“ถ้าจะพูดกันถึงสิ่งที่แตกต่างกันมากที่สุดใช่มั้ย” หลี่ชิเย่หัวเราะและชี้ไปที่บนท้องฟ้าว่า “จะให้พูดอย่างไรดีหละ ที่แตกต่างกันมากที่สุดก็คือพวกเขาอยู่ใกล้กับสวรรค์โจรมากกว่าพวกเราอีก กล่าวสำหรับพวกเราแล้ว สวรรค์โจรห่างจากพวกเราเหมือนโลกอีกโลกหนึ่ง พวกเจ้าว่าอย่างนั้นหรือไม่ ขณะที่กล่าวสำหรับแดนที่สิบแล้ว ไม่แน่นักสวรรค์โจรก็อยู่บนหัวของพวกเขาเลย”
ครั้นหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้วหัวเราะและกล่าวว่า “เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องดี และเรื่องไม่ดี”
“ทำไมถึงว่าเป็นเรื่องไม่ดี?” ผู้เฒ่าเซียนที่มีชาติกำเนิดจากวิหารเทพสงครามกล่าวว่า “ได้มีบันทึกกล่าวเอาไว้ว่า เผ่าเทพ เผ่าสวรรค์ของแดนที่สิบนั้น พวกเขาคือลูกรักของสวรรค์” จะอย่างไรเสียผู้เฒ่าเซียนก็คือบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดของวิหารเทพสงคราม เขาล่วงรู้คำเล่าลือที่ผู้อื่นไม่สามารถรู้ได้
“คำพูดนี้ถูกต้อง” หลี่ชิเย่พยักหน้าและยิ้มกล่าวว่า “เป็นความจริงที่พวกเขาคือลูกรักของสวรรค์ อย่างน้อยที่สุดพวกเขามองตัวเองเป็นอย่างนั้น พวกเขาคิดว่าตัวเองนั้นไม่ธรรมดามาโดยตลอด เนื่องจากพวกเขามองว่าสายเลือดที่ไหลรินอยู่ในกายสูงส่งยิ่งนัก เป็นความจริงที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่ามนุษย์ศิลา เผ่าวิญญาณเทพเมื่อเทียบกับพวกเขาในแดนที่สิบแล้ว ด้อยกว่าพวกเขาอยู่มาก…”
“…แต่ว่า อาศัยการบุกเบิกจากราชันเซียนแต่ละรุ่นของพวกเรา อาศัยความพยายามที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของปรัชญาเมธีพวกเรา ต่อให้เป็นที่ที่อยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุดก็มีอาณาจักรของพวกเราเองได้ และมีที่ที่ให้พวกเราได้ยืน แต่ว่า ถึงจะเป็นลูกรักของสวรรค์แล้วไง ต่อให้อยู่แดนที่สิบ ขอเพียงพวกเรามีความพยายามก็สามารถจัดการเหยียบพวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นลูกรักสวรรค์ให้แนบกับพื้น ใช้เท้าเหยียบใบหน้าที่งดงามของพวกเขา ให้พวกเขาได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของมดปลวกอย่างพวกเรา!” ครั้นหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้วได้ยิ้มอย่างตามอารมณ์ออกมา
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ได้ทำให้ดาวรุ่งอย่างราชันทักษิณถึงกับเลือดในกายเดือดพล่าน เขาเองรู้ว่าหลี่ชิเย่ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาราชันเซียนจะต้องเคยเหยียบดาวรุ่งของแดนที่สิบเอาไว้ใต้ฝ่าเท้าแน่นอน ขณะที่เขาเองก็มีปณิธานต้องการสร้างอาณาจักรขึ้นที่แดนที่สิบ คงมีสักวันที่เขาจะต้องเอาชนะดาวรุ่งของแดนที่สิบให้ได้เ!
“แล้วการอยู่ใกล้กับสวรรค์มีข้อเสียอย่างไรเล่า?” หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เทพมารวัวโลหิตอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้
“เจ้าคิดว่าสวรรค์มีตาจะเป็นอย่างไร?” หลี่ชิเย่ชี้ไปบนท้องฟ้าและยิ้มกล่าว
คำพูดเช่นนี้เของหลี่ชิเย่ทำให้พวกของราชันทักษิณถึงกับงงงัน โดยปรกติแล้วพวกเขาจะไม่พูดคำคำว่าสวรรค์มีตาออกมา มนุษย์ปุถุชนจำนวนมากเวลาไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกคนเขารังแกก็จะพูดคำๆ นี้ออกมา โดยฝากความหวังกับสวรรค์ว่าจะมีความยุติธรรมให้
“สวรรค์มีตาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับความยุติธรรมบนโลก” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าและยิ้มกล่าวว่า “ถ้าหากเจ้าอยู่ใกล้กับสวรรค์มันไม่ใช่เรื่องดีตรงที่หากเจ้ามีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไรก็จะใกล้กับสวรรค์มากขึ้นทุกที ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากเรื่องหนึ่ง เมื่อเจ้าก้าวล้ำจนใกล้เคียงกับพลังที่อยู่เหนือหมื่นแดนเมื่อไหร่ ก็จะมีอันตรายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออันตรายมากจนถึงระดับหนึ่งแล้วก็จะมีการลงทัณฑ์จากสวรรค์ลงมา ซึ่งพลังเช่นนี้หาใช่เจ้าจะสามารถแบกรับเอาไว้ได้”
“ราชันเซียน หรือบรรดาเหล่าเทพและราชันในแดนที่สิบ เมื่อมีความแข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้วก็จะนำมาซึ่งภัยถูกสวรรค์ลงทัณฑ์!” ราชันทักษิณเข้าใจได้ในทันที และกล่าวขึ้นมาด้วยความตระหนก
“ถูกต้อง” หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวว่า “ถ้าหากเจ้าไปต้านกับพลังเช่นนี้ เจ้าอาจจะต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไป เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะมีความแข็งแกร่งเพียงใดก็ตามล้วนแล้วแต่เสียแรงเปล่า ฝึกวิชามาชั่วชีวิตท้ายที่สุดก็เป็นแค่ตะกร้าตักน้ำที่ได้แต่ความว่างเปล่า”
“เช่นนั้นแล้วราชันเซียนเหล่าเทพและราชันทำอย่างไร?” เมื่อผู้เฒ่าเซียนได้ยินคำเช่นนี้จะเอ่ยถามขึ้นด้วยความตระหนก
“หลบซ่อนตัว หลีกเลี่ยงจากพลังเช่นนี้ ไม่ให้สวรรค์โจรพบว่าเจ้ามีพลังที่แข็งแกร่ง” หลี่ชิเย่หัวเราะ จากนั้นกล่าวกับราชันทักษิณว่า “ในอนาคต หรืออาจมีสักวันที่เจ้าจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าก็ต้องหลีกเลี่ยงจากพลังเช่นนี้ และเจ้าจะต้องหายไปจากโลก นี่คือทางเลือกอย่างหนึ่ง”
“นอกจากหลบซ่อนตัวแล้วไม่มีทางเลือกทางอื่นอีกรึ?” ราชันทักษิณอดที่จะเอ่ยถาม อย่างไรเสียเขาคือผู้ที่จะสำเร็จเป็นเซียนหวาง ดังนั้นเรื่องราวที่เกี่ยวกับด้านนี้เขาอยากจะถามให้ชัดเจน
“มี” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “สู้จนถึงที่สุด เส้นทางเส้นนี้มีผู้เลือกมากมาย และมีผู้คนมากมายที่เคยก้าวเดิน เพียงแต่สุดท้ายกลายเป็นโครงกระดูก ไม่ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใด ไม่ว่าจะยอดเยี่ยมเช่นใด สุดท้ายก็มีแต่ตายสถานเดียว อย่างน้อยที่สุดจนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครทำได้สำเร็จ”
คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้ราชันทักษิณต้องนิ่งเงียบขึ้นมา เรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้จนถึงที่สุดนั้น ราชันทักษิณเคยได้ยินมาบ้าง ใต้เท้าอีกาทมิฬที่อยู่ตรงหน้าคือผู้ที่เลือกที่จะต่อสู้จนถึงที่สุด
ทั้งเทพมารวัวโลหิต และผู้เฒ่าเซียนต่างนิ่งเงียบเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ความโหดร้ายทารุณของแดนที่สิบเกินกว่าที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้มากทีเดียว ต่อให้บุคคลผู้นั้นเป็นถึงราชันเซียน ต่อให้บุคคลผู้นั้นมีความแข็งแกร่งเช่นเหล่าเทพและราชันของแดนที่สิบก็ตาม จะต้องเลือกที่จะหายไปจากสังคม ช่างเป็นเรื่องที่โหดร้ายเหลือเกิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...