ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1685

ตอนที่ 1685 การปกป้องคุ้มครองของเก้าแดน
เสียง “ตูม…” ดังสนั่น ครั้นพลังแฝงของสายเลือดได้ปะทุอออกมาแล้ว ราชินีเหรินเสียนพลันสยบเหล่าชั้นฟ้าจนพังทลาย ร่างกายของนางในเวลานี้ถูกล้อมรอบด้วยวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ ทุกๆ วงแหวนล้วนมีสุดยอดพลังสูงสุดอยู่ในครอบครอง นาทีนี้ราชินีเหรินเสียนไม่ใช่ราชินีอีกต่อไปแล้ว ดูเหมือนว่านางได้มีการวิวัฒนาการจนกลายเป็นราชันเซียนองค์หนึ่งเสียแล้ว

“พลังที่เทียบเคียงกับราชันเซียน นี่ นี่ น่ามันเป็นการก้าวทะลุพันธนาการของสวรรค์นะเนี่ย! ”แม้แต่ยวีไท่จวินยังคงต้องมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปมากเมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ นางพึมพำออกมาว่า “ได้รับพลังจากเลือดบรรพบุรุษอเวจี เป็นการก้าวทะลุขีดจำกัดของตนเอง นี่มันเสมือนหนึ่งได้รับการปกป้องจากสวรรค์อย่างนั้น มิน่าเล่าถึงได้มีคนเขาบอกว่าอเวจีคือลูกรักของสวรรค์ที่แท้จริง!

เดิมทีราชินีเหรินเสียนมีพลังอยู่ในระดับต้านรับกับราชันเซียนอยู่ในครอบครอง แต่ว่า เวลานี้หลังจากที่พลังแฝงของสายเลือดปะทุขึ้นมา จึงทำให้นางก้าวทะลุพันธนาการจากสวรรค์ ไต่ระดับขึ้นไปถึงระดับเทียบเคียงกับราชันเซียนได้ในทันที มีพลังที่สามารถต่อสู้กับราชันเซียนโดยแท้จริงในครอบครอง

นี่แหละคือความน่ากลัวของสายเลือดอเวจี ตามหลักแล้วด้วยกำลังความสามารถที่ระดับต้านรับกับราชันเซียนได้นั้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามจะไม่สามารถก้าวทะลุพันธนาการของสวรรค์ไปได้ ระหว่างต้านรับราชันเซียนได้และเทียบเคียงราชันเซียนได้มีเส้นกั้นขวางที่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ อีกทั้งสวรรค์จะไม่อนุญาตให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น มิฉะนั้นแล้ว ใครก็สามารถเป็นราชันเซียนได้

แต่ว่า ราชินีเหรินเสียนเวลานี้อาศัยเลือดบรรพบุรุษอเวจีทะลุทะลวงพันธนาการนี้ไปได้ ก้าวไปจนถึงระดับเทียบเคียงราชันเซียนไปได้ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าสายเลือดอเวจีช่างน่ากลัวเสียเพียงใดแล้ว

“เจ้าสมควรตาย!” เวลานี้กระบี่กระดูกในมือของราชินีเหรินเสียนชี้ไปที่หลี่ชิเย่ แม้ว่าร่างของนางจะมีประกายศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งขึ้นมารุนแรง แต่กลับให้ความรู้สึกถึงความเป็นมารที่ประหลาดพิสดารยิ่งนัก!

“ฆ่า…” ทันใดนั้นเอง ภายในพรรคเซียนเหินได้ปรากฎร่างเงาแต่ละสายที่พุ่งตัวออกมา ร่างเงาแต่ละสายล้วนแล้วแต่ปะทุกลิ่นอายที่น่ากลัวขึ้นมา อีกทั้งในเวลาเดียวกันปรากฏเสียง “ตูม” ดังสนั่น ร่างเงาแต่ละสายที่บุกโจมตีเข้ามาได้สำแดงกระบวนท่าการโจมตีราชันเซียนที่ปราศจากผู้ต่อกรแต่ละกระบวนท่าออกมา ในมือของพวกเขาต่างถืออาวุธราชันเซียนทั้งสิ้น

“ฉีสือ พวกเจ้ายังไม่ล้มเลิกความตั้งใจอีก งั้นข้าจะสงเคราะห์พวกเจ้า! ”ราชินีเหรินเสียน คำรามเสียงดังออกมา เมื่อมองเห็นระดับบรรพบุรุษแต่ละคนที่บุกโจมตีเข้ามา

