“แว้งค์…” ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ซั่งกวานถูพลันก้าวเท้าออกไป ความเร็วของเขานั้นไวมาก เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ก้าวจากยอดเขาไปถึงด้านหน้าของศิลาจารึก
ภายใต้ก้าวเพียงก้าวเดียว ซั่งกวานถูได้ทำลายช่วงห่างของช่องว่าง แม้ว่าพริบตาเดียวขณะที่เขาก้าวเท้าออกไปแล้วพลังของช่องว่างจะปรากฎขึ้น แต่ในฐานะที่เป็นระดับจอมเทพ เขากลับทำลายการพันธนาการของพลังจากช่องว่างนั่น เพียงก้าวเดียวก็ไปยืนอยู่ตรงด้านหน้าศิลาจารึกในทันที
การที่ซั่งกวานถูก้าวเท้าออกไปเพียงก้าวเดียวก็สามารถไปยืนอยู่ด้านหน้าของศิลาจารึกได้แล้ว ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยตกใจจนพูดไม่ออก ต่อให้เป็นยอดฝีมือที่เป็นรุ่นเดียวกันกับซั่งกวานถูยังต้องทอดถอนใจยอมรับ จอมเทพย่อมเป็นจอมเทพ มีกำลังความสามารถซึ่งยากที่พวกเขาจะเทียบเทียมได้
“จี๊ด…” จังหวะที่ซั่งกวานถูก้าวเท้าก้าวเดียวถึงด้านหน้าศิลาจารึกนั้น พลันปรากฏแรงดูดที่น่ากลัวขึ้นมา พริบตาเดียวนั่นเองลมปราณพุ่งออกดั่งพายุเป็นสายๆ โดยแรงดูดที่น่ากลัวดังกล่าวต้องการดูดพลังลมปราณของซั่งกวานถูทั้งหมด
“พลังกลืนกินมาแล้ว…” มีผู้บำเพ็ญตนถึงกับร้องออกมาด้วยความกังวล เมื่อเห็นเลือดสดๆ ของซั่งกวานถูพุ่งออกมาเป็นสายในฉับพลัน
“ฮึ…” ในเวลานี้ ซั่งกวานถูส่งเสียงฮึออกมาอย่างน่าเกรงขาม ได้ยินเสียง “ปัง” ดังขึ้น พริบตาเดียวนี้เอง ลมปราณของซั่งกวานถูพลันถูกเก็บออมเอาไว้ภายในร่างกาย เสมือนหนึ่งเขาได้สูญเสียพลังลมปราณไปทั้งหมดอย่างนั้น ในเสี้ยววินาทีนั่นเอง ลมปราณทั่วทั้งร่างของเขาเหมือนพังทลายลง เลือดแก่นทั้งหมดของเขาถูกบีบอัดเข้าไปเก็บไว้ภายในร่างกาย
ได้ยินเสียง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ดังขึ้น จากการที่พลังลมปราณของซั่งกวานถูพังทลายลงภายในร่างกาย ทำให้เดิมเลือดสดๆ ของซั่งกวานถูที่ถูกดูดออกไปก่อนหน้าพลันถูกเขาดูดกลับเข้ามาใหม่ เลือดแก่นเป็นสายๆ ถูกดูดกลับเข้าร่างของเขาอีกครั้งหนึ่ง
ภาพนี้ดูไปแล้วไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง แต่ ซั่งกวานถูกลับทำได้สำเร็จ ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยตกใจจนพูดไม่ออก
“จอมเทพย่อมเป็นจอมเทพ ต่อให้เป็นจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์เพียงดวงเดียวก็ตามก็ยังคงยอดเยี่ยมมาก” ครั้นมองเห็นซั่งกวานถูถึงกับตรึงลมปราณของตนเอาไว้ได้ ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยตกใจเป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันก็ยอมรับนับถือและอิจฉา สิ่งนี้ก็คือช่วงห่างระหว่างจอมเทพกับยอดฝีมือ ช่วงห่างลักษณะเช่นนี้เสมือนหนึ่งเป็นคลองที่ไม่สามรถก้าวข้ามไปได้
“เก็บคืน…” หลังจากที่ซั่งกวานถูทำให้ลมปราณของตนอยู่ในสภาพมั่นคงแล้วไม่กล้าจะรั้งอยู่นาน แม้ว่าเขายังไม่ชัดเจนว่าแท่นบูชาโบราณคืออะไร แต่เขาในฐานะจอมเทพ ลางสังหรณ์บอกเขาว่า สถานที่แห่งนี้อันตรายมากอย่างแน่นอน
ทันใดนั้น ซั่งกวานถูสำแดงอภินิหารด้วยการใช้ฝ่ามือบังฟ้า และยื่นมือคว้าไปยังแผ่นศิลาจารึกขนาดยักษ์ หวังจะถอนมันขึ้นมาดื้อๆ แล้วนำติดตัวไป
แต่ทว่า เมื่อซั่งกวานถูคว้าแผ่นศิลาจารึกขนาดยักษ์อยู่ในมือนั้น ปรากฎว่าศิลาจารึกกลับไม่ขยับ เสมือนว่ารากงอกอย่างนั้น ซึ่งไม่สามารถถอนมันขึ้นมาได้
