ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2045

กู่ฉวี่หังพูดขึ้นมาช้าๆ พลันที่พูดออกมาก็เป็นความสัจจริง ทุกสิ่งแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายแต่แก่นแท้และเป้าหมายไม่เปลี่ยน ทุกสิ่งอยู่ที่การบำเพ็ญเพียรในท้ายที่สุด เขาเพิ่งจะเริ่มต้นการบรรยายได้ไม่นานนัก ก็บังเกิดเสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ดังขึ้น สัจธรรมสอดประสาน ทุกสรรพสิ่งล้วนล่องลอย

ภายในระยะเวลาอันสั้น เนื้อหาที่กู่ฉวี่หังบรรยายพลันดึงดูดนักศึกษาจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาระดับชั้นที่สูงขึ้นไป หรือชั้นที่ต่ำลงมา

แม้แต่บรรดานักศึกษาที่เคยเรียนในรุ่นเดียวกัน หรือก่อนหน้านั้นหลายรุ่น ต่างก็ถูกเนื้อหาที่กู่ฉวี่หังบรรยายนั้นดึงดูดใจเอาไว้ ต่างทยอยกันเดินเข้าไปนั่งฟังในลานธรรม

เวลานี้มีเพียงนักศึกษาส่วนน้อยที่ยังยืนอยู่ด้านนอกลานธรรม บรรดานักศึกษาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีเหตุผลต่างๆ นานาที่ไม่เข้าไปนั่งฟังในลานธรรม

“บรรยายได้ดีมาก” เวลานี้กระทั่งมีอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้าที่ปรากฎตัวออกมา บรรดาอาจารย์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาจารย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ หนึ่งในจำนวนนั้นพยักหน้ากล่าวชื่นชมออกมาคำหนึ่ง แล้วก้าวเท้าเข้าไปในลานธรรมเพื่อฟังการบรรยาของกู่ฉวี่หัง

“พวกของอาจารย์โจวก็มากันแล้ว การบรรยายของกู่ฉวี่หังนับว่ายอดเยี่ยมโดยแท้” นักศึกษาที่ยืนฟังอยู่ด้านหน้าลานธรรมถึงกับชมเปาะออกมา อุทานออกมาด้วยความชื่นชม เมื่อเห็นอาจารย์หลายท่านทยอยกันเดินเข้าไปนั่งประจำที่

กู่ฉวี่หังคือคนหนุ่มที่เป็นอัจฉริยะบุคคล เป็นความจริงที่พรสวรรค์ของเขาเป็นที่น่าชื่นชม แต่จะอย่างไรเสียเขายังคงอายุน้อย เป็นเพียงจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์เจ็ดดวงเท่านั้น

ระดับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์เจ็ดดวงหากเปลี่ยนเป็นที่อื่น ย่อมนับเป็นระดับผู้ยิ่งใหญ่ที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง แต่ในสถาบันศึกษาเทพเจ้าแล้วไม่นับเป็นอะไร อาจารย์ในสถาบันศึกษาเทพเจ้ามีจำนวนไม่น้อยที่เป็นจอมเทพระดับดวงตราสัญลักษณ์สิบดวง

อีกอย่าง อาจารย์ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และสามารถมาเป็นอาจารย์อยุ่ในสถาบันศึกษาเทพเจ้า มีคนไหนบ้างที่ไม่ใช่ประเภทสุดยอดอัจฉริยะบุคคลในหล้า? ต่อให้ไม่ปราดเปรื่องน่าทึ่งเท่ากู่ฉวี่หังก็นับเป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลในหล้าแห่งยุค และแต่ละคนก็เป็นระดับจอมเทพ ไม่เห็นจะด้อยไปกว่ากู่ฉวี่หังสักเท่าไร

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า การถ่ายทอดวิชาความรู้ของกู่ฉวี่หังนี้ โดยพื้นฐานแล้วอาจารย์ที่เป็นระดับอาวุโสจะไม่มาฟังการบรรยายอยู่แล้ว จะอย่างไรเสียกู่ฉวี่หังยังไต่ไปไม่ถึงความสูงระดับนั้น ส่วนอาจารย์กลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างมากก็แค่มาด้วยท่าทีเฝ้าสังเกตุการณ์ ไม่แน่เสมอไปว่าจะเข้าไปนั่งฟังในลานธรรม

แต่ทว่า เวลานี้อาจารย์กลุ่มคนรุ่นใหม่หลายคนนี้ต่างทยอยกันเดินเข้าไปนั่งฟังการบรรยายในลานธรรม เป็นการบ่งชี้ว่ากู่ฉวี่หังสามารถบรรยายได้ดีจริงๆ ยอดเยี่ยมสุดจะเปรียบเปรย เนื้อหาที่กู่ฉวี่หังบรรยายนั้นแม้แต่อาจารย์ที่อยู่ในระดับเดียวกันยังถูกดึงดูดได้ และยินดีเข้านั่งฟัง

“เป็นความจริงที่กู่ฉวี่หังมีการเตรียมตัวมาอย่างดี คราวนี้เขาสามารถได้ดอกสัจธรรมห้ากลีบอย่างไม่มีปัญหาทั้งสิ้น” แม้แต่นักศึกษาที่ก่อนกู่ฉวี่หังรุ่นหนึ่งและยังคงศึกษาต่อที่สถาบันศึกษาเทพเจ้าต่อไปก็กล่าวชื่นชมออกมา

“ถูกต้อง คุ้มค่าต่อการเข้าไปนั่งฟัง” นักศึกษาอีกผู้หนึ่งที่เรียนรุ่นเดียวกันกับกู่ฉวี่หังมาพยักหน้าและกล่าวว่า “เสียดาย ที่ข้าฝึกนั้นคือการรักษาสัจธรรมให้มั่นคง มิฉะนั้นหละก็ข้าก็จะศึกษาวิเคราะห์เรื่อง ’การแผ่ขยายของหลักกฎเกณฑ์’ ที่เขาบรรยาย” เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว นักศึกษาผู้นี้ก็ดูรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง

“เหตุใดศิษย์น้องไม่เข้าไปนั่งฟังหละ?” มีรุ่นพี่คนหนึ่งเห็นนักศึกษาคนหนึ่งฟังอย่างออกรสออกชาติ ถึงกับเอ่ยถามขึ้นมา

“ฮึ ข้ากับกู่ฉวี่หังคือศัตรูคู่อาฆาต หลังจากศึกในครั้งนั้นแล้วเราก็เข้ากันไม่ได้เหมือนน้ำกับไฟ” นักศึกษาผู้นี้ส่งเสียงฮึเย็นชาออกมา และกล่าวว่า “แต่ว่า ไม่อาจไม่ยอมรับว่า การบรรยายของกู่ฉวี่หังในครั้งนี้ทำได้ดีมาก อาจารย์ที่ชื่อหลี่ชิเย่ที่อยู่เรือนตำราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่ คราวนี้หลี่ชิเย่คนนี้แพ้แน่นอน”

แม้ว่านักศึกษาผู้นี้จะเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับกู่ฉวี่หัง ไม่ว่าใครก็ไม่อยู่ในสายตาของเขา แต่เวลานี้นักศึกษาผู้นี้ก็ต้องยอมรับว่ากู่ฉวี่หังบรรยายได้ดีเหลือเกิน

“ถูกต้อง เนื้อหาของกู่ฉวี่หังในครั้งนี้ยากที่จะติเตียนได้จริงๆ ด้วยอายุเช่นนี้ของเขาเรียกได้ว่าพลังแฝงไม่มีสิ้นสุด อาจารย์รุ่นอาวุโสจำนวนไม่น้อยเมื่อเทียบกับเขาแล้วก็ดูจะสลดอยู่บ้างนะ” นักศึกษาที่รุ่นก่อนกู่ฉวี่หังรุ่นหนึ่งก็พยักหน้ากล่าวชื่นชมออกมา

