บนเรือนิรันดรมีเวทีชมวิว นั่งอยู่ข้างกาบเรือบนเวทีชมวิว ดื่มสุรา และอาหารเลิศรส มองดูคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้ามากระทบกับตัวเรือ รับลมทะเลที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแดนแห่งการสืบค้น นับเป็นเรื่องที่สบายใจยิ่งนัก
ในขณะนี้ หลี่ชิเย่และธิดาราชันฉีหลินนั่งอยู่ที่เวทีชมวิวสำหรับแขกผู้มีเกียรติ มองดูทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแดนแห่งการสืบค้น ดื่มกินอาหารและสุราเลิศรสที่ทางเรือนิรันดรจัดให้ รับลมทะเลที่โชยเข้ามา มีความสุขยิ่งนัก
หลี่ชิเย่ถึงกับทอดถอนใจออกมาด้วยความหดหู่กับลมทะเลที่คุ้นเคย กาลเวลาเคลื่อนผ่านไปเรื่อยๆ แต่ทว่า ไม่ว่าสังคมโลกจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นใด แดนแห่งการสืบค้นยังคงอยู่ที่ตรงนี้
ธิดาราชันฉีหลินขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดหญิงงามแห่งยุค ในชิงโจวต่อให้นางไม่ใช่สาวงามอันดับหนึ่งก็ต้องอยู่อันดับหนึ่งในสาม เฉกเช่นนางที่เป็นสาวงามแห่งยุคทั้งยังมีชื่อเสียงโด่งดัง ดังนั้นจึงมีผู้คนจำนวนมากที่จดจำนางได้
การมีสาวงามอย่างธิดาราชันฉีหลินอยู่เคียงข้าง ช่างเป็นเรื่องที่สร้างความอิจฉาให้กับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากยิ่งนัก
เนื่องเพราะสาเหตุนี้เอง เวลานี้สายตาจำนวนมากต่างพุ่งเป้าไปที่หลี่ชิเย่ พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆ เพราะเหตุใดผู้ชายตรงหน้าที่ดูธรรมดาเช่นนี้จึงได้รับการโปรดปรานจากธิดาราชันฉีหลินถึงเพียงนี้ ท่าทางดูอ่อนโยนและเชื่อฟังปฏิบัติตามทุกอย่าง สร้างไฟแห่งริษยาขึ้นภายในใจของผู้ชายไม่รู้จำนวนเท่าไร
ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีสายตาจำนวนมากกว่าที่จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธเคือง ไม้รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องการจับหลี่ชิเย่มาฉีกให้เป็นชิ้นๆ
“เปรี้ยง เปรี้ยง…” ในเวลานี้เอง ปรากฏฟ้าที่แลบผ่านท้องฟ้าไปเป็นระลอก ส่งเสียงดังขึ้นมาเป็นระลอก
“ต่างคนต่างประจำตำแหน่งของตน เรือกำลังจะแล่นผ่านเขตฟ้าแลบแล้ว…” เวลานี้ เรือนิรันดรปรากฎกัปตันเรือร้องเสียงดังออกมา
“ตูม ตูม ตูม…” ทันใดนั้น เรือนิรันดรได้แล่นผ่านเข้าไปยังทะเลที่เต็มไปด้วยฟ้าที่ผ่าลงมา ที่ตรงนี้ยังคงมองเห็นประกายที่ระยิบระยับ แต่ประกายที่ระยิบระยับไม่ใชประกายที่เหมือนเช่นกาลเวลา แต่เป็นประกายที่มาจากฟ้าแลบ
มองเห็นฟ้าแลบแต่ละสายที่มีขนาดใหญ่มากวิ่งอยู่ใต้ทะเล สายฟ้าแลบแต่ละสายที่วิ่งอยู่ท่ามกลางทะเลมองดูไปแล้วคล้ายเป็นมังกรขนาดยักษ์แต่ละตัวอย่างนั้น
“เปรียะ เปรียะ…” เสียงฟ้าแลบดังขึ้น เมื่อเรือนิรันดรบุกฝ่าเข้าไปในทะเลบริเวณนั้น พลันปรากฏคลื่นยักษ์สูงเป็นหมื่นจ้าง แต่คลื่นยักษ์ที่ว่าไม่ใช่น้ำทะเล มันคือสายฟ้าแลบจำนวนนับไม่ถ้วน ฉับพลันนั้น สายฟ้าแลบเหล่านี้เสมือนหนึ่งเป็นดอกไม้ไฟที่ระเบิดออกมา และมีสายฟ้าแลบจำนวนมากที่พุ่งเข้าหาเรือนิรันดร
“แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์…” จังหวะที่สายฟ้าแลบจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาเรือนิรันดรนั้น ปรากฏกำแพงทองแดงผนังเหล็กลอยขึ้นมาทุกด้าน เป็นการสร้างค่ายกลขนาดใหญ่ที่ปราศจากผู้ต่อกรขึ้นมา
ได้ยินเสียง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ดั้งขึ้น เมื่อสุดยอดค่ายกลขนาดใหญ่ปรากฏ มันได้ทำการล่อให้สายฟ้าทั้งหมดเข้าไปอยู่ภายในค่ายกลขนาดยักษ์ มองเห็นสายฟ้าแลบกลับกลายเป็นม่านไฟฟ้าขนาดยักษ์ จากการชักนำของค่ายกลขนาดยักษ์ ในที่สุดสายฟ้าทั้งหมดได้ถูกนำเข้าไปอยู่ในขวดที่มีความประณีตงดงามและโปร่งใสใบหนึ่ง
ขวดใบนี้ผ่านการหลอมกลั่นโดยผู้ที่ยอดเยี่ยมยากจะหาผู้ใดเทียมในหล้า หลังจากที่สายฟ้าทั้งหมดถูกล่อให้เข้าไปอยู่ในขวดทั้งหมดแล้ว ได้ยินเสียงดัง “ปุ” ภายในระเวลาอันสั้น สายฟ้าทั้งหมดถูกกลั่นให้กลายเป็นสายฟ้าเหลวหยดลงไปในขวดดังกล่าว
“เปรียะ เปรียะ…” เสียงฟ้าแลบดังขึ้น เรือนิรันดรบุกฝ่าเข้าไปในเขตฟ้าผ่าท่ามกลางเสียงดังตูมตาม พลันปรากฏคลื่นสายฟ้าขนาดยักษ์ มองดูสายฟ้าแลบที่เสมือนหนึ่งเป็นดอกไม้ไฟที่เบ่งบาน และท้ายที่สุดถูกกลั่นเป็นสายฟ้าเหลวและถูกเก็บไว้ในขวด
ในเวลานี้ ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่เพิ่งจะได้โดยสารเรือนิรันดรเป็นครั้งแรกต่างก็ตกใจจนตะลึงอยู่ตรงนั้น พวกเขามองดูภาพที่อลังการเช่นนี้จนเคลิบเคลิ้ม
แน่นอนที่สุด ทุกคนต่างรู้สึกวางใจเมื่อได้เห็นกำลังที่แข็งแกร่งดุดันของเรือนิรันดรแล้ว ในเมื่อแล่นอยู่ท่ามกลางเขตฟ้าผ่าก็ยังคงปลอดภัย คงไม่ต้องกังวลว่าเรือนิรันดรจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้ว
การนั่งดื่มสุราเลิศรสท่ามกลางม่านราตรีที่มีสายฟ้าเบ่งบาน รับกับลมทะเลที่พัดโชยเข้ามา บอกได้เลยว่าเป็นความโรแมนติกที่บอกไม่ถูกจริงๆ
หลี่ชิเย่ถึงกับพยักหน้าและเอ่ยชม เมื่อมองเห็นเรือนิรันดรนำเอาสายฟ้ามากลั่นให้เป็นสายฟ้าเหลว “นับว่าเป็นเรือที่ดีลำหนึ่ง มีเพียงจอมราชันเซียนหวังจึงสามารถสร้างขึ้นมาได้ กัปตันเรือลำนี้นับว่าสายตากว้างไกล ถึงกับแล่นผ่านเขตฟ้าผ่านี้เป็นการเฉพาะ ไม่เพียงทำให้ระยะทางสั้นลง ขณะเดียวกันก็สามารถเก็บรวบรวมสายฟ้าเหลวทำกำไรได้อีก”
“ได้ยินว่าเรือลำนี้มีประวัติความเป็นมาไม่เบาเลย ลงมือสร้างขึ้นโดยจอมราชันเซียนหวังหลายคนด้วยกัน พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าของเรือที่อยู่เบื้องหลัง” ธิดาราชันฉีหลินมองดูภาพที่อลังการเช่นนี้แล้วถึงกับพูดออกมาว่า “ไม่รู้ว่าเจ้าของผู้อยู่เบื้องหลังคือจอมราชันเซียนหวังองค์ไหนกันบ้างนะ”
เรือนิรันดรในฐานะเรืออันดับหนึ่งที่แล่นไปมาในแดนแห่งการสืบค้น จอมราชันเซียนหวังที่อยู่เบื้องหลังมีความแข็งแกร่งจริง ไม่เพียงไม่มีใครกล้าคิดร้ายต่อมัน อีกทั้งยังเป็นเรือที่แล่นไปมาในแดนแห่งการสืบค้นที่ปลอดภัยมากที่สุด
หลี่ชิเย่ยิ้มจางๆ จากฝีมือการสร้างเขาย่อมดูออกว่ามาจากฝีมือของจอมราชันเซียนหวัง คนไหนบ้าง
เป็นความจริงที่เรืออย่างเรือนิรันดรสร้างความหวั่นไหวให้กับผู้คนได้จริงๆ เรือแตรสังข์ของเขาก็นับว่าแข็งแกร่งพอแล้ว และมีขนาดยักษ์มากพอ แต่เมื่อเทียบกับเรือนิรันดรลำนี้ที่อยู่ตรงหน้าแล้วยังห่างชั้นอีก
ขณะที่หลี่ชิเย่กับธิดาราชันฉีหลินกำลังสบายอกสบายใจกับการชื่นชมภาพสวยงามที่อยู่ตรงหน้า จังหวะนี้เองชายหนุ่มที่ท่าทีดูอิ่มเอิบมีชีวิตชีวาสง่าผ่าเผยเดินเข้ามาหา
ชายหนุ่มผู้นี้อกผายไหล่ผึ่ง มีท่าทีของความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ พลังขมุกขมัวที่แผ่ออกมาจากตัวของเขา ดูจากท่วงท่าของเขาแล้วก็รู้ได้ว่าทรงพลังยิ่งนัก พลันที่มองเห็นก็รู้ได้ว่าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งอีกทั้งยังเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับสวรรค์สัจธรรม
ความจริงแล้ว ชายหนุ่มผู้นี้จ้องมองหลี่ชิเย่มานานมากแล้ว เพียงแต่เมื่อเห็นหลี่ชิเย่กับธิดาราชันฉีหลินพูดไปหัวเราะกันไปท่าทีเหมือนสนิทสนมมาก เขาจึงอดกลั้นไม่ไหวต้องเดินเข้ามาหา
หลังจากที่ชายหนุ่มผู้นี้ได้เดินเข้ามาแล้ว เขาโค้งคำนับให้กับธิดาราชันฉีหลินอย่างงาม ท่าทีดูให้ความเคารพยิ่งนัก และกล่าวว่า “ฝ่าบาท ไม่ได้พบกันนานมากแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...