มือยักษ์ข้างนี้ปรากฏกฎเกณฑ์จอมราชันที่ทิ้งตัวลงมาเป็นสายๆ ตลบอบอวลด้วยความขมุกขมัว ภายใต้มือขนาดยักษ์ข้างนี้ เรือรบลำใหญ่กลับกลายเป็นเล็กจิ๋วอะไรปานนั้น เหมือนว่าชั่วพริบตาเดียวก็สามารถบีบเรือรบลำยักษ์จนแหลกละเอียดไป
แม้ว่าพวกของเหมยซู่เหยาจะได้เตรียมตัวเตรียมใจเผชิญหน้ากับบรรดาราชันและเหล่าเทพของแดนที่สิบมาแล้ว แต่ว่า เมื่อจอมราชันของแดนที่สิบลงมืออย่างกะทันหัน ภายในใจของพวกเหมยซู่เหยาอดที่จะไม่สู้ดีนัก จอมราชันย่อมเป็นจอมราชัน พลังที่พวกเขาสืบทอดมานั้นน่ากลัวอย่างแท้จริง
“ควรค่าแก่การต่อสู้สักครั้งหนึ่ง!” ราชันทักษิณถึงกับตื่นเต้นดีใจ นัยน์ตาทั้งสองพวยพุ่งเป็นประกายออกมา เมื่อเห็นมือขนาดยักษ์ข้างหนึ่งของจอมราชันที่ยื่นคว้าเข้ามา
ราชันทักษิณยังไม่ทันได้ลงมือ นัยน์ตาของหม่ากูได้กลับกลายเป็นเจิดจรัสยิ่งนัก ทันใดนั้น ได้ยินเสียง “แว้งค์” ดังขึ้น ปรากฏประกายพวยพุ่งออกมาจากนัยน์ตาของหม่ากูอย่างไม่ขาดสาย ประกายดังกล่าวนี้ดูพร่างพราว และเจิดจรัสยิ่งนัก ยามที่ประกายดังกล่าวพวยพุ่งออกมาไม่ขาดสายนั้น มันคล้ายดั่งเป็นสายน้ำแห่งกาลเวลาสายหนึ่งที่ปรากฎออกมากั้นขวางอยู่ด้านหน้าของเรือรบขนาดยักษ์ โดยสายน้ำแห่งกาลเวลาสายนี้ได้กั้นขวางระหว่างเรือรบขนาดยักษ์กับมือยักษ์ของจอมราชันเอาไว้
เสียง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ดังขึ้น เมื่อมือขนาดยักษ์ของจอมราชันยื่นคว้าเข้าไปในสายน้ำแห่งกาลเวลา มันถูกกาลเวลาที่ไหลผ่านไปทำให้แห้งเหี่ยวลง มือขนาดยักษ์ข้างนั้นแก่ชราลงอย่างรวดเร็ว และเหี่ยวแห้งอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาอันสั้นก็กลับกลายเป็นหนังหุ้มกระดูกคล้ายขาไก่อย่างนั้น
แต่ทว่า จอมราชันย่อมเป็นจอมราชัน อย่างไรเสียเขาก็ได้สืบทอดชะตาฟ้ามา ได้ยินเสียงดัง “ปัง” มือที่แห้งเหี่ยวจนดูคล้ายกับขาไก่สั่นสะเทือนทีหนึ่ง พลังชะตาฟ้าได้ไหลบ่าเข้ามาดั่งกระแสน้ำ มือยักษ์ข้างนั้นที่เดิมแห้งเหี่ยวดั่งขาไก่พลันฟื้นคืนลมปราณเหมือนเดิม กลายเป็นมีเลือดมีเนื้อดังเดิมทันที อาศัยพลังจากชะตาฟ้า มือยักษ์ของจอมราชันยังคงก้าวข้ามสายน้ำแห่งกาลเวลาเข้าไปคว้าเรือรบขนาดยักษ์นั่น
“จอมราชันองค์ไหน แจ้งชื่อฉายามา อย่างได้รังแกผู้เยาว์” ขณะที่หม่ากูยังไม่ทันได้ลงมือเป็นครั้งที่สอง หวงหลงกล่าวหัวเราะเสียงดังพร้อมกับยื่นกรงเล็บมังกรออกไป “ปัง” รับมือกับมือขนาดยักษ์ที่ยื่นเข้ามา
หวงหลงและป้าหู่ยังคงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในการรับการลงมือจากจอมราชันทั้งสอง กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว จอมราชันที่มีชะตาฟ้าเพียงห้าหรือหกสายยากที่จะสร้างความกดดันให้กับพวกเขา เว้นแต่จะมีจอมราชันระดับชะตาฟ้าเก้าสายลงมือเอง
แน่นอนที่สุด หากเป็นจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายลงมือนับว่าน่ากลัวยิ่งเหลือเกิน เกรงว่าพวกเขาสองคนร่วมมือกันก็ไม่สามารถต้านรับเอาไว้ได้
“กายอายุวัฒนะขั้นสมบูรณ์ ช่างน่ากลัวเหลือเกิน” แม้ว่าหม่ากูไม่ได้ลงมืออีกเป็นครั้งที่สอง แต่ก็ได้ทำให้พวกราชันทักษิณมองดูหม่ากูด้วยความหวาดกลัว
แม้ว่าหม่ากูไม่สามารถกลายเป็นราชันเซียนได้ ทั้งยังน้อยครั้งมากที่ลงมือ แต่ว่า ยามที่นางชำเลืองมานั้น ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกหวาดกลัว
กายอายุวัฒนะของหม่ากูมีพลังของกาลเวลาอยู่ในครอบครอง ตลอดเวลาที่ผ่านมา พลังของกาลเวลาคือสิ่งที่ผู้บำเพ็ญตนหวั่นเกรงมากที่สุด ยามที่กาลเวลาไหลเคลื่อนคล้อยไป ไม่ว่าผู้นั้นจะดำรงอยู่ในฐานะเช่นใด ยังคงไม่สามารถต้านทานอานุภาพของกาลเวลาเอาไว้ได้!
“กายอายุวัฒนะขั้นสมบูรณ์หนึ่งเดียวตลอดกาล สุดยอดหนึ่งไม่มีสอง” แม้แต่บุคคลระดับผู้เฒ่าเซียนยังคงรู้สึกประทับใจยิ่ง พึมพำออกมา
ในขณะที่หวงหลงได้รับมือการโจมตีจากจอมราชันอีกผู้หนึ่งนั้น บนท้องฟ้าปรากฏเสียงที่เข้มและทรงอานุภาพยิ่ง เสียงนี้ได้กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ไม่ทราบว่าเป็นสหายท่านใดกำลังกลั่นแกล้งผู้เยาว์จากเก้าแดนของข้า! หากสหายต้องการต่อสู้ ราชันเซียนอย่างข้าขอน้อมรับ!”
ขณะเสียงที่เข้มและทรงอานุภาพดังขึ้นมานั้น อานุภาพราชันเซียนพลันอาละวาดไปทั่วฟ้าดิน!
“ราชันเซียนเก้าแดนของพวกเจ้ามาแล้ว” หวงหลงหัวเราะกล่าวกับผู้เยาว์ที่อยู่บนเรือรบขนาดยักษ์ว่า “ราชันเซียนพวกเจ้ามาช่วยได้ทันเวลาพอดี เห็นทีคงไม่ได้สู้กันแล้วหละ”
“เฮ่อ ราชันเซียนไร้สาระอะไรนั่น พวกเรายังไม่ทันหายอยากเลย จะรีบมาทำไมก็ไม่รู้” เป็นที่ชัดเจนว่าป้าหู่ดูจะไม่พอใจอย่างยิ่งกับการมาช่วยเหลือกะทันหันของราชันเซียน เขาเพิ่งจะปะมือกับจอมราชันที่อยู่บนท้องฟ้าเอง แต่กลับจะต้องสิ้นสุดลงแล้ว ทำให้เขาไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
ป้าหู่ไม่ได้ลงมือกับผู้ใดมานานแล้ว ก่อนหน้านั้นเขาถูกสยบเอาไว้ใต้เขาสยบมังกร ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้ลงมือ ในที่สุดเวลานี้สามารถต่อสู้กับจอมราชันของแดนสิบสักครั้ง แต่แล้ว เมื่อราชันเซียนของเก้าแดนมาถึง เกรงว่าคงไม่สามารถทำได้อีกแล้ว
“เว้นแต่จะมีจอมราชันองค์ที่สามลงมือ” หวงหลงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าส่ายหน้าและกล่าวว่า “ต่อให้จอมราชันองค์ที่สามลงมือก็ไม่มีประโยชน์ อาศัยคำพูดของเจ้าอีกาบ้าที่บอกว่า ครั้งนั้น พวกเขามีข้อตกลงเอาไว้ ต่อให้มีจอมราชันองค์ที่สามลงมือ แต่ก็เป็นไปไม่ได้จะมีถึงสี่ การต่อสู้ลักษณะเช่นนี้จืดชืดเหลือเกิน”
เวลานี้ พวกของราชันทักษิณ ผู้เฒ่าเซียนต่างมองขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเขาอยากรู้นักว่าเป็นราชันเซียนองค์ไหนของเก้าแดนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
“ตูม” เสียงดังสนั่น หลังจากที่แดนอสูรปีอานได้แล่นเข้าไปยังเขตผ่อนปรนแล้ว พลันด้านบนดำมืดขึ้นมา เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่โตมาบดบังเอาไว้
มนุษย์ศิลาของแดนอสูรปีอานพลันมีทีท่าหนักแน่นจริงจังขึ้นมาทันทีเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว พวกเขาพอจะคาดเดาอะไรได้บางอย่างเมื่อเห็นเงาดำนี้แล้ว
“โฮ่ววว” ทันใดนั่นเอง บนท้องฟ้าปรากฎเสียงคำรามของสัตว์ดังขึ้น เสมือนเป็นสัตว์ในยุคดึกดำบรรพ์กำลังร้องคำรามออกมา นาทีนี้บนท้องฟ้าเหมือนมีสัตว์ขนาดยักษ์ในยุคดึกดำบรรพ์รอแดนอสูรปีอานอยู่อย่างนั้น
“คู่ปรับเก่ากำลังจะมาแล้ว” หัวหน้าองครักษ์พิทักษ์เมืองรับรู้ถึงกลิ่นอายของสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ บ่นพึมพำขึ้นมา
“อิ๊ววว” ในขณะนี้ ภายในแดนอสูรปีอานปรากฎเสียงร้องคำรามที่ใสและดังของสัตว์ขึ้นมาเช่นกัน จากนั้น ปีอานที่ใหญ่โตมโหฬารได้วิ่งออกมา หลังจากที่ออกมาแล้ว ก้าวเท้าเหยียบฟ้าดินจนแหลกลาญ อ้าปากกลืนกินสุริยันจันทรา!
“โฮ่ววว” จังหวะที่ปีอานขนาดยักษ์บุกขึ้นไปบนท้องฟ้านั้น บนท้องฟ้าก็ปรากฏเสียงดัง “ปัง” เห็นกรงเล็บขนาดยักษ์ที่ตบสวนลงมา…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...