“ได้เวลาไสหัวออกไปจากสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้แล้ว…” หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ยิ้มเฉยเมย ยื่นมือออกไป ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น
ตามติดด้วยเสียงคร๊ากก คร๊ากกดังขึ้นที่เรือนตำรา มองเห็นตำหนักขนาดใหญ่แต่ละหลังภายในเรือนตำราที่รวมเข้าด้วยกัน เพียงชั่วพริบตาเดียวถึงกับประกอบเป็นตำหนักขนาดใหญ่ที่เก่าแก่โบราณและน่าเกรงขามขึ้นมาหลังหนึ่ง
ตูม…เสียงดังสนั่นดังขึ้น ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ตำหนักใหญ่หลังนี้พลันปะทุเป็นพลังที่สามารถทำลายฟ้าดินขึ้นมา พลังที่ทำลายฟ้าดินนี้พลันพวยพุ่งออกมาจากในตำหนักใหญ่หลังนี้ และแผ่ขยายออกไปด้านนอก และพุ่งเข้าหาผู้รุกรานทุกคน
“ถอย…” ด้วยพลังทำลายฟ้าดินเช่นนี้พุ่งโจมตีเข้ามา ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังก็มีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป ต่อให้พวกเขาที่มีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ก็ไม่ต้องการไปต้านกับพลังสายนี้ พวกเขาล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว หนีขึ้นไปอยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า
เสียงตูมดังสนั่น พลังทำลายฟ้าดินพุ่งโจมตีออกมา มีจอมเทพระดับล่างบางคนที่ล่าถอยช้าเกินไป พลันถูกพลังทำลายฟ้าดินนี้พุ่งโจมตีจนกลายเป็นเถ้าธุลีไป ไม่มีโอกาสกระทั่งร้องเสียงน่าเวทนาออกมา ถูกสังหารไปในทันที
ภาพเช่นนี้ได้สร้างความหวาดกลัวจนขนลุกซู่ให้กับผู้ที่ดูชมอยู่ด้านข้างทั้งหมด นี่มันคือพลังอะไรกันแน่นะถึงได้ทรงพลังและน่ากลัวถึงเพียงนี้
“ตำหนักสวรรค์…” เวลานี้หัวสิงห์ร่างคนผู้นั้นร้องเสียงดังขึ้นมา บอกถึงประวัติของพลังสายนี้ได้ทันที มือขนาดใหญ่ที่บดบังท้องฟ้าและยื่นเข้าไปคว้าตำหนักที่เก่าแก่โบราณและน่าเกรงขามนั่น
“ไสหัวไป…” หลี่ชิเย่ส่งเสียงฮึน่าเกรงขามออกมา ปรากฏเสียงตูมดังสนั่น เวลานี้ตำหนักหลังดังกล่าวได้กลับกลายเป็นต้นกำเนิดสัจธรรม ฉับพลันได้พวยพุ่งเป็นประกายที่ร้อนแรงยิ่งออกมาสายหนึ่ง ประกายร้อนแรงที่สามารถสังหารเทพเข่นฆ่าราชันได้ ปราศจากผู้เทียบเทียม และปราศจากผู้ต่อกร
เสียงปังดังขึ้น ประกายสายนี้มีความรวดเร็วและทรงพลังเหลือเกิน แม้แต่หัวสิงห์ร่างคนที่แข็งแกร่งก็หลบไม่พ้น และต้านเอาไว้ไม่อยู่ ถูกประกายสายนี้ยิงทะลุหน้าอกไป
“เจ้าคนขี้ขลาดที่หลบๆ ซ่อนๆ ปรากฏตัวออกมาเดี๋ยวนี้!” เวลานี้ โอรสราชันเซียนเฟยคำรามเสียงยาวออกมา ฉวยโอกาสจังหวะที่ประกายสายนั้นยิงทะลุผ่านหน้าอกของหัวสิงห์ร่างคนนั้นไป ลงมืออย่างเฉียบขาด ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น กฎเกณฑ์จอมราชันแต่ละสายได้พวยพุ่งออกมาจากสถาบันศึกษาเทพเจ้า ฉับพลันแทงทะลุเข้าร่างของหัวสิงห์ร่างคน และทำการพันธนาการชะตาฟ้าสิบสี่สายที่อยู่ภายในร่างกายร่างนี้
ตูม ตูม ตูมจังหวะที่โอรสราชันเซียนเฟยได้พันธนาการชะตาฟ้าทั้งสิบสี่สายนี้เอาไว้นั้น ประกายที่พวยพุ่งออกมาจากตำหนักหลังนั้นพลันเผาผลาญชะตาฟ้าทั้งสิบสี่สายนี้ ต้องการหลอมกลั่นชะตาฟ้าทั้งสิบสี่สายนี้ทิ้งไป
แย่แล้ว…เซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย และเป็นผู้บงการในร่างคนร่างนี้พลันมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป คำรามเสียงยาวออกมา และร้องกล่าวเสียงดังว่า “รีบปรากฏตัว!”
ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสาย พริบตาเดียวนั่นเอง ร่างเงาที่น่าเกรงขามสิบสี่สายปรากฏขึ้น เซียนหวังจำนวนสิบสี่องค์พลันมาถึง พวกเขาเข้าควบคุมจักรวาล พลิกกลับทุกๆ สถานการณ์
ตึง ตึง ตึงเสียงแตกร้าวแต่ละเสียงที่ดังขึ้น ตัวจริงของสิบสี่เซียนหวังมาถึงโดยพลันและเข้าควบคุมชะตาฟ้าของตน จัดการดึงกฎเกณฑ์ที่พันธนาการชะตาฟ้าของพวกเขาจนขาด
การปรากฏตัวของสิบสี่เซียนหวัง ทำให้อานุภาพที่ปราศจากผู้ต่อกรที่น่ากลัวตลบอบอวลไปทั่วฟ้าดิน ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องสั่นเทากับสิ่งนี้ ขบวนการเช่นนี้นับว่ามีความแข็งแกร่ง และน่ากลัวมากเหลือเกิน
“เซียนหวังจุ้งเทียน…” มีผู้คนที่รู้สึกใจหายใจคว่ำและร้องกล่าวออกมาด้วยความตระหนก เมื่อมองเห็นหนึ่งในสิบสี่เซียนหวังที่แข็งแกร่งที่สุดคนนั้น ซึ่งมีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายในครอบครอง
“เขา เขาเคยเป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาเทพเจ้านะเนี่ย” จอมเทพที่ยืนดูถึงกับเอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้นมา
“เซียนหวังจุ้งเทียน…” จอมเทพของร้อยชาติพันธุ์ถึงกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ เมื่อมองเห็นเซียนหวังผู้นี้แล้ว
เซียนหวังจุ้งเทียนคือหนึ่งในเซียนหวังที่แข็งแกร่งที่สุดของร้อยชาติพันธุ์ มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย ผู้ก่อตั้งพรรคทะยานฟ้า อีกทั้งเขาเคยเป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาเทพเจ้า!
“เซียนหวังห้าองค์ของพรรคทะยานฟ้า เซียนหวังของพรรคซือเสินสามองค์ ยังมีเซียนหวังอีกหกองค์จากร้อยชาติพันธุ์ นอกจากเซียนหวังจุ้งเทียนแล้ว ในบรรดาเซียนหวังทั้งสิบสี่องค์ยังมีเซียนหวังอีกสามองค์ที่เคยเป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาเทพเจ้า” มีผู้ที่พึมพำออกมา
พรรคซือเสินมีเซียนหวังสี่องค์ เพียงแต่เซียนหวังองค์แรกของพวกเขาตายด้วยสวรรค์ลงทัณฑ์
เซียนหวังทั้งสิบสี่องค์นี้ไม่เพียงกำเนิดจากร้อยชาติพันธุ์ทั้งหมดเท่านั้น ทั้งยังมีเซียนหวังสี่องค์ที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันศึกษาเทพเจ้า
“นี่คือร้อยชาติพันธุ์เองที่ต้องการทำลายสถาบันศึกษาเทพเจ้านะเนี่ย” แม้แต่จอมเทพของเผ่ามารยังถึงกับต้องพูดเสียงแผ่วเบาออกมา
“อาศัยความใกล้ชิดคว้าผลประโยชน์ก่อน เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้” จอมราชันของเผ่าเทพเยาะเย้ยและกล่าวว่า “เกรงว่าพวกเขาอยากได้สถาบันศึกษาเทพเจ้าใช่เป็นเพียงแค่วันสองวันเท่านั้น”
ทุกคนต่างรู้สึกเย็นวาบในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เฉกเช่นพวกคนอย่างเซียนหวังจุ้งเทียน พวกเขาเคยเป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาเทพเจ้า พวกเขาจะไม่ล่วงรู้ถึงขุมทรัพย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้าได้รึ? จะไม่ให้พวกเขาต้องใจเต้นตูมตามได้รึ? กล่าวได้ว่า ธาตุแท้ภายในของสถาบันศึกษาเทพเจ้า เกรงว่าคงมีเพียงไม่กี่คนที่อดกลั้นต่อความเย้ายวนเช่นนี้ได้.ไอลีนโนเวล.
“พวกสวะที่เนรคุณ!” โอรสราชันเซียนเฟยมองดูพวกเซียนหวังจุ้งเทียน เอ่ยนำเสียเย็นชาขึ้นมา
เซียนหวังจุ้งเทียนถึงกับหน้าแดงด้วยความอับอาย จะอย่างไรเสียพวกเขาเคยเป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาเทพเจ้า เมื่อสถาบันศึกษาเทพเจ้ามีภัย พวกเขากลับคิดจะทำลายสถาบันศึกษาเทพเจ้าเสีย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...