เรือนิรันดรค่อยๆ แล่นเข้าไปจอดในอ่าวที่เป็นท่าเรืออย่างช้าๆ มันเป็นหน้าผาที่มีขนาดใหญ่ยากจะหาใดเทียม เรือนิรันดรนับว่าใหญ่พอแล้วสินะ แต่ทว่า หน้าผาแห่งนี้ใหญ่ยิ่งกว่าเสียอีกเสมือนหนึ่งเป็นกำแพงศักดิ์สิทธิ์ขนาดล้านล้านลี้ที่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ ทำการกั้นขวางท้องฟ้าแห่งนี้เอาไว้ เหมือนว่าไม่มีใครสามารถก้าวข้ามไปได้อย่างนั้น
อ่าวที่เป็นท่าเรือแห่งนี้ก็คือปากทางเข้าสู่ไกลกันดาร ขณะเดียวกันมันคือสถานที่ที่ห่างจากไกลกันดารใกล้และปลอดภัยมากที่สุด เนื่องเพราะมีหน้าผาที่ทอดผ่านท้องฟ้ากั้นขวางที่ตรงนี้เอาไว้ มันสามารถขวางแรงปะทะทุกสิ่งทุกอย่างได้ ดังนั้นเรือทุกลำที่มายังไกลกันดารก็จะแวะจอดอยู่ที่ตรงนี้
ในเวลานี้ มีผู้คนจำนวนมากยืนบนดาดฟ้าและจ้องมองไปยังไกลกันดารที่อยู่ในระยะห่างไกล มองเห็นไกลกันดารที่มืดมัวอยู่ท่ามกลาง ความสลัวของอากาศ เสมือนหนึ่งเป็นสัตว์ขนาดยักษ์ยากจะหาใดเทียมนั่งยองๆ อยู่ท่ามกลางท้องฟ้าแห่งนี้ มันทอดข้ามทั่วท้องฟ้าแห่งนี้ ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต
แม้ว่าการมองดูไกลกันดารจากระยะห่างไกลจะไม่สามารถมองเห็นภาพของมันได้ทั้งหมด แต่ทว่า แค่มองเห็นเพียงเสี้ยวเดียวก็เพียงพอที่จะสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนแล้ว
สามารถมองเห็นภูเขาแต่ละลูกที่ยอดเขาทะลุถึงจักรวาล ยอดเขาทุกลูกมีขนาดใหญ่โตไร้ขอบเขต ยอดเขาทุกๆ ลุกล้วนแล้วแต่ มีทางช้างเผือกล้อมรอบ ยอดเขาทุกลูกล้วนแล้วแต่ทะลุไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของทางช้างเผือก แลดูอลังการและเป็นที่หวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนยิ่งนัก
แต่ว่า ยอดเขาแต่ละลูกมีจำนวนมากที่ถูกทำลาย บ้างถูกผ่าออกเป็นสองซีก บ้างถูกตัดขาดจากกันเป็นสองท่อน และบางลูกถูกถอนขึ้นมาทั้งลูกลอยเท้งเต้งอยู่ท่ามกลางจักรวาล นอกเหนือจากนั้นยังมีเศษหิน เศษดินนับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่ท่ามกลางจักรวาล เป็นที่หวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนยิ่งนัก
บนท้องฟ้าของไกลกันดาร มีดวงดาวขนาดใหญ่แต่ละดวงที่ลอยอยู่กลางอากาศ อีกทั้งยังไม่ได้มีเพียงดวงดาวขนาดใหญ่แต่ละดวงเท่านั้น เมื่อมองดูให้ละเอียด ปรากฎเป็นทางช้างเผือกแต่ละสายที่ถูกดึงเข้ามาอยู่บนท้องฟ้า
แต่ทว่า ไม่ว่าจะเป็นดวงดาวขนาดใหญ่แต่ละดวง หรือว่าทางช้างเผือกแต่ละสายก็ตาม ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกทำให้แตกละเอียด ดวงดาวขนาดใหญ่บางดวงถูกยิงจนทะลุ เหมือนว่าเกิดจากนิ้วๆ หนึ่งที่จิ้มเข้ามา ทำให้พวกมันทะลุ บ้างถูกเหยียบจนแหลกลาญ ดุจดั่งมีมนุษย์ยักษ์เดินผ่าน แล้วเหยียบจนทางช้างเผือกแต่ละสายต้องแตกละเอียดไป และมีดวงดาวขนาดใหญ่ที่แตกไม่มีชิ้นดี เสมือนหนึ่งเกิดจากการโจมตีจนทางช้างเผือกแตกละเอียดไป…
แต่ละภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้านั้นสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คน ไม่ว่าใครที่มองเห็นต้องรู้สึกใจหายใจคว่ำ กล่าวได้ว่าไกลกันดารช่างอลังการเหลือเกิน ไม่ว่าใครก็ตาม เมื่อได้มองเห็นภาพของไกลกันดารภาพนี้แล้ว ต่อให้ไม่ได้เหยียบย่ำเข้าไปยังไกลกันดารก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว
“ไกลกันดาร!” ผู้คนจำนวนเท่าไรขณะที่จ้องมองไกลกันดารนั้น ถึงกับถูกภาพแต่ละภาพของไกลกันดารทำให้ต้องหวั่นไหวกันเล่า
ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากหลังจากจ้องมองไกลกันดารจากระยะห่างไกลแล้ว ถึงกับต้องมองสบตากันและกัน นาทีนี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่เกิดความลังเลขึ้นมา ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่พกพาปณิธานยิ่งใหญ่มาด้วยจากการที่เพิ่งจะได้มาที่ไกลกันดารเป็นครั้งแรก กระทั่งลั่นวาจาที่ฮึกเหิมว่า จะต้องได้รับโชควาสนาใหญ่จากไกลกันดารจึงยอมกลับ
แต่ว่า ครั้นได้มองเห็นภาพที่อลังการของไกลกันดารด้วยสายตาของตนเองแล้ว ผู้คนจำนวนมากพลันรู้สึกหวาดกลัวขึ้นภายในใจ พลันสูญสิ้นความมั่นใจไปทันที พลังที่สามารถทำลายโลกนี้จนแตกละเอียดได้นั้น ช่างเป็นพลังที่น่าสยดสยองเพียงใด
ผู้คนจำนวนเท่าไรก่อนเดินทางมาที่ไกลกันดารต่างได้ยินคำเล่าลือกันมาต่างๆ นานา ต่างเคยได้ยินมาว่า ไกลกันดารเป็นสถานที่ที่โหดร้ายมาก บางครั้งกระทั่งจอมราชันเซียนหวังก็ยากจะมีชีวิตรอดกลับมา แต่ จะอย่างไรเสียมันก็แค่คำเล่าลือไม่ได้เห็นกับตาตนเอง ไม่มีพลังที่ส่งผลกระทบเช่นนั้น มาวันนี้พวกเขามาถึงไกลกันดารจนได้ และได้มองเห็นภาพที่อลังการด้วยสายตาของตนเอง สร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจของพวกเขาในที่สุด ทำให้พวกเขาเกิดความหวาดกลัวขึ้นภายในใจ และสูญเสียความมั่นใจไป
ดังนั้น ผู้เยาว์ที่หลังจากได้มองเห็นสภาพของไกลกันดารด้วยสายตาของตนเองแล้ว ถึงกับเอ่ยถามเสียงแผ่วเบากับผู้อาวุโสของตนที่อยู่ข้างกาย “จะขึ้นไปมั้ย?”
ผู้อาวุโสถึงกับนิ่งเงียบกับคำถามของผู้เยาว์ ไม่สามารถตัดสินใจได้ในขณะนี้
“เอี๊ยด…” ในเวลานี้หลี่ชิเย่ได้เปิดประตู และเดินออกมาจากด้านใน
“คุณชาย…” ธิดาราชันฉีหลินรีบเร่งเดินเข้าไปหา เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่
หลี่ชิเย่พยักหน้า มองดูพวกเขา ในเวลานี้อู่ฟ่งหยิ่งก็เผยรอยยิ้มออกมา แม้ว่าอู่ฟ่งหยิ่งในวันนี้ยังคงสวมชุดเกราะ แต่ มีความแตกต่างเมื่อเทียบกับยามปรกติก่อนหน้า เห็นได้ชัดว่านางมีการแต่งองค์อย่างตั้งอกตั้งใจเป็นพิเศษ นางได้ไว้ทรงผมที่เหมาะสมรับกับชุดเกราะของนางอย่างที่สุด ทำให้ภาพรวมของนางแลดูอ่อนโยนขึ้นไม่น้อย อีกทั้งภายใต้การสอดรับของชุดเกราะทำให้ดูงดงามยิ่งขึ้น ลักษณะเช่นนี้ของนางไม่เพียงมีบุคลิกลักษณะห้าวหาญองอาจ ทั้งยังมีความอ่อนโยนดุจสายน้ำอยู่สามส่วน ท่าทางของนางดูไปแล้วเรียกว่าสวยหยาดเยิ้ม ยามที่นางเผยรอยยิ้มออกมา ทำให้ผู้คนมีจิตใจที่เคลิบเคลิ้มหลงใหล
“ฮิ ฮิ ฮิ พี่ใหญ่ พวกเราเข้าไปในไกลกันดารกันมั้ย?” หลังจากที่อู่ชีมองเห็นหลี่ชิเย่แล้วจึงยิ้มแต้และพูดขึ้น
หลี่ชิเย่เหลือบมองเขาแวบหนึ่งโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา เวลานี้เขายืนอยู่บนยอดเขามองไปที่ไกลกันดารจากระยะห่างไกล
สถานที่ที่พวกหลี่ชิเย่อาศัยอยู่นั้นคือจุดที่สูงที่สุดทั่วทั้งลำเรือนิรันดรลำนี้ ดังนั้น การยืนมองไประยะห่างไกลจากจุดนี้จึงสามารถมองเห็นสถานที่ที่อยู่ห่างไกลออกไปได้อย่างชัดเจน
ในขณะนี้ แม้ว่าเรือนิรันดรได้จอดทอดสมออยู่ข้างหน้าผาและทิ้งบันไดลงไปแล้ว ไม่ว่าใครก็สามารถลงจากเรือเพื่อขึ้นฝั่งได้ แต่ยังไม่มีผู้ใดขึ้นฝั่งเป็นการชั่วคราวในเวลานี้ ผู้โดยสารจำนวนมากหากไม่เป็นเพราะกำลังลังเลก็คือกำลังเตรียมการขึ้นฝั่งเป็นครั้งสุดท้าย จะอย่างไรเสีย ไกลกันดารเต็มไปด้วยอันตรายยิ่ง ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าขึ้นฝั่งโดยง่ายดาย หากไม่ทันระวังอาจยากจะมีชีวิตรอดกลับมาก็เป็นได้
ในขณะที่ยังไม่มีผู้ใดขึ้นฝั่งนั่นเอง ทันใดนั้น ปรากฏกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน พวกเขาเตรียมพร้อมลงจากเรือเพื่อขึ้นฝั่งไปยังไกลกันดาร
กลุ่มคนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนขบวนแรกที่ต้องการขึ้นฝั่งไกลกันดาร จึงเป็นที่สนใจของผู้คนจำนวนมาก สิ่งที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากสนใจไม่เพียงเพราะเป็นกลุ่มคนที่ขึ้นฝั่งไกลกันดารเป็นกลุ่มแรก ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ กลุ่มคนกลุ่มนี้ได้เผยกลิ่นอายที่ลึกลับออกมา จึงเป็นที่จับจ้องของผู้คนมากเป็นพิเศษ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...