แม้จะกล่าวว่าในชิงโจวที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตามีระดับจอมเทพอยู่เป็นจำนวนมาก แต่จอมเทพระดับสูงเฉกเช่นจอมเทพท่าซิงมีอยู่ไม่มาก โดยเฉพาะที่มีเลือดโบราณอยู่ในครอบครองยิ่งหาได้ยากยิ่ง
ดังนั้น แคว้นเจ้าลัทธิ และสายสำนักราชันเซียนจำนวนมากหลังจากได้ยินข่าวนี้แล้ว จะมากหรือน้อยก็ต้องใส่ใจอยู่บ้าง
เนื่องจากข่าวการกลับคืนสู่โลกปัจจุบันของจอมเทพท่าซิงสร้างความหวั่นไหวมากเหลือเกิน ตรงกันข้ามกลับลืมเลือนคนอีกผู้หนึ่งไป นั่นก็คือกษัตริย์เทียนหวงนั่นเอง
ภายใต้ข่าวการกลับคืนสู่โลกปัจจุบันของจอมเทพท่าซิง และข่าวการสังหารจอมเทพเสินกง ทำให้ทุกคนลืมนึกถึงกษัตริย์เทียนหวงบุคคลผู้เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์ และถูกสังหารไปในครั้งนี้ด้วย ผู้คนจำนวนมากยังไม่ได้สติกลับมาจากข่าวของจอมเทพท่าซิง
แต่ว่า มีคนผู้หนึ่งกลับไม่สามารถลืมเลือนเรื่องของกษัตริย์เทียนหวงนี้ไปได้ นั่นก็คือบุตรสาวของเขาองค์หญิงเทียนหวงนั่นเอง
ข่าวกษัตริย์เทียนหวงถูกฆ่าได้ส่งตรงถึงหูขององค์หญิงเทียนหวงในเวลาที่เร็วที่สุด สำหรับองค์หญิงเทียนหวงแล้วข่าวนี้ดั่งฟ้าผ่าลงมากลางวันแสกๆ เลยทีเดียว!
“ว่าไงนะ” องค์หญิงเทียนหวงลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยินข่าวนี้ ร้องเสียงดังว่า “เสด็จพ่อถูกสังหารแล้ว!”
องค์หญิงเทียนหวงกุมกำลังทหารนับล้าน กระทั่งช่วยสามีดูแลกิจการงานต่างๆ ภายในตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง เรียกได้ว่าผ่านอุปสรรคมามากและเป็นผู้ที่หนักแน่นคนหนึ่ง แต่ว่า พลันที่ได้ยินว่าบิดาของตนถูกสังหาร นางยังคงควบคุมอารมณ์ของตนเอาไว้ไม่ได้ ร่างของนางสั่นเทาทีหนึ่ง มือทั้งสองประคองโต๊ะเอาไว้ กระตุกทีหนึ่งขาทั้งสองข้างรู้สึกอ่อนแรงจนเกือบจะยืนได้ไม่มั่นคง แต่นางยังคงยืนหยัดร่างกายขึ้นมาได้
“ถูกต้อง ฝ่าบาท ขอให้ส่งกองทัพไปแก้แค้นให้กับพระองค์!” ผู้ที่มาส่งข่าวคือขุนนางเฒ่าที่อยู่ข้างกายกษัตริย์เทียนหวง และเป็นผู้เฒ่าของราชสำนัก เวลานี้เขาได้คุกเข่าโขกศีรษะต่อองค์หญิงเทียนหวง
ข่าวนี้นับว่าสร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อองค์หญิงเทียนหวงเหลือเกิน ก่อนหน้านี้ไม่นาน น้องชายของนางเพิ่งถูกฆ่า เวลานี้ก็เป็นบิดาของนาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อนางมากเหลือเกิน
“เป็นใครกันที่สังหารเสด็จพ่อ!” ท่าทีขององค์หญิงเทียนหวงเย็นยะเยือกกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา
ขุนนางเฒ่ารีบกล่าวว่า “ก็คนโหดที่ชื่อหลี่ชิเย่นั่นแหละ เป็นเขาที่สังหารฝ่าบาท ยังสังหารผู้อาวุโสรุ่นบุกเบิก คนโหดผู้นี้ยังจะสังหารถอนรากถอนโคนแคว้นหงส์ฟ้าของพวกเรา”
“หลี่ชิเย่!” องค์หญิงเทียนหวงถึงกับมีท่าทีเย็นยะเยือกเมื่อได้ยินชื่อๆ นี้
ภาษิตว่าเอาไว้ เลือดข้นกว่าน้ำ ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเป็นครอบครัวกันได้แล้ว เวลานี้ น้องชายกับบิดาถูกฆ่าตายทั้งคู่ สิ่งนี้กล่าวสำหรับนางแล้วใช่เป็นเรื่องง่ายดาย
“เล่ามาให้ข้าฟังอย่างละเอียด” ไม่ง่ายนักกว่าที่องค์หญิงเทียนหวงจะได้สติกลับมาจากการสูญเสียบิดาไป นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เอ่ยขึ้นมาช้าๆ กับขุนนางเฒ่า
“ฝ่าบาท พระองค์ตั้งใจจะอวยพรวันเกิดให้กับจอมเทพท่าซิง ไม่นึกเลยว่าตระกูลเผิงจะสมคบคิดกับหลี่ชิเย่ ทำให้พระองค์ต้องอับอาย พระองค์ไม่สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้ เพื่อเกียรติและศักดิ์ศรีของแคว้นหงส์ฟ้าพวกเรา จึงได้ปะมือกับหลี่ชิเย่…” เวลานี้ ขุนนางเฒ่าได้เล่าเรื่องราวรอบหนึ่งด้วยการต่อเติมเสริมแต่งเรื่องราวเข้าไป
แน่นอนที่สุด สิ่งที่เขาพูดมานั้นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง จากปากของเขาทำให้หลี่ชิเย่กลายเป็นคนร้ายที่ให้อภัยไม่ได้ พูดจาอวดดีไม่มียางอาย ทำให้แคว้นหงส์ฟ้าพวกเขา และตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังต้องเสียเกียรติ ขณะที่กษัตริย์เทียนหวงกลายเป็นผู้ดีที่อ่อนน้อมถ่อมตน ต่อให้เขาพยายามอดกลั้นถึงที่สุด แต่ก็ไม่อาจหลีกหนีการถูกหลี่ชิเย่สังหารจนได้
หลังจากได้ฟังคำจากขุนนางเฒ่าแล้ว องค์หญิงเทียนหวงนิ่งเงียบอยู่เป็นเวลานาน นางกลับไปนั่งอยู่ที่เดิมอย่างช้าๆ แม้ว่าฟังคำจากปากของขุนนางเฒ่าที่มีการต่อเติมเสริมแต่งเรื่องราว และกลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ แต่ว่า เรื่องบางเรื่ององค์หญิงเทียนหวงยังคงสามารถแยกแยะได้ออก อย่างน้อยที่สุดนางเข้าใจได้ว่าต้องเป็นเสด็จพ่อของนางไปแก้แค้นหลี่ชิเย่แน่นอน
เมื่อองค์หญิงเทียนหวงนึกถึงตรงนี้แล้ว ทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดภายในใจ ก่อนบิดาของนางจะไปจาก นางเคยเตือนเสด็จพ่อของนางว่าอย่าได้หุนหันพลันแล่น รอให้สถานการณ์ต่างๆ เรียบร้อยแล้วค่อยไปแก้แค้นให้กับนองชายก็ยังไม่สาย แต่บิดาของนางไม่เชื่อคำเตือนของนาง รีบร้อนไปหาหลี่ชิเย่เพื่อแก้แค้น เวลานี้แม้แต่ชีวิตตัวเองก็ต้องพ่วงเข้าไปด้วยแล้ว
“ฝ่าบาท โปรดส่งกำลังทหารไปแก้แค้นแทนพระองค์ เจ้าคนโหดผู้นี้สังหารรัชทายาทอยู่ก่อน เวลานี้ยังสังหารพระองค์อีก ความจริงคือต้องการทำลายแคว้นหงส์ฟ้าของพวกเรา ขอให้ฝ่าบาทส่งกำลังทหารออกไปสังหารเจ้าคนอัปลักษณ์ผู้นี้เสีย เหยียบตระกูลเผิงให้ราบเป็นหน้ากลอง เพื่อแสดงบารมีของฝ่าบาท!” เวลานี้ขุนนางเฒ่าคุกเข่าอยู่ตรงนั้น โขกศีรษะให้กับองค์หญิงเทียนหวง ร้องห่มร้องไห้ออกมา
องค์หญิงเทียนหวงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง โบกมือเบาๆ กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “เรื่องนี้ข้าย่อมจะตัดสินใจเองได้ คงมีสักวันพวกเสด็จพ่อต้องไม่ตายเปล่าแน่นอน!”
“ฝ่าบาท โปรดส่งกองทัพออกไปเพื่อแก้แค้นให้กับพระองค์ และองค์รัชทายาท ทุกระดับในแคว้นหงส์ฟ้ายินดีตายเพื่อพระองค์!” ขุนนางเฒ่าน้ำตานองหน้า โขกศีรษะต่อองค์หญิงเทียนหวง
ลองคิดดู ตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังที่มีฐานะเป็นหนึ่งสำนักห้าจอมราชันจะมีบุคลากรผู้มีฝีมือจำนวนเท่าไร แต่ องค์หญิงเทียนหวงกลับสามารถนั่งอยู่บนตำแหน่งนี้ได้อย่างมั่นคง สามารถปกครองกองทัพนับล้านของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง กระทั่งจอมเทพบางส่วนก็ยินดีเชื่อฟังคำสั่งขององค์หญิงเทียนหวง เรื่องนี้เป็นเพราะนางคือคู่หมั้นของจินเก๋อเท่านั้นเองหน่ะหรือ?
ถ้าหากอาศัยเพียงเท่านี้หละก็ มันไม่เพียงพออย่างแน่นอน ต่อให้จินเก๋อโปรดปรานนางมากกว่านี้ก็ตาม องค์หญิงเทียนหวงในฐานะบุคคลภายนอกไม่มีสิทธิ์ได้ปกครองและเป็นผู้นำกองทัพนับล้านของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังได้อยู่แล้ว ยิ่งไม่มีสิทธิ์ไปสั่งการระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง!
การที่องค์หญิงเทียนหวงสามารถกุมอำนาจใหญ่เอาไว้ในมือ เรียกได้ว่าเป็นเพราะได้รับการเห็นชอบจากจอมราชันของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง มิฉะนั้นหละก็ เรื่องมอบอำนาจใหญ่ให้กับบุคคลภายนอกเช่นนี้ แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังก็ไม่สามารถตัดสินใจได้
“เรื่องนี้” เมื่อยายเฒ่าได้ยินคำพูดขององค์หญิงเทียนหวงแล้วถึงกับตะลึงนิดหนึ่ง การที่นางสามารถติดตามองค์หญิงเทียนหวงที่แต่งเข้าตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังได้ นางย่อมรู้ถึงความสำคัญของเรื่องต่างๆ ได้
“หรือจะปล่อยให้เรื่องราวผ่านไปอย่างนี้รึ?” ยายเฒ่าย่อมมีความรู้สึกไม่ยินยอมอยู่ จะอย่างไรเสียนางก็มีชาติกำเนิดมาจากแคว้นหงส์ฟ้า เป็นคนของแคว้นหงส์ฟ้า เวลานี้กษัตริย์ของพวกเขาถูกสังหาร ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถกล้ำกลืนความอัปยศนี้เอาไว้ได้
“ข้ารู้ ผู้คนในแคว้นหงส์ฟ้าไม่ว่าใครก็ต้องการแก้แค้นให้กับเสด็จพ่อ แต่ว่าไม่ใช่เวลานี้!” องค์หญิงเทียนหวงกล่าวเสียงทุ้มต่ำออกมาว่า “แม้ว่าข้าจะกุมกำลังกองทัพเอาไว้ในมือ แต่ ไม่คุ้มค่ากับการเคลื่อนกำลังพลแม้แต่คนเดียวเพียงเพื่อบุญคุณความแค้นส่วนตัวของตระกูลข้า ในโลกนี้ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าให้ท่านพี่ของข้าได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งจอมราชันอีกแล้ว การที่ข้าสามารถมีฐานะเช่นนี้ได้ แคว้นหงส์ฟ้าสามารถมีเกียรติเช่นทุกวันนี้ นั่นเป็นเพราะอะไร…”
องค์หญิงเทียนหวงจ้องมองยายเฒ่า แล้วกล่าวเสียงทุ้มต่ำออกมาว่า “…ทุกอย่างเป็นเพราะท่านพี่ของข้าสามารถเป็นจอมราชันได้ ทุกคนต่างเชื่อมั่นในตัวของเขา ดังนั้น ทรัพยากรจำนวนมหาศาลล้วนแล้วแต่ทุ่มลงไปบนตัวของเขา บรรดาเหล่าสวรรค์และเทพในสิบสามทวีปก็ต้องประเมินเขาในระดับสูง และให้เกียรติแก่เขา เวลานี้แคว้นหงส์ฟ้ามีฐานะที่ในอดีตไม่เคยมีมาก่อน นั่นเป็นเพราะอะไร? เช่นเดียวกัน เป็นเพราะท่านพี่ของข้าสามารถเป็นจอมราชันได้…”
“…ถ้าหากท่านพี่ของข้าไม่สามารถเป็นจอมราชันได้ ถ้าหากเขาเป็นเพียงศิษย์ธรรมดาคนหนึ่งของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง เจ้าคิดว่าข้าสามารถมีอำนาจอยู่ในมือรึ? เจ้าคิดว่าแคว้นหงส์ฟ้าของพวกเรายังจะมีฐานะเช่นทุกวันนี้รึ? ยังสามารถมีเกียรติยศดั่งทุกวันนี้รึ? เกียรติยศที่ตระกูลพวกเราได้รับมา อำนาจที่ได้มา ล้วนแล้วแต่ตั้งอยู่บนพื้นฐานท่านพี่ข้าได้เป็นจอมราชัน…” เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว ท่าที่ขององค์หญิงเทียนหวงดูหนักแน่นและเคร่งขรึมจริงจัง
“…ถ้าหากไม่สามารถเป็นจอมราชันได้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นเพียงดอกไม้ในคันฉ่อง จันทราในน้ำเท่านั้นเอง! ดังนั้น ในขณะนี้ไม่มีสิ่งใดสำคัญมากไปกว่าการให้ท่านพี่ของข้าได้ขึ้นเป็นจอมราชัน หากเขาไม่ได้ขึ้นเป็นจอมราชันทุกอย่างก็จะไม่คงอยู่อีกต่อไป…” ครั้นกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว องค์หญิงเทียนหวงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “นี่แหละคือเหตุผลว่าเพราะอะไรขณะเสด็จพ่อมาขอความช่วยเหลือ ข้าจึงไม่ได้ส่งกองทัพออกไป!”
“สิ่งนี้ใช่ว่าข้าเป็นคนใจหิน ข้าไม่ได้ต้องการเห็นบิดาและน้องชายถูกคนอื่นสังหารแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย!” เวลานี้ องค์หญิงเทียนหวงกล่าวต่อยายเฒ่าอย่างจริงจังว่า “ถ้าหากข้าเอากำลังทหารไปสิ้นเปลืองกับบุญคุณความแค้นส่วนตัว หากสามีของข้าไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งจอมราชัน เมื่อเป็นเช่นนั้นข้าก็คือคนบาป! ข้าไม่เพียงเป็นคนบาปของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง ยังเป็นคนบาปของแคว้นหงส์ฟ้าอีกด้วย! ปราศจากตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังเป็นสิ่งพึ่งพิง แคว้นหงส์ฟ้าของพวกเราจะแข็งแกร่งได้สักเพียงใดเชียว? ปราศจากลูกเขยที่อยู่ในฐานะจอมราชันคอยคุ้มครอง พวกเราสามารถแข็งแกร่งมากไปกว่าที่เป็นอยู่รึ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...