ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2074

ราชันเทพลั่วจวินหัวเราะและกล่าวว่า “พี่เถาโซ่ว แม้ว่าอำนาจของสกัดฟ้ายากจะต้านทาน แต่อย่าลืมไปสิ ยุคนี้ยังมีเทียนฉวนอยู่นะ ใต้หล้ายังจะมีกี่คนที่สามารถต่อต้านกับเทียนฉวนได้ กี่คนที่จะต้านกับราชันซื่อตี้ได้?” คำพูดของราชันเทพลั่วจวินทำให้ในใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องเย็นวาบ เทียนฉวนได้มีราชโองการลงมาแล้ว จุดยืนต่อภัยพิบัติครั้งนี้ของสถาบันศึกษาเทพเจ้านับว่าชัดเจนมาก เทียนฉวนจะต้องทำลายล้างสถาบันศึกษาเทพเจ้า ให้ได้ หากเทียนฉวนต้องการทำลายสถาบันศึกษาเทพเจ้าหละก็ เช่นนั้นแล้ว เกรงว่าการลงมือของราชันซื่อตี้คงเป็นเรื่องที่ช้าหรือเร็วเท่านั้น

เวลานี้ราชันเสวียนตี้ได้สังเกตการณ์การต่อสู้แล้ว เกรงว่าราชันเสวียนตี้ก็ต้องลงมืออย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นแล้วบวกกับราชันซื่อตี้ จอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายสององค์ลงมือพร้อมกัน อยากถามดูว่า ในโลกนี้ยังจะมีใครสามารถช่วยเหลือสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้อีก

ในโลกนี้ จอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายมีเพียงสี่องค์เท่านั้นเอง ราชันเทพชิงมู่ล่องลอยปราศจากร่องรอย เวลานี้จอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายสององค์ลงมือ เกรงว่าคงไม่มีใครสามารถช่วยเหลือสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้แล้วจริงๆ

“พี่เถาโซ่ว สถาบันศึกษาเทพเจ้าต้องถูกทำลายแน่นอน เชิญกลับไปเถอะ ท่านได้พยายามเต็มที่แล้ว” เวลานี้ราชันเทพลั่วจวินเห็นว่าเซียนหวังเถาโซ่วไม่พูดไม่จา จึงเอ่ยขึ้นมาช้าๆ

เซียนหวังเถาโซ่วไหนเลยจะไม่เข้าใจเหตุผลข้อนี้ แต่ว่าเขายังคงสงบนิ่ง และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “สถาบันศึกษาเทพเจ้ามีบุญคุณต่อข้า และก็คือบ้านของข้า วันนี้ขอเพียงข้าเถาโซ่วยังมีลมหายใจอยู่ จะพยายามปกป้องสถาบันศึกษาเทพเจ้าเต็มที่ ไม่ตายไม่เลิก!”

คำพูดของเซียนหวังเถาโซ่วสงบนิ่ง และเรียบเฉยมาก แต่กลับทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องสะดุ้ง โดยเฉพาะจอมเทพที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันศึกษาเทพเจ้า ถึงกับหวั่นไหวในใจ

ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องถามใจตัวเอง ตัวเองสำเร็จการศึกษามาจากสถาบันศึกษาเทพเจ้า ตัวเองได้เรียนรู้อะไรจากสถาบันศึกษาเทพเจ้ามาบ้าง? แต่ ในยามที่สถาบันศึกษาเทพเจ้ากำลังตกอยู่ในอันตราย ตัวเองสามารถทำอะไรเพื่อสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้บ้าง

“ถูกต้อง ปกป้องสถาบันศึกษาเทพเจ้าด้วยชีวิต!” มีอาจารย์ที่อดคำรามเสียงยาวออกมาไม่ได้ ต้องการร่วมเป็นร่วมตายกับสถาบันศึกษาเทพเจ้า

“อารามเมฆขาวสนับสนุนสถาบันศึกษาเทพเจ้า ศิษย์มาสายไป โปรดอภัย!” ในขณะนี้มีระดับจอมเทพคำรามเสียงยาวดังก้องไปทั่วฟ้าดิน มองเห็นจอมเทพผู้หนค่งก้าวเท้าเข้าไปในสถาบันศึกษาเทพเจ้า คำรามเสียงยาวและเข้าต่อสู้ชี้ขาดกับศัตรูที่บุกรุกเข้ามาในสถาบันศึกษาเทพเจ้า!

“จอมเทพไป่หวินมาแล้ว” มีผู้ที่เอ่ยขึ้นมาเมื่อมองเห็นจอมเทพที่ลอยล่องดั่งเมฆขาว

“หงเย่ยินดีปกป้องสถาบันศึกษาเทพเจ้าด้วยชีวิต!” เวลานี้ จอมเทพอีกผู้หนึ่งก็คำรามเสียงยาวและออกมาจากมุมมืดเข้าไปในสถาบันศึกษาเทพเจ้า ร่วมต่อสู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่าผู้เฒ่าของสถาบันศึกษาเทพเจ้า

“พี่หงเย่ นับรวมข้าจินกวางด้วยคน!” จอมเทพองค์ที่สามก็ทนไม่ไหวติดตามเข้าไปในสถาบันศึกษาเทพเจ้าเช่นกัน

“เทียนฉวนก็ดี จอมราชันสิบสองชะตาฟ้าก็ช่าง สถาบันศึกษาเทพเจ้าไม่มีวันล้ม ข้ายินดีร่วมเป็นร่วมตายกับสถาบันศึกษาเทพเจ้า!” ในเวลานี้ ปรากฏระดับจอมเทพอีกหลายองค์ก็ได้เข้าร่วมกับสถาบันศึกษาเทพเจ้า ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า!

ความจริงแล้ว จอมเทพบางส่วนที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้มาถึงนานแล้ว เพียงแต่พวกเขาส่วนใหญ่มาด้วยท่าทีเป็นผู้ชม กระทั่งมีบางส่วนที่มีใจเห็นแก่ตัว หากว่าสถาบันศึกษาเทพเจ้าถูกทำลาย บางทีพวกเขาอาจจะถือโอกาสตอนชุลมุนฉกฉวยผู้ประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ ได้บ้าง

แต่ว่า คำพูดของเซียนหวังเถาโซ่วกับสร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจของบรรดาจอมเทพเหล่านี้ ทำให้พวกเขานึกถึงช่วงเวลาที่สดใสมีชีวิตชีวาและตื่นเต้นขณะที่ตนกำลังศึกษาอยู่ในสถาบันศึกษาเทพเจ้า ช่วงเวลานั้นบางทีสถาบันศึกษาเทพเจ้าอาจไม่ได้มอบสุดยอดเคล็ดวิชาให้กับพวกเขา แต่ กลับมอบวิธีการเอาตัวรอดในโลกแห่งผู้บำเพ็ญตนที่ทารุณโหดร้าย สถาบันศึกษาเทพเจ้าได้เปิดโอกาสในสิบสามทวีปให้กับพวกเขา!

อาจกล่าวได้ว่า สถาบันศึกษาเทพเจ้าได้วางรากฐานชีวิตให้กับพวกเขา ท้ายที่สุด จึงส่งผลให้พวกเขาได้กลายเป็นจอมเทพ สามารถมีอำนาจบารมีได้ในถิ่นๆ หนึ่ง สามารถทำให้ครอบครัวลูกหลานเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา

ดังนั้น วันนี้สถาบันศึกษาเทพเจ้ามีภัย บรรดาจอมเทพเหล่านี้ถูกกระตุ้นด้วยคำพูดของเซียนหวังเถาโซ่วแล้ว ถึงกับเลือดในกายเดือดพล่าน ทยอยกันก้าวออกมาช่วยเหลือสถาบันศึกษาเทพเจ้าอีกแรงหนึ่ง ยินดีร่วมเป็นร่วมตายกับสถาบันศึกษาเทพเจ้า

“ฆ่า…” เวลานี้เซียนหวังเถาโซ่วไม่ต้องการเปลืองน้ำลายกับพวกราชันเทพลั่วจวินอีกต่อไป คำรามเสียงยาว พลันลงมือก็อาศัยชะตาฟ้าสิบสาย ฉับพลันพุ่งเข้าสังหารพวกราชันเทพลั่วจวิน

พวกของราชันเทพลั่วจวินก็คำรามเสียงยาวออกมา ร่วมมือกันระหว่างจอมราชันทั้งห้า ต้านรับกับเซียนหวังเถาโซ่ว จะอย่างไรเสียเซียนหวังเถาโซ่วคือเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสาย ดูถูกไม่ได้เลย!

“สถาบันศึกษาเทพเจ้าย่อมเป็นสถาบันศึกษาเทพเจ้า จะอย่างไรเสียก็คือแหล่งต้นกำเนิดและสถานที่บ่มฟักให้ได้ดิบได้ดีของร้อยชาติพันธุ์ แม้ว่าจะมีระดับจอมเทพและเซียนหวังได้ทรยศต่อสถาบันศึกษาเทพเจ้า ต้องการมีส่วนได้แบ่งปันผลประโยชน์จากสถาบันศึกษาเทพเจ้าไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีผู้คนจำนวนมากไม่ลืมบุญคุณจากการบ่มเพาะของสถาบันศึกษาเทพเจ้า ในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา สถาบันศึกษาเทพเจ้าได้บ่มฟักเซียนหวังและจอมเทพมาแล้วเป็นจำนวนเท่าไร” แม้แต่ระดับจอมเทพเผ่าสวรรค์ที่ดูชมเหตุการณ์อยู่ก็กล่าวทอดถอนใจออกมา

ทุกคนต่างก็รู้ว่านี่คือโลกของปลาใหญ่กินปลาเล็ก ใครไม่ทำเพื่อตัวเองฟ้าดินจะลงโทษ แต่ทว่า ในขณะที่สถาบันศึกษาเทพเจ้ากำลังมีภัย ยังคงมีผู้ที่ยินดีก้าวออกมาปกป้องมัน ยินดีร่วมเป็นร่วมตายกับมัน นี่แหละคือสถาบันศึกษาเทพเจ้า มันหาใช่เป็นสำนักที่สืบทอดกันมาตามประเพณีแต่โบราณ แต่มันคือความหวังของร้อยชาติพันธุ์ เป็นแหล่งต้นกำเนิดและสถานที่บ่มฟักให้ได้ดิบได้ดีของร้อยชาติพันธุ์!

“ใครจะมาเป็นผู้ต่อต้านกับจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายกันเล่า” แม้ว่าจะมีจอมเทพมากมายเข้าร่วมรบในสมรภูมิรบ แต่ภาพรวมต่อสถานการณ์ยังคงไม่ดีนัก โดยเฉพาะภาพเงาสะท้อนในกระจกเงาของราชันเสวียนตี้ มันเหมือนเป็นเงามืดที่ใหญ่โตครอบคลุมอยู่ในใจของทุกคนในสถาบันศึกษาเทพเจ้า ไม่ว่าใครก็ต้องหวั่นเกรงต่อจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสาย และมีเหตุผลเพียงพอที่ทำให้ทุกๆ คนต้องหวาดกลัว.ไอลีนโนเวล.
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้นมา ขณะที่ทุกคนกำลังหวั่นเกรงต่อผู้ดำรงอยู่ในฐานะราชันเสวียนตี้อยู่นั้น ฉับพลันนั้น โลกดึกดำบรรพ์พลันปรากฏประกายสีเขียวขึ้นมา และประกายสีเขียวดังกล่าวได้ปกคลุมทั่วทั้งสถาบันศึกษาเทพเจ้าในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น

เวลานี้ ได้ยินเสียงแผ่วเบาแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ดังขึ้น มองเห็นใบไม้สีเขียวแต่ละใบที่ปลิวลงมาจากฟากฟ้า ใบไม้สีเขียวทุกๆ ใบที่ปลิวลงมาเสมือนหนึ่งได้ปะพรมสิ่งที่เปี่ยมล้นไปด้วยความมีชีวิตชีวาให้กับสถาบันศึกษาเทพเจ้า ทำให้ทั่วทั้งสถาบันศึกษาเทพเจ้าล้วนแล้วแต่รู้สึกชุ่มชื่นอยู่ท่ามกลางความมีชีวิตชีวาสีเขียวเช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล