ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1832

ตอนที่ 1832 เรื่องราวเกี่ยวกับจอมเทพท่าซิง
“ถูกต้อง รีบเร่งออกจากบ้าน จึงมีเพียงของขวัญชิ้นน้อยๆ อยู่กับตัว แค่ของขวัญเล็กน้อย โปรดรับเอาไว้เถอะ” หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเฉบเมย

ไขมังกรคือสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่สำหรับหลี่ชิเย่แล้วไม่ถือเป็นอะไร ยังไม่ต้องพูดถึงเขาได้ทำลายพรรคเซียนเหินที่เป็นยักษ์ใหญ่สายสำนักราชันเซียน ได้สมบัติมาจำนวนนับไม่ถ้วน หรือแม้กระทั่งคลังสมบัติของเขาที่เก้าแดนก็มีจำนวนมากขนาดทำให้ผู้คนต้องหัวใจวายได้

มาคราวนี้ ขณะหลี่ชิเย่เดินทางมาที่แดนสิบก็ได้นำสิ่งของชั้นดีติดตัวมาด้วย เพื่อไว้ใช้ยามจำเป็น

“เอือก…” คำพูดของหลี่ชิเย่ทำเอาเผิงยวี่ตะลึงจนตัวแข็งที่อ ลักษณะการพูดจาเช่นนี้ยากจะหาใดเทียมในหล้า เหมือนเป็นท่วงท่าของจอมราชันเซียนหวังอย่างใดอย่างนั้น

ไขมังกรคืออะไร? มันคือไขมังกรแท้จริง ราคาสุดจะเปรียบเปรย จอมเทพทั่วไปก็ไม่แน่ว่าจะมีโอกาสได้ใช้ ของสิ่งนี้มีเพียงจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้ใช้มัน

เวลานี้ หลี่ชิเย่พลันออกปากก็บอกว่า รีบร้อนออกจากบ้านไปนิด เลยนำเอาของชิ้นเล็กติดตัวมาได้ ทั้งยังเป็นของขวัญเพียงน้อยนิด เป็นคำพูดที่อหังการเหลือเกิน

นี่มันคือไขมังกรเลยน่ะ ต่อให้เป็นระดับจอมเทพหากได้เห็นของชั้นเลิศเช่นนี้แล้วก็ต้องน้ำลายหก แต่ของชั้นเลิศเช่นนี้เมื่อออกจากปากของหลี่ชิเย่คือของขวัญเล็กน้อยไม่มีค่าคู่ควรจะกล่าวถึง

ในเวลานี้ เผิงยวี่เองไม่ได้รู้สึกว่าหลี่ชิเย่นั้นยโสเหลือเกิน เพียงรู้สึกว่าเขามือเติบเหลือเกิน แค่ควักออกมาตามอารมณ์ก็คือไขมังกรหนึ่งกล่อง ช่างมือเติบอะไรอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นโอรสราชันเทพธิดาใดๆ เมื่อเทียบกับหลี่ชิเย่แล้วก็ต้องสลดและอับแสง

“นี่ นี่ นี่มันล้ำค่าเกินไปแล้วกระมัง” เมื่อเผิงยวี่ได้สติกลับมาแล้ว เขาไม่กล้ารับกล่องไขมังกรนี้เอาไว้ ของสิ่งนี้ล้ำค่ามากกันไป ขณะที่เขาถืออยู่ในมือยังรู้สึกได้ว่ามือทั้งคู่ของตนนั้นมีอาการสั่นเทา

“รับเอาไว้เถอะ ไม่ใช่ให้เจ้า ให้จอมเทพท่าซิงหน่ะ” หลี่ชิเย่สั่งการเรียบเฉยออกไป

เผองยวี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง เก็บกล่องไขมังกรกล่องนี้ขึ้นอย่างระมัดระวัง แสดงคารวะต่อหลี่ชิเย่ และกล่าวว่า “น้องขอรับเอาไว้แทนท่านบรรพบุรุษเอาไว้ก่อน วันหน้าจะต้องช่วยพี่หลี่ส่งมอบให้กับท่านบรรพบุรุษ น้องขอขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับของขวัญล้ำค่าของพี่หลี่ และตระกูลเผิงก็ขอบคุณอย่างยิ่งเช่นกัน”

“ของขวัญเล็กน้อยเท่านั้นเอง จอมเทพท่าซิงเหนื่อยยากและมีผลงานเยี่ยม คู่ควรกับของขวัญเล็กน้อยชิ้นนี้” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เผิงยวี่ย่อมไม่เข้าใจถึงความหมายที่ลึกซึ้งของคำพูดคำนี้ เขายังเข้าใจว่าหลี่ชิเย่เพียงแค่ให้ความเลื่อมใสในตัวบรรพบุรุษของพวกเขา จะอย่างไรเสียบรรพบุรุษของพวกเขาเคยเข้าร่วมในศึกล่าราชันมาก่อน เรียกได้ว่ามีผลงานเป็นที่โด่งดัง ได้รับการเคารพนับถือจากร้อยชาติพันธุ์

“พี่หลี่เพิ่งมาตระกูลเผิงเป็นครั้งแรก ให้น้องได้แสดงตนเป็นเจ้าภาพดีหรือไม่?” เผิงยวี่เชื้อเชิญให้หลี่ชิเย่ได้เยี่ยมชมบ้านตระกูลเผิง

ใบหน้าหลี่ชิเย่แฝงซึ่งรอยยิ้ม และตอบตกลงทันที เผิงยวี่จึงรีบเร่งนำทางให้กับหลี่ชิเย่ อธิบายถึงการวางหมากของตระกูลเผิงและเรื่องราวความมหัศจรรย์ต่างๆ

ตระกูลเผิงกินพื้นที่กว้างขวางมาก ทั่วทั้งบ้านตระกูลเผิงเรียกได้ว่ามีรูปแบบที่งดงามแบบโบราณ ทุกๆ ตึก ทุกๆ ตำหนักโบราณล้วนแล้วแต่มีประวัติความเป็นมาและความมหัศจรรย์

เผิงยวี่เองก็มีความอบอุ่นยิ่งนัก นำมาหลี่ชิเย่เที่ยวชมพื้นที่ส่วนใหญ่ของจวนเผิง และอธิบายตำนานบางส่วนเกี่ยวกับตระกูลเผิงเป็นจำนวนมาก

ความจริงแล้ว ต่อให้เผิงยวี่ไม่พาชมหลี่ชิเย่ก็มีความเข้าใจในหญ้าทุกต้นดอกทุกดอกทุกซอกทุกมุม ใช่ว่าครั้งนั้นเขาจะไม่เคยอาศัยอยู่ในจวนเผิงเสียเมื่อไหร่

แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ภายใต้การแนะนำอย่างละเอียดและอบอุ่นของเผิงยวี่ หลี่ชิเย่บงคงรับฟังพร้อมด้วยรอยยิ้ม

“จอมเทพท่าซิงเคยกลับมาหรือไม่?” หลังจากที่เที่ยวชมไปทั่วจวนเผิงแล้ว หลี่ชิเย่เอ่ยถามไปตามอารมณ์ ว่าไปแล้วเขาไม่ได้พบกับจอมเทพท่าซิงมานานมากแล้ว แต่ว่า เมื่อเขาปลีกตัวออกจากโลกปัจจุบันไปซ่อนตัวอยู่ในแดนแห่งการสืบค้นแล้วเขาก็จะไม่ไปรบกวน

จากการที่หลี่ชิเย่เอ่ยถามไปตามอารมณ์ ทำให้เผิงยวี่ถึงกับลังเลนิดหนึ่ง ท่าทีดูประหลาด แต่ว่า เขาไม่ได้ตอบคำถามของหลี่ชิเย่ในทันที

“มีอะไรผิดปรกติรึ?” สายตาของหลี่ชิเย่นั้นแหลมคมยิ่ง จึงเอ่ยขึ้นมาช้าๆ พลันที่มองเห็นท่าที่ที่เปลี่ยนไปของเผิงยวี่

“พี่หลี่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวบางอย่างเลยรึ?” เผิงยวี่ทำท่าลังเลนิดหนึ่ง จากนั้นเอ่ยถามขึ้นมาช้าๆ

หลี่ชิเย่พูดขึ้นมาเฉยเมยว่า “อดีตที่ผ่านมาข้าศึกษาแลตำราปราชญ์ ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องราวของโลกภายนอก ดังนั้น เรื่องราวความวุ่นวายต่างๆ ในโลกจึงรู้ไม่มาก”

“เป็นอย่างนี้นี่เอง” เผิงยวี่ไม่สงสัย เขาทำท่าไตร่ตรองนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “เมื่อไม่กี่ปีมานึ้เอง ได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น บรรพบุรุษของตระกูลเราเคยปราฎตัวออกมา”

“สงคราม!” ท่าทีของเผิงยวี่ทำให้หลี่ชิเย่มองออกถึงเส้นสนกลในบางอย่าง เขาเพ่งสายตาไปข้างหน้าและกล่าวขึ้นมาช้าๆ

“ถูกต้อง” เผิงยวี่ยิ้มเจื่อนๆ ได้แต่พูดออกมาตามตรง “ครั้งนั้น เหรินเซิ่นแห่งทวีปเจียวเหิงซุ่มโจมตีจินเก๋อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งราชันเซียน มีบรรพบุรุษจากร้อยชาติพันธุ์ที่ให้การสนับสนุนเป็นจำนวนมาก บรรพบุรุษของพวกเยาก็กลับสู่โลกปัจจุบันด้วยตนเอง ลงมือต่อสู้กับจอมเทพของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง สร้างโอกาสให้เหรินเซิ่นจนซุ่มโจมตีจินเก๋อได้สำเร็จ ทำให้เขาพลาดโอกาสสืบทอดชะตาฟ้าไป

“จอมเทพท่าซิงได้รับบาดเจ็บรึ?” หลี่ชิเย่เอ่ยถ้ามขึ้นช้าๆ

“เรื่องนี้น้องเองก็ไม่ชัดเจนจัก เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นน้องยังเด็กอยู่ ไม่สามารถรับรู้ได้ถึงรายละเอียดเบื้องหลังต่างๆ ข่าวต่างๆ ที่ได้มาก็เพียงฟังเขาเล่ามาอีกที เพียงแต่หลังการศึกในครั้งนี้แล้ว ก็ไม่มีข่าวคราวของท่านบรรพบุรุษอีกเลย บรรดาผู้อาวุโสของตระกูลต่างคาดเดาว่าท่านบรรพบุรุษคงบาดเจ็บจากการศึกในครั้งนั้น” เผิงยวี่ได้กล่าวขึ้นมาช้าๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล