ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1784

ตอนที่ 1784 ตำราระลึก
หลี่ชิเย่อาศัยมือข้างเดียวถือกล่องไม้สีเขียวเอาไว้ ทำการพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดอีกครั้ง พิจารณาดูอย่างละเอียดอีกรอบ หลังจากที่ได้พินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดแล้ว เขายังได้ใช้มือทั้งสองลูบคลำดูถึงคุณสมบัติของกล่องไม้สีเขียว ต้องการอาศัยวิธีนี้รับรู้ถุงความรู้สึกที่แตกต่างออกมา

ความจริงแล้ว กล่องไม้สีเขียวใบนี้เป็นอะไรที่ผู้คนครุ่นคิดแล้วไม่เข้าใจเสมอมา กล่องไม้สีเขียวอยู่กับเจ้าของเดิมที่เป็นตระกูลขุนนางโบราณมาเป็นเวลานานมากแล้ว ตระกูลขุนนางโบราณพวกเขาเคยให้กำเนิดบุคคลระดับผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อย แต่ยังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับกล่องไม้สีเขียวใบนี้ไม่ออก

ท้ายที่สุด ภายใต้สภาพของเสื่อมลงของตระกูลขุนนางโบราณตระกูลนี้ ได้แต่นำเอากล่องไม้สีเขียวใบนี้ที่ครุ่นคิดไม่ออกตลอดมาออกขาย

ความจริงแล้ว หลี่ชิเย่ก็ไม่มั่นใจกับกล่องไม้สีเขียวใบนี้สักเท่าไร แต่ว่าเขารู้ถึงเรื่องนี้ และรู้ถึงตำนานของเรื่องนี้ เพียงแต่เขาไม่รู้ว่ากล่องไม้สีเขียวใบนี้ได้ตกทอดเข้ามาอยู่ในโลกมนุษย์จริงหรือไม่อย่างไร

“ราชันเทพชิงมู่เอ๋ย หวังว่าคราวนี้เจ้าคงไม่หยอกผู้คนบนโลกเล่นอีกแล้วนะ” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นพร้อมกับใช้มือตบลงบนกล่องไม้สีเขียวใบนี้เบาๆ

ในยุคสมัยดึกดำบรรพ์เคยมีตำนานเล่าว่า เคยมีของชิ้นหนึ่งของราชันเทพชิงมู่ตกทอดอยู่ในโลกมนุษย์ปุถุชน แน่นอนผู้ที่รู้เรื่องนี้มีน้อยถึงน้อยที่สุด อีกทั้งผู้ที่สามารถมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันนั้นมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ถ้าหากพลิกปูมหน้าประวัติศาสตร์ของสิบสามทวีปขึ้นมา ไม่ว่าเปิดไปที่หน้าไหนก็ตาม ราชันเทพชิงมู่เป็นผู้หนึ่งที่ไม่สามารถอ้อมผ่านไปได้อย่างเด็ดขาด

มีผู้กล่าวว่า ราชันเทพชิงมู่คือราชันเทพองค์แรกของสิบสามทวีป แต่ก็มีผู้กล่าวว่ามีผู้ที่ได้เป็นจอมราชันแล้วก่อนหน้า เพียงแต่ไม่ได้มีการจดบันทึกเอาไว้เท่านั้น

ราชันเทพชิงมู่จะเป็นราชันเทพองค์แรกของสิบสามทวีปหรือไม่นั้นยากที่จะยืนยันได้ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่สามารถยืนยันได้ก็คือ กระทั่งปัจจุบัน ราชันเทพชิงมู่คือจอมราชันที่มีความเก่าแก่โบราณมากที่สุดเท่าที่ผู้คนรู้มา ไม่มีการบันทึกเอาไว้ว่าก่อนหน้าเขาจะมีจอมราชันองค์ไหนอีก

อย่างไรก็ตาม มีอยู่เรื่องหนึ่งที่สามารถยืนยันได้ก็คือ ราชันเทพชิงมู่คือจอมราชันที่สืบทอดชะตาฟ้าถึงสิบสองสายเป็นคนแรกของสิบสามทวีป โดยที่เรื่องดังกล่าวนี้สามารถยืนยันได้อย่างแน่นอน และมีการบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์อย่างชัดเจน

จอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสาย นับเป็นจอมราชันที่อยู่ในระดับขั้นสูงสุดของสิบสามทวีป และมันคือความจริงที่ราชันเทพชิงมู่ซึ่งอยู่ในฐานะจอมราชันที่มีชะตาฟ้าอยู่ในครอบครองสิบสองสายเป็นองค์แรกนั้น เขาได้เป็นผู้ริเริ่มสร้างยุคสมัยที่เจิดจรัสยิ่งขึ้นมา

ขณะเดียวกัน ราชันเทพชิงมู่ไม่เพียงเป็นผู้ที่ได้ครอบครองชะตาฟ้าสิบสองสายเป็นองค์แรกเท่านั้น ยังเป็นจอมราชันที่ลึกลับมากที่สุดนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน

ประวัติชาติกำเนิดของราชันเทพชิงมู่เป็นปริศนา ไม่มีใครรู้ถึงรายละเอียดว่าราชันเทพชิงมู่มีชาติกำเนิดมาจากสำนักใด สืบทอดมาอย่างใด กระทั่งมีผู้กล่าวว่าแม้แต่ตัวของราชันเทพชิงมู่มีลักษณะเช่นใดก็เป็นปริศสา

นับแต่อดีตถูงปัจจุบัน เรื่องราวที่เกี่ยวกับราชันเทพชิงมู่ถูกปกคลุมอยู่ในเมฆหมอก เฉกเช่นเดียวกับชื่อของเขาที่ก้าวข้ามทะลุอดีตตลอดมา

กระทั่งมีคำพูดที่เกินจริงมากในสิบสามทวีป เล่าลือกันว่า นับแต่อดีตกาลที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ใดเคยพบเห็นราชันเทพชิงมู่มาก่อน ไม่มีผู้ใดรู้ว่าหน้าตาที่แท้จินงของราชันเทพชิงมู่เป็นอย่างไร

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ราชันเทพชิงมู่ถูกครอบคลุมอยู่ด้านหลังของสายน้ำแห่งกาลเวลา แม้จะกล่าวว่าในยุคหลังๆ นี้จะไม่ค่อยมีผู้คนเอ่ยถึงเขาอีกแล้ว แต่ยังคงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่คาดเดาว่า ราชันเทพชิงมู่ยังคงมีชีวิตอยู่ เพียงแต่เขาอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จัก

แม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างของราชันเทพชิงมู่จะถูกปกคลุมอยู่ท่ามกลางความลึกลับ แต่หลี่ชิเย่กลับรู้เรื่องๆ หนึ่ง ราชันเทพชิงมู่มีตำราระลึกที่เป็นหนึ่งในตำราสวรรค์นพเก้า!

อีกทั้งตำราระลึกเล่มนี้ที่เคยอยู่ในมือของราชันเทพชิงมู่นั้น ราชันเทพชิงมู่ไม่ได้ถือครองเอาไว้ตลอด แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งเขาปล่อยให้ตำราระลึกเล่มนี้ตกทอดไปยังโลกมนุษย์ปุถุชนไป

ความจริงแล้ว หลังจากที่หลี่ชิเย่รับรู้เรื่องนี้แล้ว ได้เคยทุ่มเทเวลาไปไม่น้อยกับการตามหาตำราระลึกเล่มนี้ เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีร่องรอยมาโดยตลอดเท่านั้นเอง

จนกระทั่งเขาได้เห็นกล่องไม้สีเขียวใบนี้ที่ร้านตระกูลฉีนั้น หลี่ชิเย่จึงเข้าใจแล้วว่าได้พบอะไรเข้าให้แล้ว แม้ว่าเขาจะไม่กล้ายืนยันเต็มร้อย แต่ก็มีความมั่นใจหกถึงเจ็ดส่วนแล้วว่ามันคืออะไร ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องการได้กล่องไม้สีเขียวใบนี้

หลี่ชิเย่นั่งขัดสมาธิ ใช้มือสองข้างกดกล่องไม้สีเขียวเอาไว้ หลับตาพักผ่อนกายา รักษาจิตบำเพ็ญเพียรให้มั่นคง ปล่อยให้ไปตามความนึกคิด สิ่งที่บังเกิดในใจก็คือคือที่ที่ความระลึกได้ปรากฏ ที่ที่ความระลึกปรากฏก็คือจิตปรารถนา…

ขณะที่มือทั้งสองกดลงบันกล่องไม้สีเขียวนั้น เขาได้สลายกลิ่นอายขมุกขมัวทั้งหมด เก็บงำพลังของโลกดึกดำบรรพ์ทั้งหมด เนื่องจากพลังทุกอย่างล้วนไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด มีเพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงนี้เท่านั้นที่สามารถสำแดงประโยชน์ออกมา

หลังจากหลี่ชิเย่กดทับกล่องไม้สีเขียวเอาไว้ไม่นานนัก ได้ยินเสียงดัง “แว้งค์” ร่างกายของหลี่ชิเย่เปล่งเป็นประกายสีดำออกมา จากนั้น ได้ยินเสียงดัง “จี๊ด” บนหัวของหลี่ชิเย่ ปรากฎเขาของมารที่มีขนาดใหญ่และยาวงอกขึ้นมาคู่หนึ่ง พริบตาเดียวนี้เอง ทั่วทั้งร่างของหลี่ชิเย่ถูกล้อมรอบไปด้วยไอหมอกของมาร

เมื่อหลี่ชิเย่ลืมตาทั้งสองข้าง ปรากฏประกายเลือดที่พวยพุ่งออกมาจากดวงตาทั้งสอง พริบตาเดียวนี้ปรากฏเป็นกลิ่นอายมารที่รุนแรงออกมา กลิ่นอายการฆ่าทำให้สั่นเทาไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ภายใต้ประกายแห่งการกระหายเลือดของเขา ไม่ว่าจะเป็นบรรดาเทพไหรือเหล่ามารล้วนแล้วแต่ขวัญกระเจิง

ในเสี้ยววินาทีนี้เอง หลี่ชิเย่ได้กลับกลายเป็นมือมืดตลอดกาล มือทั้งสองของเขาเต็มไปด้วยเลือดสดๆ เขาเสมือนดั่งเป็นสุดยอดคนฆ่าสัตว์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน สามารถทำลายล้างเก้าแดน และทำลายสิ้นสิบสามทวีป สามารถฆ่าล้างบรรดาราชันและเหล่าเทพ!

ทันใดนั้น หลี่ชิเย่ก็คือตัวแทนของมารร้ายทั้งหมด เขาคือจอมมารตลอดกาล ทุกๆ สรรพชีวิตเมื่ออยู่เบื้องหน้าเขามีแต่ถูกเข่นฆ่าสถานเดียว!

หากไม่เป็นเพราะหลี่ชิเย่ได้พรางช่องว่างเอาไว้แล้ว เกรงว่ากลิ่นอายมารที่น่ากลัวเช่นนี้คงสร้างความแตกตื่นผู้คนไปแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล