ยุวกษัตริย์หกกระบี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง สงบจิตสงบใจเอาไว้ กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทักษะของข้าอ่อนด้อย หากจะถอนเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชิ้นโดยอาศัยพลังอันน้อยนิดของข้าคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ว่า หากจะย่างกรายเข้าไปยังทะเลชั่วร้ายเจ็ดชั้นข้ากลับมีความมั่นใจ”
แม้จะกล่าวว่า อาศัยศักยภาพของยุวกษัตริย์หกกระบี่จะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในการเข้าไปทะเลชั่วร้ายเจ็ดชั้นของเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชิ้นได้อยู่ล้ว แต่ว่ายุวกษัตริย์หกกระบี่กลับสามารถกุมความลึกซึ้งพิสดารขงเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชิ้นเอาไว้ ดังนั้น เขาจึงกล้าพูดคำพูดที่มีพลังกล้าได้กล้าเสียเช่นนี้
“ยอดเยี่ยมมาก มีความกล้าหาญ” หลี่ชิเย่พยักหน้า ถือว่าเป็นการเอ่ยคำชมเชย
ท่าทีเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้ยุวกษัตริย์หกกระบี่ตะลึงนิดหนึ่ง เดิมเขายังเข้าใจว่าหลี่ชิเย่จะต้องถือโอกาสฉีกหน้าเขา ไม่นึกเลยว่าหลี่ชิเย่กลับจะเอ่ยชมเขา ซึ่งทำให้ยุวกษัตริย์หกกระบี่ถึงกับรับมือไม่ถูกอยู่บ้าง
แต่ทว่า ยุวกษัตริย์หกกระบี่ได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ศิษย์กลับอยากเข้าไปเดินเล่นในทะเลชั่วร้ายเจ็ดชั้นสักครั้ง ไม่ทราบว่าอาจารย์สามารถให้คำชี้แนะบ้างได้หรือไม่?”
คำพูดของยุวกษัตริย์หกกระบี่พลันทำให้นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ตะลึงนิดหนึ่ง กระทั่งมีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกตกใจยิ่งนัก คำพูดที่พูดออกมาเช่นนี้แฝงความหมายท้าสู้กับหลี่ชิเย่
การท้าสู้กับอาจารย์ในสถาบันศึกษาเทพเจ้าจำเป็นต้องมีความกล้าหาญที่สูงมาก
หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าขึ้นมากับคำพูดของยุวกษัตริย์หกกระบี่ กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “น่าสนใจ ครั้งนั้น ณ ที่ตรงนี้แหละ จอมทระนงอเวจีได้ท้าสู้กับอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า และเอาชนะอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า มาวันนี้สิ่งนี้ถือเป็นการท้าสู้ข้าของเจ้ารึ? คนหนุ่มมีพลังที่น่าเคารพเลื่อมใส เจริญรอยตามรอยเท้าของคนรุ่นก่อน”
เวลานี้ยุวกษัตริย์หกกระบี่สุดลมหาใจเข้าลึกๆ มั่นคงในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร กล่าวน่าเกรงขามว่า “เป็นอาจารย์เองมิใช่รึที่ชื่นชอบให้นักศึกษาอย่างพวกเราท้าสู้? ศิษย์ไม่เจียมตน ขอประลองกับอาจารย์บ้าง!”
การที่ยุวกษัตริย์หกกระบี่ท้าสู้กับหลี่ชิเย่อย่างกะทันหันเช่นนี้ก็เป็นความคิดที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเอง แต่ก็อยู่ในความคาดคิดอยู่แล้ว เนื่องจากเขาต้องเสียเปรียบต่อหลี่ชิเย่มาหลายครั้ง อัดอั้นอยู่เต็มอก ดังนั้น เข้าจึงคิดจะแก้แค้นเพื่อเรียกเอาศักดิ์ศรีกลับคืน
หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ กับการท้าทายของยุวกษัตริย์หกกระบี่ ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย ยิ้มกล่าวว่า “ไม่รู้ว่าเจ้าคิดจะประลองกันแบบไหนหละ?”
“ศิษย์ไม่เจียมตัว จะไปทะเลชั่วร้ายสักครั้งหนึ่ง ไม่ทราบว่าอาจารย์กล้าไปหรือไม่?” ไหนๆ ก็แตกหักกันแล้ว ยุวกษัตริย์หกกระบี่ก็ไม่ต้องแสร้งทำเป็นคนน่ารักอีกต่อไป พูดเสียงเย็นชาออกมาตรงๆ
“ไปยังทะเลชั่วร้ายสักครั้งนะเนี่ย?” หลี่ชิเย่มองดูเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นทีหนึ่งแล้วมองดูพลังชั่วร้ายที่ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ มองเห็นพลังชั่วร้ายที่ไหลรินเสมือนหนึ่งเป็นทะเลกว้างใหญ่อยู่ตรงนั้น จึงไม่แปลกที่ถูกผู้คนเรียกว่าทะเลชั่วร้าย
“ทำไมจะไม่กล้า” หลี่ชิเย่ถึงกับยิ้มจางๆ ออกมา กล่าวตามอารมณ์ว่า “นี่เกรงจะเป็นการไม่เจียมตนของเจ้า หาเรื่องใส่ตัว”
เมื่อถูกหลี่ชิเย่ดูถูกเช่นนี้ พลันทำให้สีหน้าของยุวกษัตริย์หกกระบี่มีสีหน้าบึ้งตึง แววตาดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น มองเห็นปณิธานการสังหารที่เต้นอยู่ลึกเข้าไปภายในดวงตา
อาจกล่าวได้ว่า นับตั้งแต่ยุวกษัตริย์หกกระบี่ได้รู้ถึงฐานะของหลี่ชิเย่ว่าเป็นอาจารย์แล้ว เขาได้เก็บงำเจียมตัวไปมาก ได้ควบคุมตัวเองไปไม่น้อย ไม่กล้าบังเกิดปณิธานการฆ่าขึ้นกับหลี่ชิเย่ แต่ทว่า เวลานี้เขาได้บังเกิดแนวความคิดที่กล้าหาญมากขึ้นมากะทันหัน พริบตาเดียวนี้ เขาได้บังเกิดปณิธานการฆ่าต่อหลี่ชิเย่ขึ้นในใจ ถ้าหากว่าเขาสามารถสังหารอาจารย์สถาบันศึกษาเทพเจ้าได้สักคนจริงๆ ย่อมเพียงพอที่จะให้เขามีชื่อเสียงดังไปทั่วหล้า ซึ่งจะทำให้ชื่อเสียงของเขายกระดับขึ้นไปได้อีกขั้นหนึ่ง
“ดี เมื่ออาจารย์ดูถูกนักศึกษาถึงเพียงนี้ เช่นนั้นแล้วศิษย์ยิ่งสมควรประลองกับอาจารย์สักหน่อย” นัยน์ตาทั้งสองของยุวกษัตริย์หกกระบี่ลุกโชน ความน่าเกรงขามข่มขวัญผู้คน กล่าวเสียงเย็นชาขึ้นว่า “ศิษย์จะเข้าไปยังทะเลชั่วร้ายเจ็ดชั้นสักครั้ง อาจารย์กล้าเข้าไปหรือไม่?”
“ทะเลชั่วร้ายเจ็ดชั้น?” นักศึกษาจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกตกใจเป็นอันมากเมื่อได้ยินคำพูดของยุวกษัตริย์หกกระบี่ เมื่อครู่นั้นแม้แต่อาจารย์ท่านหนึ่งของสถาบันก็ไม่สามารถเข้าไปยังทะเลชั่วร้ายเจ็ดชั้นได้ เวลานี้ ยุวกษัตริย์หกกระบี่กลับจะบอกว่าต้องการเข้าไปในทะเลชั่วร้ายเจ็ดชั้นอย่างกะทันหัน แล้วจะไม่ให้ทุกคนต้องตกใจได้อย่างไรกันเล่า
ใช่ว่านักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์จะดูแคลนในตัวของยุวกษัตริย์หกกระบี่ ตรงกันข้าม ทุกคนกลับรู้สึกว่ายุวกษัตริย์หกกระบี่เป็นผู้ที่มีศักยภาพคนหนึ่ง ในบรรดานักศึกษาก็นับเป็นระดับอัจฉริยะบุคคลลำดับต้นๆ คนหนึ่ง แต่ว่าอาศัยศักยภาพของเขาในเวลานี้หากคิดจะเข้าไปยังทะเลชั่วร้ายเจ็ดชั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ในเวลานี้ ยุวกษัตริย์หกกระบี่ได้พูดจาอันธพาลออกมาเช่นนี้ ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจยิ่งนัก แต่ก็มีนักศึกษาที่ฉลาดมีไหวพริบ พวกเขานึกถึงคำพูดเมื่อครู่ของยุวกษัตริย์หกกระบี่ได้ทันที
ก่อนหน้านั้น ยุวกษัตริย์หกกระบี่เคยพูดเอาไว้ว่า การเข้าไปเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นสามารถอาศัยเล่ห์เหลี่ยมได้ เป็นที่ทราบกันว้า บิดาของยุวกษัตริย์หกกระบี่ก็เป็นระดับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวง บางทีเวลานี้ยุวกษัตริย์หกกระบี่ได้กุมความลึกซึ้งพิสดารของเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นเอาไว้แล้วก็ไม่แน่
เมื่อนึกถึงข้อนี้แล้ว บรรดานักศึกษาที่ฉลาดและมีไหวพริบจำนวนไม่น้อยได้สติกลับมา การที่ยุวกษัตริย์หกกระบี่มีความมั่นใจตนเองถึงเพียงนี้ ย่อมหมายความว่ามีแผนอยู่ในใจแล้ว และมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ดังนั้น เวลานี้พวกเขาต่างทยอยกันมองไปที่หลี่ชิเย่ ดูว่าหลี่ชิเย่กล้ารับคำท้าหรือไม่
“เข้าไปทะเลชั่วร้ายเจ็ดชั้นรึ?” หลี่ชิเย่ยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า และกล่าวว่า “ใช่ว่าข้าจะดูถูกเจ้า อาศัยศักยภาพของเจ้าคิดจะเข้าไปยังชั้นที่เจ็ด ยาก หากพลาดพลั้งแม้แต่นิดเดียว เจ้าก็จะต้องจบชีวิตอยู่ตรงนั้น”
“เป็นตายฟ้าลิขิต” นัยน์ตาทั้งสองของยุวกษัตริย์หกกระบี่มองเห็นภาพในอดีตอีกครั้ง ยืดอกขึ้นบังเกิดความฮึกเหิมกล้าได้กล้าเสียขึ้นมารุนแรง และกล่าวว่า “ลูกผู้ชายอยู่บนโลกนี้ก็ต้องกล้าเสี่ยงเต็มที่ ขอถามอาจารย์ว่ากล้าเสี่ยงหรือไม่? ข้า ข่งเย่หลินไม่ใช่คนกลัวตาย แต่ไม่รู้สิว่าอาจารย์จะกล้าเสี่ยงสักครั้งหรือไม่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...