ในขณะนี้ เซียนหวังจุ้งเทียนกับราชันเซียนมู่เทียนคงไม่มีการต่อสู้กันอีกแล้วในเวลานี้ ตรงกันข้าม เผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าที่มองดูตำหนักสวรรค์ซึ่งกำลังหมุนรอบตัวหลี่ชิเย่อยู่นั้นกลับเริ่มที่จะไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป จะอย่างไรเสียสิ่งนี้คือตำราอาวุธสวรรค์ที่ได้ชื่อว่าสุดยอดอันดับหนึ่งนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้า
ในเวลานี้ ราชันเทพเจี๋ยเตา ราชันมารหลงเชียง และราชันมารทั้งสี่ของตระกูลขุนนางโบราณอวี่หลุนได้ส่งสายตาให้แก่กันในนาทีนี้ พวกเขาพลันบรรลุความเข้าใจตรงกัน และบรรลุข้อตกลงร่วมกันในทันที
พวกของราชันเทพเจี๋ยเตา ราชันมารหลงเชียงที่เป็นจอมราชันทั้งหกได้ก้าวเดินเข้าไปล้อมวงหลี่ชิเย่เอาไว้ ในเมื่อขณะนี้พวกของเซียนหวังจุ้งเทียนไม่ทำการแย่งชิงตำหนักสวรรค์ในทันที เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็จะลงมือก่อน ลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ ขอเพียงพวกเขาแย่งชิงเอาตำหนักสวรรค์มาได้แล้วก็จะหลบหนีไปทันที ส่วนของวิเศษอื่นๆ ของสถาบันศึกษาเทพเจ้านั้น พวกเขาไม่เอาก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา เมื่อมองเห็นพวกของราชันเทพเจี๋ยเตา ราชันมารหลงเชียง และราชันมารอวี่หลุนทั้งหกที่ค่อยๆ ล้อมวงเข้ามา และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ว่าอย่างไร พวกเจ้าทั้งหกก็คิดจะแย่งชิงตำหนักสวรรค์นั้นรึ?”
“พี่ท่านคือประเภทคนตายอยู่แล้ว ในเมื่อพี่ท่านหาญกล้าในการโต้คลื่นคลั่งเพื่อพลิกสถานการณ์ ข้าเชื่อว่าพี่ท่านคงไม่ใส่ใจว่าพวกเราจะมีคนมากหรือน้อยกว่า” เวลานี้ราชันมารอวี่หลุนอมยิ้มและกล่าวว่า “ถ้าหากพวกเราทั้งหกคนร่วมมือกันแล้วสู้พี่ท่านไม่ได้ เช่นนั้นได้แต่โทษพวกเราเองที่ไม่เจียมตัวแล้วหละ”
หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมากับคำพูดของราชันมารอวี่หลุน กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “พวกเจ้าคิดได้ดีนะ แต่ว่า เป็นความจริงที่พวกเจ้าออกจะไม่เจียมตนอยู่บ้าง”
พลันที่บรรดาเหล่าจอมเทพที่ดูชมอยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่แล้ว ต้องมองตากันและกัน มีผู้ที่รุ้สึกตระหนกอยู่เงียบๆ และกล่าวว่า “คนผู้นี้คือใครกันแน่ ถึงกับกล้าพูดจาสามหาวถึงเพียงนี้ ควรจะทราบว่า ในบรรพาพวกของราชันมารอวี่หลุนหกคน มีอยู่สองคนที่เป็นจอมราชันชะตาฟ้าสิบสาย”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พี่ท่านก็ยิ่งไม่ถือสาที่ศึกษาซึ่งกันและกันกับพวกเรา” ในเวลานี้ราชันมารหลงเชียงก็ยิ้มกล่าวว่า “ถ้าหากพวกเราพ่ายแพ้ย่อมไม่มีอะไรจะพูด หากพวกเราเป็นฝ่ายชนะ พวกเราต้องการเพียงตำหนักสวรรค์เท่านั้น ไม่ทราบว่าพี่ท่านกล้าวางตำหนักสวรรค์ลงแล้วมาสู้กันสักครั้ง?”
เวลานี้ ราชันมารหลงเชียงก็กำลังยั่วยุหลี่ชิเย่ให้เกิดความฮึกเหิม จะอย่างไรเสีย การที่หลี่ชิเย่มีตำหนักสวรรค์อยู่ในมือ อย่างน้อยพวกเขาย่อมมีความหวั่นเกรงอยู่สามส่วน
เวลานี้ บรรดาจอมราชันเซียนหวังคนอื่นๆ ต่างถือคติเป็นผู้ชม กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ถ้าหากพวกของราชันมารหลงเชียงเอาชนะหลี่ชิเย่ได้ พวกเขาก็สามารถชิงเอาตำหนักสวรรค์มาจากมือของพวกราชันมารหลงเชียงได้เช่นกัน แต่หากพวกของราชันมารหลงเชียงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ถือเสียว่ามีคนที่จะไปตายแทนได้พอดี ทำให้พวกเขาสามารถประเมินประวัติความเป็นมาของหลี่ชิเย่ได้
“แค่ท้าสู้กับพวกเจ้าหกคนเท่านั้นเองมันจะไปยากเย็นอะไร ข้าเย่หวินโจวคนเดียวก็รับมือพวกเจ้าได้” เวลานี้เสียงที่เปี่ยมด้วยความพาลยิ่งดังขึ้นมา เสมือนหนึ่งเป็นเสียงฟ้าผ่าที่ผ่าลงมาท่ามกลางฟ้าดินอย่างนั้น
เวลานี้ มองเห็นบุรุษผู้นี้เหินฟ้าเข้ามาด้วยลักษณะท่าทางที่ฮึกเหิมลำพองมาก ขณะที่เขาเหินฟ้าเข้ามาฟ้าดินถึงกับมืดลง พริบตาเดียวกันนั่นเอง เสมือนหนึ่งฟ้าดินถูกกลืนกินไปทั้งหมด เป็นบุรุษที่สวมเสื้อสีดำคนหนึ่ง
เวลานี้สิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องหวาดกลัวหาใช่เป็นอานุภาพราชันเซียนที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของเขา แต่เป็นท่าทีที่กลืนกินฟ้าดินสายนั้นที่อยู่บนตัวของเขา เหมือนว่าร่างกายของเขาก็คือหลุมดำที่มีขนาดใหญ่โตมากที่สุดในโลก ร่างกายของเขาสามารถกลืนกินสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ต่อให้เป็นฟ้าดินทั้งผืนหากตกไปอยู่ท่ามกลางนั้น ก็จะถูกกลืนกินสิ้นในทันทีกระทั่งไม่เหลือแม้แต่ซาก
“ราชันเซียนทุนยื่อมาแล้ว…” ในขณะนี้มีเซียนหวังที่ร้องเสียงดังออกมา
‘ราชันเซียนทุนยื่อ’ ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่รู้สึกเย็นวาบเมื่อได้ยินฉายาราชันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รับรู้ถึงเรื่องศึกล่าราชันด้วยแล้วถึงกับขนลุกซู่ในใจราชันเซียนทุนยื่อในครั้งนั้นนับว่าความพาลนั้นดั่งคลื่นยักษ์ในทะเล เคยต่อสู้กับจอมราชันหลายคนของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าโดยลำพังคนเดียว มีชื่อเสียงโด่งดังยิ่งนัก
ราชันเซียนทุนยื่อคือราชันเซียนหนึ่งในห้าของพรรคเซียนเหิน ขณะอยู่ที่สิบสามทวีปเขาได้เข้าร่วมในจวนกู่ที่ก่อตั้งขึ้นโดยราชันเซียนหมิงเหริน! อีกทั้งราชันเซียนทุนยื่อไม่ได้เป็นเพียงราชันเซียนองค์หนึ่งเท่านั้น เขายังเป็นผู้ที่สำเร็จกายมารกลืนฟ้าขั้นสมบูรณ์อีกด้วย!
นาทีนี้พลันที่ราชันเซียนทุนยื่อปรากฎตัวขึ้นมา ก็ต้องการต่อสู้กับพวกราชันมารอวี่หลุนที่เป็นจอมราชันทั้งหกโดยลำพัง สมควรทราบว่า ราชันมารอวี่หลุนและราชันมารหลงเชียงต่างก็เป็นจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสายทั้งคู่ ขณะที่พวกของราชันเทพเจี๋ยเตาก็จัดอยู่ในจอมราชันระดับสูง การร่วมมือของจอมราชันทั้งหกย่อมเป็นที่สั่นเทา เป็นที่หวั่นเกรงของผู้คนอย่างแน่นอน
แต่ว่า ราชันเซียนทุนยื่อกลับไม่สนใจ ออกปากต้องการสู้กับพวกเขาเพียงลำพัง ไม่ได้มองพวกเขาอยู่ในสายตาเลย
ราชันเซียนทุนยื่อ…แม้แต่พวกราชันมารอวี่หลุนและราชันมารหลงเชียงที่เป็นจอมราชันชะตาฟ้าสิบสายเมื่อได้เห็นราชันเซียนทุนยื่อแล้วถึงกับเพ่งสายตาไปข้างหน้า ไม่กล้าประมาทศัตรู
เวลานี้ราชันเซียนทุนยื่อก้าวเท้าเข้ามา ก้าวไปข้างหน้าแสดงคารวะด้วยการโค้งคำนับอย่างงามต่อหลี่ชิเย่และกล่าวว่า “หวินโจวมาสาย ขอท่านปรมาจารย์โปรดอภัย”
“มาได้ก็ดีแล้ว ไม่แบ่งแยกช้าหรือเร็ว” หลี่ชิเย่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ พยักหน้าช้าๆ และเอ่ยขึ้น
ราชันเซียนทุนยื่อคำนับอีกทีและล่าถอยออกไป มองไปรอบๆ ยังพวกราชันมารอวี่หลุนทั้งหก ยิ้มกล่าวว่า “พวกเจ้าคิดจะท้าสู้กับท่านปรมาจารย์ เกรงว่าวันนี้พวกเจ้ายังไม่มีคุณสมบัติพอ ข้าเย่หวินโจวน้อมรับก็พอ!”
เวลานี้ พวกของราชันมารอวี่หลุนกลับไม่ได้ยินคำพูดที่อันธพาลยิ่งของราชันเซียนทุนยื่อ เมื่อได้ยินคำเรียกขานว่า ‘ปรมาจารย์’ สีหน้าของราชันมารอวี่หลุนและราชันมารหลงเชียงที่มีชะตาฟ้าสิบสายก็ต้องปลี่ยนไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...