ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2038

ตลอดเวลาที่ผ่านมา โอรสราชันเซียนเฟยต้องการรู้สภาพของการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เนื่องจากไม่เพียงบิดา และคุณตาของเขาที่ได้ก้าวขึ้นสู่เส้นทางสายนี้ แม้แต่มารดาของเขาก็ได้ก้าวขึ้นสู่เส้นทางสายนี้เช่นกัน

ครั้งนั้น หลังจากที่ราชันเซียนเฟยและราชันเทพจงหนานได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการเดินทางไกลเพื่อปราบปรามครั้งสุดท้ายครั้งที่สามขึ้นแล้วก็ไม่มีข่าวคราวอีกเลย ผู้คนบนโลกต่างเข้าใจว่าพวกเขาไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกแล้ว แต่โอรสราชันเซียนเฟยในฐานะที่เป็นบุตรไม่ตายใจ ยังคงความหวังอันน้อยนิดเอาไว้

โอรสราชันเซียนเฟยเองไม่สามารถก้าวขึ้นสู่เส้นทางสายนี้ จะอย่าไรเสียเขายังคงมีห่วง เขาไม่สามารถปล่อยวางจากสถาบันศึกษาเทพเจ้าไปได้ แต่ทว่าเขารู้ว่าหลี่ชิเย่เคยไปที่นั่นมาก่อน และเขารู้ว่าเป็นหนึ่งเดียวที่มีชีวิตรอดกลับมาจากที่ตรงนั้น

ในเวลานี้ โอรสราชันเซียนเฟยมองไปที่หลี่ชิเย่ แม้ว่าตัวเขาที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ยังถึงกับต้องมีท่าทีที่ดูหนักแน่นจริงจังยิ่ง ก่อนหน้านี้นานมาแล้วเขาก็คิดจะถามปัญหาข้อนี้แล้วแต่เขาก็ไม่ได้ถาม บางทีภายในใจของเขาเองก็ไม่ต้องการได้รับคำตอบเช่นนั้น

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ยินคำถามของโอรสราชันเซียนเฟยแล้ว จ้องมองไปที่ตัวเขาและถึงกับนิ่งเงียบไปชั่วครู่ สุดท้ายได้เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ในที่สุด “ปัญหาข้อนี้ข้าไม่รู้ว่าจะตอบเจ้าอย่างไรดี”

“ท่านตอบมาตรงๆ ก็แล้วกัน ไม่ว่าจะเป็นข่าวดี หรือว่าข่าวร้ายข้าก็สามารถยอมรับได้ ข้าเองก็อายุปูนนี้แล้ว ยังจะมีอะไรที่รับไม่ได้หละ?” โอรสราชันเซียนเฟยกล่าวอย่างหนักแน่น

หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “นี่มันไม่ใช่ปัญหาเรื่องข่าวดีหรือข่าวร้าย แต่ว่าเรื่องนี้มันออกจะสลับซับซ้อน ข้าเองก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบเจ้าอย่างไรดี ถ้าหากเจ้าต้องการให้ข้าให้คำตอบเจ้าจริงๆ หละก็ เจ้าจะรู้คำตอบอยู่ข้อหนึ่ง รอให้ข้าผ่านการต่อสู้ครั้งสุดท้ายไปแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นสิ่งที่ควรเข้าใจ ข้าเชื่อว่าเจ้าก็จะเข้าใจ”

“หากศึกในครั้งนี้ไม่มีผลออกมา เช่นนั้นแล้วก็จะไม่มีคำตอบ” หลี่ชิเย่ทอดถอนใจออกมาเบาๆ และกล่าวว่า “สิ่งนี้ก็เหมือนเช่นข้าที่ต้องการคำตอบอย่างนั้น เจ้าเองก็ต้องการคำตอบนี้เช่นกัน”

หลังจากที่โอรสราชันเซียนเฟยได้ฟังคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่แล้วนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายจ้องมองหลี่ชิเย่และกล่าวว่า “ข้าเชื่อว่าสามารถรอจนถึงวันนั้น และข้าก็เชื่อว่าท่านสามารถต่อสู้จนถึงที่สุด ทำลายพันธนาการพันล้านปีนี้เสีย ถ้าหากแม้แต่ท่านก็ล้มเหลว เช่นนั้นแล้วอนาคตดูน่าสิ้นหวังเหลือเกิน หากเป็นเช่นนี้จริง อนาคตจะมีผู้คนยอมสยบต่อความมืดมากยิ่งกว่านี้”

“ยุคสมัยไหนๆ ล้วนแล้วแต่มีความมืด เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำให้หมดไปได้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “เพียงแต่ เวลานี้ไหนเลยจะไม่ใช่โอกาส ที่ควรฆ่าก็ฆ่าเสีย อนาคตก็มอบให้เป็นเรื่องอนาคตก็แล้วกัน”

“ที่ท่านพูดมาก็ถูก” โอรสราชันเซียนเฟยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “คราวนี้ก็นับเป็นโอกาสดีโดยแท้ ภายในร้อยชาติพันธุ์ของพวกเราก็สมควรกวาดล้างเสียบ้าง มิฉะนั้นหละก็ ไม่รู้ว่าใครเป็นศัตรู สิ่งนี้แหละที่ทำให้ต้องกังวล”

หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “วันนี้คงอีกไม่นาน สมควรต้องมาแล้ว”

“ภัยเงียบของสถาบันศึกษาเทพเจ้าก็สมควรสิ้นสุดลงได้แล้ว คราวนี้เป็นการกวาดล้างอย่างสิ้นซาก บางทีอาจทำให้ฐานรากของสถาบันศึกษาเทพเจ้าแข็งแรง หนาแน่นและลึกมากกว่าเดิม” โอรสราชันเซียนเฟยก็เห็นด้วยกับวิธีการของหลี่ชิเย่

“เช่นนั้นแล้วก็ให้พายุฝนฟ้าคะนองครั้งนี้มาให้รุนแรงยิ่งขึ้นก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ถ้าหากว่าบรรดาจอมเทพและเซียนหวังที่ถือกำเนิดจากสถาบันศึกษาเทพเจ้าก็มาแปดเปื้อนน้ำครำในครั้งนี้ด้วยหละก็ เป็นอะไรที่น่าผิดหวังอยู่บ้างเหมือนกัน”

สำหรับคำพูดเช่นนี้ได้ทำให้โอรสราชันเซียนเฟยต้องนิ่งเงียบ สถาบันศึกษาเทพเจ้าได้บ่มฟักระดับจอมเทพออกมาเป็นจำนวนมาก และบ่มฟักเซียนหวังออกมาส่วนหนึ่ง ถ้าหากว่าในวันที่สถาบันศึกษาเทพเจ้ามีภัย แล้วจอมเทพและเซียนหวังที่ถือกำเนิดมาจากสถาบันศึกษาเทพเจ้าล้วนแล้วแต่มาแปดเปื้อนน้ำครำในคราวนี้หละก็ นับว่าน่าสะเทือนใจเหลือเกิน และเป็นสิ่งที่ในใจของโอรสราชันเซียนเฟยไม่ต้องการเห็น

แน่นอนที่สุด หากมีวันนั้นมาถึงจริงๆ ที่สมควรฆ่าก็ต้องฆ่า ไม่มีอะไรต้องเมตตาอยู่แล้ว

งานมหกรรมชิมชาได้สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว พวกเย่ซินเสวี่ยต่างทยอยกันกลับมาที่เรือนตำรา นักศึกษาจำนวนมากต่างทยอยกันกลับไปยังชั้นเรียนของตน

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้กลับมาจากงานมหกรรมชิมชาแล้ว ได้ยืนอยู่ด้านนอกตำหนักมองดูพื้นที่ของเรือนตำราแห่งนี้ เขามองดูจนเหม่อลอย

“อาจารย์บรรลุความลี้ลับอัศจรรย์อยู่รึ?” พวกเย่ซินเสวี่ย แขนเหล็กห่วงทองคำต่างรู้สึกแปลกใจ มีเพียงหลิวจินเซิ่นที่ไม่พูดอะไรออกมา

นับตั้งแต่ได้รับคำชี้แนะจากหลี่ชิเย่ในครั้งนั้นแล้ว หลิวจินเซิ่นค้นพบตำรับยานั้นมาได้ เขาไม่มีอาการไออีกแล้ว อีกทั้งหลังจากกลับมาจากงานมหกรรมชิมชาในครั้งนี้แล้ว ท่าทางของหลิวจินเซิ่นดูจะสบายขึ้นมากทีเดียว ดูเหมือนจิตใจเบิกบานกว่าก่อนเสียอีก

“เพียงแค่มองดูผืนแผ่นดินนี้ให้เต็มตาสักหน่อยเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่มองดูพื้นที่แห่งนี้และยิ้มกล่าวว่า “อีกไม่นาน เกรงว่าพื้นที่แห่งนี้อาจจะสิ่งต่างๆ ยังคงเหมือนเดิมแต่คนเปลี่ยนไป ยิ่งกว่านั้นอาจมีความเป็นไปได้ที่ทั่วทั้งผืนแผ่นดินของสถาบันศึกษาเทพเจ้าล้วนแล้วแต่กลับกลายเป็นบ้านแตกสาแหรกขาด”

อาจารย์ล้อเล่นแล้ว…ทำเอาแขนเหล็กห่วงทองคำตกใจยิ่ง กล่าวว่า “สถาบันศึกษาเทพเจ้าของพวกเราถือเป็นสำนักของร้อยชาติพันธุ์ที่มีธาตุแท้ภายในมากที่สุด ต่อให้สายสำนักราชันเซียนอื่นๆ ถูกทำลายไป เกรงว่าสถาบันศึกษาเทพเจ้าของพวกเราก็ยังคงปลอดภัยไม่มีปัญหา”

“ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่มีความเป็นไปได้ โลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นนิรันดร์” หลี่ชิเย่ยิ้มจางๆ และกล่าวว่า “ในโลกนี้ไม่มีสำนักใดที่ตั้งอยู่โดยไม่ล้มตลอดกาล เฉกเช่นสำนักเซียนในครั้งนั้น ต่อให้เป็นสำนักที่มีเก้าราชัน มิใช่ล้มครืนลงภายในชั่วข้ามคืนกันเล่า”

คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำเอาพวกของแขนเหล็กห่วงทองคำ และเย่ซินเสวี่ยถึงกับเย็นวาบในใจ เนื่องจากพวกเขารับรู้ถึงหน้าประวัติศาสตร์นี้ดี เป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล