ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1628

ตอนที่ 1628 ตามฆ่า
หลี่ชิเย่ออกจากบ้านตระกูลยวี เข้าไปยังบริเวณทะเลของมหาสมุทรอุดร ทำการสำรวจถึงแนวโน้มความน่าจะเป็นทั่วทั้งมหาสมุทรอุดร

ความจริงในอดีตนานมาแล้ว หลี่ชิเย่เคยทำการสำรวจแนวโน้มความน่าจะเป็นของมหาสมุทรอุดรมาก่อน ครั้งนั้นใช่ว่าเขาจะหาพื้นที่แห่งใดแห่งหนึ่งเพื่อเป็นที่ตั้งของเมืองสมุทรสยบฟ้าง่ายๆ อย่างนั้น

เวลานี้ หลังจากที่บรรลุข้อตกลงกับผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองแล้ว หลี่ชิเย่ก็เข้าใจแล้วว่า แม้ว่าในอดีตเขาเคยทำการสำรวจแนวโน้มความน่าจะเป็นของมหาสมุทรอุดรมาจริง แต่ทว่า เขายังคงพลาดอะไรบางอย่าง ยังคงมีข้อปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาไม่ทันได้ระมัดระวัง

ดังนั้น การสำรวจอีกครั้งของหลี่ชิเย่ในครั้งนี้ เขาจึงเพิ่มความระมัดระวังถึงข้อปลีกย่อยแนวโน้มความน่าจะเป็นของมหาสมุทรอุดรทั้งหมดให้ละเอียดและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

หลี่ชิเย่มีความเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้มความน่าจะเป็นของมหาสมุทรอุดรเป็นอย่างดีมาแล้วในอดีต การกลับมาสำรวจอีกครั้งของหลี่ชิเย่ในครั้งนี้เรียกได้ว่าชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี การสำรวจจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทั้งยังครบถ้วนในข้อปลีกย่อยที่ก่อนหน้านั้นไม่ทันระวังอีกด้วย

ขณะที่หลี่ชิเย่ทำการสำรวจอีกครั้ง เขาเองได้มองเห็นข้อปลีกย่อยของแนวโน้มความน่าจะเป็นของมหาสมุทรอุดรที่ก่อนหน้านั้นเขาไม่ทันระวังเหมือนกัน เมื่อทำการประมวลเพิ่มเติมรายละเอียดเหล่านี้เข้าไปให้สมบูรณ์ หลี่ชิเย่พบว่ารายละเอียดปลีกย่อยท่ามกลางแนวโน้มความน่าจะเป็นของมหาสมุทรอุดรมันมีข้อแตกต่างจริงๆ

หากไม่เป็นเพราะคราวนี้ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองบอกว่าต้องการตามหาของวิเศษ หลี่ชิเย่คงไม่ได้ไประมัดระวังถึงข้อปลีกย่อยเหล่านี้ เมื่อมีการสำรวจและศึกษาถึงข้อปลีกย่อยนี้แล้ว หลี่ชิเย่จึงได้พบว่ามันมีสิ่งที่แตกต่างอยู่ในนั้นจริงๆ

ขณะหลี่ชิเย่กำลังสำรวจแนวโน้มความน่าจะเป็นในมหาสมุทรอุดรอยู่นั้น ปรากฏ “ตูม ตูม ตูม………” เสียงตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก ทันใดนั้น เห็นมังกรยักษ์ที่เหินบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยความเร็วที่สูงมากปานสายฟ้าแลบ กระทั่งไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยสายตาของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา

มันคือมังกรทองตัวหนึ่ง แม้ว่าเกล็ดทั้งหมดที่อยู่บนตัวของมังกรทองไม่ถึงกับเป็นสีทองระยิบระยับ แต่ท่ามกลางสีเหลืองแฝงไว้ซึ่งสีทองจางๆ เท่านี้ก็เพียงพอที่จะยกย่องให้เป็นมังกรทองได้แล้ว มังกรทองตัวนี้ไม่ได้มีห้าเล็บ มีเพียงสี่เล็บเท่านั้น

แม้จะกล่าวว่า มันเป็นเพียงมังกรทองสี่เล็บเท่านั้น แต่ว่า กลิ่นอายมังกรที่แผ่กระจายออกมากลับน่ากลัวยิ่งนัก กลิ่นอายมังกรที่ไล่หลังตามกันมาคล้ายดั่งคลื่นทะเลที่โหมสาดซัดอย่างนั้น ด้วยกลิ่นอายมังกรลักษณะเช่นนี้เพียงพอที่จะพุ่งทำลายคนได้ ย่อมประเมินได้ถึงความทรงพลังของมันได้

ด้วยมังกรทองสี่เล็บตัวนี้แหละที่เหินฟ้าผ่านไป บนตัวของมันปรากฏรอยเลือดเป็นแห่งๆ เกล็ดบนตัวมีร่องรอยฉีกขาดอยู่ไม่น้อย

มังกรทองสี่เล็บตัวนี้ได้แบกชายหนุ่มที่บนหัวมีเขามังกรอยู่คนหนึ่งอยู่บนหลัง ชายหนุ่มผู้นี้มีรอยเลือดและบาดแผลอยู่ทั่วตัว บาดแผลบางแห่งลึกจนเห็นกระดูก เป็นที่สยดสยองยิ่งนัก

เรียกได้ว่าชายหนุ่มผู้นี้เนื้อตัวท่วมไปด้วยเลือด มือทั้งสองข้างเกาะกุมเขาทั้งสองของมังกรทองเอาไว้แน่น ปล่อยให้มังกรทองแบกตัวเองหลบหนี

มังกรทองแบกชายหนุ่มวิ่งหนีไปอย่างสุดชีวิต ด้วยความเร็วสูงสุดของตนวิ่งหนีไปยังทิศทางที่ไกลออกไป เรียกได้ว่ามังกรทองตัวนี้ได้ทำจนเต็มความสามารถแล้ว!

หลี่ชิเย่เองก็รู้สึกแปลกใจยิ่งนัก เมื่อได้เห็นชายหนุ่มที่มังกรทองตัวนั้นแบกหนีคนนั้น เนื่องจากเขารู้จักชายหนุ่มคนนั้น เขาก็คือไห่หลินที่เคยพบกันที่บันไดเสียงสิบสองขั้นก่อนหน้านั้น

ไห่หลินในวันนั้นเรียกได้ว่าแข็งแกร่งดุดันกล้าหาญ เวลานี้กลับกระเซอะกระเซิงถึงเพียงนี้ กระทั่งเรียกได้ว่าไห่หลินในเวลานี้ถูกคนเขาตามไล่ฆ่าจนเหลือลมหายใจเฮือกสุดท้าย อาการบาดเจ็บนั้นหนักหนาสาหัสจนแทบจะพรากเอาชีวิตเขาไปได้เลยทีเดียว

“ตูม…” ขณะที่หลี่ชิเย่กำลังรู้สึกแปลกใจอยู่นั้น ท้องฟ้าสั่นไหวโครงแครงทีหนึ่ง คนผู้หนึ่งเหินฟ้าเข้ามา ใต้เท้าของเขาถูกปูลาดด้วยสุดยอดสัจธรรม คนผู้นี้มีลักษณะท่าทางที่โอหังอวดดี หมางเมินต่อเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ยามที่เขาก้าวเท้าลงบนสุดยอดสัจธรรมของเขานั้นพลันสยบเหล่าชั้นฟ้า ทำให้หมื่นสัจธรรมต้องร้องระงม ไม่สามารถต่อต้านกับเขาได้เลย

“หลงอ้าวเทียน!” หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มที่เฉยเมยออกมา เมื่อมองเห็นชายหนุ่มที่หมางเมินทั่วหล้า มองเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินอย่างเย้ยหยัน ต่อให้เขาไม่เห็นหลงอ้าวเทียน แค่เห็นกลิ่นอายบนตัวของชายหนุ่มผู้นี้เขาก็รู้แล้วว่าคือใครแล้ว

ถูกต้อง ชายหนุ่มผู้นี้ก็คือหลงอ้าวเทียนนั่นเอง เวลานี้เขากำลังไล่ล่าสังหารไห่หลินอยู่ ขณะที่ไห่หลินเองก็โชคดีที่มีมังกรทองยอมสละตนเองเข้าช่วยเหลือเขา จึงทำให้เขาสามารถหนีเตลิดออกมาได้

“ไห่หลิน ต่อให้เจ้าหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียวข้าก็จะสังหารเจ้าให้ได้ ข้าจะถอนรากถอนโคนปีศาจทะเลพวกเจ้า ให้พวกเจ้าถูกลบชื่อออกไปจากมหาสมุทรอุดร โลกหล้านี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถปกป้องเจ้า!” หลงอ้าวเทียนเอ่ยขึ้นเชื่องช้า เสียงของเขาดังก้องไปทั่วมหาสมุทรอุดร สยบทั่วทั้งแปดทิศ!

ขณะที่ไห่หลินไม่พูดอะไรสักคำ ปล่อยให้มังกรทองแบกตัวเขาหนี้ไปสุดฟากฟ้า คาดหวังสามารถสลัดรอดจากการตามหล่าของหลงอ้าวเทียนเร็วที่สุด

ที่แท้หลงอ้าวเทียนได้ผู้เฒ่าที่ชำนาญภูมิประเทศร่องน้ำลึกจากเมืองสมุทรสยบฟ้าช่วยนำทาง จึงสามารถนำยอดฝีมือเข้ากวาดล้างเผ่าปีศาจ และปีศาจทะเลที่โชคดีหนีรอดมาได้และหลบอยู่ในร่องน้ำลึกใต้ทะเล แต่ไห่หลินกลับสามารถหลบหนีไปได้

มาครั้งนี้ เดิมทีหลงอ้าวเทียนกำลังอยู่ระหว่างเป็นแขกไปเยือนเมืองปีศาจมู่จั๋ว ต้องการศึกษาแลกเปลี่ยนหลักสัจธรรมกับผู้คนทั่วหล้า แต่ทว่า ไม่ทันได้สองวันก็มีข่าวของไห่หลินเข้ามา หลงอ้าวเทียนอดรนทนไม่ไหว จึงออกตามไล่ล่าไห่หลินในทันที

กล่าวสำหรับหลงอ้าวเทียนแล้ว หากไม่สังหารไห่หลินให้ได้ อย่างน้อยที่สุดในใจของเขาจะรู้สึกไม่สะใจ แม้ว่าเขาสามารถเอาชนะไห่หลินมาได้ทุกครั้ง แต่ไห่หลินก็สามารถหนีไปได้ทุกครั้ง ซึ่งทำให้หลงอ้าวเทียนรู้สึกไม่สบอารมณ์ในใจอยู่บ้าง กล่าวสำหรับเขาแล้ว ใครหาญกล้าเป็นศัตรูกับเขา ไม่มีใครสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ไม่ว่าใครก็ไม่มียกเว้น!

“กรรร…” เวลานี้ มังกรทองสี่เล็บที่แบกไห่หลินอยู่ถึงกับคำรามเสียงดังออกมา ประกายสีทองบนตัวกระจายออกมา เหมือนว่ามันมีพลังไม่มีสิ้นสุดขึ้นมาทันใด เพิ่มความเร็วขึ้นไปจนถึงขีดสูงสุด หลบหนีไปไกลยังสุดขอบฟ้า

มังกรทองสี่เล็บทำการเผาผลาญเลือดวัฒนะของตน หวังพาไห่หลินหนีเอาชีวิตรอดให้จงได้!

มาครั้งนี้ ไห่หลินยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลงอ้าวเทียน หากไม่เป็นเพราะผู้อาวุโสเช่นมังกรทองยื่นมือเข้าช่วยเหลือล่ะก็ เกรงว่าเขาคงตายอนาถภายใต้เงื้อมมือของหลงอ้าวเทียนเสียแล้ว แต่ว่า ต่อให้มีมังกรทองสี่เล็บเข้าช่วยก็ยังคงสู้หลงอ้าวเทียนไม่ได้อยู่ดี ยังคงถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ มังกรทองสี่เล็บได้แต่แบกไห่หลินหนีเตลิดไป

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม มังกรทองสี่เล็บก็จะพาไห่หลินไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยให้ได้โดยไม่คำนึงถึงชีวิต เนื่องจากไห่หลินยังหนุ่มแน่น สำหรับปีศาจทะเลทั้งหมดแล้วเขามีความสำคัญมาก หากไห่หลินยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ปีศาจทะเลพวกเขาจะยังคงสืบทอดต่อไปได้ หากแม้กระทั่งไห่หลินต้องตาย เมื่อเป็นเช่นนั้น เกรงว่าปีศาจทะเลที่พอจะประคองชีวิตให้อยู่รอดไปวันๆ เช่นพวกเขาคงต้องถูกทำลายจนสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ ต่อให้ไม่ถูกทำลายพวกเขาก็จะกลายเป็นเผ่าพันธุ์เล็กๆ ที่ไม่คู่ควรจะกล่าวถึงในมหาสมุทรอุดร!

“หนีรึ ต่อให้หนีไปสุดหล้าฟ้าเขียวก็หนีจากเงื้อมมือของข้าไปได้” เมื่อหลงอ้าวเทียนเห็นมังกรทองเร่งความเร็วจนถึงขีดสุด เขายังคงมีความมั่นใจ ประกายเซียนบนตัวแผ่กระจายออกมา ตัวเขาเหมือนดั่งเซียนที่หลุดพ้นจากกิเลสบนโลกมนุษย์ กลิ่นอายปราศจากกิเลสเป็นพิเศษ ทันใดนั้น ร่างของเขาปรากฏประกายเซียนที่ลากทอดยาวออกไป เหลือไว้เพียงเงานับไม่ถ้วน

ความเร็วของหลงอ้าวเทียนดูเหมือนไม่เร็วอะไรนัก กระทั่งออกจะเอื่อยเฉื่อยด้วยซ้ำ ความจริงแล้ว ความเร็วของหลงอ้าวเทียนได้ถึงขั้นที่สุดบรรยายแล้ว ความเร็วของเขานั้นขนาดจังหวะแห่งกาลเวลายังช้ากว่าเขาครึ่งจังหวะ

หากจะพูดถึงความเร็วแล้ว การสำเร็จกายเซียนเหินขั้นสมบูรณ์ นับว่าไม่มีสิ่งใดสามารถเร็วไปกว่ากายเซียนเหินโดยแท้จริง หากหลงอ้าวเทียนตั้งใจจะไล่กวดมังกรทองสี่เล็บตัวนี้ให้ทัน ใช่จะเป็นเรื่องยากอะไรมากนัก

แต่ว่า การที่หลงอ้าวเทียนไล่ตามติดไปตลอดทาง โดยไม่รีบร้อนที่จะสังหารไห่หลินและมังกรทองสี่เล็บนั้น บางทีเขาต้องการให้ไห่หลินหนีไปยังฐานที่มั่นของปีศาจทะเลอื่นๆ เพื่อว่าเขาจะได้จัดการถอนรากถอนโคนปีศาจทะเลในคราเดียว!

หลี่ชิเย่ที่เดิมกำลังสำรวจแนวโน้มความน่าจะเป็นของมหาสมุทรอุดรอยู่ถึงกับเผยรอยยิ้มออกมา เมื่อเห็นไห่หลินและหลงอ้าวเทียนที่ฝ่ายหนึ่งหนีฝ่ายหนึ่งไล่ตาม จึงเหินฟ้าขึ้นไปและตามหลังไปด้วยท่าทีเอ้อระเหย

ขณะเมื่อหลี่ชิเย่เหินฟ้าขึ้นมา ดวงตาทั้งสองของหลงอ้าวเทียนพลันหันมองไปยังทิศทางที่หลี่ชิเย่อยู่ ส่งประกายตาออกมาแวบหนึ่งโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา และไม่ได้กระทำการใดๆ ยังคงมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก ไล่ตามไห่หลินต่อไป

หลงอ้าวเทียนยังคงถือดีเหมือนเดิมแม้จะรู้ว่าหลี่ชิเย่ติดตามมา ยังคงไม่มีการระวังป้องกันตัวแม้แต่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเตรียมพร้อมรับมือเต็มที่ ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าหลงอ้าวเทียนนั้นมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก ต่อให้ต้องเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเช่นคนโหดอันดับหนึ่ง ยังคงมีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยม โดยไม่ได้เกรงกลัวต่อคนโหดอันดับหนึ่งเลย!

ไห่หลินหนีสุดชีวิตภายใต้การแบกของมังกรทอง ขณะที่หลงอ้าวเทียนกลับไล่ติดตามไปแบบไม่ช้าและไม่รีบร้อน ส่วนหลี่ชิเย่เหมือนต้องการชมความคึกครื้นอยู่ข้างๆ

ความจริง เมื่อพวกเขาก้าวข้ามไปช่วงหนึ่งแล้วก็จะเห็นว่า ด้านหลังของพวกเขายังมีกองทัพจำนวนมหาศาลอยู่ และกองทัพนี้ประกอบด้วยเผ่าปีศาจเสียส่วนใหญ่ โดยเป็นกองทัพของอ๋องปีศาจจากเมืองปีศาจมู่จั๋ว และผู้นำทัพก็คือจินหลงเทียนจื่อที่เป็นเจ้าเมืองเมืองปีศาจมู่จั๋วนั่นเอง

ที่แท้ การล้อมปราบพลพรรคที่ยังหลงเหลืออยู่ของปีศาจทะเลในครั้งนี้ไม่ได้ลงมือเพียงหลงอ้าวเทียนเท่านั้น ยังมีจินหลงเทียนจื่อแห่งเมืองปีศาจมู่จั๋วนำกำลังทหารจำนวนมากมาช่วยล้อมปราบพวกปีศาจทะเลอีกด้วย

แม้ว่าเมืองปีศาจมู่จั๋วจะประกอบด้วยเผ่าปีศาจเป็นหลัก ขณะเดียวกันปีศาจทะเลและเผ่าปีศาจมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง แต่ จินหลงเทียนจื่อได้สาบานเป็นพี่น้องกับหลงอ้าวเทียน ดังนั้น จินหลงเทียนจื่อจึงตัดขาดความสัมพันธ์กับปีศาจทะเล ถึงกับนำกำลังทหารไปช่วยหลงอ้าวเทียนล้อมปราบกองกำลังที่ยังคงเหลืออยู่ของปีศาจทะเล!

การวิ่งหนีและไล่ล่าระหว่างไห่หลินและหลงอ้าวเทียน เป็นการกระทำที่อึกทึกมาก อีกทั้งพวกเขายังก้าวข้ามอาณาจักรทางทะเลไปหลายแห่ง จึงเป็นที่สนใจของผู้คนในมหาสมุทรอุดรจำนวนมากภายในระยะเวลาอันสั้น

ในเวลานี้ ยอดฝีมือและสำนักต่างๆ ในมหาสมุทรอุดรต่างถูกภาพของการวิ่งหนีและตามล่าดึงดูดสายตาเอาไว้ ผู้ยิ่งใหญ่และแคว้นเจ้าลัทธิต่างให้ความสนใจต่อการไล่ล่าและวิ่งหนีในครั้งนี้เ

“ไห่หลินอีกแล้ว!” หลายคนต้องอุทานออกมาด้วยความชื่นชมเมื่อเห็นไห่หลินที่กำลังวิ่งหนี และกล่าวว่า “ไอ้หนูคนนี้นับว่าเป็นเจ้าตัวเล็กที่แข็งแกร่งฆ่าไม่ตาย นับว่าดื้อด้านจริงๆ รอดชีวิตไปได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ถือว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์แล้วหละ”

“ไห่หลินมีพลังแฝงที่สูงมาก ทักษะยุทธก็สูง ทั้งยังมีสายเลือดที่สูงส่ง สำหรับปีศาจทะเลแล้วนับว่ามีความสำคัญมาก ดังนั้น ผู้ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งยิ่งของปีศาจทะเลต่างยินดีคุ้มครองตัวเขา และด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เข้าสามารถหลุดรอดจากเงื้อมมือของหลงอ้าวเทียน มาได้ทุกครั้ง” มีอ๋องปีศาจที่พูดออกมาด้วยความหดหู่

ครั้นกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว ต่อให้เป็นอ๋องปีศาจยังถึงกับต้องทอดถอนใจออกมาด้วยความสลด มาคราวนี้หลงอ้าวเทียนแทบจะถอนรากถอนโคนเผ่าปีศาจ และปีศาจทะเล กระทั่งเวลานี้ ปีศาจทะเล และเผ่าปีศาจที่หาญกล้าลุกขึ้นมาต่อต้านหลงอ้าวเทียน และพรรคเซียนเหินมาโดยตลอดคงมีแต่พวกของไห่หลินเท่านั้น ส่วนเผ่าปีศาจอื่นๆ หากไม่ใช่รู้รักษาตัวรอดก็ต้องหลบซ่อนตัวเอาไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล