ผู้สืบทอดของพรรคเซียนเหิน ตรีอริยะสมบัติ สิบเอ็ดลัคนา รวมจุดเด่นห้าราชันเซียนกับตัว สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ ยิ่งกว่านั้นยังต่อสู้กับทั่วหล้าติดต่อกันสิบวันโดยไม่พ่ายแพ้ ถูกยกย่องว่าเป็นเจ้าแห่งชนะเลิศสิบรายการ ไม่ว่าจะเป็นด้านไหนก็สามารถหมางเมินดาวรุ่งทั่วหล้า สามารถทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องสลดและอับแสง
การมาเมืองปีศาจมู่จั๋วครั้งนี้ของหลงอ้าวเทียน เขาไม่เก็บงำลมปราณและกลิ่นอายของตนเลยแม้แต่น้อย เปิดลัคนาทั้งสิบเอ็ดออกมา ปลดปล่อยพลังอำนาจโดยอิสระ สยบเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน สะเทือนหวั่นไหวต่อหมื่นเผ่าพันธุ์!
นี่ไม่เพียงแค่ต้องการให้รู้ไปทั่ว ไม่เพียงเป็นการโอหัง ขณะเดียวกันเป็นการแทนความปราศจากผู้ต่อกรอย่างหนึ่ง และให้เป็นที่ประจักษ์ในกำลังความสามารถของเขา
เมืองปีศาจมู่จั๋วมีความแข็งแกร่งเสมอมา มีไม่กี่คนที่หาญกล้าทำกำเริบเสิบสานเช่นนี้ และแสดงตนให้ทุกคนในเมืองปีศาจมู่จั๋วให้ได้รับรู้ ขณะที่การมาของหลงอ้าวเทียนกลับแสดงตนให้คนรับรู้ไปทั่ว กระทำการบุ่มบ่ามตามอำเภอใจ ช่างอวดดีและหมางเมินอะไรอย่างนั้น และถือเป็นการแสดงออกถึงความสามารถของเขา
“เจ้าแห่งผู้ชนะเลิศสิบรายการ ด้วยผลงานเช่นนี้มีเพียงคนโหดอันดับหนึ่งเท่านั้นที่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้” ยอดฝีมือที่มองเห็นการมาของหลงอ้าวเทียนถึงกับพึมพำออกมา
อำนาจของหลงอ้าวเทียนนั้นเรียกได้ว่าไม่มีใครเทียบได้ ขณะที่พรรคเซียนเหินมาถึงมหาสมุทรอุดรนั้น ผู้คนจำนวนมากต่างเข้าใจว่าหลงอ้าวเทียนต้องได้เป็นราชันเซียนแน่นอน
แต่ว่า เมื่อคนโหดอันดับหนึ่งปรากฏตัวแก่สายตาของมนุษย์โลกอีกครั้ง เปลวเพลิงแห่งความดุร้ายกลืนกินไปทั่วหล้า ส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงต่อท่าทีที่ปราศจากผู้ต่อกรของหลงอ้าวเทียน และทำให้ผู้คนทั่วหล้าได้เห็นถึงศัตรูผู้แข็งแกร่งในชีวิตของหลงอ้าวเทียนว่าได้ปรากฎตัวออกมาแล้ว ทั่วโลกก็คงมีเพียงคนโหดอันดับหนึ่งที่สามารถชิงชะตาฟ้ากับหลงอ้าวเทียนได้เท่านั้น
แม้ว่าหลงอ้าวเทียนอาศัยท่วงท่าที่ล้ำเลิศมาถึงยังเมืองปีศาจมู่จั๋ว ด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่ กระทำการบุ่มบ่ามตามอำเภอใจ แต่ว่า เมืองปีศาจมู่จั๋วกลับไม่ได้รู้สึกไม่พอใจแม้แต่น้อยนิด
ตรงกันข้าม จินหลงเทียนจื่อเจ้าเมืองปีศาจมู่จั๋วคนปัจจุบันกลับพาบรรดาบรรพบุรุษของเมืองปีศาจมู่จั๋วมาให้การต้อนรับด้วยตนเอง ด้วยท่าทางที่เคารพและคล้อยตามยิ่งนัก
ผู้คนจำนวนมากต่างรู้ดีว่า จินหลงเทียนจื่อนั้นได้สาบานเป็นพี่น้องกับหลงอ้าวเทียน ขณะที่เมืองปีศาจมู่จั๋วก็เป็นพันธมิตรกับพรรคเซียนเหิน ดังนั้น การที่จินหลงเทียนจื่อแสดงความเคารพนอบน้อมต่อหลงอ้าวเทียนถึงเพียงนี้ก็ไม่นับเป็นเรื่องแปลก
ความจริงแล้ว ผู้คนจำนวนมากไม่คิดว่าการที่จินหลงเทียนจื่อแสดงท่าทีที่เคารพต่อหลงอ้าวเทียนว่าเป็นเรื่องอัปยศ ในสายตาของผู้คนจำนวนมากมองว่า ถ้าหากสามารถกอดขาพรรคเซียนเหินเอาไว้ได้ และมีพรรคเซียนเหินคอยหนุนหลัง ย่อมทำให้ได้รับประโยชน์ไม่มีสิ้นสุดไปชั่วชีวิต ไม่รู้ว่ามีผู้คนมากมายเท่าไรต้องการสวามิภักดิ์ต่อพรรคเซียนเหินแต่ทำไม่ได้
“ที่ข้ามาเมืองปีศาจในวันนี้ ยินดีร่วมศึกษาแลกเปลี่ยนสัจธรรมกับผู้มีความฉลาดเป็นเลิศทั่วหล้า ยินดีไขปริศนาและอธิบายธรรมกับทุกคน” เมื่อหลงอ้าวเทียนมาถึงเมืองปีศาจมู่จั๋วแล้ว ได้เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “ใครก็ตามหากต้องการศึกษาแลกเปลี่ยนกับข้า ข้ายินดีน้อมรับทั้งสิ้น รวมทั้งคนโหดอันดับหนึ่งด้วย!”
น้ำเสียงที่ซื่อตรงและอ่อนโยนดังก้องไปทั่วเมืองปีศาจมู่จั๋ว กระทั่งดังก้องไปทั่วทั้งผืนน้ำ นำเสียงของเขาฟังดูไม่ได้แฝงไว้ด้วยความโกรธ แต่ว่า กลับสร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจของทุกๆ คน!
ผู้คนจำนวนมากรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลงอ้าวเทียน แม้ว่าหลงอ้าวเทียนปากจะบอกว่าเป็นการศึกษาแลกเปลี่ยนกับผู้ที่มีความฉลาดเป็นเลิศทั่วหล้า แต่ว่า ทุกคนต่างรุ้ดีว่า ในโลกนี้ยังจะมีใครกล้าศึกษาแลกเปลี่ยนวิชากับหลงอ้าวเทียนอีก? ในเมื่อเขาสังหารกระทั่งจักรพรรดิเทพ คนอื่นๆ ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกแล้ว
ทุกคนต่างเข้าใจ การที่หลงอ้าวเทียนพูดออกมาในลักษณะเช่นนี้ มันเป็นการท้าทายต่อคนโหดอันดับหนึ่งของหลงอ้าวเทียน
“การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่แห่งยุคกำลังจะมาถึงแล้วรึ?”ปฏิกิริยาแรกเมื่อผู้คนจำนวนมากได้ยินคำพูดลักษณะเช่นนี้แล้ว อดที่จะพูดออกมาว่า “หรือว่าชะตาฟ้ายังไม่ทันปรากฏ คู่ชิงตำแหน่งราชันเซียนทั้งสองก็จะเริ่มการต่อสู้นัดชี้ชะตาแล้วรึ?”
การมายังเมืองปีศาจมู่จั๋วของหลงอ้าวเทียนได้ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ ทุกคนต่างรู้ดีว่านี่คือสัญญาณของพายุฝนกำลังจะมา
หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ออกจากเหมืองแร่เซียนปีศาจระกา และเพิ่งกลับไปถึงบ้านตระกูลยวี ก็มีบุคคลผู้หนึ่งมาเยี่ยมเยียน ทั้งยังเจาะจงต้องการพบหลี่ชิเย่
หลี่ชิเย่ตอบตกลงให้พบโดยไม่ได้ใส่ใจ ครั้นได้เห็นหน้าผู้ที่มาเยือนแล้ว เขาถึงกับเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มเต็มใบหน้าออกมา
“เวลาผ่านไปรวดเร็วมาก จากกันในครั้งครานั้น วันนี้ได้พบพี่หลี่อีกครั้ง ท่วงท่าที่สง่างามของพี่หลี่ไม่มีใครสามารถเทียบเทียมได้อีกแล้ว น้องรู้สึกละอายที่ได้พบเห็น” หลังจากที่ชายหนุ่มผู้นี้ได้พบกับหลี่ชิเย่แล้วได้ก้มกราบและกล่าวออกมาจากใจ ด้วยท่าทีที่เคารพนับถือยิ่งนัก
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้เปี่ยมด้วยกลิ่นอายของตำรับตำรา หากผู้ที่ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ต้องเข้าใจว่าเขาคือบัณฑิตที่ไม่มีเรี่ยวแรงกระทั่งมัดไก่ได้
หลี่ชิเย่จ้องมองดูเขา เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่เต็มใบหน้า กล่าวว่า “สามารถพบเจ้าอีกครั้งเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เจ้าคิดจะกลับสู่ยุทธภพรึ?”
“ไม่ ไม่ ไม่” ชายหนุ่มรีบเร่งคำนับ กล่าวว่า “พี่หลี่เข้าใจผิดแล้ว ครั้งนั้นพ่ายแพ้ให้กับพี่หลี่ ข้าสยบทั้งกายและใจ มีพี่หลี่ที่ดั่งจันทรายามสว่างไสว ข้าเป็นเพียงแสงหิ่งห้อยไหนเลยกล้าแข่งกับพี่หลี่ได้”
หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “คำพูดนี้หมายถึงข้าหรือว่าศิษย์พี่ของเจ้าหละ? หรือจะพูดว่า เจ้าคิดว่าข้าชนะศิษย์พี่ของเจ้า หรือศิษย์พี่ของเจ้าชนะข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...