“พรสวรรค์ของกู่ฉวี่หังก็มีเพียงเหรินเซิ่นที่สามารถเทียบเคียงได้ การบรรลุด้านสัจธรรมของเขากระทั่งล้ำหน้าเหรินเซิ่น ด้านสติปัญญาเหรินเซิ่นสู้เขาไม่ได้ เพียงแต่สายเลือดของเหรินเซิ่นดีกว่าเท่านั้นเอง” นักศึกษาที่เป็นศัตรูกับกู่ฉวี่หังกล่าวว่า “ข้าเข้าใจในตัวของกู่ฉวี่หังคนนี้มากเหลือเกิน การที่เขากล้าท้าสู้กับคนอื่นแสดงว่าเขาได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว เป็นการบ่งบอกว่าเขามีความมั่นใจที่เด็ดขาด…”

“…อาจารย์อย่างหลี่ชิเย่บุ่มบ่ามรับคำท้าจากกู่ฉวี่หังเป็นการวางแผนผิดพลาดแล้วหละ เขาไม่เข้าใจในตัวของกู่ฉวี่หังเลย การตัดสินชี้ขาดกับกู่ฉวี่หังในครั้งนี้ของบเขา เกรงว่าจะจำความอับอายให้กับตนเอง ถ้าหากเขาพ่ายแพ้หละก็ กู่ฉวี่หังจะไม่ยอมให้เขาได้หาทางลงได้ง่ายๆ แน่นอน ไม่แน่นักอาจจะถูกกู่ฉวี่หังเยาะเย้ย” นักศึกษาผู้นี้เคยพ่ายแพ้ต่อกู่ฉวี่หังมาก่อน ดังนั้นจึงเข้าใจในตัวของกู่ฉวี่หังลึกซึ้งยิ่งนัก

เวลานี้เมื่อได้ฟังเนื้อหาการบรรยายของกู่ฉวี่หังแล้ว เขารู้ว่าคราวนี้อาจารย์ที่ชื่อหลี่ชิเย่คงต้องโชคร้ายแน่ ถ้าหากคราวนี้ให้กู่ฉวี่หังเป็นฝ่ายชนะหละก็ คนที่ชื่อหลี่ชิเย่คิดจะกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เกรงว่าจะต้องถูกกู่ฉวี่หังเยาะเย้ย กระทั่งแม้แต่ความเป็นอาจารย์ก็ไปต่อไม่ได้แล้ว

“กู่ฉวี่หังต้องการสร้างอำนาจบารมี พูดได้เพียงเป็นความโชคร้ายของหลี่ชิเย่ ต้องมาเจอะเจอกับกู่ฉวี่หัง” นักศึกษาที่อยู่ระดับชั้นที่สูงขึ้นไปก็พยักหน้าแห็นด้วย

“สัจธรรมคือแก่นของสรรพสิ่ง สรรพสิ่งคือการวิวัฒนาการของการบำเพ็ญเพียร…” เวลานี้ กู่ฉวี่หังบรรยายได้ไพเราะน่าฟัง มากด้วยสีสัน พูดจนบุผาสวรรค์โปรยปรายลงมา พื้นดินปรากฏน้ำพุทองคำพวยพุ่งขึ้นมา

ไม่อาจไม่พูดว่า กู่ฉวี่หังช่างบรรยายได้ดีเหลือเกิน เวลานี้ เสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ดังขึ้น นักศึกษาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เปล่งประกายออกมา สัจธรรมของพวกเขาเกิดการวิวัฒนาการ พลังสัจธรรมที่น่าเกรงขามพวยพุ่งขึ้นมาเสมือนดั่งเป็นน้ำพุแต่ละแห่งอย่างนั้น ทั่วทั้งบริเวณแลดูอลังการยิ่งนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล