ฝ่ามือเดียวทำลายโลก ฝ่ามือคู่สะบั้นนิรันดร์ ขณะที่อู่ฟ่งหยิ่งโจมตีพร้อมกันด้วยฝ่ามือทั้งสอง ฟ้าดินสั่นเทา คู่ฝ่ามือที่โจมตีลงมานั้น เบื้องบนสามารถทำลายฟ้า เบื้องล่างทำลายผืนแผ่นดิน
จอมมารดึกดำบรรพ์ผู้กำแหงคือเคล็ดวิชาที่สยองและดึกดำบรรพ์ยิ่ง เป็นสุดยอดเคล็ดวิชาของยุคสมัยนั้น เมื่อมีการสำแดงเคล็ดวิชานี้ออกมา ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังก็ต้องสลด
ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่ได้ล่าถอยไปไกลถึงเส้นขอบฟ้าล้วนแล้วแต่รู้สึกผวา เมื่อได้เห็นฝ่ามือทั้งสองที่โจมตีลงมา
“นี่เท่ากับว่าได้หลุดจากระดับสวรรค์สัจธรรมไปแล้ว การโจมตีในลักษณะของคู่ฝ่ามือทำลายล้างโลกาเช่นนี้สามารถสังหารเทพทำลายมารได้นะเนี่ย” กษัตราเฒ่าที่เห็นภาพนี้แล้วถึงกับพึมพำออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด
หลี่ชิเย่ไม่ได้สนใจที่จะมองด้วยซ้ำเมื่อต้องเผชิญกับฝ่ามือคู่ทำลายล้างโลกของอู่ฟ่งหยิ่ง สิ่งนี้กล่าวสำหรับเขาแล้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แกร้งค์…” เสียงกระบี่คำราม กระบี่กระดูกขาวที่มีประกายจางๆ พลันสว่างไสวขึ้นมาไม่น้อยทีเดียว ประกายจางๆ วูบวาบ พริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่เงื้อกระบี่ขึ้นมาฟาดฟันแกมฟาดใส่ต่อฝ่ามือคู่ที่โจมตีเข้ามาของอู่ฟ่งหยิ่ง
เสียง “ปัง…” ดังสนั่น หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงไป ปรากฏว่าคู่ฝ่ามือทำลายล้างโลกาถึงกับต้านรับกระบี่นี้เอาไว้ได้ แต่ว่า คู่ฝ่ามือทำลายล้างโลกายังคงถูกพลังกระแทกจนเบี่ยงออกไป ขณะที่อู่ฟ่งหยิ่งเองก็ก้าวถอยหลังไปหลายก้าวติดต่อกัน
แต่ว่า อู่ฟ่งหยิ่งในเวลานี้กลับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างไร เป็นที่ทราบกันว่า ก่อนหน้านั้นอู่ฟ่งหยิ่งอาศัยทวนมังกรรับมือกับกระบี่แค่กระบวนท่าเดียวก็ต้องบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งทวนมังกรยังแหลกละเอียดไปโดยสิ้นเชิง
แต่ทว่า อู่ฟ่งหยิ่งในเวลานี้กลับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เมื่อรับมือกับกระบี่นี้ด้วยมือเปล่า กายเนื้อลักษณะเช่นนี้นับว่าแข็งแกร่งและพาลยิ่งนักทั้งยังน่ากลัวมากเหลือเกิน นี่มันคือความไร้เทียมทานอย่างหนึ่งชัดๆ สามารถหมางเมินต่อการทำร้ายของอาวุธใดๆ ทั้งสิ้น
“รับมือข้าอีกหนึ่งกระบี่” หลี่ชิเย่ยิ้มตามอารมณ์ออกมา เงื้อกระบี่กระดูกขาวขึ้นมาอีกครั้ง ปรากฏเสียงดัง “ตึง” ประกายกระบี่ดั่งผ้าแพรสีขาวที่ลากยาวก้าวข้ามกาลเวลาเป็นล้านล้านปีฟันใส่อู่ฟ่งหยิ่ง
“ป้องกัน…” อู่ฟ่งหยิ่งในเวลานี้คำรามเสียงยาวออกมา ปีกดำที่อยู่แผ่นหลังของนางได้หุบกลับเข้ามา คล้ายดั่งเป็นบานประตูขนาดยักษ์สองบานที่ปิดประตูแน่นอย่างนั้น ปิดกั้นสนิทหมื่นยุค เพื่อต้านรับกับกระบี่ที่ฟันเข้ามาตามอารมณ์ของหลี่ชิเย่
“ปัง…” เสียงดังสนั่นสะเทือนขึ้นไปบนท้องฟ้า ต่อให้เป็นปีกดำน่ากลัวที่สามารถปิดบังเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินได้ก็ตาม ยังคงไม่สามารถต้านกระบี่ที่ยากจะหาใดเทียมในหล้าเล่มนี้ ปีกสีดำถูกฟันจนขาดในทันที คมกระบี่ฟันลงบนตัวของอู่ฟ่งหยิ่ง
ทันใดนั้น เลือดสดๆ แตกกระจาย เสื้อเกราะที่สวมอยู่บนตัวอู่ฟ่งหยิ่งถูกผ่าออก แต่ว่า จังหวะที่หนึ่งกระบี่นี้กำลังจะส่งผลให้ต้องเสียชีวิตนั้น ฝ่ามือทั้งสองของอู่ฟ่งหยิ่งที่ประกบเข้าหากันโดยพลัน ได้ยินเสียงดัง “ตึง” เสียงของโลหะที่ดังก้องไม่ขาดสาย ฝ่ามือทั้งสองของอู่ฟ่งหยิ่งได้หนีบจับกระบี่กระดูกขาวเอาไว้
“ตูม ตูม ตูม…” ในเวลานี้ปรากฏเสียงดังตูมตามดังไม่ขาดสาย ไม่เพียงแต่ฟ้าดินที่สั่นไหวโคลงเคลงเท่านั้น แม้แต่มิติก็สั่นเทาด้วยเช่นกัน
ขณะที่ฝ่ามือทั้งสองของอู่ฟ่งหยิ่งหนีบจับกระบี่กระดูกขาวเอาไว้แน่น แล้วค่อยๆ ดันกระบี่กระดูกขาวออกห่างจากตัว ในเวลานี้แม้ว่ากระบี่กระดูกขาวจะมีน้ำหนักมากถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้านตัน แต่ว่าอู่ฟ่งหยิ่งยังคงสามรถดันให้มันขึ้นไปได้
“ขอเพียงจอมมารดึกดำบรรพ์ผู้กำแหงของข้ายังคงอยู่ ข้าจะไม่มีวันตาย!” ท่าทีอู่ฟ่งหยิ่งอหังการยิ่งนัก นัยน์ตาเบิกกว้างกลมโต เสมือนเป็นเทพสงครามสตรีคนหนึ่ง โดยเฉพาะรอยเลือดที่เปรอะเต็มตัวไปหมด ยิ่งให้ความรู้สึกถึงความดุร้ายและอันธพาลของนางที่กระทบต่อสายตาของผู้คนเป็นอันมาก
“นอกเหนือจากสวรรค์โจรแล้ว ในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่มีวันตาย” หลี่ชิเย่เพียงยิ้มจางๆ และกล่าวว่า “อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่เข้าใจถึงกระบี่เล่มนี้เลยสักนิด นี่เป็นเพียงการทดลองเบาะๆ เท่านั้นเอง จะให้เจ้าได้เห็นถึงอานุภาพที่แท้จริงของมัน”
“ขาดคำ “ปัง” พลังของกระบี่กระดูกขาวสะเทือนจนฝ่ามือทั้งสองของอู่ฟ่งหยิ่งไม่สามารถหนีบเอาไว้ได้ นาทีนี้ฝ่ามือทั้งสองของอู่ฟ่งหยิ่งสามารถขยี้ทางช้างเผือกให้ละเอียดได้ แต่กระบี่กระดูกขาวเพียงสั่นสะเทือนเบาๆ นางก็ไม่สามารถสยบมันได้
บังเกิดเสียงดังสนั่นดัง “ตูม…” จากการที่สุดยอดปณิธานสูงสุดของหลี่ชิเย่ที่ปะทุขึ้น ฉับพลันนั้นกระบี่กระดูกขาวได้พวยพุ่งประกายที่รุนแรงออกมาเป็นสายๆ ส่องสว่างไปทั่วโลกา
ประกายทุกสายเสมือนหนึ่งเป็นทางช้างเผือกสายหนึ่ง เมื่อประกายจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรง ก็คล้ายดั่งเป็นปีกไฟจำนวนนับไม่ถ้วนที่กางออก เหมือนว่านาทีนี้พลังสูงสุดแห่งยุคสมัยหนึ่งพลันปะทุขึ้นมา ภายใต้พลังเช่นนี้ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ดูเล็กจิ๋วไปสิ้น จะเป็นเหล่าเทพ หรือมารอะไรก็ช่าง ล้วนแล้วแต่ถูกบดขยี้ภายใต้พลังเช่นนี้!
“นี่มันคืออาวุธอะไรกัน…” เมื่อกระบี่กระดูกขาวได้ปะทุพลังปราศจากผู้ต่อกรโดยแท้จริงขึ้นมา เสมือนหนึ่งเป็นสวรรค์ที่บงการทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ยืนดูอยู่ในระยะห่างไกลถึงกับยืนไม่ไหว ทั้งหมดถูกสยบจนต้องทยอยกันคุกเข่าลงกับพื้น ในขณะนี้สร้างความหวาดผวาให้กับทุกคนจนต้องขนลุกขนพอง
นาทีนี้ พวกเขาไม่สามารถขัดขืนต่อพลังเช่นนี้ได้อยู่แล้ว ภายใต้พลังลักษณะเช่นนี้พวกเขาเป็นไม่ได้กระทั่งมดปลวก ไม่คู่ควรที่จะกล่าวถึง
ในเวลานี้ กระบี่กระดูกขาวเปรียบเสมือนดั่งเป็นศูนย์กลางของยุคสมัยยุคหนึ่ง เป็นช่วงสุดยอดของยุคนั้น ภายใต้พลังของยุคสมัยเช่นนี้ ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นมดปลวก
เมื่อกระบี่กระดูกขาวเสมือนดั่งเป็นปีกไฟแต่ละปีกที่กางออก ต่อให้อู่ฟ่งหยิ่งที่อยู่ในร่างของจอมมารดึกดำบรรพ์ผู้กำแหงก็ยากจะรองรับกับพลังเช่นนี้ได้ ถูกพลังเช่นนี้สยบจนต้องถอยหลังไปเรื่อยๆ
“คุณชาย โปรดยั้งมือด้วย!” ในพริบตาเดียวนี้ ธิดาราชันฉีหลินถึงกับหวาดผวาและมีสีหน้าที่ขาวซีด แต่นางคงออกปากขอร้องให้กับอู่ฟ่งหยิ่ง
“สมควรจบสิ้นลงได้แล้ว!” หลี่ชิเย่จ้องมองอู่ฟ่งหยิ่งทีหนึ่ง กระบี่กระดูกขาวในมือที่มีความร้อนรุนแรงได้ตบออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...