ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1688

ตอนที่ 1688 กระสุนเพลิงอเวจี
กระสุนเพลิงอเวจี เป็นกระสุนนัดแรกของกระบอกราชันอเวจีหกเฟือง พลันที่กระสุนนัดนี้ถูกยิงออกไป มันได้ก้าวข้ามช่องว่างจำนวนนับไม่ถ้วน ก้าวข้ามโลกธาตุแล้วโลกธาตุเล่า พลันทำลายล้างรังของอเวจีไปโดยทันที

ไม่ว่ารังดังกล่าวจะอยู่ห่างไปไกลเท่าไร ไม่ว่าจะคั่นด้วยโลกธาตุกี่โลกธาตุ ไม่ว่ารังดังกล่าวจะมีระบบป้องกันภัยที่น่ากลังเพียงใด ต่อให้เป็นระบบป้องกันที่ผ่านการปลุกเสกจากราชันเซียนมาก็ตาม ภายใต้การโจมตีจาก “กระสุนเพลิงอเวจี” นัดเดียวพลันกลับกลายเป็นเถ้าธุลีไป การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็สามารถทลายรังอเวจีจนหมดทั้งรัง

กระบอกราชันอเวจีหกเฟืองจะมีกระสุนอยู่ทั้งหมดหกนัด ยิ่งนัดท้ายๆ อานุภาพจะทรงพลังมากยิ่งขึ้น เมื่อถึงนัดที่หก อานุภาพของมันเรียกได้ว่าสามารถสังหารราชันเซียนได้! จะอย่างไรเสีย กระบอกราชันอเวจีหกเฟืองสร้างขึ้นโดยอาศัยวัตถุดิบที่ดีที่สุดในโลก

นอกจากตัวกระบอกราชันอเวจีหกเฟืองสร้างขึ้นโดยสุดยอดวัตถุดิบที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครแล้ว ในครั้งนั้น หลังสิ้นสุดศึกพิฆาตเซียนแล้ว หลี่ชิเย่ได้ยังนำเอาศพพิษอเวจีจำนวนนับไม่ถ้วน อสูรร้าย ปณิธานการสู้รบ การฆ่าฟันต่างๆ นำมาหลอมบูชาสร้างขึ้นมา

สิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดของกระบอกราชันอเวจีหกเฟืองยังคงเป็นเลือดราชันเซียน ศพราชันเซียน ซากศพหลงหมิ่นยิ่งเป็นของล้ำค่าที่ปราศจากผู้เทียบเทียม ที่สุดของที่สุดยังไม่ใช่เลือดราชันเซียน หรือศพราชันเซียน แต่เป็นชะตาฟ้า ครั้งนั้น หลังจากที่สังหารราชันเซียนหลงหมิ่นแล้ว ได้ทำการกลั่นเอาชะตาฟ้าของเขาไป

ลองคิดดู สุดยอดอาวุธปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ อานุภาพความน่ากลัวของมันเป็นสิ่งที่ผู้คนไม่สามารถจินตนาการได้

มาคราวนี้ อาศัยกระสุนนัดเดียวจัดการกับรังของอเวจีจนราบคาบ ท่าทางเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนอย่างนั้น เพียงแต่ที่หลี่ชิเย่ทำเช่นนี้เป็นเพราะไม่ต้องการให้มีอเวจีคนไหนมีโอกาสหนีรอดไปได้ แค่พริบตาเดียวก็จัดการพวกเขาทั้งหมด ไม่เปิดโอกาสให้พวกเขามีโอกาสตั้งตัว

โซ่โลหิตเป็นวิธีการอย่างหนึ่ง เป็นการล็อคพิกัดอย่างทันทีทันใด หลังสิ้นสุดยุคอเวจีแล้ว หลี่ชิเย่เคยใช้วิธีนี้ในการติดตามล่าสังหารรังของอเวจีมาก่อน

เนื่องจากว่าหลังจากที่อเวจีถูกทำลายล้างแล้ว ส่วนที่เหลือรอดกลายเป็นระมัดระวังตัวมาก ขอเพียงมีเหตุการณ์นิดหนึ่งพวกเขาก็จะหลบหนีไปทันที อีกทั้งรังของอเวจีส่วนที่เหลือนั้นสามารถเคลื่อนย้ายไปได้ตามใจปรารถนา สามารถล่องลอยอยู่ในพิกัดใดพิกัดหนึ่งของช่องว่าง

ดังนั้น ภายหลังหลี่ชิเย่จึงได้คิดค้นวิธีโซ่โลหิตขึ้นมา ทำการกลั่นเลือดอเวจีโดยตรง ให้เลือดของพวกเขาเองล็อคพิกัดไม่เปิดโอกาสใดๆ ให้หลบหนีไปได้ จัดการรื้อรังพวกเขาจนราบคาบ

ครั้งนั้น หลี่ชิเย่ในฐานะอีกาทมิฬเคยชี้แนะกู้จุน กู้จุนก็รู้จักวิธีนี้เช่นนี้

กู้จุนคอยสังเกตทุกๆ พิกัดของเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นการต่อสู้ของพรรคเซียนเหิน ขอเพียงมีสิ่งผิดปรกติเขาก็จะให้ความสนใจ

พรรคเซียนเหินเป็นเพียงหมากทดสอบของอเวจีที่ยังคงหลงเหลืออยู่เท่านั้น เวลานี้หลี่ชิเย่ส่งกองทัพประชิดพรรคเซียนเหินย่อมต้องตัดสินชี้ขาดกับราชินีเหรินเสียนอยู่แล้ว! อเวจีที่ยังคงหลงเหลืออยู่จะไม่ให้ความสนใจต่อการศึกครั้งนี้ได้อย่างไรกันเล่า

อาจกล่าวได้ว่า สำหรับอเวจีแล้วสงครามในครั้งนี้เกี่ยวพันถึงอนาคตอเวจีของพวกเขา ถ้าหากสงครามครั้งนี้ฝ่ายของราชินีเหรินเสียนเป็นฝ่ายชนะ เท่ากับจะได้ให้การต้อนรับยุคที่ใหม่ทั้งหมด แต่หากว่าราชินีเหรินเสียนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ อเวจีของพวกเขาก็จะทำตัวเป็นเต่าหดหัวต่อไป โดยการหลบอย่างเงียบๆ ไม่กล้าปรากฏตัวออกมา ไม่กล้ามีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย เพราะถ้าหากกระทำการบุ่มบ่าม คงจะนำพามาซึ่งอเวจีพวกเขาถูกทำลาย!

ดังนั้น ในขณะที่มีการสู้รบกันอเวจีจะต้องมองดูผลการต่อสู้ระหว่างหลี่ชิเย่ และราชินีเหรินเสียนจากระยะห่างไกล ไม่ว่าอเวจีจะหลบซ่อนตัวได้มิดชิดเพียงใดก็ตาม ไม่ว่าอเวจีอยู่ห่างจากสมรภูมิรบกี่โลกธาตุก็ตาม เมื่อไหร่ที่พวกเขาให้ความสนใจสงครามในครั้งนี้ล่ะก็ พิกัดที่พวกเขาตั้งอยู่ก็ต้องมีการสั่นไหว ทำให้เกิดคลื่นกระเพื่อมที่แตกต่างขึ้นมา

กู้จุนที่อยู่ตรงนี้ได้เฝ้าสังเกตอเวจีตลอดมา แน่นอนที่สุด เริ่มแรกนั้นกู้จุนไม่ได้คิดที่จะทำลายล้างอเวจีเสีย แต่ต้องการดูว่าอเวจีจะลงมือหรือไม่ จะส่งกองทัพออกศึกหรือไม่

กู้จุนที่อยู่ในฐานะหนึ่งในสิบสุดยอดอัจฉริยะบุคคลนับจากอดีตถึงปัจจุบันมีพรสวรรค์ที่ล้ำเลิศยิ่งในครอบครอง แม้ว่าพิกัดตำแหน่งของช่องว่างในเก้าแดนกว้างใหญ่ไพศาลมากนัก แต่ว่าเขากลับสามารถล็อกพิกัดช่องว่างที่มีความแตกต่างได้อย่างรวดเร็ว และคาดว่าอเวจีต้องมีรังตั้งอยู่ที่ตรงนั้นอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ราชินีเหรินเสียนพ่ายแพ้ในการสู้รบแล้วอเวจีไม่ได้ลงมือ ทำให้กู้จุนรู้ได้ทันทีว่าทุกอย่างเป็นที่แน่นอนแล้ว เขาเองพ่ายแพ้อย่างหมดรูปไม่มีโอกาสพลิกฟื้นขึ้นได้เลย

ดังนั้น กู้จุนที่ประสบความล้มเหลวจึงไม่มีอะไรที่ต้องอาลัยอาวรณ์ เขากลับสามารถปลงตก และมีความเบิกบาน ไม่ได้ห่วงหาสิ่งใดอีกต่อไป สุดท้าย ก่อนกู้จุนจะตายจึงให้ความช่วยเหลือหลี่ชิเย่อีกแรงด้วยการอาศัยกลั่นเลือดตนเองเพื่อทำการพันธนาการพิกัดที่ตั้งรังอเวจีเอาไว้ ทำให้หลี่ชิเย่สามารถยิงกระสุนนัดเดียวทำลายสิ้นรังอเวจีที่ยังคงหลงเหลืออยู่

การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการตอบแทนอีกาทมิฬครั้งสุดท้ายของกู้จุน เขากับอีกาทมิฬเสมือนดั่งศัตรูแต่ไม่ใช่ศัตรู ความสัมพันธ์เหมือนอาจารย์กับศิษย์ที่ไม่เหมือนอาจารย์กับศิษย์ก็จบลงด้วยประการเช่นนี้

จากการยิงออกไปหนึ่งครั้ง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มลายเป็นเถ้าธุลี สุดยอดอัจฉริยะบุคคลแห่งยุคก็ร่วงหล่นลงมา โลกนี้ไม่มีชื่อของกู้จุนอีกต่อไป

หลี่ชิเย่มองดูทุกสิ่งทุกอย่างที่กลายเป็นเถ้าที่ล่องลอยแล้วทอดถอนใจออกมาเบาๆ พรสวรรค์ของกู้จุนนั้นเรียกได้ว่าสุดยอดปราศจากผู้ต่อกร จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรก็มั่นคง เสียดายกลับก้าวเดินไปอีกเส้นทาง ถ้าหากเขาก้าวเดินบนเส้นทางที่สง่าผ่าเผยเขามีโอกาสเป็นราชันเซียนที่ปราดเปรื่องคนหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล