ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2031

จอมเทพเก้ากระบี่บิดาของยุวกษัตริย์หกกระบี่ก็เป็นระดับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวง ดังนั้นจึงมีแนวความคิดที่จะต่อกรของจอมทระนงอเวจีอยู่ จะอย่างไรเสียต่างก็เป็นจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวงเหมือนกัน จึงเป็นความจริงที่มีแนวคิดอยากจะชี้ขาดความเป็นหนึ่งอยู่ ด้วยเหตุนี้เองจอมเทพเก้ากระบี่จึงได้ทำการพิจารณาศึกษาเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นมาก่อน และเขายังได้บอกเล่าถึงความลึกล้ำพิสดารบางอย่างของเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นกับยุวกษัตริย์หกกระบี่ซึ่งเป็นบุตรชายของตน

“แล้วเราควรจะใช้เล่ห์กลอย่างไรหละ?” มีนักศึกษาที่รู้สึกแปลกใจจึงเอ่ยถามกับยุวกษัตริย์หกกระบี่ ขณะที่ยุวกษัตริย์หกกระบี่เพียงอมยิ้มแต่ไม่ตอบ

เมื่อทุกคนมองเห็นยุวกษัตริย์หกกระบี่อมยิ้มแต่ไม่ตอบ ทุกคนก็ไม่ไปไล่เรียงถามต่อไป แน่นอน ไม่มีใครที่รู้สึกว่ายุวกษัตริย์หกกระบี่กำลังคุยโวอยู่ เพราะจะอย่างไรเสีย บิดาของยุวกษัตริย์หกกระบี่เป็นจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวง การที่ยุวกษัตริย์หกกระบี่จะรับรู้ถึงความลึกซึ้งพิสดารบางอย่างเกี่ยวกับเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นมาบ้าง ก็ไม่นับเป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใด

“ทุกๆ ภาคการศึกษา ทางสถาบันศึกษาเทพเจ้าก็จะส่งอาจารย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า มาเพื่อขัดเกลาฝึกฝนสักครั้งหนึ่ง” มีนักศึกษาถึงกับเอ่ยขึ้นมาว่า “อาจารย์โจวนับว่าเป็นอาจารย์ที่ไม่เลวนักของศตาคารพวกเรา และนับเป็นอัจฉริยะบุคคลของรุ่นก่อน เขายังคงอดทนไปไม่ถึงชั้นที่เจ็ดของทะเลแห่งความชั่วร้ายนะเนี่ย”

“หากจะกล่าวว่า อาจารย์ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ของสถาบันศึกษาเทพเจ้าในปัจจุบัน มีใครบ้างที่สามารถอดทนกระทั่งถึงทะเลความชั่วร้ายชั้นที่เจ็ดได้ ข้าคิดว่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอาจารย์ฉวี่หังแล้ว” นักศึกษาผู้เป็นอัจฉริยะบุคคลกล่าว

“ข้าก็รู้สึกว่าอย่างนั้น” นักศึกษาอีกผู้หนึ่งก็พยักหน้ากล่าวชมออกมาว่า “นอกจากอาจารย์ฉวี่หังแล้ว ข้ารู้สึกว่าอาจารย์เชียนเสวียนก็ทำได้ แม้ว่าอาจารย์เชียนเสวียนไม่เคยแสดงศักยภาพของตนออกมา แต่ข้ารู้สึกว่านางต้องไม่ด้อยไปกว่าอาจารย์ฉวี่หังอย่างแน่นอน”

บรรดานักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเห็นด้วยกับคำพูดลักษณะเช่นนี้ ในบรรดาอาจารย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า เส้าเหนียนหวังกู่ฉวี่หังต้องเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน

สำหรับอวี่เชียนเสวียนนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่สงสัยในศักยภาพของนาง จะอย่างไรเสียอวี่เชียนเสวียนมีความลึกล้ำยากจะหยั่งถึง ยิ่งไปกว่านั้นในฐานะที่นางเป็นผู้สืบทอดของจวนกู่ ย่อมไม่ใช่ผู้มีทักษะอ่อนด้อยอย่างแน่นอน แม้จะกล่าวว่า ไม่มีใครรับรู้ถึงรายละเอียดว่าอวี่เชียนเสวียนนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงใดกันแน่ แต่ว่า ศักยภาพของนางยังคงได้รับการยอมรับจากทุกคน มิฉะนั้นแล้ว นางก็คงไม่ได้เป็นอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า

“ยังมีอาจารย์อีกคนหนึ่งก็ลึกล้ำยากจะหยั่งถึงเหมือนกัน” มีนักศึกษาจากศตาคารผู้หนึ่งพูดแทรกขึ้นมาคำหนึ่ง โดยกล่าวว่า “นั่นก็คืออาจารย์หลี่จากเรือนตำรา ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขายังเด็ดใบชาสัจธรรมสิบสองสายมาได้ นับว่าฝืนลิขิตสวรรค์มากเหลือเกิน ไม่แน่นัก อาจารย์หลี่ผู้นี้อาจจะแข็งแกร่งกว่าอาจารย์ฉวี่หัง กระทั่งอาจารย์เชียนเสวียนอยู่มากทีเดียว ไม่เห็นรึ ท่าทีของอาจารย์เชียนเสวียนที่มีต่อเขาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงรึ?”

“อาจารย์จอมโหด” เมื่อมีการเอ่ยถึงอาจารย์หลี่ชิเย่แห่งเรือนตำรา ทุกคนก็จะเรียกขึ้นมาว่า ‘อาจารย์จอมโหด’ เวลานี้ทุกคนต่างรับรู้ถึงเรื่องความโหดของเขา

“เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ การเก็บใบชาสิบสองสายได้นับว่าฝืนลิขิตสวรรค์เหลือเกิน” นักศึกษาจากศตาคารอีกผู้หนึ่งก็อดพยักหน้าไม่ได้ และกล่าวว่า “หากว่าอาจารย์จอมโหดมา เกรงว่าสามารถอดทนไปได้ถึงทะเลความชั่วร้ายชั้นที่เจ็ดได้จริงๆ”

“ฮึ มันก็ไม่แน่” ในเวลานี้ ยุวกษัตริย์หกกระบี่ส่งเสียงฮึแสดงความไม่พอใจออกมา และกล่าวว่า “การเก็บใบชาสัจธรรมมักจะไม่เกี่ยวกับด้านศักยภาพ เป็นเพียงเหตุปัจจัยหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกันเท่านั้น พรสวรรค์ ความตระหนักรู้ หรือกระทั่งอาจเป็นเพราะโชคชะตา ไม่แน่นักหากโชคดีก็สามารถเก็บใบชาสัจธรรมสิบสองสายได้ อาจารย์ฉวี่หังคือสุดยอดอัจฉริยะบุคคลแห่งยุค และมีเพียงเหรินเซิ่นเท่านั้นที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาได้ สำหรับพวกไร้ชื่อเสียงคนอื่นๆ ไหนเลยจะเทียบเคียงกับอาจารย์ฉวี่หังได้เล่า!”

เมื่อยุวกษัตริย์หกกระบี่พูดออกมาเช่นนี้ บรรดานักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยเฉพาะนักศึกษาจากศตาคารต่างก็ปิดปากอย่างรู้จักกาลเทศะ จะอย่างไรเสียหากคิดจะมีที่ยืนในศตาคาร ทางที่ดีอย่างได้ล่วงเกินต่อยุวกษัตริย์หกกระบี่ เพราะเขาเป็นผู้มีอิทธิพลยิ่งในศตาคาร

แน่นอนที่สุด ทุกคนต่างเข้าใจได้ว่า ยุวกษัตริย์หกกระบี่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างใกลชิดกับเส้าเหนียนหวังกู่ฉวี่หัง จะอย่างไรเสียกู่ฉวี่หังกับนายน้อยทะยานฟ้าเป็นทั้งอาจารย์และเป็นทั้งสหาย ขณะที่พวกของสามเทพบุตรสถาบันศึกษาเทพเจ้าต่างมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ยุวกษัตริย์หกกระบี่ย่อมต้องพูดแทนกู่ฉวี่หังอยู่แล้ว

“ยุวกษัตริย์พูดได้ดี” มีนักศึกษาของศตาคารที่ฉลาด รีบเร่งกล่าวเห็นด้วยว่า “อาจารย์ฉวี่หังคืออัจฉริยะบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคของพวกเราแล้ว และมีเพียงเหรินเซิ่นเท่านั้นที่เทียบเคียงได้เท่านั้น ครั้งนั้น อาจารย์ฉวี่หังเคยเอาชนะราชันสวรรค์เต้าหลงมาหลายครั้ง ทั่วหล้านี้ก็คงมีเพียงอาจารย์ฉวี่หังเท่านั้นที่มีผลงานการสู้รบเช่นนี้”

เส้าเหนียนหวังกู่ฉวี่หังมีเรื่องที่สามารถให้ผู้คนนำมาเป็นหัวข้อสนทนาไม่เพียงแต่พรสวรรค์ของเขาที่เทียบเคียงกับเหรินหวัง จอมเทพที่มีอายุน้อยที่สุดเท่านั้น ผลงานการสู้รบที่น่าประทับใจผู้คนมากที่สุดก็คือการต่อสู้ระหว่างตัวเขากับราชันสวรรค์เต้าหลง

เล่าลือกันว่า ขณะที่ราชันสวรรค์เต้าหลงยังไม่ได้กลายเป็นราชันเซียนนั้น เคยมีเหตุการณ์การต่อสู้กับกู่ฉวี่หังถึงหกครั้งด้วยกัน ฟังว่าในการต่อสู้หกครั้งนี้ ห้าครั้งแรกล้วนแล้วแต่เป็นกู่ฉวี่หังที่เป็นฝ่ายเอาชนะราชันสวรรค์เต้าหลง

มีเพียงครั้งที่หกเท่านั้นที่ราชันสวรรค์เต้าหลงเอาชนะเส้าเหนียนหวังกู่ฉวี่หังได้

การต่อสู้ในครั้งนี้บุคคลภายนอกไม่มีผู้ใดทราบถึงรายละเอียด สุดท้ายแล้วทุกคนรู้แต่เพียงว่าเป็นราชันสวรรค์เต้าหลงที่พ่ายแพ้ติดต่อกันห้าครั้งแล้ว ในที่สุดก็สามารถเอาชนะเส้าเหนียนหวังกู่ฉวี่หังได้

ในเวลานั้นกู่ฉวี่หังยังไม่ใช่ระดับจอมเทพ ขณะที่ราชันสวรรค์เต้าหลงยังไม่ใช่จอมราชัน

ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะเหตุการต่อสู้ในครั้งนั้น สุดท้ายแล้วกู่ฉวี่หังไม่ได้ก้าวเดินไปบนเส้นทางของเซียนหวัง แต่เลือกที่จะไปในเส้นทางของการเป็นเทพ

เวลานี้ สิ่งที่ทุกคนรับรู้ก็คือ ราชันสวรรค์เต้าหลงได้สืบทอดชะตาฟ้ามาแล้วสองครั้ง กลายเป็นจอมราชันที่มีชะตาฟ้าหกสาย ขณะที่กู่ฉวี่หังก็มีดวงตราสัญลักษณ์ กลายเป็นจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์หกดวง และกลายเป็นจอมเทพที่มีอายุน้อยที่สุดในหล้า

กล่าวได้ว่า การต่อสู้ชี้ขาดระหว่างกู่ฉวี่หังและราชันสวรรค์เต้าหลงในครั้งนั้น ต้องเป็นต้นทุนการสนทนาที่ดีที่สุดของเขาอย่างแน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล