กู้จุนเคยได้รับการชี้แนะจากหลี่ชิเย่ คนอื่นอาจไม่เข้าใจหลี่ชิเย่แต่เขาเข้าใจดี ขอเพียงหลี่ชิเย่ได้ตัดสินใจไปแล้วใครก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เขาเองก็รู้ดีว่ายากจะพ้นเคราะห์กรรม ดังนั้น ก่อนที่จะตายเขายังคงรักษาท่าทีที่เอ้อระเหยเอาไว้ได้
“นับว่าเจ้านี่เข้าใจข้าจริงๆ ” หลี่ชิเย่ถึงกับทอดถอนใจและพูดว่า “พูดกับคนฉลาดก็ไม่เหนื่อยอย่างนี้แหละ เสียดาย เจ้ากลับไม่ใช่ศิษย์ของข้า”
กู้จุนหัวเราะแล้วกล่าวว่า “เกรงว่าถ้าหากข้าเป็นศิษย์ของใต้เท้าคงทำให้ใต้เท้าต้องเสียหน้า ที่ข้าเรียนรู้มายังไม่เท่าหนึ่งในสิบของใต้เท้า ต่อให้ใต้เท้าไม่รู้สึกว่าเสียหน้า ข้าก็ไม่ต้องการไปข้องเกี่ยว เพื่อไม่ให้ใต้เท้าต้องเสียชื่อ”
คำพูดของกู้จุนใช่ว่าเป็นการถ่อมตน สิ่งที่เขาพูดมาล้วนแล้วแต่เป็นความจริง ศิษย์ของหลี่ชิเย่มีคนไหนบ้างที่ไม่แข็งแกร่งกว่าเขา ราชันเซียนหมิงเหริน ราชันเซียนหญิงหงเทียน ล้วนแล้วแต่เป็นสุดยอดราชันเซียนในหล้าทั้งสิ้น สามารถหัวเราะเย้ยเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน แม้ว่าตัวเขาจะเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดอัจฉริยะบุคคลนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีโชควาสนาที่เหนือผู้คน มีกุศโลบายและแผนการเหนือผู้อื่น แต่เขาก็ไม่กล้ายกย่องตัวเองว่าเป็นศิษย์ของอีกาทมิฬ
“เสียดายพรสวรรค์ของเจ้า” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวด้วยความรู้สึกเสียดาย
“โลกนี้มักมีเรื่องที่ไม่เป็นดั่งใจปรารถนาเสมอ ใต้เท้าว่างั้นมั้ย” กู้จุนหัวเราะและกล่าวว่า “ข้าไม่เสียใจที่เป็นศัตรูกับใต้เท้า ต่อให้ใต้เท้าให้โอกาสข้าได้เลือกอีกครั้ง ข้ายังคงเลือกที่จะเป็นผู้ทรยศแต่กำเนิด หากข้าได้กลายเป็นศิษย์ของใต้เท้าและติดตามบำเพ็ญเพียรและขัดเกลากับใต้เท้า จนท้ายที่สุดได้เป็นราชันเซียน มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเบื่ออะไรอย่างนั้น ใต้เท้าไม่เคยขาดเคลนผู้ที่จะเป็นราชันเซียนอยู่แล้ว ต่อให้ข้าได้เป็นราชันเซียนก็ไม่สามารถปราดเปรื่องน่าทึ่งเฉกเช่นราชันเซียนหญิงหงเทียน และไม่สามารถเหมือนเช่นราชันเซียนหมิงเหรินที่ยืนหยัดไม่สั่นคลอน”
กล่าวสำหรับข้าแล้ว ข้าไม่เสียใจที่เป็นศัตรูกับใต้เท้า มันเป็นความสุขสำหรับชีวิตของข้า หากไม่มีสิ่งท้าท้ายเช่นใต้เท้าแล้ว ชีวิตดูจะเหงาเหลือเกิน แน่นอน ในมุมมองของใต้เท้าข้ายังไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของใต้เท้า หากใต้เท้าจะบดขยี้ข้าให้ตายจริงๆ ล่ะก็ ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวันนี้ สติปัญญาของข้าในสายตาของใต้เท้าก็เฉกเช่นเด็กน้อยอย่างนั้น” กู้จุนรู้สึกโล่งอก หัวเราะกล่าวอย่างตามอารมณ์
“มันก็จริง” หลี่ชิเย่พยักหน้าช้าๆ และกล่าวว่า “บอกได้แต่เพียงเวลาไม่คอยท่า การที่เจ้ามีพรสวรรค์เช่นนี้ มีความตั้งใจเช่นนี้ ที่ขาดไปก็คือเวลา ไม่มีการสั่งสมด้วยระยะเวลาที่เนิ่นนาน ไม่มีความรู้ที่รอบรู้กว้างขวาง มันจะส่งผลให้แผนการของเจ้าออกจะไม่สมบูรณ์”
“ใต้เท้าสั่งสอนได้ถูกต้อง” กู้จุนแสดงความเคารพแบบจีน ยิ้มกล่าวว่า “ชาตินี้ใช่เพียงเวลาไม่คอยท่ากับข้า มันไม่คอยท่าใต้เท้าเช่นกัน หากว่าใต้เท้าสามารถทนไปได้อีกหลายชาติ เกรงว่าถึงตอนนั้นทุกอย่างล้วนถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ภูตผีปีศาจล้วนไม่คู่ควรจะกล่าวถึง รับรองว่าจะต้องถูกใต้เท้ากวาดล้างไปจนสิ้น! ”
“เรื่องที่ผ่านไปแล้ว ไม่ต้องไปพูดถึงอีก” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “เจ้าคิดจะตายด้วยวิธีไหนหละ? ต้องการตายให้มันเร็วหน่อย หรือว่าตายแบบเจ็บปวดนิดหนึ่ง”
ในเวลานี้ หลี่ชิเย่และกู้จุนทั้งสองคนต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน คนที่ไม่รู้ความนัยยังไม่เชื่อว่าทั้งสองคนเป็นศัตรูคู่อาฆาต
พวกเขาสองคนพูดคุยกันกันพลางหัวเราะไปพลาง ใครเล่าจะเชื่อว่ากู้จุนนั้นต้องการเล่นงานหลี่ชิเย่ถึงตาย ขณะเดียวกันหลี่ชิเย่ก็ต้องการเล่นงานกู้จุนถึงตายเช่นกัน
กู้จุนขณะเผชิญหน้ากับความตายก็ไม่ได้หลีกหนี และไม่ได้ตื่นตระหนก สงบมาก และเมินเฉยยิ่ง ในเวลานี้เขาได้ปลงแล้ว ทุกอย่างได้สิ้นสุดลง เขาพ่ายแพ้แล้ว แพ้อย่างหมดรูป เมื่อเห็นหลี่ชิเย่บรรลุกายเซียนทั้งสี่ขั้นสมบูรณ์ ต่อให้กู้จุนมีไพ่ตายอะไรในมือก็เปล่าประโยชน์ ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้อีกต่อไป
คนอื่นอาจไม่รู้ว่า การสำเร็จสี่ยอดกายเซียนขั้นสมบูรณ์นั้นบ่งบอกถึงสิ่งใด แต่ว่า ในใจของกู้จุนกลับรู้อย่างชัดเจน พี่เขยของเขาคือกายเซียนคู่ขั้นสมบูรณ์ ความปราศจากผู้ต่อกรของเขาเป็นที่ประจักษ์ของทุกคน ขณะที่หลี่ชิเย่สำเร็จสี่กายเซียนขั้นสมบูรณ์ มันสุดที่จะจินตนาการได้อีกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น หลี่ชิเย่ยังมีไพ่ตายอยู่ในมืออีก
ในเวลานี้กล่าวสำหรับกู้จุนแล้ว ต่อให้พี่เขยไม่สังหารเขา ต่อให้หลี่ชิเย่ไม่สังหารเขาก็ตาม มันทำให้การมีชีวิตอยู่ต่อไปของเขาไม่มีความหมายอีกแล้ว
เนื่องจากสิ่งที่กู้จุนเสาะแสวงหามาชั่วชีวิตก็คือเอาชนะอีกาทมิฬ กระทั่งสังหารอีกาทมิฬเสียเพื่อแทนที่เขา เวลานี้กู้จุนรู้แล้วว่าตนเองนั้นไม่สามารถเอาชนะอีกาทมิฬได้ตลอดไป ดังนั้น เขาจึงปลงตก และคนที่สิ้นหวังสำหรับเขานั้นความตายไม่ได้น่ากลัวอะไรอย่างสิ้นเชิง
“ใต้เท้าเคยชี้แนะข้ามาก่อน ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าไม่มีโอกาสได้ตอบแทนใต้เท้าบ้าง นับว่าละอายใจจริงๆ ” กู้จุนยิ้มและเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
“บอกได้แต่เพียงว่า ข้าไม่สมกับการเป็นอาจารย์” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ถ้าหากเจ้าคิดว่าเคยรับการชี้แนะจากข้าจริงๆ ล่ะก็ เช่นนั้นก็คือข้าไม่สามารถสั่งสอนเจ้าให้ได้ดี บนเส้นทางที่แสนจะยาวไกลข้าไม่สามารถดึงเจ้ากลับมาได้”
“เรื่องนี้โทษใต้เท้าไม่ได้” กู้จุนหัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “ต่อให้ใต้เท้ามีความตั้งใจจะสอนให้ข้าได้ดี คงมีสักวันที่ข้าต้องเป็นศัตรูกับใต้เท้าอยู่ดี การเป็นศัตรูกับใต้เท้าใช่เป็นเพียงข้าเป็นคนทรยศแต่กำเนิดเท่านั้น บอกได้แต่เพียงโลกใบนี้มันน่าเบื่อ เรื่องที่ข้าต้องการชี้ขาดกับใต้เท้ามันก็อยู่ที่เงื่อนเวลาเท่านั้นเอง”
“เอาเถอะ” หลี่ชิเย่หัวเราะ และกล่าวว่า “วิถีแห่งชีวิตของคนเรา ทุกคนต่างมีการเลือกที่แตกต่างกันไป ผ่านมาได้ถึงสามชาตินับว่าไม่ง่ายนัก วันนี้สมควรแก่เวลาที่ต้องจบสิ้นลงได้แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...