง และคุ้มค่าที่จะทำหรือไม่เท่านั้น เหมือนดั่งที่เจ้าพูดเอาไว้ว่า พวกเราร่วมมือด้วยดีเสมอมา…”

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่จ้องมองดูปีศาจระกา กล่าวต่อไปว่า “ก็เพราะมีความร่วมมือด้วยดีตลอดเวลาที่ผ่านมา มาคราวนี้ข้าจึงมาทักทายกับพวกเจ้า ดังนั้น จึงมาคุยเรื่องนี้กับพวกเจ้าด้วยความสัตย์จริง มิฉะนั้นล่ะก็ ข้าส่งกองทัพมานานแล้ว ไม่พูดสักคำ แค่อึดใจเดียวก็จัดการกับพวกเจ้าไปแล้ว!”

“อีกาทมิฬ เจ้าจะดูถูกเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาของพวกเราเกินไปแล้วกระมัง ไม่ปฏิเสธว่าเจ้ามีวิธีการมากมาย มีไพร่พลอยู่ทั่วหล้า แต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้าก็สามารถตีเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาพวกเราได้!”

“ไม่ ที่ข้ามาวันนี้ ไม่ได้คิดนำกำลังทหารมาโจมตีเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาของพวกเจ้า ข้าเพียงต้องการให้พวกเจ้าได้เห็นของสิ่งหนึ่ง รอให้เจ้าได้เห็นสิ่งของสิ่งนี้แล้ว ค่อยตัดสินใจว่าสมควรมอบผลึกเซียนปีศาจระกาให้ข้าหนึ่งร้อยชิ้นหรือไม่” หลี่ชิเย่หัวเราะกล่าว

ดวงตาทั้งสองของปีศาจระกาพลันน่ากลัว กล่าวเชื่องช้าขึ้นมาว่า “ของอะไร!”

“ของที่เก่าแก่ดึกดำบรรพ์มากชิ้นหนึ่ง ดึกดำบรรพ์ยิ่งกว่าสิ่งของใดๆ ในโลก เป็นสิ่งที่คงอยู่แต่ในตำนานตลอดมา!” หลี่ชิเย่เผยให้เห็นรอยยิ้มเต็มใบหน้า กล่าวพลางเขาได้หยิบเอาเสาคริสตัลออกมา มันคือเสาคริสตัลที่เคยสยบข่งเชียะหมิงหวางเอาไว้ในทันที!

แวบแรกที่ปีศาจระกามองเห็นเสาคริสตัลนี้ มันไม่ได้ใสใจกับมันมากมายนัก เมื่อมันมองดูเป็นครั้งที่สอง ท่าทางของมันก็คล้ายดั่งเห็นผีอย่างนั้น ใบหน้าขาวซีด ท่าทางหวาดหวั่นพรั่นพรึง ก้าวถอยหลังติดต่อกันหลายก้าวโดยพลัน ขนไก่บนตัวของมันที่เหลืออยู่ไม่มากพลันตั้งชันขึ้นมาทันที ขนไก่ที่มีอยู่หร็อมแหร็มลุกชูขึ้นทันที

มาคราวนี้ ปีศาจระกาถูกทำให้ตกใจแล้วจริงๆ เวลานี้มันมองดูเสาคริสตัลจนท่าทางเหมือนเซ่อไปเลย

สมควรทราบว่า ระดับปีศาจระกานั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับที่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับราชันเซียนได้ แต่ว่า แม้ว่ามันจะอยู่ในฐานะสามารถพูดคุยบกับราชันเซียนอย่างสันติได้ ยังถูกทำให้ต้องรู้สึกหวาดกลัวโดยพลัน

ความจริงแล้ว อย่าว่าแต่เป็นปีศาจระกาเลย ต่อให้เป็นราชันเซียนที่ทราบถึงประวัติความเป็นมาของเสาคริสตัลก็ต้องหวาดกลัวเช่นกัน เจ้าของสิ่งนี้มันน่ากลัวเหลือเกิน มันคงอยู่แต่ในตำนานเท่านั้น

ในเวลานี้ ปีศาจระกาจ้องมองดูเสาคริสตัลอย่างไม่คลาดสายตา แม้ว่าไม่เคยมีใครเคยพบเห็นสิ่งนี้มาก่อน แต่ว่า พลังที่ซ่อนอยู่ภายในเสาคริสตัลนั้นจริงแท้แน่นอน จุดนี้ไม่สามารถหลอกระดับเช่นพวกเขาได้ ต่อให้มีผู้คิดจะทำเลียนแบบขึ้นมา แต่ว่า พลังลักษณะเช่นนี้ไม่สามารถทำปลอมขึ้นมาได้!

“นี่มันไม่น่าเป็นไปได้…” ปีศาจระกาที่ตกใจจนขนไก่ตั้งันจ้องมองดูเสาคริสตัลอยู่นานมาก สุดท้าย กล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “เป็นไปไม่ได้ที่ของสิ่งนี้จะมีอยู่ในโลก มันไม่น่ามีสิ่งนี้อยู่ได้!”

“มันวางอยู่ตรงหน้าของเจ้า” หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเอ้อระเหยว่า “ในใจของเจ้าย่อมรู้ดี แม้ว่าพวกเจ้าไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน แต่ว่า เจ้ายอมรับถึงการดำรงอยู่ของมันในใจมานานแล้ว”

“ต่อให้มีสิ่งนี้ดำรงอยู่ในโลกนี้จริง แต่ ก็ไม่น่าจะถูกค้นพบได้ แต่ละยุคที่ผ่านมาใช่ว่ามีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เคยค้นหามัน เคยมีผู้ดำรงอยู่ในฐานะดึกดำบรรพ์มากกว่านี้ และมีความแข็งแกร่งมากกว่าเหล่าเทพและราชันเซียน พวกเขาก็เคยค้นหาท่ามกลางยุคสมัยที่ยาวนาน!” ปีศาจระกาพึมพำออกมา

“ความจริงแล้ว ตาเฒ่าของพวกเจ้าก็เคยสืบค้นมาก่อน เสียดายหาไม่พบ” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหย

“แต่ว่า ข้าคือใคร? อย่าลืมสิเจ้าปีศาจระกา ข้าได้รีดเอาข่าวคราวมากมายที่ผู้อื่นไม่สามารถได้มาจากตัวของผู้คนจำนวนไม่น้อย เป็นต้นว่า ฝูงไก่ทั้งเล้าอย่างพวกเจ้า ยังมีตาเฒ่าที่ยังมีชีวิตอยู่ ข้าได้เบาะแสที่สุดยอดมากจากตัวของพวกเจ้า จากตัวของพวกเขา…”

หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “เบาะแสเหล่านี้หาใช่สิ่งที่พวกเจ้าสามารถรีดเอามาได้ เมื่อข้ารวบรวมเบาแสเหล่านี้เข้าด้วยกัน ผ่านการวางแผนมาแต่ละยุคสมัยแล้ว ในที่สุดก็ได้มันมาอยู่ในมือ”

เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้ ในใจของเขาต้องทอดถอนใจเบาๆ ในใจ เพื่อสิ่งที่สุดยอดชิ้นนี้แล้ว เขาใช่เพียงทุ่มเทกำลังกายใจไปจำนวนนับไม่ถ้วนเท่านั้น ยังได้แลกมาด้วยค่าตอบแทนที่สูงมาก!

“ต่อให้เจ้าสามารถหามันพบ แต่ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าสามารถผนึกเก็บมันเอาไว้ได้ และพามันติดตัวมาได้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สิ่งของสิ่งนี้หากจะสังหารเหล่าเทพและราชันเซียนก็หาใช่เป็นเรื่องยาก เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าสามารถนำมันติดตัวมาได้เ!” ปีศาจระกาไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก และพึมพำออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล