ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1626

สรุปบท ตอนที่ 1626 ไม้บรรพจารย์สิบแปดผัน: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอน ตอนที่ 1626 ไม้บรรพจารย์สิบแปดผัน จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1626 ไม้บรรพจารย์สิบแปดผัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 1626 ไม้บรรพจารย์สิบแปดผัน
เปลวไฟกำลังเต้นวูบวาบ ลมปราณกำลังไหลริน หลี่ชิเย่ควบคุมไฟที่อยู่ในเตา เคลื่อนย้ายลมปราณ เพื่อให้มันหลอมสร้างสิ่งนี้ และอาศัยลมปราณหล่อเลี้ยงของวิเศษชิ้นนี้

อาศัยวิชาควบคุมไฟของหลี่ชิเย่ ไฟที่อยู่ในเตามีการสลับสับเปลี่ยนรูปลักษณ์ต่างๆ ไปตามการควบคุมของหลี่ชิเย่ ไฟในเตาบางครั้งดุจดั่งสายฝนในวสันตฤดู หล่อเลี้ยงของวิเศษชิ้นนี้อย่างแผ่วเบา บางครั้งไฟในเตาดุดันดั่งพายุฝนฟ้าคะนอง ทำการหลอมสร้างของวิเศษนี้อย่างบ้าคลั่งรุนแรง บางครั้งไฟในเตาได้กลับกลายเป็นไฟเย็น อาศัยความเย็นกัดกร่อนของวิเศษชิ้นนี้…

ไฟที่อยู่ในเตาเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง และทำการหลอมสร้างไม่หยุดหย่อน ของวิเศษชิ้นนี้ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะเดียวกันสีสันก็ไหลรินตามไปด้วย เหมือนว่ามันก็ถูกหลอมกลั่นจนแปรสภาพไปด้วย

ขณะเดียวกัน พลังลมปราณของหลี่ชิเย่ถูกส่งไปหล่อเลี้ยงของวิเศษชิ้นนี้ไม่มีขาดช่วง ภายใต้การหล่อเลี้ยงจากพลังลมปราณที่ไม่ขาดช่วงนี้ ทำให้ของวิเศษชิ้นนี้เหมือนถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางเปลวไฟ เหมือนมีชีวิตขึ้นมาแล้วอย่างนั้น กระทั่งบางครั้งอาจทำให้ผู้คนบังเกิดมโนภาพขึ้นดุจดั่งของวิเศษชิ้นนี้เสมือนเป็นหัวใจดวงหนึ่งที่กำลังเต้นตุบๆ อย่างนั้น

ของวิเศษชิ้นนี้ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นต่างๆ นานาระหว่างขั้นตอนการหลอมสร้าง เสียง “ปัง” ดังขึ้นมาครั้งหนึ่ง ของวิเศษชิ้นนี้พลันเปลี่ยนรูปเป็นลูกบอลขนาดใหญ่ โดยที่ลูกบอลขนาดใหญ่ดังกล่าวหมุนวนไม่หยุดนิ่ง “ปุ” ทันใดนั้น ของวิเศษชิ้นนี้ได้กลับกลายเป็นเข็มขนาดเล็กแต่ละเล่ม แล้วรวมตัวเข้าด้วยกัน แลดูคล้ายเป็นแม่นตัวหนึ่ง “คร๊าก คร๊าก คร๊าก” ของวิเศษดังกล่าวได้กลายเป็นแผ่นๆ แล้วเรียงต่อกันไป เหมือนต้องการก่อเป็นกำแพงยาวด้านหนึ่ง…

ของวิเศษชิ้นนี้มีการเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปต่างๆ นานา และมีความพิสดารสารพัดอย่าง

วัตถุดิบที่ใช้ในการหลอมสร้างของวิเศษชิ้นนี้ล้ำค่ายิ่งนักและพบเห็นได้ยาก กระทั่งเรียกได้ว่ามีเพียงหนึ่งเดียวในโลกหล้าเท่านั้น โดยวัตถุดิบหลักของของวิเศษชิ้นนี้ก็คือบริเวณส่วนของรากแก้วที่แข็งแกร่งและล้ำค่าที่สุดของต้นพฤกษาจารย์สามต้น เสริมแต่งด้วยวัตถุดิบเทวะแร่เซียนอื่นๆ และอาศัยสุดยอดวิชาที่ปราศจากผู้เทียบเทียมในการหลอมสร้าง ผ่านการหลอมสร้างครั้งแล้วครั้งเล่าของหลี่ชิเย่ สุดท้าย หลี่ชิเย่สามารถสร้างของวิเศษที่มหัศจรรย์ยิ่งขึ้นมาได้เป็นผลสำเร็จ

เสียง “ปัง…” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง ในที่สุดของวิเศษชิ้นนี้ก็ถูกหลอมสร้างจนสำเร็จ มันกระโดดออกจากเตาไฟและพุ่งตัวออกไปราวกับลูกกระสุน หมายจะหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่า มันถูกหลี่ชิเย่คว้าจับเอาไว้ได้ในทันที

มันเป็นของวิเศษชิ้นหนึ่งที่ดูเหมือนลูกแก้ว มีขนาดเท่านิ้วหัวแม่โป้งของผู้ใหญ่ มีสามสีสลับกันไปมา ลักษณะของมันดูไปแล้วจะว่าเป็นโลหะก็ไม่ใช่ ว่าเป็นหยกรึก็ไม่เชิง จะเป็นไม้ก็ไม่เหมือน ต่อให้ผู้มีประสบการณ์มากกว่านี้ก็ยากจะแยกแยะออกว่าของวิเศษชิ้นนี้ถูกหลอมสร้างขึ้นมาด้วยวัตถุดิบประเภทใดกันแน่

ของวิเศษชิ้นนี้ถูกหลี่ชิเย่คีบจับเอาไว้ด้วยนิ้วมือ มันพยายยามเคลื่อนไหวเหมือนต้องการดิ้นหลุดจากนิ้วมือที่คีบจับมันเอาไว้อย่างนั้น

หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น มองดูเจ้าของวิเศษที่กำลังดิ้นรนอยู่และกล่าวว่า “ในเมื่อข้าเป็นผู้สร้างเจ้าขึ้นมา เจ้าสมควรจะสยบต่อข้า” ขาดคำ นิ้วมือของหลี่ชิเย่ปรากฎเป็นสุดยอดหลักกฎเกณฑ์ที่พันล้อมรอบ และหลักกฎเกณฑ์แต่ละสายได้ประทับสลักลงบนของวิเศษดังกล่าว ไม่ให้ของวิเศษสามารถขัดขืนได้แม้เพียงน้อยนิด

หลังจากที่ถูกประทับสลักด้วยหลักกฎเกณฑ์แล้ว ของวิเศษที่ถูกคีบเอาไว้ระหว่างนิ้วก็สงบลงไม่มีการดิ้นรนและเคลื่อนไหวอีกต่อไป ได้สยบต่อหลี่ชิเย่ในที่สุด

หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง เมื่อมองดูลูกแก้ววิเศษที่มีสามสีสลับกัน กล่าวว่า “ในเมื่อเจ้าสามารถเปลี่ยนรูปได้ถึงสิบแปดอย่าง เช่นนั้นแล้วข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าว่า “ไม้บรรพจารย์สิบแปดผัน” ก็แล้วกัน

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ตั้งชื่อให้กับลูกแก้ววิเศษนี้แล้วก็จัดการเก็บเอาไว้เรียบร้อย โดยไม่ได้สนใจว่ามันจะเห็นด้วยหรือไม่ เมื่อเป็นเช่นนี้ หลี่ชิเย่จึงมีลูกแก้ววิเศษลูกหนึ่งที่มีชื่อว่า “ไม้บรรพจารย์สิบแปดผัน”

ลูกแก้ววิเศษลูกนี้ถือว่าเป็นอาวุธวิเศษนอกลัทธิเต๋า มันไม่ได้เหมือนดั่งสัจจอาวุธชะตาฟ้า หรืออาวุธวิเศษ มันไม่จำเป็นต้องอาศัยความแข็งแกร่งหรืออ่อนด้อยด้านทักษะของผู้บำเพ็ญตนในระดับหนึ่ง

ความจริงแล้ว ลูกแก้ววิเศษลูกนี้มันจะทรงพลังเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับตัวของมันเอง เนื่องจากมันถูกสร้างขึ้นโดยวัตถุดิบเฉกเช่นต้นพฤกษาจารย์ที่เป็นสุดยอดวัตถุดิบพิเศษและปราศจากผู้เทียบเทียมอยู่แล้ว ดังนั้น มันจึงมีความได้เปรียบมากในการกำหนดว่าจะทรงพลังแข็งแกร่งหรืออ่อนด้อยโดยตัวของมันเอง

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้เก็บ “ไม้บรรพจารย์สิบแปดผัน” เรียบร้อยแล้ว ได้หยิบของสิ่งหนึ่งออกมา มันคือผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองผืนนั้น หลี่ชิเย่กางมันออกและวางเอาไว้บนโต๊ะ

เวลานี้ ภายในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองได้ปรากฏร่างเงาของผู้หญิงคนหนึ่งขี้นมา หรือก็คือผู้ที่หลี่ชิเย่เรียกว่า “นังหนูไร้เดียงสา” ซึ่งนังหนูไร้เดียงสาผู้นี้มีประวัติความเป็นมาที่เก่าแก่โบราณมาก

“นี่ เจ้ามันคนตายหรือไง? เรียกตั้งนานก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งกับการที่หลี่ชิเย่เพิ่งจะยอมให้นางได้ออกมา

“เจ้าอยู่ในนั้นไม่รู้เนิ่นนานมาเท่าไรแล้ว เจ้าเองก็ไม่ใช่คนที่ยังมีชีวิต กาลเวลาที่ผ่านไปก็เอาชีวิตเจ้าไปไม่ได้” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวด้วยท่าทีที่เอ้อระเหยยิ่ง

หลายวันมานี้ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองผืนนี้รู้สึกหงุดหงิดไม่เป็นสุขยิ่งนัก แต่หลี่ชิเย่เอาแต่ทุ่มเทไปกับการหลอมสร้างลูกแก้ววิเศษ จึงไม่ได้สนใจนางแต่อย่างใด

“เจ้า…” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองถูกท่าทีเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ยั่วโมโหจนแทบกระอักเลือดออกมา ถ้าหากนางสามารถออกมาจากผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองได้ล่ะก็ นางจะต้องบีบคอหลี่ชิเย่ให้ตายคามืออย่างแน่นอน!

“เจ้าถูกขังเอาไว้ในนั้นมานานขนาดนี้แล้ว สมควรมีจิตใจที่นิ่งดั่งน้ำ ไม่ร้อนรน ไม่หวั่นไหวชั่วนิรันดร์” หลี่ชิเย่หัวเราะและพูดยั่วเย้านาง

ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองส่งเสียงฮึแสดงความไม่พอใจออกมา แม้ว่านางจะรู้สึกไม่สบอารมณ์ในตัวหลี่ชิเย่เป็นพิเศษ แต่ทว่า นางสามารถมีชีวิตอยู่แต่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองเท่านั้น จึงต้องจนด้วยเกล้าไม่สามารถทำอะไรหลี่ชิเย่ได้

“ที่นี่คือที่ไหน?” สุดท้าย ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองได้แก่เก็บอารมณ์ และเอ่ยถามหลี่ชิเย่

“มหาสมุทรอุดร เป็นพื้นที่ที่มีแต่ผืนน้ำที่กว้างใหญ่ไพศาล พวกเรายังคงอยู่ที่แดนมนุษย์กษัตรา “ หลี่ชิเย่ยิ้มตอบ

“ไม่เคยได้ยิน” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองส่ายหน้า

“วางใจเถอะ คนอย่างข้าน่ะมีหลักการนะ ต่อให้พวกเจ้าได้ซ่อนสมบัติวิเศษอะไรเอาไว้ในมหาสมุทรอุดรข้าก็จะไม่ฮุบเอาไว้คนเดียวอยู่แล้ว อย่างมากก็แค่ทำการค้ากันสักครั้ง” ระหว่างที่ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองกำลังนิ่งเงียบ หลี่ชิเย่ได้ยิ้มกล่าวขึ้นมา

“เจ้า เจ้ารู้ได้อย่างไร!” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองตกใจยิ่งนัก เนื่องจากเรื่องนี้เป็นความลับ เป็นความลับที่แม้แต่ผู้คนในยุคสมัยนั้นก็ล่วงรู้กันน้อยมาก ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนในยุคสมัยนี้สามารถรู้ได้

“แค่เดาเท่านั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ข้าไปสถานที่ต่างๆ มามากมาย เจ้าไม่เคยมีปฏิกิริยาใดๆ เลย แต่ว่า เมื่อมาถึงสถานที่แห่งนี้แล้วเจ้ากลับกลายเป็นร้อนรน เป็นการบ่งบอกว่ามหาสมุทรอุดรมีอะไรแตกต่างสำหรับเจ้า มีสิ่งที่กำลังเรียกหาเจ้า”

“เจ้า…” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองรู้สึกตระหนก แต่ จากนั้นนางกลับไปนิ่งเงียบอีกครั้ง เนื่องจากเรื่องนี้มีความสำคัญต่อนางมากเหลือเกิน นางไม่อาจไม่รอบคอบ

“กาลเวลาอันสุดแสนจะยาวนานเนี่ยะนะ ท่ามกลางกาลเวลาที่ยาวนานขนาดนี้ สิ่งของเช่นนี้ยังคงรักษาเอาไว้ได้ นับว่าเป็นของยอดเยี่ยมโดยแท้ และเป็นที่ต้องการมากของผู้คนอย่างแท้จริง” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวท่าทีเอ้อระเหย

ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง สุดท้ายกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “พวกเรามาแลกเปลี่ยนกันดีมั้ย เจ้าพาข้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เพื่อเอาของที่อยู่ในนั้นออกมา ของสิ่งนั้นเป็นของข้า ในอนาคตข้าจะชดเชยให้ด้วยมูลค่าที่ดีที่สุดแก่เจ้า”

“อย่างนั้นรึ” หลี่ชิเย่กล่าวเอ้อระเหยว่า “แต่ทว่า คนอย่างข้าเรียกราคาสูงมากนะ สูงจนผู้อื่นไม่อาจจินตนาการได้”

“เจ้าต้องการอะไร?” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองกล่าวอย่างช้าๆ ว่า “ขอเพียงเจ้าเปิดราคามา ทุกอย่างคุยกันได้”

ไม่ เจ้าพูดผิดแล้ว” หลี่ชิเย่ ส่ายหน้าและกล่าวว่า “ที่ถูกต้องกว่าควรจะบอกว่าเจ้าน่ะมีอะไร? เช่นนี้แล้วเจ้าจึงสามารถคุยกับข้าได้ คนอย่างข้าเป็นคนเลือกมาก ใช่ว่าสุดยอดของวิเศษแห่งยุคสามถึงห้าชิ้นก็สามารถทำให้ข้าหวั่นไหวได้”

“เจ้าอย่าทำเป็นเรียกร้องแบบไม่มีสิ้นสุด ทำโลภมาก” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองไม่พอใจในตัวหลี่ชิเย่ยิ่งนัก

“เจ้าว่าหละ? บางทีสำหรับเจ้าแล้วนี่เป็นการเรียกร้องไม่มีสิ้นสุด แต่ สำหรับข้าแล้วมันเป็นเพียงการซื้อขายแลกเปลี่ยนธรรมดาๆ เท่านั้นเอง ของวิเศษที่ข้ามีอยู่นั้นมากจนนับกันไม่หวั่นไม่ไหว เจ้าคิดว่าของวิเศษทั่วๆ ไป หรือต่อให้เป็นของวิเศษระดับราชันเซียนสามารถทำให้ข้าหวั่นไหวได้อย่างนั้นรึ? นำสิ่งที่สุดยอดที่สุดในยุคสมัยของเจ้ามาคุยจะดีกว่า” หลี่ชิเย่พูดไปตามอารมณ์

ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองต้องนิ่งเงียบอีกครั้ง เมื่อหลี่ชิเย่พูดออกมาเช่นนี้ ว่ากันตามความสัตย์จริง นางไม่มีความได้เปรียบใดๆ ที่จะเจรจาเงื่อนไขกับหลี่ชิเย่ได้เลยภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เนื่องจากนางต้องพึ่งพาอาศัยหลี่ชิเย่โดยสิ้นเชิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล