ตระกูลขุนนางโบราณอวี่หลุน ราชันเซียนไป่เลี่ยน คนหัวสิงโตลึกลับ วิหารเหล่าเทพ! ยามที่ศัตรูลักษณะเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นมา ทำให้บรรยากาศภายในสถาบันศึกษาเทพเจ้าตึงเครียดถึงขีดสุด เวลานี้ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่รู้ว่าสถาบันศึกษาเทพเจ้ายังจะมีผู้ช่วยใดๆ อีก
เวลานี้ที่ทุกคนรู้ก็มีเพียงเซียนหวังสองประสาน เซียนหวังฝูสือ แต่ทว่า ลำพังแค่การสนับสนุนของเซียนหวังทั้งสามเท่านั้น เกรงว่าสถาบันศึกษาเทพเจ้าจะไม่ต้านภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้
แต่ นี่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นมาเท่านั้น พวกของตระกูลขุนนางโบราณอวี่หลุนเมื่อเทียบกับอันตรายที่แท้จริงแล้ว มันไม่นับเป็นอะไรได้เลย
ในขณะที่เทพสงครามร้อยแขนแห่งวิหารเหล่าเทพเพิ่งจากไปได้ไม่ถึงสองวัน ทันใดนั้น บนท้องฟ้าเกิดการเผาไหม้ขึ้นมา จากนั้นตามติดด้วยเสียงดังตูม ทันใดนั้นราชโองการสูงสุดถูกคลี่ออกมาท่ามกลางการเผาไหม้ สัจธรรมลอยล่องอยู่ท่ามกลางราชโองการ
แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ท่ามกลางโองการราชันปรากฏคทาอำนาจเล่มหนึ่งลอยอยู่ คทาอำนาจนี้เหมือนดั่งหยกขาว เปล่งสุดยอดอำนาจสูงสุดออกมา ยามที่พลังอำนาจนี้ตลบอบอวลนั้น แม้แต่จอมราชันเซียนหวังจำนวนไม่น้อยต้องรู้สึกเย็นวาบ พลังอำนาจสายนี้เสมือนหนึ่งประทานมาจากสวรรค์ เปี่ยมด้วยพลังที่ไม่อาจขัดขืนได้ ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังก็เป็นเช่นนี้
“เทียนฉวน…” บรรดาจอมราชันเซียนหวัง และจอมเทพต่างรู้สึกเย็นวาบในใจ เมื่อมองเห็นราชโองการลักษณะเช่นนี้ปรากฏ รู้ว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว
“สมควรแก่เวลาที่เผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าต้องร่วมมือกัน ทำลายล้างสถาบันศึกษาเทพเจ้า ทั้งสามเผ่าเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันเสื่อม!” ในเวลานี้ราชโองการปรากฏสุดยอดโองการสูงสุดดังขึ้น แม้ว่ามันจะไม่ปรากฏตัวอักษรใดๆ แต่สัจวาจากลับสะท้อนดังก้องอยู่ภายในใจของจอมราชันสถาบันศึกษาเทพเจ้า นี่คือจอมราชันที่อยู่ในระดับสูงสุดมีราชโองการลงมา
เทียนฉวน…อย่าว่าแต่นักศึกษาของสถาบันศึกษาเทพเจ้าเลย แม้แต่อาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้ายังถึงกับหวาดผวาจนหน้าถอดสี
เทียนฉวน ชื่อนี้เหมือนมีมนต์ขลังที่กดทับอยู่กลางใจของผู้คนอย่างนั้น สิ่งนี้คือความภาคภูมิใจของเผ่าสวรรค์ แต่กลับเป็นเงามืดของร้อยชาติพันธุ์
เทียนฉวนคือองค์กรที่ดึกดำบรรพ์และแข็งแกร่งที่สุดของเผ่าสวรรค์ ได้ชื่อว่าต้องเป็นจอมราชันที่มีชะตาฟ้าตั้งแต่สิบสายขึ้นไปจึงเข้าร่วมองค์กรนี้ได้ มันคอยบงการสถานการณ์ในหล้าตลอดมา และควบคุมทิศทางของเผ่าสวรรค์มาโดยตลอด
ยิ่งผู้ที่กุมอำนาจของเทียนฉวนในปัจจุบัน ยิ่งเป็นที่ทำให้ผู้คนต้องสลดเมื่อเอ่ยถึง นั่นก็คือราชันซื่อตี้นั่นเอง
ในสิบสามทวีป ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ว่าสายสำนักราชันเซียนใดก็ตาม ไม่ว่าเจ้าจะมีความแข็งแกร่งเช่นใด สมควรที่เจ้าต้องหวาดกลัวต่อเทียนฉวนจึงจะถูก จะอย่างไรเสียเมื่อต้องมาอยู่ต่อหน้าผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ต่อใหมีความแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม มันก็เฉกเช่นมดปลวกเท่านั้นเอง ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง
เวลานี้เทียนฉวนถึงกับประกาศราชโองการออกมาเช่นนี้ แม้ว่าไม่มีใครรู้ว่าราชโองการนี้ออกมาจากผู้ใด แต่ มันไม่มีความสำคัญอีกแล้ว ขอเพียงเป็นราชโองการที่มาจากเทียนฉวนก็พอแล้ว เพียงพอที่จะแทนเทียนฉวนได้!
หลังจากที่ราชโองการนี้ถูกถ่ายทอดออกมาแล้ว ทั่วฟ้าดินปรากฏเงียบสงัดไปทั่ว อย่าว่าแต่สถาบันศึกษาเทพเจ้าเลย แม้แต่บรรดาจอมราชันเซียนหวังที่ไม่เผยโฉมเหล่านั้นพลันนิ่งเงียบไปทันที
การที่เทียนฉวนถ่ายทอดราชโองการออกไป เหมือนว่าเป็นการกำหนดชะตาชีวิตของสถาบันศึกษาเทพเจ้าโดยทันทีไปแล้ว ในเวลานี้ต่อให้มีเซียนหวังหรือจอมเทพที่คิดจะให้ความช่วยเหลือสถาบันศึกษาเทพเจ้าก็ต้องประเมินตัวเองให้ดี หากออกหน้าให้การช่วยเหลือสถาบันศึกษาเทพเจ้าในเวลานี้ ย่อมต้องเป็นศัตรูกับเทียนฉวน ใครก็ตาม หรือผู้ดำรงอยู่ในสถานะใดก็ตาม หากคิดจะเป็นศัตรูกับเทียนฉวน ก็ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ
“นี่เป็นการส่งสัญญาณที่จะฆ่าล้างตระกูลเลยนะเนี่ย” มีระดับจอมเทพที่ไม่ได้เผยโฉมออกมาถึงกับพึมพำด้วยความตระหนก
“คราวนี้ เกรงว่าสถาบันศึกษาเทพเจ้าจบสิ้นแล้ว” เวลานี้แม้แต่ราชันเซียนไป่เลี่ยนถึงกับส่ายหน้าและกล่าวด้วยความรู้สึกเสียดายยิ่ง “เว้นแต่มีระดับเซียนหวังอิเย่คอยให้การสนับสนุน มิฉะนั้นหละก็เซียนหวังอื่นๆ ล้วนแล้วแต่ช่วยอะไรสถาบันศึกษาเทพเจ้าไม่ได้”
เมื่อเทียนฉวนได้ถ่ายทอดราชโองการลงมาแล้ว น้อยคนนักที่จะแข็งขืนกับสถานการณ์เช่นนี้ได้ เว้นแต่เวลานี้สถาบันศึกษาเทพเจ้าสามารถได้เซียนหวังอิเย่มาให้การสนับสนุน หาไม่แล้ว ย่อมสามารถมองเห็นจุดจบของสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้อย่างสิ้นเชิงอยู่แล้ว
“ในที่สุด สำนักที่น่าอัศจรรย์แห่งหนึ่งกำลังจะรูดม่านปิดฉากลงแล้ว” เซียนหวังที่แอบอยู่ลับๆ ก็รู้สึกเสียดาย กล่าวทอดถอนใจออกมาเบาๆ
สถาบันศึกษาเทพเจ้าพวกเราจะจบสิ้นแล้ว…เวลานี้ สีหน้าของนักศึกษาสถาบันศึกษาเทพเจ้าล้วนแล้วแต่ขาวซีด ต่อให้พวกเขาไม่มีประสบการณ์เอาเสียเลย ก็รู้ว่าเทียนฉวนแทนสิ่งใด และรู้ว่าเทียนฉวนบ่งบอกถึงสิ่งใด!
“บางทีอาจได้เวลาที่พวกเราควรจะไปจากได้แล้ว” เวลานี้มีนักศึกษาที่รู้สึกอกสั่นขวัญแขวน คิดจะถอนตัวออกไป
ก่อนหน้าที่เทียนฉวนยังไม่ได้มีราชโองการลงมา ยังคงมีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่คาดหวังกับสถาบันศึกษาเทพเจ้าอยู่มากทีเดียว จะอย่างไรเสียศักยภาพของสถาบันศึกษาเทพเจ้าลึกล้ำยากจะหยั่งถึงเสมอมา ต่อให้อันตรายแค่ไหนก็สามารถรับเอาไว้ได้
เวลานี้เทียนฉวนได้ถ่ายทอดราชโองการลงมา มันก็คือการสั่งการให้จอมราชันของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าให้ล้อมปราบสถาบันศึกษาเทพเจ้าดีๆ นี่เอง ต้องการเฉือนสถาบันศึกษาเทพเจ้าออกเป็นชิ้นแล้วแบ่งๆ กันไป
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้นักศึกษาที่มั่นใจในสถาบันศึกษาเทพเจ้าล้วนแล้วแต่ต้องรู้สึกสิ้นหวังในใจ เกรงว่าการล่มสลายของสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้กลายเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว.ไอลีนโนเวล.
ดังนั้น ในเวลานี้จึงมีนักศึกษาของสถาบันศึกษาเทพเจ้าจำนวนไม่น้อยต้องการหนีไป แต่ว่า บรรดานักศึกษาเหล่านี้ก็ต้องเผชิญกับปัญหาที่น่าปวดหัว เวลานี้พวกเขาอยู่ท่ามกลางโลกดึกดำบรรพ์ ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะหนีออกไปได้
เทียนฉวนกำลังมาแล้ว…แม้แต่หลิวจินเซิ่นยังต้องมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเมื่อมองเห็นราชโองการเทียนฉวน การลงมือของเทียนฉวนนับว่าสร้างความกดดันให้ผู้คนได้โดยแท้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...