ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1711

ตอนที่ 1711 เทพปีศาจทั่วเทียน
ระดับบรรพบุรุษผู้นี้พลันมีสีหน้าที่เย็นชา เขากล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่ากระไร? กรุณาแจ้งชื่อเพื่อให้ข้าได้ชื่นชมชื่อเสียงของท่าน” คำพูดของระดับบรรพบุรุษผู้นี้แฝงไว้ซึ่งความเยาะเย้ยอยู่ในที

“ราชันทักษิณ” ราชันทักษิณกล่าวเรียบเฉยว่า “เขาเทวะหลิงวู้ของพวกเจ้าไม่มีอะไรที่จะนำมาโอ้อวดได้ แค่เล้าไก่เล้าหนึ่งเท่านั้นเอง ยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำโอ้อวดต่อหน้าของปรมาจารย์ ถ้าเป็นเทพปีศาจทั่วเทียนที่หายสาบสูญไปของเขาเทวะหลิงวู้ค่อยยังชั่วหน่อย สำหรับเจ้าน่ะรึ อ่อนเกิน”

“เจ้า” คำพูดของราชันทักษิณพลันทำให้ระดับบรรพบุรุษผู้นี้ถึงกับมีสีหน้าที่ดูไม่จืดถึงขีดสุด

หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะไปตอแยกับระดับบรรพบุรุษทั้งหลายที่อยู่ตรงหน้า เขามองดูท้องฟ้าแล้วกล่าวเฉยเมยขึ้นมาว่า “ทั้งหมดให้กลับไปเถอะ ถูกต้อง ประตูมิติเป็นสมบัติสวรรค์นพเก้า แต่ว่า นับจากเวลานี้เป็นต้นไปทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้า หลักเกณฑ์เกี่ยวกับประตูมิติข้าเป็นผู้กำหนด รอให้ข้าตั้งกฎเกณฑ์จนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ใครมาได้ใครมาไม่ได้ถึงเวลานั้นทุกอย่างก็จะชัดเจนเอง”

หลังจากหลี่ชิเย่พูดขาดคำ บนท้องฟ้าที่เดิมเงียบสงบพลันมีร่างเงาปรากฏตัวแวบออกมากว่าสิบสาย พวกเขาขณะปรากฏตัวออกมานั้นดูจะทำตัวค่อมต่ำมาก แม้ว่าร่างเงาเหล่านี้จะแสดงตัวค่อมต่ำ แต่กลิ่นอายที่ออกมาจากตัวของพวกเขาทำให้ผู้คนต้องสั่นเทาในใจ แม้ว่าพวกเขาจะเก็บงำพลังลมปราณแล้วก็ตาม แต่ทว่า กลิ่นอายที่ลึกล้ำสุดจะหยั่งถึงได้ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องสะท้านภายในใจ พวกเขาต้องเป็นประเภทที่ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซี่งหน้าได้แน่นอน เป็นผู้ที่แก่จนสมควรจะตายได้แล้วที่แท้จริง

“คำบัญชาของใต้เท้า พวกเราย่อมต้องปฏิบัติตาม” พวกเขาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ เป็นระดับสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ที่ยังคงเหลืออยู่ไม่มากของเก้าแดน เป็นผู้ที่สามารถต่อกรซึ่งหน้าได้อย่างแท้จริง แต่ว่า เวลานี้พวกเขาไม่กล้าที่จะล่วงเกินหลี่ชิเย่แม้แต่น้อย ก้มกราบอยู่กับพื้นด้วยความเคารพยิ่งนัก

พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่รู้ถึงฐานะของหลี่ชิเย่ เมื่อหลี่ชิเย่ออกปากพวกเขาย่อมไม่กล้าปฏิเสธ หากแม้นพวกเขากล้าเป็นศัตรูกับผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะบงการเก้าแดนล่ะก็ เกรงว่าระดับสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ก็ต้องถูกบี้ตายเหมือนดั่งมดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น

ดังนั้น เมื่อหลี่ชิเย่สั่งการออกมาคำหนึ่ง พวกเขาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก หันหลังจากไปทันที ก่อนหน้านั้นจะมากหรือน้อยพวกเขาก็ต้องมีความอยากได้มากกับประตูมิติที่เป็นสมบัติสวรรค์นพเก้า แต่ว่า เมื่อหลี่ชิเย่ปรากฏตัวในเวลานี้ทุกอย่างเท่ากับจบแล้ว เป็นการบ่งบอกว่าประตูมิติเป็นสิ่งที่มีเจ้าของแล้ว

“ทั่วเทียน เจ้านำตัวผู้เยาว์ของเจ้ากลับไปด้วย” จังหวะที่ร่างเงากว่าสิบสายกำลังจากไปนั้น หลี่ชิเย่ได้สั่งการเฉยเมยขึ้นมา

ขาดคำหลี่ชิเย่ หนึ่งในร่างเงาได้หยุดลงและไปปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าหลี่ชิเย่ ก้มลงกราบและกล่าวว่า “ขอใต้เท้าโปรดลงโทษ เป็นผู้เยาว์ของข้าที่อบรมไม่เข้มงวด”

ผู้เฒ่าผู้นี้ผมเผ้าขาวโพลน ดูเหมือนเป็นผู้เฒ่าที่ไม้ใกล้ฝั่งแล้ว เขาเก็บงำพลังลมปราณของตน ดวงตาทั้งสองปราศจากประกาย แต่ว่าเขากลับดูเหมือนเป็นขุนเขาลูกหนึ่งที่ไม่มีผู้ใดสามารถสั่นคลอนได้

“ท่านบรรพบุรุษ” เมื่อบรรพบุรุษเทพนกเผิงแห่งเขาเทวะหลิงวู้มองเห็นหน้าผู้เฒ่าผู้นี้อย่างชัดเจนแล้ว ถึงกับร้องเสียงดังออกมาอย่างหวาดผวา เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง

ผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ก็คือเทพปีศาจทั่วเทียนที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งที่สุด และปราศจากผู้ต่อกรของเขาเทวะหลิงวู้ที่อยู่ในตำนาน เพียงแต่ว่า น่าเสียดายตรงที่เขาได้หายสาบสูญไปนานมากๆ แล้ว ตัวเขาเองก็ไม่เคยได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของบรรพบุรุษผู้นี้ เห็นเพียงภาพวาดของเขาเท่านั้นเอง

“เทพปีศาจทั่วเทียน” บรรดาบุคคลระดับบรรพบุรุษที่ก้าวเดินออกมาพร้อมกัน เมื่อได้ยินจากปากของบรรพบุรุษนกเผิงถึงกับใจหายใจคว่ำ รู้สึกหวาดผวาขึ้นภายในใจ

เทพปีศาจทั่วเทียนเคยมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ในขณะที่เขาอายุยังน้อยเคยปราบราชันเซียนเฮ่าไห่มาแล้ว แม้แต่ภายหลังราชันเซียนเฮ่าไห่ได้สืบทอดชะตาฟ้าแล้ว เล่าลือกันว่า เทพปีศาจทั่วเทียนเคยสู้กับราชันเซียนเฮ่าไห่ถึงสามวันสามคืน แม้ว่าศึกครั้งนี้เทพปีศาจทั่วเทียนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ความสามารถในการต่อสู้กับราชันเซียนซึ่งหน้าได้นั้นเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป

“ตบปากตัวเอง เพื่อรับผิดต่อใต้เท้า” เทพปีศาจทั่วเทียนสั่งการออกมาอย่างน่าเกรงขาม เขาไม่ได้กลับไปยังเขาเทวะหลิงวู่มายุคแล้วยุคเล่า เขาขี้คร้านจะไปสนใจถึงความเป็นความตายของชนรุ่นหลังไปแล้ว

“ท่านบรรพบุรุษ” เวลานี้บรรพบุรุษนกเผิงถึงกับยืนอยู่ตรงนั้นทำอะไรไม่ถูก

“ตบปาก” เทพปีศาจทั่วเทียนกล่าวน่าเกรงขามพร้อมกับหนึ่งฝ่ามือ “เพียะ”เข้าไปเต็มแรง ทำเอาบรรพบุรุษนกเผิงฟันร่วงเลือดกบปากบ้วนเป็นเลือดออกมา เทพปีศาจทั่วเทียนพลิกฝ่ามืออีกทีก็สยบจนบรรพบุรุษนกเผิงต้องคุกเข่าอยู่ตรงนั้น

“ศิษย์ผิดไปแล้ว” บรรพบุรุษนกเผิงตกตะลึงจนหน้าถอดสี ไม่กล้าเนรคุณ “เพียะ เพียะ เพียะ” สลับหน้ามือหลังมือตบปากตัวเองไปหลายสิบที ในเวลานี้ แม้แต่ระดับบรรพบุรุษที่ปราศจากผู้ต่อกรมากที่สุดของเขาเทวะหลิงวู้ยังคุกเข่าอยู่ตรงนั้นไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม รุ่นเยาว์อย่างเขายิ่งไม่กล้ากระทำการบุ่มบ่านอยู่แล้ว และเขารู้แล้วว่าตนเองนั้นไปล่วงเกินต่อคนที่เขาเทวะหลิงวู้ไม่อาจล่วงเกินได้เลย

“ช่างเถอะ ข้าก็ไม่อยากถือสาหาความอะไรนัก” หลี่ชิเย่มองดูบรรพบุรุษนกเผิงที่ตบหน้าตัวเองจนดังเพียะเพียะนั่น เพียงโบกมือเบาๆ และกล่าวเฉยเมยออกมา

“ยังไม่ขอบคุณใต้เท้าที่ละเว้นโทษตายให้!” เทพปีศาจทั่วเทียนตวาดใส่น่าเกรงขาม เรื่องนี้ทำให้เขาถึงกับโล่งอก คำพูดของหลี่ชิเย่พูดคำไหนคำนั้น เมื่อพูดออกมาเช่นนี้แสดงว่าได้ให้อภัยต่อเขาเทวะหลิงวู้แล้ว หาไม่แล้วหลี่ชิเย่ไม่จำเป็นต้องลงมือเอง ขอเพียงคำพูดของเขาเพียงคำเดียว ในเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนมากน้อยเท่าไรที่พร้อมทำลายล้างเขาเทวะหลิงวู้ให้กับเขา

“ขอบคุณใต้เท้า” เวลานี้บรรพบุรุษนกเผิงตื่นตระหนกจนวิญญาณแทบออกจากร่าง รีบโขกศีรษะกล่าวขึ้น แม้เขาจะไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่นั้นดำรงอยู่ในสถานะเช่นใด แต่ว่า แม้แต่บรรพบุรุษที่สามารถต่อสู้กับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ของพวกเขายังคงต้องคุกเข่าด้วยความเคารพอยู่ตรงนั้น เฉกเช่นระดับอย่างเขาเป็นไม่ได้กระทั่งมดปลวก!

“ไสหัวกลับไปแล้วกักตนสำนึกตนเองเสีย อย่าได้โผล่หน้าออกมาให้เป็นที่อับอายผู้คน!” เทพปีศาจทั่วเทียนสบัดแขนเสื้อทีหนึ่งก็จัดการส่งบรรพบุรุษนกเผิงลอยหายไปยังฟากฟ้าและหายลับตาไปในที่สุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล