“ข้ารู้” หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเรียบเฉยว่า “ข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ ทำไมรึ จวนเผิงของพวกเจ้าไม่ต้อนรับแขกรึ?”
“มิกล้า มิกล้า” เมื่อศิษย์ผู้นี้ได้ยินหลี่ชิเย่เอ่ยถามเช่นนี้ จึงรีบตอบว่า “จวนเผิงของพวกเรายินดีต้อนรับผู้คนทั่วหล้ามาเป็นแขก ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่ากระใด มาจากที่ใด?”
“หลี่ชิเย่ แค่ผู้บำเพ็ญตนไร้สังกัดคนหนึ่งเท่านั้น นึกถึงผลงานที่จอมเทพได้สร้างเอาไว้ จึงมาอวยพรให้กับจอมเทพโดยเฉพาะ” หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเรียบเฉย
คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้ศิษย์ทั้งสองที่เฝ้าหน้าประตูถึงกับมองหน้ากันและกัน ศิษย์ผู้นั้นจึงกล่าวว่า “ท่านรออยู่ที่นี้ครู่หนึ่ง ให้ข้าน้อยเข้าไปรายงานสักนิดหนึ่ง”
หลี่ชิเย่พยักหน้า แล้วก็ยืนอยู่หน้าจวน เงยหน้าขึ้นมองดูแผ่นป้ายเก่าแก่นั้น มองดูลายมือชื่อ “หมิงเหริน” สองคำ ในใจของเขาถึงกับต้องสะอื้นออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตเพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้ว เสมือนดั่งเพิ่งผ่านไปเมื่อวานอย่างนั้น
ในอดีตที่ผ่านมา ไม่ว่าราชันเซียนหมิงเหรินจะมีความคิดแตกต่างจากเขาเช่นใด แต่ยามที่อยู่บนหลักการความถูกต้อง ราชันเซียนหมิงเหรินตัดสินใจยืนอยู่ข้างเขาโดยไม่ลังเลเลย สนับสนุนเขาเหมือนกับที่ผ่านมา
เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ก่อนศึกล่าราชันจะระเบิดขึ้น เรียกได้ว่าศึกในครั้งนั้นเขายังคงบุกตะลุยโจมตีข้าศึกเหมือนเช่นที่ผ่านมา สามารถรับผิดชอบในส่วนของตน รบพุ่งอย่างดุเดือดกับจอมราชันที่อยู่ในจุดสูงสุดของเผ่าสวรรค์ เผ่ามาร และเผ่าเทพสามเผ่า!
เสียดาย ล่วงเลยมาถึงวันนี้แล้ว ทั้งคนและสิ่งของล้วนแล้วแต่แปรเปลี่ยนไป สหายเก่ามีเหลืออยู่ไม่มาก จอมเทพท่าซิงคือหนึ่งในจำนวนนั้น ศึกล่าราชันในครั้งนั้นจอมเทพท่าซิงคือหนึ่งในจอมเทพที่ติดตามอยู่ข้างกายของเขา
จอมเทพท่าซิงเทียบไม่ได้กับจอมราชันที่อยู่ในขั้นสูงสุด และเทพโบราณปราศจากผู้ต่อกรก็จริง แต่ว่า ในศึกล่าราชันนั้นเขากลับต่อสู้ด้วยความกล้าหาญยิ่งนัก ต่อสู้ด้วยความภักดี!
ระหว่างที่ภายในใจของหลี่ชิเย่กำลังรู้สึกหดหู่ยิ่งนัก ศิษย์ที่เข้าไปรายงานได้กลับออกมา และกล่าวว่า “คุณชายหลี่ เชิญด้านใน บ่าวได้จัดแจงเรื่องที่พักให้กับคุณชายแล้ว” กล่าวพลางเดินนำหน้าให้กับหลี่ชิเย่
หลี่ชิเย่พยักหน้า และติดตามศิษย์ผู้นั้นเข้าไปภายในจวนเผิง แม้ว่าหลี่ชิเย่จะมาโดยไม่ได้รับเชิญ แต่ว่า กล่าวสำหรับ ตระกูลเผิงแล้ว ผู้ที่มาอวยพรให้กับบรรพบุรุษล้วนแล้วแต่คือแขก
จวนเผิงได้จัดเรื่องห้องหับที่พักให้กับหลี่ชิเย่ที่เรือนเล็ก แม้ว่าไม่ได้รับการปฏิบัติเยี่ยงแขกผู้มีเกียรติ แต่จวนเผิงก็ไม่ได้ทอดทิ้งหลี่ชิเย่ ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
หลังจากที่หลี่ชิเย่เข้าพักในจวนเผิงแล้ว เมื่อเขาเปิดกระดาษสีเหลืองที่ผู้เฒ่ามอบให้และพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียด ยิ่งพินิจพิจารณาไปยิ่งรู้สึกประหลาดใจ
ในฐานะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาราชันเซียน ในฐานะมือมืดที่อยู่เบื้องหลังที่ลอยล่องมาพันล้านปี มีเคล็ดวิชาอะไรที่หลี่ชิเย่ไม่เคยเห็น? เคล็ดชะตาฟ้า เคล็ดลับปราบฟ้า เคล็ดประหลาดดึกดำบรรพ์…ที่เป็นเคล็ดวิชายากจะหาใดเทียมต่างๆ ในหล้าเขาล้วนแล้วแต่เคยเห็นมาแล้ว เรียกได้ว่าเคล็ดวิชาที่เข้าได้เห็นมีจำนวนนับไม่ถ้วน หากเขาหยิบยกเคล็ดวิชาใดวิชาหนึ่งออกมาตามอารมณ์ ล้วนแล้วแต่สามารถทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องตกใจจนหัวใจวายตายได้
ทว่า ยามที่เขามองเห็นประสบการณ์ที่มีการจดบันทึกเอาไว้บนกระดาษสีเหลืองนั้น หลี่ชิเย่เองรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา เขาถึงกับพึมพำออกมาว่า “ตาเฒ่านี้ยอดเยี่ยมมาก ถึงกับบรรลุได้ถึงเพียงนี้ ไม่สงสัยเลยว่าเป็นราชันเซียนที่สวรรค์ลงทัณฑ์ไม่ลงมา หากเปลี่ยนเป็นจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดน เกรงว่าคงไม่มีโอกาสมาอ่านให้ชัดเจน และไม่มีโอกาสได้มาพินิจพิเคราะห์มัน”
ผู้เฒ่าเป็นราชันเซียนที่ยอดเยี่ยมมากองค์หนึ่ง แม้ว่าเวลานี้เขาได้กลายร่างเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา แต่อย่างไรเสียเขาก็คือราชันเซียนองค์หนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเขาคือราชันเซียนที่จะไม่ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ ดังนั้น เขาจึงมีโอกาสมากกว่าราชันเซียนองค์อื่นๆ ที่มีโอกาสแอบดูสวรรค์!
ประสบการณ์ที่ผู้เฒ่าผู้แอบส่องมาได้นั้นลึกซื้งและยอดเยี่ยมมาก มีความหมายที่ลึกล้ำยากที่จะเข้าใจ ต่อให้เป็นผู้ดำรงอยู่ในระดับบรรพบุรุษก็ยากจะเข้าใจประสบการณ์ฉบับนี้ได้ มีเพียงระดับจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนจึงสามารถอ่านแล้วเข้าใจถึงประสบการณ์ฉบับนี้ได้
หลี่ชิเย่อ่านประสบการณ์นี้อย่างละเดียด และทำการบรรลุเข้าถึงมันอย่างละเอียด ที่บันทึกอยู่บนกระดาษสีเหลืองเป็นเพียงประสบการณ์ ไม่เกี่ยวกับเคล็ดวิชาหรือกระบวนท่า ดังนั้น ขณะที่หลี่ชิเย่ทำการบรรลุมันอย่างละเอียดนั้น ได้ทำการสำแดงครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งใจจะทำการสำแดงให้กลายเป็นเคล็ดวิชาแขนงหนึ่งในหล้าขึ้นมา
หลี่ชิเย่พักอาศัยอยู่ในจวนเผิงแค่วันรุ่งขึ้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาพบกับเขา ชายหนุ่มผู้นี้อายุไม่มาก เพียงแค่ยี่สิบต้นๆ เท่านั้นเอง การแต่งตัวดูสมฐานะยิ่งนัก รูปลักษณ์ดูมีความสง่างาม ท่วงท่าของเขาแลดูมีประสบการณ์สูง แม้ว่าเขาจะมีท่าทีที่เคร่งขรึมจริงจัง แต่อย่างไรเสียเขาก็มีอายุน้อยอยู่ดี ท่ามกลางท่าทีความเป็นผู้นำและเคร่งขรึมจริงจังยังคงเผยให้เห็นถึงความอ่อนหัดอยู่สามส่วน
พลันที่ชายหนุ่มผู้นี้เห็นหน้าหลี่ชิเย่ ได้แสดงคารวะแบบจีน และกล่าวว่า “การมาเยือนของพี่หลี่ ทำให้จวนเผิงเราดูดีไม่น้อยเลย น้องมีงานรัดตัวไม่ทันได้ต้อนรับแต่ไกล เสียมารยาท เสียมารยาทแล้ว”
คนหนุ่มผู้นี้เกรงใจต่อหลี่ชิเย่อย่างยิ่ง พลันที่ก้าวประตูเข้ามาก็เร่งรีบเดินเข้ามาหา ทั้งยังก้มโค้งนิดๆ ดูอบอุ่นยิ่งนัก
“มาโดยไม่ได้รับเชิญ ไม่จำเป็นต้องให้การต้อนรับแต่ไกล” หลี่ชิเย่ยิ้มจางๆ และพยักหน้าเบาๆ
ชายหนุ่มผู้นี้รีบกล่าวว่า “น้องชื่อเผิงยวี่ ดูแลกิจการงานต่างๆ ของจวนเผิงชั่วคราว หากมีสิ่งใดขาดตกบกพร่องล่ะก็ ขอพี่หลี่ได้โปรดอภัย”
ชายหนุ่มที่เห็นอยู่ตรงหน้ามีชื่อว่าเผิงยวี่ เป็นเจ้าบ้านคนปัจจุบันของจวนเผิงนั้นเอง เขาถึงกับสะดุ้งในใจนิดหนึ่ง พลันที่เขาได้ยินศิษย์ในสำนักรายงานว่ามีคนที่ชื่อหลี่ชิเย่มาอวยพร
การที่เผิงยวี่ดำรงตำแหน่งเจ้าบ้านตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้หลี่ชิเย่ถึงกับต้องจ้องมองเขามากกว่าปรกติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...