กรรร…เสียงคำรามของมังกรดังไม่ขาดสาย พริบตาเดียวนั่นเองปรากฏร่างเงาขนาดยักษ์ขึ้นบนท้องฟ้า กรงเล็บของมันทำเอาเมฆที่อยู่บนท้องฟ้าแตกกระจัดกระจาย
มันเป็นมังกรขนาดยักษ์ตัวหนึ่ง แต่ก็ไม่เหมือนมังกรเสียทีเดียว มันเป็นสัตว์ประหลาดที่คล้ายมังกรยักษ์แต่มีกระดูกงอกแหลมคมที่งอกออกมาบนหลัง ทุกๆ กระดูกงอกแหลมคมนั้นเปล่งประกายขาววาววับออกมา กระดูกงอกทุกอันล้วนแล้วแต่สามารถแทงทะลุท้องฟ้า น่าหวาดผวาอย่างยิ่ง
มันคือมังกรรึ…นักศึกษาของสถาบันศึกษาเทพเจ้าจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อมองเห็นสัตว์ประหลาดที่คล้ายดั่งมังกรตัวนี้
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้กรงเล็บขนาดใหญ่ดังภูเขาพลันแทงทะลุท้องฟ้า เข้าคว้าตัวราชันทักษิณทันที
“มาได้เหมาะ…” ราชันทักษิณคำรามเสียงยาวออกไป ทวนวงเดือนสวรรค์แทงสวนขึ้นไปรับมือกับกรงเล็บขนาดยักษ์ของมังกรยักษ์ หนึ่งทวนที่สามารถทำลายเก้าชั้นฟ้า แหลมคมปราศจากผู้เทียบเทียบ สรรพสิ่งล้วนยากจะต้านทาน
ตึง…เสียงระหว่างทวนวงเดือนสวรรค์กับกรงเล็บมังกรที่แหลมคมยิ่งปะทะกันซึ่งหน้า สะเก็ดไฟกระจัดกระจาย เสมือนดั่งเป็นการระเบิดแตกออกของดวงดาวขนาดใหญ่แต่ละดวงอย่างนั้น ดุจดั่งดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นในยามค่ำคืน แลดูอลังการยิ่งนัก
ในเวลานี้ มังกรยักษ์ตัวนี้ก็ยอดเยี่ยมมาก ถึงกับต้านรับกับทวนวงเดือนสวรรค์ของราชันทักษิณเอาไว้ได้ มีท่าทีที่พอฟัดพอเหวี่ยงอย่างยิ่ง มีความดุดันยิ่งนัก
“เปิด…” ราชันทักษิณคำรามเสียงยาว ทวนวงเดือนสวรรค์ในมือวาดขวางออกไป กระแทกกรงเล็บมังกรยักษ์ให้ถอยออกไป จากนั้น ถือทวนวงเดือนสวรรค์สลับข้างกระโดดเหินข้ามช่องว่าง แล้วฟาดลงบนตัวของมังกรยักษ์อย่างแรง
ปัง…เสียงดังสนั่น จากการที่ทวนวงเดือนสวรรค์ได้ฟาดลงบนตัวของมังกรยักษ์อย่างแรง ได้ยินเสียงกระดูกแตกหักดังคร๊ากก หนึ่งทวนที่ฟาดลงกลางหลังมังกรยักษ์ทำเอากระดูกงอกแหลมคมที่อยู่บนหลังมังกรยักษ์หักไปหลายอัน มังกรยักษ์ที่มีร่างกายใหญ่โตมโหฬารถูกทวนวงเดือนสวรรค์ของราชันทักษิณฟาดจนกระเด็นออกไป
กรรร…มังกรยักษ์ที่ถูกฟาดจนกระเด็นไปได้พุ่งตัวกลับเข้ามา แยกเขี้ยวกางเล็บเข้าสังหารราชันทักษิณ มังกรยักษ์ตัวนี้ฉีกท้องฟ้าจนขาด ทำลายทุกสรรพสิ่ง ขณะที่กรงเล็บแหลมคมตะปบเข้ามามีความแหลมคมยากจะต้านทาน
“ขอสังหารเจ้าก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” ราชันทักษิณเองก็เปี่ยมด้วยความพาล คำรามเสียงยาวออกมา แช้งค์ประกายทวนทะลุผ่านท้องฟ้าที่คลาคล่ำด้วยดวงดาวไกลนับล้านล้านลี้ พุ่งเข้าสังหารมังกรยักษ์ตัวนี้
บรรดานักศึกษาของสถาบันศึกษาเทพเจ้าจำนวนมากต่างชมเปาะกับภาพที่ได้เห็น แต่ ไม่รู้ว่าเป็นการชื่นชมในความดุดันของมังกรยักษ์ หรือชื่นชมในความพาลของราชันทักษิณกันแน่
ฟ่าวว..นาทีนี้เอง เกิดเป็นพายุที่พัดโหมกระหน่ำ เศษหินดินทรายปลิวว่อน ได้ยินเสียงลมปีศาจที่ดังฟ่าวว ฟ่าวว ฟ่าววขึ้นมา มองเห็นต้นไม้ที่ถูกถอนรากถอนโคน ตำหนักบ้านเรือนทยอยถูกดูดขึ้นไปบนท้องฟ้า สุดท้ายได้ยินเสียงดังปังแม้แต่ภูเขาแต่ละลูกยังถูกดูดจนยกลอยขึ้นไป
ในขณะนี้ มองเห็นปลิงยักษ์ตัวนั้นที่คล้ายดั่งแม่น้ำได้อ้าปากกว้างที่ประดุจหลุมดำขนาดยักษ์ ต้องการกลืนกินเอาสถาบันศึกษาเทพเจ้าทั้งหมดเข้าไป
“ช่วยด้วย…” ปรากฎเสียงร้องแหลมดังขึ้นบนท้องฟ้า มองเห็นนักศึกษาที่ถูกลมปีศาจเช่นนี้ดูดเอาตัวขึ้นไป
“บังอาจ…” เวลานี้ผู้อำนวยการสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้ปรากฎตัวออกมา คำรามเสียงยาวทีหนึ่ง ได้ยินเสียงดังตึงเสียงหนึ่ง ลึกเข้าไปภายในสถาบันศึกษาเทพเจ้าพลันปรากฎกระบี่พิฆาตเซียนขนาดยักษ์แต่ละเล่มที่พุ่งขึ้นมา กลายเป็นค่ายกลกระบี่ขนาดยักษ์ขึ้นมา ตึงเสียงดังสะเทือนฟ้า กระบี่พิฆาตเซียนขนาดยักษ์ทั้งหมดได้รวมตัวกันกลายเป็นกระบี่พิฆาตเซียนขนาดมหึมาเล่มหนึ่ง ประกายกระบี่ส่องสว่างไปทั่วสิบสามทวีป ปณิธานการฆ่ารุนแรง
ภายใต้ปณิธานการฆ่ารุนแรงของค่ายกลกระบี่นี้ ปลิงยักษ์ที่ปราศจากผู้เทียบเทียมตัวนี้บังเกิดความหวาดกลัวอย่างยิ่งขึ้น หันหลังคิดจะหนีไป แต่ทุกอย่างล้วนสายไปเสียแล้ว
ปุ…กระบี่พิฆาตเซียนยักษ์ได้ฟาดฟันลงมา มองเห็นบนท้องฟ้าพลันปรากฎเป็นของเหลวเหนียวที่ตกลงมาดั่งฝนห่าใหญ่ ฮือเสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น เจ้าปลิงยักษ์ตัวนี้ถูกกระบี่พิฆาตเซียนเล่มยักษ์ได้ผ่าเอาท้องของปลิงยักษ์ออก มันล้มลงท่ามกลางเสียงร้องน่าเวทนานั่น ท่ามกลางของเหลวเหนียวที่ไหลรินมองเห็นกระดูกอ่อนที่คล้ายสายรัดหยกไหลอยู่ มีผู้เฒ่าของสถาบันศึกษาเทพเจ้าเอื้อมมือคว้าเอากระดูกอ่อนนี้มาทันที
“ของดี…” แม้แต่ผู้เฒ่าของสถาบันศึกษาเทพเจ้าหลังจากได้กระดูกอ่อนดังกล่าวมาอยู่ในมือแล้ว ก็ต้องกล่าวชื่นชมออกมา
จี๊ด จี๊ด จี๊ดในเวลานี้ ปรากฏสัตว์ประหลาดที่คล้ายตั๊กแตนตำข้าวแต่ละตัวที่มีขนาดเท่าหน้าโต๊ะได้บุกรุกเข้าไปในสถาบันศึกษาเทพเจ้า แต่เมื่อสัตว์ประหลาดเหล่านี้ได้เจอะเจอเข้ากับนักศึกษาอัจฉริยะบุคคลจากจวนราชันกลุ่มหนึ่ง พวกเขาทยอยกันลงมือ ตูม ตูม ตูมปรากฏเพลิงที่พวยพุ่งบนพื้น ทำการเผาไหม้เหล่าสัตว์ประหลาดเหล่านี้จะล้มกลิ้งอยู่บนพื้น เพียงชั่วพริบตาเดียวก็จัดการเผาผลาญสัตว์ประหลาดเหล่านี้จนกลายเป็นเถ้าธุลีไป เหลือไว้เพียงเน่ยตันแต่ละเม็ดที่คล้ายบัวโพธิสัตว์เอาไว้
บรรดานักศึกษาอัจฉริยะบุคคลจากจวนราชันได้นำเอาเน่ยตันเหล่านี้มาแบ่งสันปันส่วนกันไป บรรดานักศึกษาอัจฉริยะบุคคลจากจวนราชันต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อมองเห็นเน่ยตันที่เต็มถุง และกล่าวว่า “ดูท่าคราวนี้ได้รับผลตอบแทนไม่เลวเลยนี่”
ประตูด้านทิศใต้ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า ผู้หญิงที่สุดยอดปราศจากผู้ต่อกรในหล้า ท่วงท่ากิริยาอ่อนช้อยงดงามดั่งเทพธิดา นางยืนอยู่ตรงนั้นลำพังคนเดียว รับมือกับสัตว์ประหลาดแต่ละตัวที่รุกล้ำเข้ามา
ปุ…มองเห็นกิ่งไม้นั้นทิ่มแทงออกไปเบาๆ พลันแทงทะลุตะขาบยักษ์ตัวนั้น สังหารมันแน่นิ่งอยู่กับพื้น
ปังกิ่งไม้กิ่งนั้นปัดออกไปเบาๆ จนสัตว์ดุร้ายที่ดั่งภูเขาลูกเล็กตัวนั้นปลิวออกไป มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดสดๆ สาดกระจาย
มันเป็นกิ่งไม้ของต้นไม้ที่มีเปลือกไม้หนาๆ กิ่งหนึ่ง โดยที่กิ่งไม้ซึ่งหุ้มด้วยเปลือกไม้แก่ๆ มีใบอ่อนอยู่สามถึงห้าใบ ด้วยกิ่งไม้ลักษณะเช่นนี้แหละ ยามที่มันแข็งก็จะแข็งดั่งเหล็กกล้า ยามที่มันอ่อนนุ่มสามารถนำมาพันกับนิ้วได้
ในขณะนี้ เรือนตำราสงบเงียบยิ่งนัก เนื่องจากพวกของเย่ซินเสวี่ยได้หลบซ่อนตัวไปแล้ว หลิวจินเซิ่นถูกหลี่ชิเย่ใช้ให้ไปออกไปคอยสังเกตการ ดังนั้น เรือนตำราขนาดใหญ่จึงมีหลี่ชิเย่เพียงคนเดียวเท่านั้น
เสียงซ่า ซ่า ซ่าดังขึ้นมาเป็นระลอก ในเวลานี้มีมดประหลาดที่มีขนาดเท่ากำปั้นฝูงหนึ่งไม่รู้ว่าลอบเข้ามาสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้อย่างไรกัน มดประหลาดฝูงนี้เสมือนดั่งน้ำขึ้นที่รุกเข้าไปภายในเรือนตำรา
ครั้นมดประหลาดฝูงนี้เข้าไปยังเรือนตำราแล้ว พลันปรากฏเสียงดังซ่าซ่าซ่าขึ้นมาไม่ขาดสาย พวกมันทั้งหมดได้มุดลงใต้ดิน เหมือนว่าต้องการขุดเอาดินของเรือนตำราขึ้นมาให้หมดอย่างนั้น
เจ้ามดตัวร้าย จะหนีไปไหน…ขณะที่มดประหลาดฝูงใหญ่บุกเข้าไปภายในเรือนตำราแล้ว บนฟากฟ้าปรากฎคนสามคนที่ไล่ติดตามเข้ามา ทั้งสามคนก็คือพวกของนายน้อยทะยานฟ้านั่นเอง
เมื่อพวกของนายน้อยทะยานฟ้าเห็นว่ามดประหลาดฝูงนี้ได้มุดลงใต้ดินไปหมดแล้ว จึงทยอยกันส่งเสียง
ดังออกมาว่า “เจ้ามดตัวร้าย อย่าหวังจะทำชั่วในสถาบันศึกษาเทพเจ้าของพวกเรา วันนี้ต่อให้ต้องขุดลึกลงใต้ดินก็ต้องทำลายพวกเจ้าให้สิ้นซาก”
ตามติดด้วยเสียงดังตูม ตูม ตูมที่ดังขึ้นมาเป็นระยะๆ มองเห็นพวกของนายน้อยทะยานฟ้ากำลังขุดไปตามภูเขาและหุบเขา พวกเขาทยอยลงมือพลิกแผ่นดินเป็นการใหญ่ ต้องการสังหารบรรดามดประหลาดให้สิ้น ท่าทีเหมือนต้องการขุดพื้นดินจนทั่ว
เวลานี้ พวกของนายน้อยทะยานฟ้าสามคนได้ทำการขุดค้นเรือนตำราจนฟ้าถล่มดินทลาย จนมีสภาพยุ่งเหยิงไปหมด พวกเขาทำการขุดค้นอย่างบ้าคลั่งเพื่อค้นหามดประหลาดที่มุดลงใต้พื้นดินเหล่านั้น
หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่ภายในตำหนักใหญ่พลันรับรู้ได้ เขาเพ่งดวงตาทั้งสองตรงไปข้างหน้า จากนั้นก้าวเดินออกจากตำหนักใหญ่
“พวกเจ้ากำลังทำอะไร?” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ มองดูพวกของนายน้อยทะยานฟ้าสามคนที่กำลังขุดค้นจนยุ่งเหยิงไปหมด
การโผล่ออกมาของหลี่ชิเย่ แม้ว่าพวกของนายน้อยทะยานฟ้าทั้งสามคนจะได้เตรียมใจมาแล้ว ยังอดที่จะขนลุกซู่ในใจไม่ได้ พวกเขาต่างรู้สึกตกใจยิ่งนัก ถึงกับก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยสัญชาตญาณ จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความระมัดระวัง
……………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...