ตอนที่ 1731 หนึ่งหมัดสังหารราชันสวรรค์ – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
ตอนนี้ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1731 หนึ่งหมัดสังหารราชันสวรรค์ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
จอมราชันย่อมเป็นจอมราชัน มีท่วงทีที่มีความสง่างามซึ่งยอดเยี่ยมมาก ไม่หยิ่งยโสและไม่ทำให้ตนเองดูต้อยต่ำ ต่อให้เขาต้องการลงมือสังหารหลี่ชิเย่เสีย แต่ถ้อยคำวาจายังคงความเป็นมิตรภาพที่ดีเยี่ยม ยังคงมีบุคลิกที่สุดยอด ยังคงเรียกหลี่ชิเย่ว่า “ใต้เท้าอีกาทมิฬ”
“ต่อสู้อย่างดุเดือด? เกรงว่าอาศัยเพียงเจ้ายังไม่ไหว ชะตาฟ้าหกสายยังไม่เพียงพอสำหรับข้า ถ้าหากพวกเจ้ามีราชันเซียนที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายมาด้วยตนเองยังน่าดูชมหน่อย” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าและยิ้มกล่าว
“ข้ารู้ว่าใต้เท้าอีกาทมิฬนั้นสุดยอดเป็นหนึ่งไม่มีสองในหล้า การที่ใต้เท้ากล้าที่จะปรากฎตัวออกมาด้วยร่างจริงในชาตินี้ ย่อมต้องมีวิธีการทีฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งอยู่แล้ว” ราชันสวรรค์ต้าวหลงกล่าวด้วยท่าทีที่จริงใจยิ่งว่า “แต่ข้ายังคงอยากทดสอบดูสักครั้ง หากไม่ลองดูแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่ไหวเล่า อีกอย่าง สามารถต่อสู้กับความมหัศจรรย์เช่นใต้เท้าอีกาทมิฬแล้ว ไม่ว่าผลออกมาจะแพ้หรือชนะก็ถือเป็นการขัดเกลาอย่างหนึ่ง”
“เยี่ยม” หลี่ชิเย่ใช้ฝ่ามือสัมผัสกันและหัวเราะกล่าวว่า “อาศัยบุคลิกลักษณะเช่นนี้ จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรเช่นนี้ของเจ้า คิดจะไม่เป็นจอมราชันก็คงยาก เอาเถอะ งั้นข้าก็จะสงเคราะห์เจ้า” ขาดคำ ได้ยินเสียง “แว้งค์” ดังขึ้น กายเซียนทั้งสี่พลันเจิดจ้ายิ่งนัก
ชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง สี่ยอดกายเซียนพลันปะทุขึ้นมา อานุภาพกายเซียนที่น่ากลัวสยบเหล่าสวรรค์ สยบหมื่นอาณาจักร หลี่ชิเย่ในเวลานี้แม้ปราศจากพลังจากชะตาฟ้า แต่ว่า อานุภาพของสี่ยอดกายเซียนแม้แต่ราชันเซียนเองยังคงต้องหวั่นเกรง
ด้วยชะตาฟ้าหกสาย สืบทอดชะตาฟ้าเป็นครั้งที่สอง ผลงานเช่นนี้สำหรับราชันสวรรค์ต้าวหลงนับว่าเป็นจอมราชันผู้โดดเด่นในบรรดาจอมราชันนับแต่อดีตถึงปัจจุบันแล้ว แต่ว่าเวลานี้ เมื่อได้เห็นพลังสี่ยอดกายเซียนที่ปะทุออกมาของหลี่ชิเย่แล้ว ทำให้เขาถึงกับมีท่าทีที่หนักแน่นจริงจังขึ้นมา
“ตูม” เสียงดังสนั่น ชะตาฟ้าทั้งหกของราชันสวรรค์ต้าวหลงปรากฏขึ้นมา เพียงชั่วพริบตาชะตาฟ้าทั้งหกได้ลอยอยู่เหนือลัคนาของเขาแล้ว ขณะที่ลัคนาทั้งเก้าของเขาหมุนวนไม่หยุด ทุกๆ ลัคนาทำหน้าที่หล่อเลี้ยงชะตาฟ้าหนึ่งสาย ส่วนลัคนาอีกสามที่ว่างอยู่ก็ตลบอบอวลไปด้วยความขมุกขมัว พร้อมที่จะหล่อเลี้ยงชะตาฟ้าได้ทุกเมื่อ
ในเวลานี้เอง ราชันสวรรค์ต้าวหลงมีลักษณะที่สูงตระหง่าน เสมือนดั่งก้าวออกมาจากยุคดึกดำบรรพ์ ควบคุมสุริยันจันทราและดวงดารา ควบคุมฟ้าดินแลสรรพวิชา ชะตาฟ้าทั้งหกสายดั่งหกภพภูมิที่เวียนว่ายวัฏสงสารไม่สิ้นสุด
ในเวลานี้ ราชันสวรรค์ต้าวหลงได้ปลดปล่อยอานุภาพราชันที่สามารถสยบหมื่นอาณาจักรออกมา เขาคือจอมราชันสูงสุดที่รับการกราบไหว้บูชาจากสรรพชีวิตจากหมื่นอาณาจักร สรรพชีวิตของสิบสามทวีปล้วนแล้วแต่ต้องคุกเข่าอยู่แทบเท้าของเขา หมอบคลานอยู่กับพื้น!
“อยากดูว่าสัจธรรมของเจ้ายอดเยี่ยมประการใด!” จังหวะที่ราชันสวรรค์ต้าวหลงได้ปะทุชะตาฟ้าทั้งหกของเขาออกมา หลี่ชิเย่พลันปรากฎอยู่ตรงหน้าของเขาและโจมตีเข้าใส่ทันที
หลี่ชิเย่เพียงออกหมัดไปตามอารมณ์เท่านั้น แต่ ภายใต้สี่ยอดกายเซียน แม้ว่าจะเป็นเพียงการออกหมัดไปตามอารมณ์เท่านั้นก็น่ากลัวยิ่งนัก หนึ่งหมัดทลายหกภพภูมิ ทำลายหยิงและหยาง
“เปิด” สีหน้าของราชันสวรรค์ต้าวหลงต้องแปรเปลี่ยนไป เมื่อต้องเผชิญกับหมัดที่สำแดงออกมาตามอารมณ์เช่นนี้ แต่เขายังคงไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์ คำรามเสียงยาวออกมา ฝ่ามือทั้งสองข้างที่ยื่นออกไป กลายเป็นประตูที่กั้นขวางฟ้าดิน บนบานประตูได้สลักมังกรแท้จริง และยันต์โบราณเอาไว้
เสมือนหนึ่งเป็นประตูบานหนึ่งที่เชื่อมต่อไปยังดินแดนที่ดึกดำบรรพ์ เหมือนว่าเป็นประตูที่สามารถเปิดสู่โลกของเผ่ามังกรบานหนึ่ง!
ประตูบานนี้เก่าแก่ดึกดำบรรพ์มาก ยามที่มันปิดลงสามารถปิดกั้นหกภพภูมิ สามารถปิดกั้นหมื่นอาณาจักรของโลกมนุษย์ปุถุชน ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกปิดกั้นให้อยู่นอกประตู
“ปัง” เสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวนี้สามารถทำให้ตรีสหัสโลกธาตุต้องสะเทือนหวั่นไหว สามารถสั่นสะเทือนจนทำให้ดวงดาวร่วงหล่นลงมา หรือพุ่งชนกันเอง ด้วยอานุภาพเช่นนี้เพียงพอที่จะทำลายโลกๆ หนึ่งได้ น่ากลัวยิ่งนัก ภายใต้พลังเช่นนี้แม้แต่ระดับสามารถต่อกรราชันเซียนซึ่งหน้าได้ก็สุดที่จะทนได้!
“ตึง ตึง ตึง…” แม้ราชันสวรรค์ต้าวหลงจะอาศัยประตูปิดกั้นฟ้าดิน แต่ยังคงถูกหมัดเดียวของหลี่ชิเย่ทำเอาถอยหลังติดต่อกันกว่าสิบก้าวจึงสามารถหยุดเอาไว้ได้ ลมปราณปั่นป่วน
หลังจากที่ราชันสวรรค์ต้าวหลงหยุดอยู่กับที่ได้แล้ว สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ทีหนึ่ง สยบลมปราณที่พลุ่งพล่านเอาไว้ ท่าทีของเขาหนักแน่นจริงจัง นับแต่เขาได้กลายเป็นจอมราชันแล้ว ยังไม่เคยได้พบเจอศัตรูที่กล้าแข็งขนาดนี้มาก่อน
“ใต้เท้าอีกาทมิฬปราศจากผู้ต่อกรโดยแท้จริง ลำพังกำลังของข้าคนเดียวยังห่างชั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของใต้เท้า” ราชันสวรรค์ต้าวหลงก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว หนึ่งก้าวของเขาก็คือฟ้าดินแห่งหนึ่ง ฉับพลันได้พาตัวเองออกห่างไปไกลมาก ประจันหน้ากับหลี่ชิเย่ในระยะห่างไกล
แม้ว่าราชันสวรรค์ต้าวหลงได้เป็นถึงจอมราชันแล้ว แม้ว่าเขาได้สืบทอดชะตาฟ้ามาถึงหกสายแล้ว แต่ว่า ยังคงไม่หยิ่งผยองไม่หุนหันพลันแล่น ยังคงยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่อย่างไม่สะทกสะท้านจริงใจ
แน่นอน กล่าวสำหรับราชันสวรรค์ต้าวหลงแล้ว การพ่ายแพ้ให้กับหลี่ชิเย่หาใช่เป็นเรื่องน่าอับอาย เนื่องจากผู้ดำรงอยู่ในฐานะอีกาทมิฬได้สร้างปาฏิหาริย์เอาไว้มากมายเหลือเกิน
หลังจากที่ราชันสวรรค์ต้าวหลงถอยหลังไปหนึ่งก้าว บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาพลันปรากฎเป็นร่างเงาขึ้นมาทีละร่างๆ ทำการเฝ้าท้องฟ้าเอาไว้ ปิดกั้นเอาไว้ทุกจุด ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถผ่านมิติเล็ดรอดไปจากที่ตรงนี้ได้
ที่น่ากลัวมากไปกว่านั้นก็คือ ยามที่ร่างเงาแต่ละร่างที่ปรากฏขึ้นมา อานุภาพราชันได้อาละวาดปกคลุมท้องฟ้าเอาไว้จนหมดสิ้น เหมือนอานุภาพราชันที่เป็นความจริงสยบกดทับยอดฝีมือเอาไว้ทุกคนไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม
อย่าว่าแต่ระดับจักรพรรดิเทพเลย ต่อให้เป็นระดับต้านรับกับราชันเซียนได้ เมื่อต้องเผชิญกับอานุภาพราชันเซียนที่เหมือนจริงเช่นนี้แล้ว เกรงว่าคงรับเอาไว้ไม่ได้ ต้องคุกเข่าลงกับพื้น!
ชะตาฟ้าหกสายคือหนึ่งวิบากเต๋า เมื่อไหร่ที่เกินหกชะตาฟ้าแล้วหากยังคงปรากฎตัวอยู่ในโลกต่อไป จะต้องนำมาซึ่งภัยถูกลงทัณฑ์จากสวรรค์ได้! หลี่ชิเย่มองดูร่างเงาที่สูงใหญ่ทั้งแปดแล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “นี่เป็นการบ่งชี้ว่าจอมราชันทั้งแปดครอบครองชะตาฟ้าเกินกว่าหกสายแล้วหละ ข้ากลับต้องการรู้ว่าในจำนวนแปดคนนี้มีอยู่กี่คนที่เป็นสหายเก่า”
ร่างเงาสูงใหญ่ทั้งแปดไม่มีใครเอ่ยปากสักคน เนื่องจากพวกเขารู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของอีกาทมิฬ! ในจำนวนนั้นมีคู่ปรับเก่า และศัตรูเก่าของอีกาทมิฬรวมอยู่ในนั้นอยู่แล้ว!
ในแดนที่สิบ หากจอมราชันและเซียนหวางได้สืบทอดชะตาฟ้าแล้ว ล้วนแล้วแต่มีโอกาสนำมาซึ่งสวรรค์ลงทัณฑ์ ก่อนสืบทอดชะตาฟ้าได้หกสาย โอกาสที่จะถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ค่อนข้างต่ำ อีกทั้งหากครอบครองชะตาฟ้าน้อย โอกาสที่จะถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ก็จะยิ่งต่ำ
แต่ทว่า เมื่อไรที่ครอบครองชะตาฟ้าเกินกว่าหกสายแล้ว จะต้องนำมาซึ่งสวรรค์ลงทัณฑ์อย่างแน่นอน เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ดังนั้น หลังจากที่จอมราชันและเซียนหวางของแดนที่สิบเมื่อได้ครอบครองชะตาฟ้าหกสายแล้ว ก็ต้องปลีกตัวออกจากสังคมไม่กล้าปรากฎตัวออกมาง่ายดาย พวกเขาจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการลงทัณฑ์จากสวรรค์
ความจริงแล้ว แม้แต่จอมราชันและเซียนหวางที่สืบทอดชะตาฟ้าไม่เกินหกสาย หลังจากยุคสมัยของพวกเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว พวกเขาก็จะปลีกตัวไม่ปรากฏตัวออกมาอีกเลย เนื่องจากผู้เขาก็มีโอกาสถูกสวรรค์ลงทัณฑ์เช่นกัน
เมื่อไรที่สวรรค์ลงทัณฑ์ลงมาแล้ว ไม่ว่าใครก็หนีไม่พ้น ยากจะหลีกหนีจากความตายไปได้ ล้วนแล้วแต่ต้องตายอนาถภายใต้การลงทัณฑ์จากสวรรค์ นับแต่อดีตเป็นต้นมายังไม่เคยได้ยินว่ามีใครสามารถต้านทานกับสวรรค์ลงทัณฑ์ได้ ต่อให้จอมราชันและเซียนหวางที่มีสิบสองชะตาฟ้าในครอบครองก็ไม่รอด!
ในครั้งนั้น เหยียนตี้ได้ครอบครองชะตาฟ้าสิบสองสาย แต่เขายังคงไม่สามารถต้านกับสวรรค์ลงทัณฑ์ได้ ภายใต้สวรรค์ลงทัณฑ์เขาต้องกลายเป็นเถ้าธุลีได้ ต่อให้มีสิบสองชะตาฟ้าก็เปล่าประโยชน์
เฉกเช่นราชันเซียนว่านกุ ผู้บุกเบิกเคล็ดวิชาที่สามารถฝึกให้ชะตาฟ้าของแดนที่สิบสามารถเข้ากันได้ หลังจากที่เขาได้สืบทอดชะตาฟ้าสายที่แปดจากแดนที่สิบแล้ว ท้ายที่สุดเขาก็ไม่สามารถต้านกับสวรรค์ลงทัณฑ์ได้ เขาผู้ซึ่งได้ครอบครองชะตาฟ้าเก้าแดนและชะตาฟ้าจากแดนที่สิบอีกแปดสาย ต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไปภายใต้สวรรค์ลงทัณฑ์เช่นกัน
เนื่องจากบทเรียนที่สุดแสนเจ็บปวดและตัวอย่างที่ได้เห็นก่อนหน้า จอมราชันและเซียนหวางในยุคหลัง และราชันเซียนของเก้าแดน ภายหลังสิ้นสุดยุคสมัยของตนแล้วต่างทยอยกันปลีกตัวออกจากสังคมไม่ยอมปรากฏตัวง่ายดาย เพื่อหลบเลี่ยงจากการถูกสวรรค์ลงทัณฑ์
“จอมราชันสี่องค์ที่สืบทอดชะตาฟ้าหกสายมาด้วยตนเอง ส่วนจอมราชันแปดองค์ที่สืบทอดชะตาฟ้าเกินกว่าหกสายอาศัยร่างตัวแทนมา ที่ตรงนี้รวมแล้วก็ต้องมีชะตาฟ้าถึงสี่สิบสาย ตัวเลขเช่นนี้ถือว่าเท่ากับหนึ่งโลกธาตุใหญ่แล้ว ในยุคหนึ่งๆ ของแดนที่สิบมีจอมราชันและเซียนหวางที่สามารถสืบทอดชะตาฟ้าได้ถึงสี่สิบสายก็พบเห็นได้ไม่บ่อยนักนะเนี่ย” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้พูดขึ้นมาพร้อมกับจ้องมองบรรดาราชันและเหล่าเทพ
แม้จะกล่าวว่าในหนึ่งยุคสมัยของแดนที่สิบจะมีชะตาฟ้าอยู่ถึงเจ็ดสิบสองสาย แต่ใช่ว่าชะตาฟ้าทั้งเจ็ดสิบสองสายนี้ล้วนแล้วแต่ถูกจอมราชันและเซียนหวางสืบทอดไปจนสิ้น ทุกยุคทุกสมัยก็จะมีชะตาฟ้าคงเหลืออยู่ โดยชะตาฟ้าที่ยังคงเหลืออยู่เหล่านั้นจะถูกส่งคืนกลับไปให้ฟ้าดิน เพื่อให้ฟ้าดินยังคงมีพลังของโลกดึกดำบรรพ์ก่อนที่จะแยกเป็นฟ้าและดินออกเป็นสองส่วนอย่างเต็มเปี่ยมเหมือนเดิม ให้ผู้บำเพ็ญตนในหล้าสามารถบำเพ็ญเพียรกันต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...