ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1629

ตอนที่ 1629 มังกรทองสี่เล็บ
ผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะนิ่งเงียบ ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าช่วยเหลือไห่หลิน เมื่อเห็นหลงอ้าวเทียนไล่ล่าสังหารไห่หลิน และไม่มีใครกล้าออกมาพูดแทนไห่หลิน แม้แต่เผ่าปีศาจก็ไม่เว้น

ท่ามกลางสถานการณ์ที่พรรคเซียนเหินดุจดั่งพระอาทิตย์กลางหาวในเวลานี้ หลงอ้าวเทียนได้รับการยกย่องว่าปราศจากผู้ต่อกร ใครหละต้องการเป็นศัตรูกับพรรคเซียนเหิน เป็นศัตรูกับหลงอ้าวเทียนเพื่อไห่หลิน

“มังกรทองนะเนี่ย ในโลกนี้มีสัตว์เทพในตำนานจริงๆ น่ะเนี่ย” มีผู้เยาว์บางคึนถึงกับชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงและรู้สึกหวั่นไหวกระทั่งอิจฉา เมื่อเห็นมังกรทองสี่เล็บแบกไห่หลินหนีไป

หัวข้อสนทนาเกี่ยวกับมังกรและหงส์มีผู้กล่าวถึงตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่ามังกรและหงส์ที่แท้จริงไม่ได้มีอยู่ในโลกมนุษย์ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่เคยมีผู้คนในโลกที่เคยเห็นการดำรงอยู่ของมังกรและหงส์แท้จริงมาก่อน

ส่วนตัวที่ถูกเรียกว่าเป็นมังกรและหงส์ในโลกหล้านั้น เป็นเพียงพวกที่มีสายเลือดสัตว์เทพเจือจางเบาบางอย่างงูเจียวเสอ (งูยักษ์) และนกหลวนเนี่ยว (มีลักษณะคล้ายกับหงส์ในตำนาน) เท่านั้น หาใช่มังกรหรือหงส์ที่แท้จริง

เวลานี้เมื่อได้เห็นมังกรทองตัวนี้แล้ว ทำให้ผู้คนจำนวนมากต่างชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง และทำให้ผู้คนจำนวนมากต่างเชื่อว่า โลกนี้มีมังกรและหงส์ในตำนานอยู่จริง

“นับว่าปีศาจทะเลมีความยอดเยี่ยมมาก มีกระทั่งมังกรทอง มิน่าเล่าไห่หลินจึงสามารถรอดจากเงื้อมมือของหลงอ้าวเทียนมาได้ มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเช่นนี้คอยให้การคุ้มครอง หากไม่เป็นเพราะไห่หลินต้องมาเจอะเจอกับหลงอ้าวเทียนล่ะก็ ไม่แน่นักเขาอาจได้เป็นราชันเซียน” ยอดฝีมือต่างกล่าวด้วยความอิจฉา

“มังกรทองตัวนี้คือระดับอาวุโสคนหนึ่งของปีศาจทะเล มีตำแหน่งที่สูงมาก และสายเลือดที่สูงส่งยิ่ง” บรรพบุรุษของเผ่าปีศาจผู้หนึ่งถึงกับทอดถอนใจออกมา “มังกรทองที่สำเร็จมรรคขั้นสมบูรณ์สามารถต่อกรราชันเซียนซึ้งหน้าได้ เสียดายที่บรรพบุรุษผู้นี้ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลงอ้าวเทียน”

หลี่ชิเย่ที่กำลังเดินทอดน่องถึงกับยิ้มนิดหนึ่ง เมื่อได้ยินผู้คนจำนวนมากต่างชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงต่อมังกรทองสี่เล็บตัวนี้

ผู้คนในโลกหล้ามีจินตนาการที่หลากหลาย มีการพูดถึงในหลายแง่มุม แต่ว่าผู้คนจำนวนมากในโลกหล้าเมื่อพูดถึงเผ่ามังกรแล้ว แค่เป็นการพูดถึงในลักษณะลือกันไปเท่านั้นเอง

เผ่ามังกรนับเป็นหัวข้อสนทนาที่กว้างมาก ขณะเดียวกันก็เป็นหัวข้อสนทนาที่แคบมากเช่นกัน เวลาที่ผู้คนในโลกหล้าพูดถึงเรื่องมังกร พวกเขานับเอากระทั่งงูเจียวเสอให้อยู่ในประเภทของมังกรด้วย กระทั่งพวกที่มีประสบการณ์ตื้นเขินถึงกับยกย่องงูเหลือมที่สำเร็จมรรคผลให้เป็นมังกร

ขณะที่กล่าวสำหรับเผ่ามังกรที่แท้จริงแล้ว มีเพียงเผ่ามังกรที่มีเลือดที่ไหลรินอยู่ภายในร่างกายเป็นสายเลือดมังกรแท้จริงซี่งเป็นสัตว์เทพดึกดำบรรพ์ จึงถือว่าเป็นเผ่ามังกรที่แท้จริง อีกทั้งยังต้องเป็นสายเลือดมังกรบริสุทธิ์แท้จริง หาใช่ประเภทพันธุ์ผสมที่มีสายเลือดในกายเจือจางเบาบางมากแบบนั้น

ดังนั้น เผ่ามังกรที่แท้จริงจะดูถูกพวกงูยักษ์ที่ยกย่องตัวเองว่าเป็นเผ่ามังกร ในสายตาของพวกเขามองว่า พวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นเผ่ามังกรเหล่านี้มันก็แค่อยู่ในสถานะที่เป็นเพียงงูหรือมดปลวกฝูงหนึ่งเท่านั้น

แต่ว่า มังกรแท้จริงมีจำนวนอยู่ไม่มาก แม้แต่บนเก้าชั้นฟ้านั่น พวกที่ดำรงอยู่ในฐานะมังกรแท้จริงนั้นมีจำนวนน้อยจนนับนิ้วได้ ส่วนประเภทที่มีสายเลือดอยู่ในขั้นสมบูรณ์มีเพียงสองสามตัวเท่านั้น

แน่นอนที่สุด หากยกเอาแนวความคิดของมังกรแท้จริงที่มองตัวเองออกไปก่อน นวความคิดเกี่ยวกับเรื่องของมังกรนั้นกว้างมาก ปรกติแล้ว หากมีเลือดมังกรแท้จริงในกายก็มีสิทธิ์ได้ชื่อว่าเป็นเผ่ามังกร แน่นอน การมีสายเลือดที่เจือจางมากแล้วก็ยกย่องตัวเองว่าเป็นเผ่ามังกรเหมือนกัน ซึ่งก็จะเป็นที่ขบขันของผู้คนยิ่งนัก

เฉกเช่นมังกรทองสี่เล็บที่เห็นตรงหน้า ในตัวของมันมีสายเลือดมังกรแท้จริงอยู่ราวหนึ่งในสาม ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงมีสีทองวาววับไปทั้งตัว และมีกลิ่นอายมังกรที่แข็งแกร่งสุดเปรียบเปรย

มังกรทองที่สำเร็จมรรคผลขั้นสมบูรณ์สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ คำๆ นี้ถือว่าไม่ผิด เพียงแต่มังกรทองที่สำเร็จมรรคผลขั้นสมบูรณ์หาใช่มังกรที่แท้จริง มังกรทองเป็นเพียงสายแยกสายหนึ่งของเผ่ามังกรเท่านั้น สายเลือดของพวกมันหาบริสุทธิ์ไม่ ยังมีสายเลือดอื่นๆ ปะปนอยู่ในนั้น เมื่อเป็นดังนี้ ตัวของมังกรทองจึงเทียบไม่ได้กับมังกรแท้จริงไม่ว่าจะเป็นด้านของสายเลือดหรือกำลังความสามารถ

สายเลือดของมังกรทองสี่เล็บตรงหน้าตัวนี้ไม่ได้บริสุทธิ์ ทั้งยังก้าวไปไม่ถึงขั้นสมบูรณ์ และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าเกล็ดบนตัวของมันไม่ได้เป็นสีทอง แต่ออกเป็นสีเหลืองที่แฝงไว้ซึ่งประกายสีทองเท่านั้น ขณะเดียวกันมันไม่ได้มีห้าเล็บ มีเพียงสี่เล็บเท่านั้นเอง

ถ้าหากมังกรทองตัวนี้มีเกล็ดบนตัวเป็นสีทองทั้งตัว ทั้งยังมีเล็บห้าเล็บล่ะก็ สถานการณ์จะต่างกับที่เห็น เวลานี้จะไม่ใช่ตัวมันที่ถูกหลงอ้าวเทียนตามฆ่า เกรงว่าหลงอ้าวเทียนอาจจะถูกตะปบตายไปแล้วก็เป็นได้

“ดูนั่น คนโหดอันดับหนึ่ง” เมื่อหลงอ้าวเทียนและไห่หลินได้ก้าวพ้นทะเลแถบนี้ไปแล้ว ยอดฝีมือที่เฝ้าติดตามการไล่ล่าในครั้งนี้ก็สังเกตเห็นหลี่ชิเย่ที่อยู่บนท้องฟ้าสูง

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” หลายคนต่างมองหน้ากันและกันเมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ และกล่าวว่า “หรือว่าคนโหดอันดับหนึ่งเล็งหลงอ้าวเทียน เอาไว้แล้วรึ?”

“มีความเป็นไปได้ สองวันก่อนหลงอ้าวเทียนยังปล่อยข่าวท้าสู้กับคนโหดอันดับหนึ่งอยู่เลย ด้วยอารมณ์ของคนโหดอันดับหนึ่งที่ไร้ขื่อแป หากไม่เล็งหลงอ้าวเทียนก็แปลกแล้วหละ”

“หลงอ้าวเทียนรู้ทั้งรู้ว่าถูกคนโหดอันดับหนึ่งเล็งเอาไว้แล้วยังคงไม่หวาดหวั่น ขณะเดียวกันคนโหดอันดับหนึ่งก็เล็งหลงอ้าวเทียนอย่างเปิดเผย ทั้งสองคนล้วนแล้วแต่อหังการยิ่งนัก ต่างเป็นผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกรแห่งยุค มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่หวาดหวั่นต่อผู้ใดทั้งสิ้น” แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ที่เป็นรุ่นอาวุโสมองเห็นภาพนี้แล้วยังต้องกล่าวทอดถอนใจออกมา

ยอดฝีมือจำนวนมากที่ได้เห็นภาพนี้แล้วถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ เวลานี้ทุกคนให้ความสนใจว่าคนโหดอันดับหนึ่งจะเปิดศึกกับหลงอ้าวเทียนแล้วหรือไม่ และไม่ค่อยจะใส่ใจว่าไห่หลินสามารถหนีรอดจากการตามฆ่าของหลงอ้าวเทียนหรือไม่

หลังจากที่หลงอ้าวเทียนถูกคนโหดอันดับหนึ่งเล็งเอาไว้แล้ว ยังคงติดตามไล่ฆ่าไห่หลินต่อไปโดยไม่เกรงกลัวด้วยถือว่ามีผู้หนุนหลังอยู่ ทุกคนต้องชื่นชมและสยบต่อความอหังการของเขา

“ไม่เสียทีที่เป็นโอรสราชัน ไม่เสียทีที่เป็นผู้สืบทอดของพรรคเซียนเหิน กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กล้าท้าทายคนโหดอันดับหนึ่งเช่นนี้ก็มีเพียงเขาเท่านั้น” แม้แต่ผู้ที่ไม่เป็นมิตรกับหลงอ้าวเทียนก็ต้องชื่นชมและสยบให้กับเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล