สำหรับคำพูดของยุวกษัตริย์หกกระบี่นั้น หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา ยิ้มอย่างเอ้อระเหยและกล่าวว่า “อย่างนั้นรึ ข้าอยากรู้นักว่ากฎระเบียบของศตาคารเป็นอย่างไร?”
เจ้า…คำพูดของหลี่ชิเย่พลันทำให้สีหน้าของยุวกษัตริย์หกกระบี่เปลี่ยนไป ทันใดนั้นดวงตาทั้งสองของเขาได้ปรากฎปณิธานการฆ่าแวบวับที่น่ากลัวขึ้นมา นี่เป็นการยั่วยุของหลี่ชิเย่ที่มีต่อเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นการท้าทายฐานะการเป็นผู้นำในศตาคารของเขา
“ดี ดี ดี ศตาคารของพวกเรานับว่ามากด้วยผู้มีฝีมือ คลื่นลูกหลังย่อมเหนือกว่า” ในเวลานี้ ยุวกษัตริย์หกกระบี่โกรธจัดจนต้องหัวเราะออกมา เขายิ้มกล่าวต่อเย่เมี่ยวเสวี่ยว่า “องค์หญิงเย่ เรื่องนี้ไม่ต้องให้ท่านลงมือ วันนี้ข้าจะกวาดล้างศตาคารสักครั้ง คืนความสงบสุขให้กับศตาคาร”
“ก็ดี” เย่เมี่ยวเสวี่ยกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ในเมื่อยุวกษัตริย์คือผู้นำของศตาคาร ข้าเชื่อว่ายุวกษัตริย์สามารถคืนความยุติธรรมให้กับศิษย์พรรคทะยานฟ้าของข้า”
“เจ้าหนู ข้าจะไม่รังแกเจ้า เจ้าลงมือเถอะ ข้าอาศัยมือเปล่ารับเจ้าสามกระบวนท่า” เวลานี้ยุวกษัตริย์หกกระบี่ได้ก้าวเดินออกมา ยืนทำมือไพล่หลังท่าทียโสข่มขวัญผู้คน
“ยุวกษัตริย์ไหนเลยต้องถึงสามกระบวนท่า เกรงว่าแค่สองกระบวนท่าก็สามารถทำให้เขาคลานได้” เวลานี้มีนักศึกษาจากศตาคารส่งเสียงเชียร์ยุวกษัตริย์หกกระบี่ ประจบยุวกษัตริย์หกกระบี่
“ยุวกษัตริย์ ยุวกษัตริย์ ช้าก่อน…” ในขณะที่ระหว่างยุวกษัตริย์หกกระบี่กับหลี่ชิเย่กำลังจะลงมือ ได้มี่นักศึกษาผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีที่ร้อนรนยิ่งนัก
“เรื่องอะไร?” ยุวกษัตริย์หกกระบี่ทำท่าขมวดคิ้วทีหนึ่ง เมื่อเห็นนักศึกษาผู้นี้วิ่งเข้ามา
เมื่อนักศึกษาผู้นี้วิ่งเข้ามาถึง ได้พูดเบาๆ ที่ข้างหูของยุวกษัตริย์หกกระบี่หลายคำ ทั้งยังหันมองหลี่ชิเย่ทีหนึ่ง ท่าทางเหมือนหวาดกลัวยิ่งนัก
ขณะที่หลังจากยุวกษัตริย์หกกระบี่ได้ฟังนักศึกษาผู้นี้พูดด้วยเสียงแผ่วเบาแล้วสีหน้าเปลี่ยนไปมากทีเดียว เวลานี้เขายืนตะลึงอยู่ตรงนั้น มองดูหลี่ชิเย่ด้วยท่าทางที่ประหลาด
“ยุวกษัตริย์ เป็นอะไรไปรึ?” เย่เมี่ยวเสวี่ยขมวดคิ้วขึ้นมาเมื่อมองเห็นยุวกษัตริย์หกกระบี่ยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น ไม่มีทีท่าว่าจะลงมือ
ในเวลานี้ สีหน้าของยุวกษัตริย์หกกระบี่เดี๋ยวแดงเดี๋ยวเขียวคล้ำ ท่าทางดูผะอืดผะอมยิ่งนัก นาทีนี้ยุวกษัตริย์หกกระบี่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
“ไหนหละกฎระเบียบของศตาคาร?” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ มองดูยุวกษัตริย์หกกระบี่ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ท่าทางของยุวกษัตริย์หกกระบี่ในเวลานี้เรียกว่าผะอืดผะอมสุดๆ ท่าทีของเขาในเวลานี้เสมือนหนึ่งได้กลืนแมลงวันเข้าไปตัวหนึ่ง จะกลืนลงท้องไปก็ใช่ที่ จะไม่กลืนก็ไม่ได้
แอ่ม…ในขณะนี้ยุวกษัตริย์หกกระบี่หัวเราะเจื่อนๆ ทีหนึ่ง ท่าทางผะอืดผะอมยิ่งนัก กล่าวว่า “คุณชายหลี่ท่าน ท่านนี้ ท่านนี้ ไม่สิ อาจารย์หลี่ที่แท้คืออาจารย์ของเรือนตำรา เข้าใจผิด เข้าใจผิดนิดหน่อย”
ที่แท้หลังจากที่หลี่ชิเย่ กับเมี่ยวฉานคบค้าสมาคมกันแล้ว ยุวกษัตริย์หกกระบี่ต้องการรู้ว่านักศึกษาจากศตาคารที่ชื่อหลี่ชิเย่มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ดังนั้นจึงส่งคนไปสืบ ไม่นึกเลยว่าหลังจากส่งคนไปสืบแล้ว ปรากฏว่าหลี่ชิเย่ไม่ใช่นักศึกษา แต่เป็นอาจารย์ของเรือนตำรา
เมื่อยุวกษัตริย์หกกระบี่พูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้บรรดานักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ทยอยกันก้มหน้าลงต่ำในทันที บางคนถึงกับตกใจจนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว โดยเฉพาะนักศึกษาที่มาด้วยกันกับยุวกษัตริย์หกกระบี่และเย่เมี่ยวเสวี่ย ยิ่งพยายามเบือนหน้าหนี พวกเขากลัวจะถูกหลี่ชิเย่จดจำใบหน้าของตนได้
มาคราวนี้ ทำเอาบรรดานักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ตกใจจนหวาดกลัวด้วยความหวาดระแวง พวกเขาคิดจะหันหลังวิ่งหนีไป แต่เมื่อหลี่ชิเย่ไม่ได้ออกปาก ทุกคนจึงไม่กล้าวิ่งหนี จะอย่างไรเสียนี่คืออาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า
สมควรทราบว่า อาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้าหาใช่เป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะทั่วๆ ไป ต่อให้เป็นอาจารย์ที่แย่ที่สุดของสถาบันศึกษาเทพเจ้า ก็ไม่เป็นที่กังขาในด้านศักยภาพ มิฉะนั้นหละก็จะมาเป็นอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้อย่างไรกัน
ในสถาบันศึกษาเทพเจ้า ระหว่างนักศึกษาด้วยกันเจ้าสามารถก่อเรื่องขึ้นมา กลับจะไม่มีอะไรมากนัก จะอย่างไรเสียก็เป็นบุญคุณความแค้นระหว่างนักศึกษาด้วยกัน และเป็นการกระทบกระทั่งระหว่างนักศึกษาด้วยกัน กระทั่งสถาบันศึกษาเทพเจ้าก็ยอมรับในความขัดแข้งนี้กรายๆ เนื่องจากมีการแข็งขัน มีกระทบกระทั่งจึงมีความก้าวหน้า ไม่ว่านักศึกษาคนใดก็ตามจำเป็นต้องผ่านลมผ่านฝน จำเป็นตต้องผ่านการเจียระไน
แต่ กับผู้เป็นอาจารย์ก็จะแตกต่างกัน การคิดจะท้าทายอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า ไม่เพียงต้องอาศัยกำลังความสามมารถที่ปราศจากผู้เทียบเทียม ที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือ หากท้าทายอาจารย์ในสถาบันศึกษาเทพเจ้า ผลที่จะตามมานั้นหนักหนามาก เว้นแต้สามารถเอาชนะอาจารย์ทุกคนได้ มิฉะนั้นหละก็ โทษสถานเบาคือไล่ออก โทษหนักคือถูกสยบโดยตรง!
จะอย่างไรเสีย นักศึกษาระดับอัจฉริยะบุคคลในสถาบันศึกษาเทพเจ้ามีจำนวนนับไม่ถ้วน นักศึกษาที่มีชาติกำเนิดสูงส่ง ประวัติความเป็นมาน่าตกใจก็มีอยู่นับไม่ถ้วน มีผู้สืบทอดของสายสำนักราชันเซียนจำนวนเท่าไรที่ศึกษาอยู่ที่สถาบันศึกษาเทพเจ้า ?
ถ้าหากสถาบันศึกษาเทพเจ้าไม่มีอำนาจที่เด็ดขาด เช่นนั้นแล้ว ใครก็สามารถยั่วยุท้าทายต่อสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้ตามอำเภอใจ ถ้าหากใครก็สามารถท้าทายอำนาจของสถาบันศึกษาเทพเจ้า เช่นนั้นแล้วสถาบันศึกษาเทพเจ้าคงไม่ยืนหยัดจนถึงทุกวันนี้
ดังนั้น ในสถาบันศึกษาเทพเจ้า เจ้าต้องการเป็นผู้นำไม่มีปัญหา เจ้าสยบนักศึกษาได้ทุกคนไม่มีปัญหา เจ้าเจอะเจอนักศึกษาคนใดก็ท้าตีท้าต่อยก็ไม่มีปัญหา กระทั่งเจ้าสามารถแลกเปลี่ยนก็ผู้เป็นอาจารย์ในบริเวณสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...