“เปิด…” ซั่งกวานถูไม่เชื่อว่าจะชั่วร้ายปานนั้น ร้องเสียงดังออกมา “ตูม” เสียงดังสนั่น ทันใดนั้น ลมปราณของซั่งกวานถูได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตราสัญลักษณ์ปรากฏ มองเห็นสัจธรรมที่น่าเกรงขามสายนั้นที่เสมือนหนึ่งงูหลามศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดครองพื้นที่อยู่ตรงนั้น จังหวะที่แลบลิ้นเข้าออกสามารถกลืนกินพลังของฟ้าดินทุกสารทิศมาเป็นของของตน
“ตูม ตูม ตูม…” ท่ามกลางเสียงที่ดังตูมตามเป็นระลอก พลังลมปราณของซั่งกวานถูเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขากลับกลายเป็นสูงใหญ่ยิ่งนัก สูงกว่าศิลาจารึกที่อยู่ตรงหน้าเสียอีก ในขณะนี้ เขาเหมือนเป็นยักษ์ตนหนึ่งที่อาศัยมือทั้งสองเกาะศิลาจารึกเอาไว้แน่น
“ตูม…” ในเวลานี้ จากการที่ซั่งกวานถูออกแรงเพื่อถอนมันขึ้นมา ปรากฎว่าแผ่นศิลาจารึกขนาดยักษ์สั่นไหวทีหนึ่ง
“จะทำสำเร็จแล้วรึ?” ดวงตาของทุกคนถึงกับเบิกกว้างเมื่อเห็นศิลาจารึกสั่นไหวทีหนึ่ง และจ้องมองไปยังซั่งกวานถูที่มีร่างกายสูงใหญ่ยิ่งนัก
ในเวลานี้ ร่างกายของซั่งกวานถูมีขนาดที่ใหญ่มาก ขณะที่สองมือของเขาจับศิลาจารึกเอาไว้เสียแน่น ต่อให้ศิลาจารึกที่สูงทะลุเมฆาเมื่ออยู่ในมือของเขาแล้วก็เสมือนหนึ่งเป็นต้นหญ้าต้นหนึ่งเท่านั้น ในเวลานี้เอง ทุกคนต่างรู้สึกว่าซั่งกวานถูที่มีท่าทีเหมือนดั่งยักษ์ตนหนึ่ง การที่จะถอนเอาศิลาจารึกแผ่นนี้ขึ้นมาคงไม่เป็นปัญหา
“ขึ้น…” ในเวลานี้ซั่งกวานถูได้คำรามเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ดวงตราสัญลักษณ์ของเขาได้กลับกลายเป็นเจิดจรัสยิ่งนัก ปะทุอานุภาพจอมเทพขึ้นมา เขาก็คือเทพขนาดยักษ์ที่มีฐานะสูงเด่น มีพลังที่ไร้ขีดจำกัด ถ้าหากพื้นดินมีห่วงสำหรับยึดจับ เขากระทั่งสามารถพลิกเอาพื้นดินขึ้นมาได้
“ตูม ตูม ตูม” จังหวะที่ซั่งกวานถูออกแรงดึงนั้น แผ่นศิลาจารึกขนาดยักษ์ถึงกับสั่นไหวไปหลายที
“ดูท่าซั่งกวานถูจะทำให้สำเร็จจริงๆ แล้ว! เมื่อจอมเทพลงมือ มันไม่ธรรมดาจริงๆ เกรงว่าศิลาจารึกคงต้องตกไปอยู่ในมือของเขาแล้วหละ” ยอดฝีมือที่อยู่ในรุ่นเดียวกันกับกับซั่งกวานถูถึงกับกล่าวด้วยความอิจฉา เมื่อมองเห็นภาพนี้เข้า
“แว้งค์…” ขณะที่ทุกคนต่างคิดว่าซั่งกวานถูต้องสามารถถอนศิลาจารึกขึ้นมาและนำติดตัวไปได้ ทันใดนั้น ตัวอักขระยันต์ที่เป็นสีทองหม่นๆ พลันสว่างขึ้นมาทีหนึ่ง
จังหวะที่ตัวอักขระยันต์สีทองหม่นๆ สว่างขึ้นมา ได้ยินเสียงดัง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” มองเห็นประกายสีทองเป็นสายเหมือนยิงทะลุผ่านอะไรไปโดยพลัน จากนั้นตามมาด้วยเสียง “ตูม” ดังสนั่น ลมปราณทั้งหมดของซั่งกวานถูเหมือนน้ำในเขื่อนที่พังและทะลักออกมา ลมปราณทั้งหมดวิ่งพรวดออกไปอย่างรวดเร็ว
“ตูม ตูม ตูม…” ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ลมปราณในตัวของซั่งกวานถูเหมือนน้ำหลากที่เกิดจากเขื่อนพังวิ่งฮ่อออกมา ท่ามกลางเสียงดังตูมตามนั้น ลมปราณทั้งหมดไม่อยู่ในความควบคุมของซั่งกวานถูอีกต่อไป ทั้งหมดพุ่งไปยังศิลาจารึกจนสิ้น
“ไม่…” สีหน้าของซั่งกวานถูเปลี่ยนไปมากและหวาดผวายิ่งนัก คำรามเสียงยาวออกมา ดวงตราสัญลักษณ์ของเขาได้ทุบลงมาอย่างแรง พริบตาเดียวกันนี้เขาแลกด้วยชีวิตแล้ว หวังจะอาศัยดวงตราสัญลักษณ์ทุบให้ศิลาจารึกแตกออก เพื่อสกัดกั้นเลือดแก่นของตนที่วิ่งกรูกันออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...