องค์หญิงเทียนหวงทอดถอนใจออกมาเบาๆ ขณะจ้องมองยายเฒ่า และกล่าวว่า “ลุกขึ้นเถอะ ท่านติดตามข้ามานาน คิดอยากจะล้างแค้นให้กับเสด็จพ่อของข้าก็เป็นเรื่องปรกติ”
ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว องค์หญิงเทียนหวงมองออกไปด้านนอกแล้วถึงกับสั่นเทิ้มทีหนึ่ง ท่าทีดูจะจนด้วยเกล้าอยู่บ้าง กล่าวว่า “ข้าแค้นใจนักที่ไม่สามารถแก้แค้นให้กับเสด็จพ่อและน้องชายที่ตายไป!”
“ขอเพียงท่านเขยสามารถกลายเป็นจอมราชัน ทุกอย่างก็จะแก้ไขได้ทันที” ยายเฒ่าเอ่ยขึ้นเบาๆ
“ก็คงทำได้เท่านี้ หากท่านพี่ไม่สามารถกลายเป็นจอมราชันได้ ทุกอย่างก็เหนื่อยเปล่า ชื่อเสียงลาภยศ อำนาจล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเมฆหมอกที่จางหายไป หากถึงวันนั้นจริงๆ เกรงว่าแคว้นหงส์ฟ้าก็ต้องได้รับเคราะห์กรรมตามไปด้วย” องค์หญิงเทียนหวงจ้องมองยายเฒ่าด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจัง
คำพูดขององค์หญิงเทียนหวงทำให้ยายเฒ่าหนาวสะท้านในใจ ก่อนหน้านั้นนางถูกความแค้นบังตา หลังจากได้ฟังคำขององค์หญิงเทียนหวงแล้ว เหมือนได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง เหมือนดั่งที่องค์หญิงเทียนหวงได้พูดเอาไว้อย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นพวกนาง หรือเป็นแคว้นหงส์ฟ้าของพวกเขา ฐานะของพวกเขาได้รับการยกระดับสูงขึ้นมากหลังจากการเกี่ยวดองสมรสกับตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง มิฉะนั้นล่ะก็ อาศัยแคว้นหงส์ฟ้าที่เป็นหนึ่งสำนักหนึ่งเซียนหวังของพวกเขา ย่อมยากที่จะพูดคุยกับหนึ่งสำนักสองราชัน หรือหนึ่งสำนักสามราชันได้อยู่แล้ว
แต่ อำนาจ ฐานะ เกียรติยศทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการต่อสู้ด้วยตัวของพวกเขาเอง แต่เป็นการสร้างอยู่บนตัวของจินเก๋อ ถ้าหากจินเก๋อไม่สามารถเป็นจอมราชันได้ เมื่อถึงวันนั้น เกรงว่าแคว้นหงส์ฟ้าของพวกเขาจะต้องได้รับผลกระทบ กระทั่งอาจเป็นไปได้ว่าจะได้รับการคิดบัญชีจากภายในของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังเอง!
“ท่านเขยจะต้องเป็นจอมราชันให้ได้” ยายเฒ่าก็เข้าใจถึงความสำคัญของเรื่องนี้ นาทีนี้นางเองก็มองทะลุปรุโปร่ง การเป็นจอมราชันของจินเก๋อสำคัญยิ่งกว่าการแก้แค้น มิฉะนั้นล่ะก็ช้าหรือเร็วพวกเขาก็ต้องถูกเฉดหัวออกจากสำนักแน่!
“ถูกต้อง” ท่าทีขององค์หญิงเทียนหวงดูหนักแน่นจริงจัง กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “การสืบทอดชะตาฟ้าของท่านพี่ในครั้งนี้ จะไม่อนุญาตให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาอย่างเด็ดขาด ไม่เพียงแต่ข้าไม่ยอม ตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังเองก็ไม่ยอมเช่นกัน กำลังที่อยู่ในมือของข้า เว้นแต่ทำเพื่อการสืบทอดชะตาฟ้าของท่านพี่แล้ว จะไม่มีการใช้กำลังทหารแม้แต่คนเดียวกับเรื่องอื่นๆ อย่างเด็ดขาด
การตัดสินใจขององค์หญิงเทียนหวงมีความเด็ดขาดมาก ต่อให้เทียบน้ำหนักระหว่างแค้นที่ฆ่าบิดาแล้ว นางก็จะถือเอาการขึ้นดำรงตำแหน่งจอมราชันของจินเก๋อเป็นอันดับหนึ่ง!
“ข้าจะให้การสนับสนุนฝ่าบาทอย่างเต็มที่” ยายเฒ่ารีบกล่าวขึ้น
องค์หญิงเทียนหวงพยักหน้า และกล่าวว่า “แม่นม ท่านเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีฐานะและคำพูดของท่านมีน้ำหนักในราชสำนัก ดังนั้น เวลานี้ข้าต้องการให้ท่านกลับไปที่แคว้นหงส์ฟ้าไปควบคุมสถานการณ์ กษัตริย์เพิ่งจะสวรรคต ราชสำนักจะต้องลงความเห็นแก้แค้นให้กับเสด็จพ่อ ดังนั้น ข้าต้องการให้แม่นมควบคุมสถานการณ์เช่นนี้เอาไว้ ข้าไม่ต้องการให้พวกเขาก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมามากมายก่อนที่ท่านพี่จะได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งจอมราชัน!
“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะต้องช่วยองค์หญิงกวาดล้างสิ่งกีดขวางให้สิ้น” ยายเฒ่ากล่าวหนักแน่น
“กลับไปเตือนบรรดาอ๋อง และน้องๆ ทั้งหลาย ห้ามพวกเขาเคลื่อนกำลังทหารโดยพลการ หากไม่ได้รับการอนุญาตจากข้าแล้วใครก็ห้ามไปหาเรื่องหลี่ชิเย่ ยิ่งไม่อนุญาตไปแก้แค้นตระกูลเผิง!”
องค์หญิงเทียนหวงกล่าวด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจังว่า “การที่หลี่ชิเย่กล้าทำอำนาจบาตรใหญ่ในเขตฉีหลิน ทั้งที่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร แต่ยังคงกล้าสังหารเสด็จพ่อและน้องชาย เป็นการบ่งบอกว่าเขามีความมั่นใจอย่างเพียงพอ! ใครไปแหย่เขาอีกเท่ากับเป็นการสร้างปัญหาให้กับข้า! ยังมี ห้ามใครไปที่บ้านตระกูลเผิงทั้งนั้น! จอมเทพท่าซิงกลับคืนสู่โลกปัจจุบันแล้ว ใครไปก็เท่ากับไปรนหาที่ตาย อีกอย่าง จอมเทพท่าซิงสร้างผลงานคุณูปการให้กับร้อยชาติพันธุ์เป็นอันมาก เขามีผลกระทบสูงมากในร้อยชาติพันธุ์…”
“…ตระกูลขุนนางโบราณเทียนหวงก็เป็นส่วนหนึ่งของร้อยชาติพันธุ์ แม้ว่าจะใกล้ชิดกับเผ่าสวรรค์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะต้องยืนอยู่ในฐานะเป็นปฏิปักษ์กับร้อยชาติพันธุ์! เวลานี้ จอมเทพท่าซิงดูแลตระกูลเผิง ใครไปหาเรื่องตระกูลเผิงก็คือเป็นศัตรูกับร้อยชาติพันธุ์! ดังนั้น ในราชสำนักใครผู้ใดกล้าไปหาเรื่องตระกูลเผิงก็อย่าหาว่าข้าไม่เห็นแก่หน้า ถึงเวลานั้นไม่จำเป็นต้องรอให้จอมเทพท่าซิงสังหารเขา ข้านี่แหละจะเป็นผู้สังหารเขาด้วยมือของข้าเอง!”
เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว องค์หญิงเทียนหวงมีทีท่าที่หนักแน่นจริงจังเหมือนเป็นการสั่งการอย่างเด็ดขาดแล้ว ทั้งที่ดูจะเป็นการพูดไปตามอารมณ์เท่านั้นเอง
“ข้าจะปฏิบัติตามรับสั่งของฝ่าบาท เจ้าสารเลวน้อยตัวไหนกล้าเพิกเฉยต่อคำสั่งของฝ่าบาท ข้าก็จัดการเด็ดหัวของเขาออกมา” ยายเฒ่าติดตามองค์หญิงเทียนหวงมานาน รู้ว่าคำสั่งเด็ดขาดขององค์หญิงเทียนหวงหมายถึงสิ่งใด หากใครกล้าฝ่าฝืน ไม่ว่าจะเป็นใครนางก็ไม่เห็นแก่หน้าทั้งนั้น
“ไปเถอะ ข้าหวังว่าแคว้นหงส์ฟ้าสามารถสงบสุขปราศจากเรื่องราวใดๆ เกิดขึ้น อย่าได้หาเรื่องให้กับข้าอีก! ก่อนที่ท่านพี่จะได้เป็นจอมราชัน ใครก่อเรื่องก่อราวขึ้นมาล่ะก็ อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมไร้ความปราณี! ขณะเดียวกันช่วยเตือนทุกคนในราชสำนัก อย่านึกว่าจะอาศัยตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังมาคอยหนุนหลัง แล้วสามารถออกไปทำเป็นจิ้งจอกที่แอบอ้างบารมีเสือ ใช้อำนาจบาตรใหญ่! ถ้าหากให้ข่าวนี้เข้าหูข้าล่ะก็ ข้าจะสังหารเขากับมือของข้าเอง!” ท่าทีขององค์หญิงเทียนหวงในเวลานี้เย็นยะเยือก
ความจริงแล้ว องค์หญิงเทียนหวงล่วงรู้พฤติกรรมของบิดาและน้องชายของตนที่ไปก่อเอาไว้ข้างนอกอย่างชัดเจน นางเข้าใจเป็นอย่างดีที่น้องชายและบิดาของตนอาศัยการเกี่ยวดองสมรสกับตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง แล้วไปวางอำนาจบาตรใหญ่ ทำตัวเป็นจิ้งจอกที่แอบอ้างบารมีเสือ เพียงแต่คนหนึ่งคือน้องชายที่นางรักแบบลุ่มหลงมาตั้งแต่เด็ก อีกคนเป็นบิดาของตน องค์หญิงเทียนหวงไม่สามารถลงโทษพวกเขาเท่านั้นเอง
เวลานี้กลับแตกต่างกันแล้ว ในขณะนี้องค์หญิงเทียนหวง สามารถทำได้เต็มที่ ทำให้นางสามารถสั่งการด้วยคำสั่งเด็ดขาดเพื่อบรรลุตามปณิธานของตนได้แล้ว!
ตระกูลเผิงนั้นคึกครื้นอย่างยิ่งในขณะนี้ กระทั่งเรียกได้ว่าเดือดพล่านขึ้นมาในทันทีก็ว่าได้ ในเวลานี้ ตระกูลเผิงใช่เพียงแค่ประดับโคมไฟเท่านั้น พูดอย่างไม่เกินเลยได้ว่า ตระกูลเผิงในเวลานี้มีการแต่งเนื้อแต่งตัวกันใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นด้านนอกหรือด้านในก็มีการตกแต่งใหม่ ขณะเดียวกันทุกระดับชั้นในตระกลูเผิงต่างยิ้มแย้มแจ่มใส
วันนี้คือวันมงคลวันฉลองวันเกิดของจอมเทพท่าซิง เดิมงานฉลองดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ขณะนี้ตระกูลเผิงได้จัดให้มีงานเลี้ยงขึ้นมาให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทั่วหล้าขึ้นอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...