ต่อให้คนผู้นั้นไม่ใช่ผู้ชำนาญการศิลาก็ดูออกว่าหลี่ชิเย่เป็นผู้ชำนาญการศิลาที่ยอดเยี่ยมมาก อาศัยฝีมือในการผ่าเช่นนี้ก็สามารถเอาชนะผู้ที่อยู่ในรุ่นเดียวกันได้แล้ว
แม้แต่ผู้ชำนาญการศิลาของร้านศิลา และดาวรุ่งผู้ชำนาญการศิลาหลี่ล่างซวนที่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อได้เห็นกระบวนท่าที่ชำนาญเช่นนั้นแล้ว พวกเขาล้วนแล้วแต่มีสีหน้าที่เคร่งเครียด เข้าใจได้ทันทีว่าได้เจอะเจอยอดฝีมือที่อยู่ในอาชีพเดียวกันเข้าให้แล้ว
การแสดงฝีมือของหลี่ชิเย่ได้ทำให้รัชทายาทเทียนหวงดูไม่จืดถึงขีดสุด แรกทีเดียวเขายังเข้าใจว่าหลี่ชิเย่เป็นเพียงผู้ชำนาญการศิลาชั้นต่ำเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าจะเป็นผู้ชำนาญการศิลาที่มีฝีมือสูงส่งถึงเพียงนี้
ผู้ชำนาญการศิลามนุษย์ปุถุชนธรรมดานะเนี่ย ในอดีตยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน” บรรดายอดฝีมือและผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองดูกระบวนท่าที่ยอดเยี่ยมมากของหลี่ชิเย่จนต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง
กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ในอดีตไม่เคยเห็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเป็นผู้ชำนาญการศิลามาก่อน เนื่องจากการที่จะได้เป็นผู้ชำนาญการศิลาคนหนึ่งใช่เป็นเรื่องง่ายดาย โดยปรกติแล้ว การที่จะได้เป็นผู้ชำนาญการศิลาต้องเริ่มต้นจากการเป็นยอดฝีมือที่มีความรู้อย่างลึกซึ้งในด้านของวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อน และตัวอ่อน แล้วจึงผันตัวเองเป็นผู้ชำนาญการศิลาอีกที
จากมนุษย์ปุถุชนธรรมดาแล้วกลับกลายเป็นผู้ชำนาญการศิลาเลย พวกเขายังไม่เคยพบเห็นกรณีเช่นนี้มาก่อน ความจริงแล้ว ไม่เพียงแต่ยอดฝีมือและผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกตระหนก แม้แต่ผู้ชำนาญการศิลาที่อยู่ในเหตุการณ์ก็รู้สึกตระหนกเช่นกัน การที่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งสามารถก้าวมาถึงระดับนี้ นับเป็นผู้ชำนาญการศิลาที่ยอดเยี่ยมมากโดยแท้จริง
แม้แต่หลี่ล่างซวนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งผู้ชำนาญการศิลาเมื่อได้เห็นกระบวนท่าในการผ่าศิลาของหลี่ชิเย่แล้ว ท่าทีของเขาก็ดูเคร่งเครียดยิ่งนัก และรู้สึกได้ว่าหลี่ชิเย่ที่เป็นผู้ชำนาญการศิลามนุษย์ปุถุชนธรรมดามีฝีมือที่น่ากลัวมาก
ครั้นหลี่ชิเย่ได้เฉือนจนเหลือชั้นบางๆ ชั้นหนึ่งแล้วนั้น ทุกคนถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้
ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้ดีว่า การที่ตระกูลราชันฉีหลินกล้าเปิดเป็นร้านศิลาที่นี่ย่อมต้องมีฝีมือที่เด็ดขาดอย่างแน่นอน มิฉะนั้น คงขาดทุนป่นปี้สิ้นเนื้อประดาตัวไปนานแล้ว ผู้ชำนาญการศิลาของตระกูลราชันฉีหลินคือผู้ที่มีความยอดเยี่ยมมากที่สุดของชิงโจวเลยทีเดียว
เมื่อถูกผู้ชำนาญการศิลาของร้านศิลาตัดสินลงความเห็นว่าวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้คือชั้นขาวบริสุทธิ์แล้ว โดยทั่วไปเมื่อผ่าออกมาก็ต้องได้ตัวอ่อนที่อยู่ในระดับชั้นขาวบริสุทธิ์เท่านั้น มีเพียงส่วนน้อยที่ผู้ชำนาญการศิลาจะมองพลาดไป แน่นอน อัตราส่วนตรงนี้น้อยมากจนสามารถมองข้ามไปได้เลย
“แว้งค์” เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง หลี่ชิเย่ได้ทำการเฉือนปอกวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนออกไปได้ทั้งหมด ได้ตัวอ่อนที่สมบูรณ์แบบออกมาได้แล้ว เป็นการทดสอบความสามารถของผู้ชำนาญการศิลายิ่งในบรรดาขั้นตอนการผ่าทั้งหมด เพราะถ้าหากไม่ทันระวัง อาจสร้างความเสียหายให้กับตัวอ่อนได้
“ออกมาแล้ว” บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างทยอยกันเบิกตาโตมองดูตัวอ่อนที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่ หลังจากที่ถูกผ่าออกเรียบร้อยแล้ว
เห็นเพียงมีดสั้นเล่มหนึ่งอยู่ในมือของหลี่ชิเย่
มีดสั้นเล่มนี้ปรกอบขึ้นจากการถักทอเข้าด้วยกันของหลักกฎเกณฑ์แต่ละสาย โดยที่กฎเกณฑ์ขนาดเล็กแต่ละสายตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายขมุกขมัว เสมือนว่าตัวมันเองสามารถให้กำเนิดให้กำเนิดพลังของโลกยุคดึกดำบรรพ์เองได้อยู่แล้ว
ท่ามกลางตัวอ่อนที่เกิดจากการถักทอของกฎเกณฑ์แต่ละสายปรากฎเป็นเส้นใยสีทองที่ม้วนตัวขึ้นมา เหมือนว่าเส้นใยสีทองแต่ละสายที่ม้วนตัวขึ้นมานั้นวิวัฒนาการขึ้นมาอย่างช้าๆ จากกฎเกณฑ์แต่ละสายนั่น ด้วยเหตุที่ภายในกฎเกณฑ์แต่ละสายมีเส้นใยสีทองอยู่ จึงทำให้ตัวอ่อนนั้นเปล่งประกายสีทองจางๆ ออกมา
“นี่คือตัวอ่อนดาบ ทั้งยังเป็นชั้นคุณภาพเลี่ยมทองอีกด้วย!” มียอดฝีมือ และผู้บำเพ็ญตนที่มองเห็นตัวอ่อนนี้แล้ว ร้องเสียงดังออกมา
ชั้นคุณภาพของตัวอ่อน เรียงจากต่ำไปหาสูงแบ่งออกได้ดังนี้ ขาวบริสุทธิ์ ศาตราอินทนิล เลี่ยมทอง แสดสามัญ และสวรรค์ตราตั้ง
เวลานี้ หลี่ชิเย่สามารถผ่าวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่ถูกผู้ชำนาญการศิลาลงความเห็นว่าเป็นขาวบริสุทธิ์ ปรากฏผ่าออกมาเป็นตัวอ่อนชั้นคุณภาพเลี่ยมทอง นับเป็นเรื่องที่สร้างความตระหนกกับผู้คนเป็นจำนวนมาก
ผู้ชำนาญการศิลาที่สามารถประจำการอยู่ ณ ที่ตรงนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นปรมาจารย์ของผู้ชำนาญการศิลา เวลานี้ ผู้ชำนาญการศิลาของร้านศิลาก็มีโอกาสพลาดได้เหมือนกัน แล้วจะไม่ให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องตื่นตระหนกได้อย่างไร
แม้แต่ผู้ชำนาญการศิลาที่ประจำอยู่ร้านศิลาเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว ต่างรู้สึกตระหนกยิ่งนัก น้อยครั้งนักที่พวกเขาจะมองพลาด ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะพลาดจนได้
วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่เป็นขาวบริสุทธิ์กองนี้ข้าเหมาทั้งกอง” ระดับหัวหน้าพรรคผู้หนึ่งมีปฏิกิริยาที่ไวมาก เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ผ่าออกมาเป็นชั้นคุณภาพเลี่ยมทองแล้ว จึงกล่าวกับพนักงานของร้านศิลาว่า จะซื้อวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์ที่กองอยู่บริเวณมุมนั้นไว้ทั้งหมด
ยอดฝีมือและผู้บำเพ็ญตนที่มีปฏิกิริยาช้าไปก้าวหนึ่งต่างรู้สึกเสียใจ เมื่อเห็นหัวหน้าพรรคผู้นี้ซื้อวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์รวดเดียวหมดทั้งกอง
แม้ว่าการซื้อวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์มากมายเช่นนี้เป็นการกระทำที่โง่เขลา แต่หากว่าสามารถเหมือนหลี่ชิเย่ที่เจอโชคใหญ่ จากชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์กลับกลายเป็นชั้นคุณภาพขาวเลี่ยมทอง มันไม่ขาดทุนแน่นอนอยู่แล้ว แต่หากว่าผ่าออกมาแล้วได้ชั้นคุณภาพแสดสามัญล่ะก็ จะได้กำไรมากทีเดียว
ผู้บำเพ็ญตนผู้หนึ่งที่สนิทกับผู้ชำนาญการศิลาของร้านศิลา ครั้นเห็นหลี่ชิเย่ผ่าออกมาเป็นตัวอ่อนดาบที่เป็นชั้นคุณภาพเลี่ยมทอง ถึงกับเอ่ยกับผู้ชำนาญการศิลาผู้นั้นว่า “ไม่นึกเลยว่าท่านก็มีโอกาสที่จะมองพลาดได้เหมือนกันนะเนี่ย”
“นี่แหละคือความสนุกของการพนันศิลา” ผู้ชำนาญการศิลาของร้านศิลาถึงกับหัวเราะและกล่าวว่า “ท่านผู้นี้มีสายตาดีเยี่ยม ถึงกับร่อนสมบัติวิเศษได้ นับถือ นับถือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...