ขณะที่ระดับบรรพบุรุษและศิษย์ด้านตระกูลขุนนางโบราณตงกงต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อเห็นบรรพบุรุษของตนฟันเสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์ของจอมเทพท่าซิงจนขาดในดาบเดียว แต่พวกเขารู้สึกเสียใจอยู่นิดหนึ่งที่ไม่สามารถสังหารจอมเทพท่าซิงได้ในดาบเดียว แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ชั่วพริบตาเดียวกันนี้บรรดาบรรพบุรุษและศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงพลันเปี่ยมด้วยความหวัง บรรพบุรุษของพวกเขาจะต้องเอาชนะจอมเทพท่าซิงได้อย่างแน่นอน
“นี่คืออาวุธอะไรกันแน่ ถึงกับสามารถต้านรับตำราครึ่งเล่มและอาวุธที่ไม่สมประกอบได้!” แม้แต่ผู้ได้รับการเคารพสูงสุดระดับสวรรค์สัจธรรมยังต้องรู้สึกกระตุกในใจนิดหนึ่ง ถึงกับเสียวสันหลังวาบ
ยามที่ดาบของจอมเทพเสินกงฟันฉับลงไปนั้น เสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนตัวของจอมเทพท่าซิงถูกฟันจนขาดโดยไม่ลังเล เป็นที่ทราบกันดีว่า “ชุดตัวอ่อนม้าบินเหยียบดาว” ชุดนี้มีความยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง สามารถต้านรับศาสตราวุธเต๋าระดับจอมราชัน เวลานี้กลับถูกฟันจนขาดในดาบเดียว ย่อมสามารถประเมินได้ว่าดาบโค้งเล่มนี้มีความคมเช่นใด และมีความสยองเพียงใด
แต่ว่า เวลานี้ดาบโค้งเล่มนี้กลับถูกต้านเอาไว้ได้โดยทวนวงเดือนสั้นที่อยู่ในมือของจอมเทพท่าซิง ย่อมไม่ต้องกังขาว่าทวนวงเดือนสั้นเล่มนี้ที่อยู่ในมือของจอมเทพท่าซิงเหนือกว่า “ชุดตัวอ่อนม้าบินเหยียบดาว” อยู่มากทีเดียว
“นี่มัน” จอมเทพระดับล่างผู้หนึ่งรู้สึกหัวใจเต้นกระตุกนิดหนึ่งเมื่อมองเห็นทวนวงเดือนสั้นในมือของจอมเทพท่าซิง นึกถึงคำเล่าลือบางอย่างขึ้นมาได้ แอบรู้สึกตกใจเงียบๆ
“อาวุธราชันปราบสวรรค์!” แม้แต่จอมเทพเสินกงที่ได้ครอบครองตำราครึ่งเล่มและอาวุธที่ไม่สมประกอบในมือยังต้องสายตาเต้นกระตุกทีหนึ่ง และร้องกล่าวเสียงหลงออกมา เมื่อได้เห็นทวนวงเดือนสั้นที่อยู่ในมือของจอมเทพท่าซิง
“สหายเสินกงมีสายตาที่ยอดเยี่ยม” จอมเทพท่าซิงไม่ได้มองดูบาดแผลที่สยดสยองบนหน้าอกของตน กระทั่งปล่อยให้เลือดสดๆ ไหลนองจนเสื้อเกราะแดงฉาน บาดแผลที่เกิดจากการทำร้ายโดยตำราและอาวุธสวรรค์ เป็นบาดแผลที่หายได้ยากมาก จึงไม่จำเป็นต้องรีบตอนนี้ อีกอย่างเขาผ่านศึกเหนือเสือใต้มาอย่างโชกโชน บาดแผลเช่นนี้กล่าวสำหรับเขาแล้วถือเป็นเรื่องปรกติเสียแล้ว
“ไม่นึกเลยว่าสหายถึงกับได้ครอบครองอาวุธราชันปราบสวรรค์อยู่ในมือ นับว่าเหนือความคาดคิดจริงๆ” ท่าทีของจอมเทพเสินกงดูหนักแน่นจริงจังขึ้นมาเช่นกัน เมื่อได้เห็นทวนวงเดือนสั้นที่อยู่ในมือของจอมเทพท่าซิง เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “โดยทั่วไปแล้ว จอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนจะไม่สืบทอดอาวุธราชันปราบสวรรค์เอาไว้ มาวันนี้สหายกลับได้ครอบครองเล่มหนึ่ง นับว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง
คำพูดของจอมเทพเสินกงทำให้หลายคนต้องมองหน้ากันและกัน ผู้ที่ไม่รู้จักอาวุธราชันปราบสวรรค์ต้องเอ่ยถามขึ้นเบาๆ ว่า “อาวุธราชันปราบสวรรค์คืออะไร?”
แม้กระทั่งศิษย์ของสายสำนักราชันเซียนก็ไม่เข้าใจเกี่ยวกับอาวุธราชันปราบสวรรค์ พวกเขาไม่เคยได้เห็นตำราและอาวุธสวรรค์มาก่อน
“สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนเตรียมเอาไว้สำหรับการเดินทางไกลเพื่อปราบปรามเป็นครั้งสุดท้าย เล่าลือกันว่า อาวุธราชันปราบสวรรค์เป็นอาวุธที่จอมราชันเซียนหวัง ชันเซียนเก้าแดนสร้างขึ้นให้เหมาะสมกับตนเองเพื่อภารกิจเดินทางไกลเพื่อปราบปรามเป็นครั้งสุดท้าย มีอานุภาพที่ยอดเยี่ยม เหนือกว่าบรรดาศาตราวุธเต๋าระดับจอมราชัน” ระดับบรรพบุรุษของสายสำนักราชันเซียนกล่าวขึ้นมาช้าๆ ด้วยท่าทีที่หนักแน่นจริงจัง
“หมิงเหรินเก๋อ” หลี่ชิเย่เองถึงกับรู้สึกหดหู่ และทอดถอนใจออกมาเบาๆ เมื่อมองเห็นทวนวงเดือนสั้นที่อยู่ในมือของจอมเทพท่าซิง
การเผชิญกับศึกการเดินทางไกลเพื่อปราบปรามเป็นครั้งสุดท้าย ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนก็ต้องรอบคอบแล้วรอบคอบอีก เดินทางไกลเพื่อปราบปรามเป็นครั้งสุดท้ายหาใช่เป็นสิ่งที่นึกขึ้นมาเดี๋ยวนั้นของจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดน พวกเขาต่างระมัดระวังรอบคอบ และมีการเตรียมตัวล่วงหน้ามากมาย กระทั่งมีการสร้างอาวุธให้เหมาะสมกับตนขึ้นมา อาวุธลักษณะเช่นนี้ถูกเรียกว่าอาวุธราชันปราบสวรรค์!
“เป็นความรักและเมตตาของราชันเซียนหมิงเหริน” จอมเทพท่าซิงไม่ได้มีท่าทีที่ลำพอง ท่าทีให้ความเคารพอย่างสูง กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ราชันเซียนหมิงเหรินมีความคิดที่จะเดินทางไกลเพื่อปราบปรามเป็นครั้งสุดท้ายมาเป็นเวลานาน ดังนั้น เคยทดลองสร้างอาวุธราชันปราบสวรรค์มาชิ้นหนึ่ง เสียดายไม่เหมาะมือ ไม่สามารถเข้ากันได้กับชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงบนตัวของเขา ในศึกล่าราชันครั้งนั้น ราชันเซียนหมิงเหรินได้ประทานอาวุธนี้ให้กับข้าเพื่อไว้ป้องกันตัว”
ผู้คนจำนวนมากรู้สึกหวั่นไหวในใจ เมื่อได้ยินคำพูดของจอมเทพท่าซิง ทุกคนนึกไม่ถึงว่าอาวุธเล่มนี้ยังมีประวัติเช่นนี้
ทั่วทั้งสิบสามทวีปล้วนแล้วแต่เคยได้ยินชื่อของราชันเซียนหมิงเหริน แม้ว่าเขาจะเป็นราชันเซียนเก้าแดนที่ทำตัวไม่เด่นดัง แต่ว่า ในศึกล่าราชันนั้น เรียกได้ว่าราชันเซียนหมิงเหรินนั้นปราศจากผู้ต่อกร ตัวเขาที่มีความสามารถชนิดปราดเปรื่องน่าทึ่งแล้วยังได้ครอบครองชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงอีก ทำให้เขาสามารถต้านกับจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายและอยู่ในระดับสูงสุดของเผ่าเทพ เผ่ามาร และเผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าได้!
ในสิบสามทวีปนี้ เคยมีผู้นำเอาราชันเซียนหมิงเหรินเทียบชั้นกันราชันเซียนเจียวเหิง ราชันเซียนหญิงหงเทียน ราชันเซียนเฟย ราชันซื่อตี้…ที่เป็นระดับสูงสุดของจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดน เขาคือหนึ่งในกลุ่มของจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนที่อยู่ในระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสิบสามทวีปอย่างแน่นอน
การเดินทางไกลเพื่อปราบปรามเป็นครั้งสุดท้ายในครั้งที่ห้า ผู้ริเริ่มก็คือราชันเซียนหมิงเหรินนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ในศึกล่าราชันราชันเซียนหมิงเหรินได้สร้างชื่อเสียงที่โด่งดังมาก อาศัยศึกทั้งสองนี้ก็เพียงพอที่จะให้ชื่อเสียงของราชันเซียนหมิงเหรินคงอยู่ชั่วนิรันดร์แล้ว!
“ชั่วชีวิตของราชันเซียนหมิงเหรินองอาจกล้าหาญ” เวลานี้จอมเทพเสินกงเรียกคืนต้วนเจียง กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า วันนี้สามารถรับการชี้แนะจากอาวุธราชันปราบสวรรค์ของราชันเซียนหมิงเหรินถือเป็นเกียรติอย่างหนึ่ง สหาย ถึงเวลาที่พวกเราควรตัดสินชี้ขาดกันได้แล้ว” กล่าวพลาง ต้วนเจียงที่อยู่ในมือของเขาชี้ไปที่จอมเทพท่าซิง
เสียง “แว้งค์” ดังขึ้น ชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ต้วนเจียงที่อยู่ในมือของจอมเทพเสินกงได้เปล่งประกายออกมาคล้ายแผ่นซีดี โดยที่ประกายดังกล่าวไม่ได้มีประกายเซียนที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และไม่ได้ส่องประกายไปทั่วหล้า
แม้ว่าประกายลักษณะเช่นนี้ไม่ได้มีท่าทีที่สะเทือนฟ้าอะไรมากมายนัก แต่ ขณะที่ประกายเหล่านี้แผ่กระจายออกมานั้น เสมือนหนึ่งรั่วไหลออกมาจากร่องของโลกนี้ออกมา เหมือนว่าประกายเหล่านี้คือประกายที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของโลกในยุคดึกดำบรรพ์ที่เพิ่งจะแยกฟ้าดินออกเป็นสองส่วน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...