“วันนี้พวกเราจะล้างสำนักให้กับพรรคเซียนเหิน!” หนึ่งในบรรพบุรุษที่บุกโจมตีเข้ามาคำรามเสียงดัง พวกเขาเผาผลาญเลือดวัฒนะของตน เพื่ออาศัยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดสำแดงอานุภาพการโจมตีของราชันเซียนที่ปราศจากผู้ต่อกรออกมา

นี่คือบรรพบุรุษสายราชันเซียนฉานหลงสามสายของพรรคเซียนเหิน เดิมพวกเขาถูกกักบริเวณเอาไว้ แต่ เวลานี้พวกเขากลับบุกโจมตีออกมา พวกเขาเองก็รอคอยโอกาสนี้อยู่ คาดหวังว่าสามารถกวาดล้างศิษย์ทรยศทั้งหมดของพรรคเซียนเหินได้หมดสิ้นในคราเดียว กระทั่งไม่เสียดายที่จะสังหารศิษย์พรรคเซียนเหินที่ถูกล้างสมองทั้งหมด เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เวลานี้มีศิษย์พรรคเซียนเหินจำนวนเท่าไรที่ยืนอยู่ข้างราชินีเหรินเสียน

“ไม่เจียมตัว” ราชินีเหรินเสียนยิ้มเยาะ “แช้งค์” เสียงกระบี่กระดูกในมือดังขึ้นพร้อมกับฟาดฟันลงไป เพลิงมารที่รุนแรงดั่งคลื่นยักษ์ที่กวาดผ่าน ได้ยินเสียงดัง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ดวงดาวแต่ละดวงที่อยู่ในรัศมีพลันกลับกลายเป็นเถ้าธุลีไป ภาพเหตุการณ์ดูน่าสยดสยองยิ่ง

“แช้งค์” เสียงทวนคำรามไม่ขาดสาย มังกรเขียวก็เสือกทวนออกไปยังราชินีเหรินเสียน กองทัพมังกรเขียวในเวลานี้ ร่วมมือกับระดับบรรพบุรุษพรรคเซียนเหินเพื่อมุ่งสังหารราชินีเหรินเสียน

“ตูม…” จากการโจมตีของทั้งสองฝ่าย ดวงดาราแตกสลาย หลังจากที่กำลังของราชินีเหรินเสียนเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย มังกรเขียวต้องล่าถอยในกระบวนท่าเดียว ส่วนระดับบรรพบุรุษพรรคเซียนเหินแต่ละคนถูกพลังกระแทกจนตัวลอย กระอักเลือดออกมาอย่างแรง บางคนร้องเสียงน่าเวทนาออกมา กลายเป็นหมอกเลือดไปกับการถูกโจมตีเพียงครั้งเดียว

ราชินีเหรินเสียนในเวลานี้แข็งแกร่งมากเหลือเกิน และน่ากลัวเหลือเกิน ต่อให้ระดับบรรพบุรุษพรรคเซียนเหินเหล่านี้ปราศจากผู้ต่อกรมากกว่านี้ ทั้งยังไม่เสียดายที่เผาผลาญเลือดวัฒนะของตน ยังคงรับไม่ได้กับกระบี่กระดูกของราชินีเหรินเสียน

“อ๊ากก…” ในเวลานี้เอง โอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ร้องเสียงแหลมเศร้ารันทดออกมา ลมปราณของโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่แห้งเหือด ลมปราณและพลังวัตรทั้งหมดของพวกเขาถูกหลี่ชิเย่ดึงแยกออกมา อาศัยสายฟ้าสีทองมากลั่นบูชา อาศัยลมปราณ และพลังวัตรของพวกเขามาหล่อเลี้ยงร่างกายของพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ร่างกายของเขากลับถูกหลี่ชิเย่แยกออกมา

“สมควรตาย” ราชินีเหรินเสียนไม่มีกระจิตกระใจต่อสู้ยืดเยื้อ คำรามเสียงดัง เพลิงมารพวยพุ่ง หนึ่งกระบี่ทำลายล้างสรรพชีวิตนับล้านๆ ชีวิต หนึ่งกระบี่ผ่าฟ้าดินให้แยกออกจากกัน

“อ๊ากก…” เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น ทันใดนั้นราชินีเหรินเสียนเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว บรรดาบรรพบุรุษพรรคเซียนเหินที่รุกโจมตีกลับต่อนางถูกนางสังหารสิ้นในกระบี่เดียว แม้แต่มังกรเขียวยังถูกฟันจนตัวลอยออกไป ร่างขนาดยักษ์ปรากฏรอยแยกขึ้นมา

“ตูม…ตูม…ตูม…” ทันใดนั้น บังเกิดฟ้าดินสั่นไหวโคลงแคลง จังหวะที่ราชินีเหรินเสียนต้องการจะบุกเข้าไปช่วยเหลือลูกๆ ของนางนั้น มังกรเขียวพลันเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว เห็นประกายเลือดที่พุ่งขึ้นรุนแรง เสมือนหนึ่งจะกลับกลายเป็นมังกรเลือด กองทัพมังกรเขียนเวลานี้ก็โกรธแค้นขึ้นมาสุดๆ พวกเขาจะสำแดงท่าไม้ตายออกมาแล้ว

“ปล่อยนางเข้ามา ข้าจะสังหารนางด้วยมือของข้าเอง ข้าจะให้นางได้เห็นลูกๆ ของนางตายอนาถต่อหน้าต่อตา และให้ลูกๆ ของนางได้เห็นแม่ของพวกเขาตายอนาถ!” ขณะที่มังกรเขียวเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเพื่อสู้กับราชินีเหรินเสียนอีกสักครั้ง หลี่ชิเย่ได้สั่งการออกไป

กองทัพมังกรเขียวจ้องมองราชินีเหรินเสียนท่าทีน่าเกรงขาม จากนั้นค่อยๆ ถอยออกไปอยู่ด้านข้าง

เสียง “ตูม…” ดังสนั่นขึ้น เวลานี้ราชินีเหรินเสียนเพียงก้าวไปก้าวเดียวก็เข้าไปใกล้หลี่ชิเย่ กระบี่กระดูกในมือชี้ไปที่หลี่ชิเย่ กล่าวน่าครั่นคร้ามขึ้นมาว่า “ข้าจะสับเจ้าให้เป็นหมื่นๆ ชิ้น!” เมื่อนางกล่าวมาถึงตรงนี้ ถึงกับกัดฟันกรอด

ขณะที่กระบี่กระดูกในมือของราชินีเหรินเสียนชี้ไปที่หลี่ชิเย่นั้น แม้แต่กาลเวลาและช่องว่างล้วนแล้วแต่ถูกเพลิงมารของกระบี่กระดูกหลอมละลาย พลังมารของกระบี่กระดูกเล่มนี้น่ากลัวเหลือเกิน

ในความเป็นจริงเรื่องนี้ใช่เป็นเรื่องแปลก กระบี่กระดูกเล่มนี้สร้างขึ้นโดยอาศัยกระดูกซี่โครงของปฐมบรรพบุรุษอเวจี อีกทั้งสายเลือดอเวจีในตัวของราชินีเหรินเสียนได้ตื่นขึ้นโดยสิ้นเชิง ภายใต้อานุภาพของสายเลือดอเวจี เป็นการยากที่จะจินตนาการถึงเพลิงมารของกระบี่กระดูกจะทรงพลังได้เพียงใด

ราชินีเหรินเสียนได้ทำการเปลี่ยนแปลงสายเลือดมนุษย์ของตนให้กลายเป็นสายเลือดอเวจี อีกทั้งยังเป็นสายเลือดอเวจีที่บริสุทธิ์ยิ่ง และนางยังเป็นหนึ่งเดียวในพรรคเซียนเหินที่สามารถเปลี่ยนแปลงสายเลือดได้เป็นผลสำเร็จอีกด้วย

“ท่านบรรพบุรุษ…” ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องน้ำตานองหน้าเมื่อได้เห็นร่างเงาที่สูงตระหง่านแต่ละสาย และก้มกราบอยู่กับพื้น

เวลานี้ สายสำนักราชันเซียนแต่ละแห่ง ทายาทของราชันเซียนแต่ละคน ผู้บำเพ็ญตนที่เคยฝึกเคล็ดวิชาราชันเซียนมาก่อน และหรือราษฎรที่เผ่าพันธุ์เดียวกันกับราชันเซียนเป็นต้น บนตัวของพวกเขาต่างเปล่งประกายขึ้นมา ผู้บำเพ็ญตนแต่ละคน มนุษย์ปุถุชนแต่ละคนล้วนแล้วแต่ปรากฎอานุภาพราชันเซียนที่ตลบอบอวลบนตัวของพวกเขา เหมือนว่าราชันเซียนที่เป็นบรรพบุรุษของพวกเขาเหล่านั้น หรือเป็นปฐมาจารย์ของพวกเขา นาทีนี้ล้วนแล้วแต่อาศัยกายเนื้อของพวกเขาปรากฎตัวบนโลกหล้าอีกครั้ง

เมื่อทุกๆ ที่บนเก้าแดนล้วนแล้วแต่ปรากฎเส้นรุ้งเส้นแวงที่สว่างไสวของราชันเซียนขึ้นมาแล้ว และเมื่อทายาทรุ่นหลังจำนวนนับไม่ถ้วนของราชันเซียน กระทั่งผู้ที่ร่วมชาติพันธุ์เดียวกันกับราชันเซียนต่างเปล่งประกายราชันที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ทำให้เก้าแดนถูกปกป้องคุ้มครองเอาไว้

นาทีนี้ ทุกคนต่างรับรู้ได้ว่าได้รับการมองดูจากราชันเซียนแต่ละองค์ในระยะไกล ราชันเซียนแต่ละองค์ได้ให้การคุ้มครองลูกหลานของตน ราชันเซียนแต่ละองค์ที่คุ้มครองเผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าวิญญาณเทพ เผ่ามนุษย์ศิลา…เป็นต้น นาทีนี้ทุกสรรพชีวิตไม่มีการแบ่งชาติพันธุ์ ทุกคนมีชื่อที่ร่วมกันคือ ราษฎรของเก้าแดน!

นาทีนี้ราษฎรของเก้าแดนมีศัตรูคนเดียวกันคือ อเวจี

“ฝ่าบาท…” นาทีนี้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างรับรู้ถึงราชันเซียนแต่ละองค์ที่ปกปักษ์คุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นทายาทของราชันเซียนหรือไม่ ไม่ว่าจะมีชาติกำเนิดจากเผ่าพันธุ์ใด ทุกๆ สิ่งมีชีวิตล้วนแล้วแต่ได้รับการเรียกหาจากราชันเซียน สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนแล้วแต่คุกเข่าก้มกราบกับพื้น ภายในใจบังเกิดความคิดที่สูงสุด ความคิดนี้กับปณิธานการต่อสู้ของราชันเซียนได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

ทันใดนั้น สิ่งมีชีวิตของเก้าแดนต่างมีปณิธานพียงหนึ่งเดียว…ปกป้องเก้าแดน ต่อต้านอเวจี!

ตูม…เสียงดังสนั่นดังขึ้น นาทีนี้ร่างเงาราชันเซียนแต่ละองค์ที่สูงใหญ่ ปณิธานต่อสู้แต่ละสายของราชันเซียน และปณิธานของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของเก้าแดนได้หลอมรวมเป็นหนึ่ง ปณิธานสายนี้ได้ส่องสว่างไปเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ปณิธานการต่อสู้สายนี้ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต้องสั่นเทา แม้แต่ผู้ที่อยู่ในสุสานเวลานี้ก็ดูระวังตัวขึ้น

เฉกเช่นบรรดาตาเฒ่าที่อยู่ในสุสานเทียนกู่ นาทีนี้ต่างลืมตาทั้งสองขึ้นมา มองดูปณิธานที่รวมเข้าด้วยกันของเก้าแดนแล้วก็มีท่าทีที่จริงจังยิ่งนักขึ้นมา

นาทีนี้เอง ระดับผู้ยิ่งใหญ่ที่ฝังหลบอยู่ในสุสานก็นิ่งเงียบอยู่นาน เมื่อต้องเผชิญปณิธานและพลังเช่นนี้ ไม่ว่าคนผู้นั้นจะมีความแข็งแกร่งเพียงใดก็ตามล้วนแล้วแต่ไม่สามารถต้านทานได้ นี่คือปณิธานที่ราชันเซียนทุกคนทิ้งเอาไว้หลังสิ้นสุดยุคอเวจี มันคือปณิธานต่อสู้ของราชันเซียนในเก้าแดนที่คอยปกป้องเก้าแดน

ไม่ว่าใครก็ไม่อนุญาตให้ท้าทายปณิธานต่อสู้นี้ มิฉะนั้นจะถูกฆ่าโดยไม่มีการละเว้น!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล