ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1659

ตอนที่ 1659 เปิดศึก
“ตูม…ตูม…ตูม…” เสียงดังตูมตามดังเป็นระลอกไม่ขาดสาย ภายในระยะเวลาอันสั้น มหาสมุทรอุดรมีสำนักเจ้าลัทธิถูกทำลายไปแล้วถึงห้าแห่ง ทั้งยังรวมถึงสายสำนักราชันเซียนอีกด้วย

จากการที่เสียงตูมตามดังขึ้นทุกครั้ง จะได้เห็นพายุทอร์นาโดสีดำที่ทิ้งตัวลงมา และจะต้องมีแคว้นเจ้าลัทธิหนึ่งแห่งต้องถูกทำลายไป

ในเวลานี้ ผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดของมหาสมุทรอุดรเมื่อได้ยินเสียงดังตูมตามขึ้นมาถึงกับรู้สึกขวัญอ่อนขึ้นมา ไม่มีใครรู้ว่าสำนักไหนจะเป็นรายต่อไปที่ต้องถูกทำลายไป ทุกคนต่างหวาดกลัวต่อสภาพเช่นนี้

กระทั่งมีแคว้นเจ้าลัทธิจำนวนมากในมหาสมุทรอุดรเริ่มให้ศิษย์ของตนอพยพออกไปจากสำนัก คาดหวังว่าสามารถอาศัยการกระทำเช่นนี้รอดพ้นจากเคราะห์กรรมครั้งนี้ไปได้

“ดูสิ นั่นคืออะไร…” หลังจากที่มีแคว้นและสำนักเจ้าลัทธิจำนวนห้าแห่งถูกทำลายไปแล้ว ปรากฏว่าบนท้องฟ้าได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้นมา พลันกลายเป็นที่สนใจของมหาสมุทรอุดร กระทั่งทั่วแดนมนุษย์กษัตรา

“เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด…” ในเวลานี้บนท้องฟ้าปรากฏเสียงเหมือนมีสิ่งของหนักๆ กำลังเคลื่อนที่ส่งเสียงดังเป็นระลอกอย่างนั้น เสียงที่เคลื่อนที่เสียงนี้เสมือนดั่งมีวัตถุที่ใหญ่โตมโหฬารกำลังคืบคลานอยู่บนท้องฟ้าอย่างนั้น

มันไม่ใช่แค่สิ่งของที่ใหญ่โตกำลังเคลื่อนที่อยู่บนท้องฟ้า แต่เป็นโลกๆ หนึ่งที่ใหญ่โตมโหฬารกำลังเคลื่อนที่อยู่บนท้องฟ้า หรือจะพูดให้ถูกต้องมากกว่านั้นก็คือ เป็นโลกๆ หนึ่งที่กว้างใหญ่ไพศาลกำลังจะร่อนลงที่มหาสมุทรอุดรแล้ว

มันคือโลกๆ หนึ่งที่กว้างใหญ่ไพศาลลอยอยู่กลางอากาศ โดยที่โลกๆ นี้มีภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สูงเสียดทะลุไปยังจักรวาล มีแม่น้ำลำคลองดั่งมังกรยักษ์ที่ยึดครองอยู่ตรงนั้น ทั้งยังกระจัดกระจายเต็มไปด้วยเทือกเขาและภูเขาจำนวนนับไม่ถ้วน ท่ามกลางโลกที่เป็นแหล่งกำเนิดของอัจฉริยะบุคคล มีหอและวิหารโบราณที่ตั้งตระหง่าน โลกทั้งใบอยู่กันเป็นเอกเทศ เป็นที่กำเนิดสรรพชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน

สิ่งที่โลกนี้ทำให้ผู้คนต้องหวาดกลัวมากไปกว่านั้นก็คือ มันได้รวบรวมพลังแก่นฟ้าดินที่เต็มเปี่ยมยิ่งนักเอาไว้ ทั่วทั้งโลกหล้าอบอวลไปด้วยพลังที่ปราศจากผู้ต่อกร เสมือนหนึ่งมีราชันเซียนแต่ละองค์ที่คอยเฝ้ารักษาแปดทิศเอาไว้

ท่ามกลางโลกหล้าแห่งนี้มีภูเขาขนาดยักษ์ที่เปล่งไอกระบี่ที่สามารถเบิกฟ้าผ่าดินได้อย่างนั้น มีประกายสายฟ้าที่พวยพุ่งขึ้นมาภายในกำแพงเมือง มีแม่น้ำและบึงโหมสาดซัดด้วยพลังของฟ้าแลบ…

ที่นี่คือโลกที่เปี่ยมด้วยพลัง เป็นโลกที่คล้ายดั่งเป็นแดนสวรรค์อย่างนั้น ยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนพร้อมที่จะบดขยี้ทำลายเหล่าชั้นฟ้าสิบแดนดิน

โลกๆ หนึ่งที่มีลักษณะเช่นนี้แหละที่ถูกพายุทอร์นาโดสีดำห้าสายนำมันเคลื่อนมา โดยพายุทอร์นาโดสีดำห้าสายได้ลากเอามันมาถึงยังมหาสมุทรอุดร และด้วยสาเหตุนี้เองที่ทำให้ผู้คนทั้งหมดในมหาสมุทรอุดรล้วนแล้วแต่สามารถได้ยินเสียงการเคลื่อนที่ของวัตถุที่หนักอึ้งเป็นอันมากนั่น

“นั่นมันคืออะไร?” ผู้เยาว์ถึงกับมองเหม่อเมื่อเห็นโลกลักษณะเช่นนี้กำลังจะร่อนลงที่มหาสมุทรอุดร และพึมพำออกมา

“พรรคเซียนเหิน!” รุ่นอาวุโสที่มองเห็นโลกลักษณะเช่นนี้ถูกลากมาที่มหาสมุทรอุดรถึงกับพึมพำออกมาว่า “พรรคเซียนเหินจะยกพลมาที่มหาสมุทรอุดรเต็มที่ เป็นการยกเอาพรรคเซียนเหินทั้งหมดมาอยู่ที่มหาสมุทรอุดร โดยไม่ใช่ส่งศิษย์คนใดคนหนึ่ง หรือกองทัพใดกองทัพหนึ่งมาเท่านั้น เป็นการมาตั้งมั่นที่มหาสมุทรอุดรของพรรคเซียนเหินทั้งหมด”

“แล้วมันจะมีผลอะไรตามมาหละ?” ผู้เยาว์ถึงกับเหม่อลอยเมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโส

“สถานเบาคือครอบครองมหาสมุทรอุดร หนักคือครอบครองแดนมนุษย์กษัตรา” ต่อให้เป็นผู้อาวุโสที่อยู่ในฐานะจักรพรรดิเทพ เวลานี้ยังรูสึกถึงจิตใจที่ร้อนรุ่มกระสับกระส่าย

การมาของพรรคเซียนเหินหาใช่เป็นเรื่องดี ก่อนหน้านั้นหลงอ้าวเทียนพาศิษย์มาที่มหาสมุทรอุดรก็เพียงพอที่จะเกรียงไกรไปทั่วมหาสมุทรอุดรแล้ว ได้ยึดครองพื้นที่ทะเลที่เป็นของเผ่าปีศาจและปีศาจทะเลไปแถบหนึ่ง

เวลานี้ พรรคเซียนเหินยกมาทั้งพรรคกลับมาที่นี่ ลำพังแค่พื้นที่ที่เป็นทะเลคงไม่เพียงพอสำหรับพรรคเซียนเหินได้อยู่แล้ว เกรงว่าพรรคเซียนเหินจะต้องยึดครองมหาสมุทรอุดรทั้งหมดเอาไว้ กระทั่งอาจมีความเป็นไปได้ที่จะยึดครองแดนมนุษย์กษัตราทั้งหมดเอาไว้ด้วย

“ตูม…” เสียงดังสนั่น บนท้องฟ้าปรากฏพายุทอร์นาโดสีดำที่ลงมาอีกครั้ง ภายใต้พายุทอร์นาโดลักษณะเช่นนี้ที่ลงมาหายห่วงได้เลย สุดท้าย “ปัง” สำนักเจ้าลัทธิแห่งหนึ่งถูกทำลายไป เสียงแหลมและเศร้ารันทดดังก้องฟ้าดิน ศิษย์ทั้งหมดที่เข้าไปทำการต่อต้านถูกฉีกร่างจนแหลกละเอียด กลายเป็นหมอกเลือดไปในทันที

ในเวลานี้ ทั่วทั้งมหาสมุทรอุดรกลับกลายเป็นเงียบสงัดยิ่ง กระทั่งเงียบสงัดไปทั่วแดนมนุษย์กษัตรา ทุกคนต่างเข้าใจแล้วว่ามือมืดที่อยู่เบื้องหลังภัยพิบัติเช่นนี้คือใครแล้ว

เวลานี้ ผู้คนในมหาสมุทรอุดรต่างเป็นห่วงตัวเอง สำนักเจ้าลัทธิจำนวนมากถึงกับตื่นตระหนกตกใจ ทุกคนล้วนแล้วแต่เกรงว่ารายต่อไปจะเป็นตัวเอง!

เสียง “ตูม…” ดังสนั่น หลังจากที่เงียบสงบช่วงระยะเวลาสั้นๆ แล้ว ทันใดนั้น กองทัพหนึ่งได้ปรากฏแก่สายตาของผู้คน โดยที่กองทัพนี้ได้ปรากฏตัวออกมาบริเวณพื้นที่ทางทะเลที่ที่พรรคเซียนเหินได้ร่อนลงนั้น

กองทัพนี้ประกอบด้วยยอดฝีมือเฉียดแสนคน เป็นกองทัพที่เข้มแข็งมาก ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนส่วนใหญ่ได้ปิดบังตัวตนที่แท้จริง มีการอำพรางใบหน้าของตน แต่ก็มีปีศาจทะเล และเผ่าปีศาจจำนวนไม่น้อยที่เผยร่างที่แท้จริงออกมา

ปีศาจทะเลเหล่านี้มีร่างกายที่ใหญ่โตมโหฬาร เป็นต้นว่าปูทะเลที่หมอบคลานอยู่บนพื้นผิวทะเลที่แลดูคล้ายเป็นเกาะขนาดยักษ์เกาะหนึ่ง หรือเป็นต้นว่าฉลามยักษ์ที่เพียงแค่สะบัดหางก็สามารถก่อเกิดเป็นคลื่นยักษ์ขึ้นมาเป็นต้น

ดูจากขบวนของกองทัพกองนี้แล้ว สามารถมองออกได้ว่าเป็นการรวมตัวกันเป็นการชั่วคราว กองทัพดูสับสนไม่เป็นระเบียบ ไม่ได้มีการฝึกมาอย่างเพียงพอ แม้กระนั้นก็ตาม พลังลมปราณของกองทัพนี้ยังคงรุนแรงมาก ย่อมสามารถประเมินได้ว่ายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทุกคนในกองทัพนี้ยังนับว่ามีความแข็งแกร่งยิ่งนัก

ผู้ที่เป็นแม่ทัพของกองทัพนี้ก็คือไห่หลิน ผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อเร็วๆ นี้เอง นอกเหนือจากไห่หลินแล้ว ยังมีมังกรทองสี่เล็บและติ้งหย่วนโหวขนาบซ้ายขวามาด้วย

“จะเป็นมหาสมุทรอุดรก็ดี แดนมนุษย์กษัตราก็ช่าง หากเวลานี้ไม่สามัคคีกันลุกขึ้นมาต่อต้านพรรคเซียนเหิน ยอมอ่อนข้อให้ตลอด พวกเราจะต้องถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นแน่แท้ พวกเราต้องถูกเขาขับไล่ออกไปจากบ้านของตน ไม่มีที่จะให้ยืนอีกต่อไป!” ก่อนสงครามจะเริ่มต้นขึ้นมา คำประกาศยกทัพออกปราบปรามข้าศึกของไห่หลินดังก้องทั่วหล้า

“ฆ่า…” แม้ไห่หลินต้องเผชิญหน้ากับพรรคเซียนเหินยังคงไม่หวั่น ร้องคำรามเสียงดัง ออกนำเดี่ยวไปด้านหน้าสุดของกองทัพ บุกเข้าหาพรรคเซียนเหินที่ยังร่อนลงมายังมหาสมุทรอุดรได้ไม่สนิทเรียบร้อยดีนัก

ไห่หลินนำทัพใหญ่มาก็เพื่อทำลายสำนักของพรรคเซียนเหิน หวังจะปิดกั้นประตูที่จะเข้าสู่ยุทธภพของพรรคเซียนเหินเอาไว้

“ฆ่ามัน…” ไห่หลินที่บุกไปอยู่ด้านหน้าสุด โดยมีระดับจักรพรรดิเทพหลายคนคอยคุ้มครองที่ติดตามขึ้นไป ส่วนบรรดาปีศาจทะเลที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารต่างแย่งกันกรูเข้าไปโจมตีต่อที่ตั้งของพรรคเซียนเหิน “ฆ่า…ปกป้องบ้านเมือง…” กองทัพที่มีไพร่พลนับแสนภายใต้การนำของไห่หลินได้บุกเข้าไปยังพรรคเซียนเหิน พวกเขาไม่ห่วงชีวิตตนเอง ยินดีสละชีพของตนเองมาโจมตีพรรคเซียนเหิน

เสียง “ปัง…” ดังขึ้นสะเทือนหวั่นไหวไปทั่วท้องฟ้า จังหวะที่ไห่หลินนำกองทัพบุกเข้าไปยังที่ตั้งของพรรคเซียนเหินนั้น ทันใดนั้นปรากฏกองทัพของพรรคเซียนเหินที่นำโดยแม่ทัพเฒ่าคนหนึ่งได้พุ่งลงมา บนตัวเขาสวมเสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์ ดูเข้มขรึมน่าเกรงขาม ดาบยาวที่อยู่ในมือส่งประกายโลหิตแวบวับ กลิ่นอายชั่วร้ายตลบอบอวลไม่จางหาย ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเป็นขุนพลโหดที่รบทัพจับศึกมานาน

“ไม่รู้จักเจียมตัว รนหาที่ตาย!” ขุนพลเฒ่าผู้นี้คำรามเสียงยาวออกมา นำพากองทัพของพรรคเซียนเหินบุกตะลุยเข้าหากองทัพต่อต้านของพวกไห่หลิน

ขุนพลเฒ่าผู้นี้เป็นผู้ที่พาลและนิยมความรุนแรงยิ่งนัก พลันที่บุกเข้ามาด้วยท่วงท่าคล้ายดั่งผ่ากระบอกไม้ไผ่ทะลวงเข้าไป ยอดฝีมือทั่วไปไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอยู่แล้ว ไม่สามารถรับมือเขาได้แม้เพียงกระบวนท่าเดียว สุดท้ายแล้วยังคงเป็นไห่หลิน มังกรทองสี่เล็บ และติ้งหย่วนโหวที่ร่วมมือกันต้านรับกับขุนพลเฒ่าคนนี้เอาไว้

“ฆ่า…” เวลานี้เสียงร้องฆ่าฟันกันดังก้องฟ้าดิน ท่ามกลางเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธยังระคนด้วยเสียงร้องแหลมที่เศร้ารันทดและน่าเวทนา เสียงกระดูกที่แตกหัก เสียงการเข่นฆ่ากัน…

แคว้นเจ้าลัทธิจำนวนมากในมหาสมุทรอุดรเหมือนมองเห็นความหวัง เมื่อเห็นไห่หลินนำพากองทัพลุกขึ้นต่อต้าน ในเวลานี้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากอธิฐานในใจเงียบๆ คาดหวังให้พวกไห่หลินสามารถรบชนะได้ หากว่าไห่หลินสามารถรบชนะบางทีอาจนำมาซึ่งความหวังให้กับมหาสมุทรอุดรได้

แน่นอน บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อธิฐานเงียบๆ ก็รู้ดีว่า การคาดหวังว่าพวกไห่หลินจะชนะนั้นมันริบหรี่เหลือเกิน พรรคเซียนเหินที่แข็งแกร่งเพียงนี้ใช่ว่าแค่รวมตัวเป็นกองทัพขึ้นมาก็สามารถสั่นคลอนพวกเขาได้

คำอธิฐานของผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากไม่ได้รับการตอบสนอง หลังจากระเบิดศึกขึ้นมาได้ไม่นาน กองทัพที่นำโดยพวกของไห่หลินก็ถูกโจมตีจนต้องถอยร่นไปเรื่อยๆ ไม่สามารถต่อกรกับกองทัพของพรรคเซียนเหิน

ความจริงแล้ว การพ่ายแพ้ของกองทัพไห่หลินสามารถจินตนาการได้อยู่แล้ว แม้ว่าพวกไห่หลินมีใจต้องการต่อต้านพรรคเซียนเหิน แต่ว่า กองทัพของพวกเขาเป็นการรวมตัวกันภายในระยะเวลาอันสั้น กำลังพลในกองทัพมาจากทั่วทุกสารทิศไม่มีความพร้อมเพรียง กำลังพลมีความแข็งแกร่งไม่เท่ากัน และไม่ได้ผ่านการฝึกมาก่อน กองทัพลักษณะเช่นนี้ไหนเลยจะต่อกรกับกองทัพพรรคเซียนเหินได้เล่า

“อ๊ากก…” เสียงร้องแหลมน่าเวทนาดังไม่ขาดสาย จากการปะทะกันเพียงระยะเวลาสั้นๆ การสู้รบก็ก้าวไปใกล้จะถึงจุดจบแล้ว กองทัพต่อต้านถูกตีจนแตกพ่าย ยอดฝีมือจำนวนมากถูกสังหาร เวลานี้เห็นศพที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าทีละศพๆ เศษเนื้อและชิ้นส่วนของร่างกายที่ปลิวว่อน เลือดสดๆ พวยพุ่งออกมา เหมือนหนึ่งฝนเลือดที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

ภายในระยะเวลาอันสั้น กองทัพต่อต้านแตกพ่ายไม่เป็นขบวน ที่ยังโชคดีรอดมาได้เริ่มวิ่งหนีกันเพื่อให้พ้นจากสมรภูมิรบแห่งนี้ ขณะที่กองทัพของพรรคเซียนเหินได้ทำการล้อมปราบผู้ที่ยังเหลือรอดเหล่านั้น ในเวลานี้เสียงร้องน่าเวทนาและเสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังดังระงมก้องฟ้าดิน ทำให้ผู้ได้ยินถึงกับน้ำตาร่วง

ในที่สุด การสู้รบได้รูดม่านจบลงอย่างไม่ต้องสงสัย กองทัพต่อต้านที่โชคดีสามารถหนีรอดไปได้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แม้แต่ไห่หลินเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายใต้การคุ้มครองและช่วยเหลืออย่างไม่คิดชีวิตของมังกรทองสี่เล็บ ติ้งหย่วนโหว และปีศาจทะเลที่รูปร่างใหญ่โตมโหฬารจึงหนีรอดจากสมรภูมิรบมาได้ มิฉะนั้นล่ะก็คงเสียชีวิตท่ามกลางสมรภูมิรบเช่นกัน

ภาพของกองทัพต่อต้านที่นำโดยไห่หลินล่มสลายลงภายในระยะเวลาอันสั้น ทำให้สำนักเจ้าลัทธิจำนวนมากในมหาสมุทรอุดรถึงกับสลด หลายคนรู้สึกขนลุกซู่ในใจ เวลานี้ล้วนแล้วแต่หวาดผวาอยู่ไม่เป็นสุข

“ตูม…ตูม…ตูม…” เสียงดังตูมตามดังไม่ขาดสาย ฉับพลันหลังจากสิ้นสุดสงครามนั่นเอง ปรากฏพายุทอร์นาโดสีดำสายหนึ่งได้ลงมาอีกครั้ง มุ่งหน้าตรงไปยังสำนักเก่าแก่แห่งหนึ่ง

มาคราวนี้ สำนักเก่าแก่แห่งนี้ไม่ทำการต่อต้านอีกแล้ว เหล่าบรรพบุรุษภายในสำนักได้พาศิษย์หลบหนีออกไปทันที ไปให้ไกลจากที่ตั้งสำนักของตน

“ปัง” พายุทอร์นาโดสีดำได้ทะลุทะลวงลงไปยังพื้นที่บรรพชนลึกลงไปจนถึงเส้นชีพจรใต้ดิน แม้ว่าสำนักแห่งนี้ไม่ได้ทำการต่อต้านแต่อย่างใด แต่ว่า ยังคงมีศิษย์จำนวนมากที่หลบหนีไม่ทันและถูกดูดเข้าไปในพายุทอร์นาโดสีดำ ถูกฉีกร่างจนแหลกเหลวกลายเป็นหมอกเลือดไป

หลายวันต่อจากนี้ พรรคเซียนเหินได้ส่งพายุทอร์นาโดสีดำลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งที่ลงมาก็จะทำการทำลายล้างสำนักเจ้าลัทธิแห่งหนึ่ง พายุทอร์นาโดสีดำต้องการพื้นที่บรรพชนของสำนักเจ้าลัทธิแต่ละแห่ง ทุกครั้งที่มันทำลายสำนักแล้วก็จะมุดลงไปจนถึงเส้นชีพจรใต้ดิน

ภายในระยะเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่วัน แม้ว่าเคยปรากฏการต่อต้านเล็กๆ อยู่หลายครั้ง แต่ว่า พวกแคว้นเจ้าลัทธิที่ทำการต่อต้านพรรคเซียนเหินเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ถูกกองทัพของพรรคเซียนเหินปราบจนพ่ายแพ้ไป พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพรรคเซียนเหินอยู่แล้ว

ภายในระยะเวลาสั้นๆ พรรคเซียนเหินได้ส่งพายุทอร์นาโดสีดำลงมาถึงสิบครั้ง ทำลายสำนักเจ้าลัทธิไปสิบแห่ง ในจำนวนนี้รวมทั้งสายสำนักราชันเซียนอยู่ด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล