ดูเหมือนว่าข้างหน้าคือโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลโลกหนึ่ง เมื่อดูให้ละเอียดอีกทีดูจะไม่ใช่โลกที่กว้างใหญ่ไพศาล ดูไปแล้วเหมือนเป็นภาพวาดขนาดยักษ์ที่แขวนอยู่ตรงนันมากกว่า อีกทั้งบุคคลที่อยู่ในภาพวาดเหมือใหญ่นมีชีวิตจริง คล้ายกับว่าทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีชีวิตขึ้นมาอย่างนั้น
ด้วยภาพที่มีลักษณะเช่นนี้แขวนอยู่ตรงนั้น ทางของเจ้าก็จะอยู่ตรงข้างหน้านี้เอง หรือจะเปลี่ยนคำพูดใหม่ก็คือ หากเจ้าคิดจะผ่านไปก็ให้เข้าไปอยู่ในภาพนั้นเสีย โลกที่อยู่ในภาพวาดก็คือโลกที่เจ้าคิดอยากจะไป คำพูดลักษณะเช่นนี้ฟังดูแล้วเหมือนไร้เหตุผลสิ้นดี
แต่ว่า ข้างหน้ามีเส้นทางเดียวเท่านั้น เหมือนว่าไม่มีทางอื่นใดที่จะไปได้ เจ้าไม่สามารถก้าวข้ามภาพๆ นี้ไปได้ มีเพียงเข้าไปภายในภาพนี้เท่านั้น
หลี่ชิเย่หัวเราะมองดูภาพวาดที่เสมือใหญ่นหนึ่งเป็นฉากกั้น กล่าวเฉยเมยขึ้นมาว่า “เลียนแบบได้เหมือใหญ่นจริงๆ ที่สุดปลายทางของโลกก็มีอุปสรรคเช่นนี้เหมือนกัน เพียงแต่วิธีการแตกต่างกันเท่านั้นเอง น่าสนใจจริงๆ”
หลี่ชิเย่เดินเข้าไปใกล้ เอื้อมมือใหญ่ไปแตะฉากกั้นบานนี้ หวังให้มือใหญ่ของตนลอดผ่านฉากกั้นบานนี้เข้าไป ได้ยินเสียงดังจึ๊ด จึ๊ดขึ้นมา มือใหญ่ของหลี่ชิเย่ตกลงเหมือนเป็นการหลอมรวมเข้าไปอยู่ในภาพนี้
แต่ว่า จังหวะที่มือใหญ่ของหลี่ชิเย่เพิ่งจะจมลงในพริบตาเดียวกันนั้น ได้ยินเสียงดังปุเสียงหนึ่งดังขึ้น มือใหญ่ของหลี่ชิเย่พลันถูกเด้งออกมา และหลี่ชิเย่ตึง ตึง ตึงถอยหลังไปหลายก้าวติดต่อกัน ฉากกั้นบานนี้ปฏิเสธหลี่ชิเย่โดยตรง เหมือนไม่อนุญาตให้หลี่ชิเย่ได้เข้าไปอย่างเด็ดขาดอย่างนั้น
“ยังคงเป็นวิธีการเดิมๆ” หลี่ชิเย่หัวเราะและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “นี่นับเป็นโลกที่มีการป้องกันเอาไว้ แต่ก็แตกต่างกับสวรรค์โจร ดี ในเมื่อข้ากล้าที่จะมาก็กล้าทำอยู่แล้ว”
ในเวลานี้เอง ร่างกายของหลี่ชิเย่สว่างไสวขึ้นมา ได้ยินเสียงแตกละเอียดดังคร๊ากก คร๊ากก คร๊ากกขึ้น ฐานเต๋าที่หลี่ชิเย่ฝึกในแดนสิบถึงกับแตกละเอียดเป็นชิ้นๆ เวลานี้หลี่ชิเย่ได้ทำลายทักษะยุทธของตนทิ้งไป
“ได้เวลาที่ข้าจะพลิกหน้าศักราชใหม่ทั้งหมดได้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมานั้นเป็นเพียงดินที่อุดมสมบูรณ์สำหรับศักราชใหม่เท่านั้น” หลี่ชิเย่ได้ทำลายทักษะยุทธของตนไป อีกทั้งยังมีท่าทีที่เรียบเฉยยิ่งนัก
หลี่ชิเย่พยายามฝึกปรืออย่างหนักมาโดยตลอดตั้งแต่เก้าแดนจนถึงแดนสิบ แต่มาวันนี้กลับทำลายทักษะยุทธไปทั้งหมด ฟังแล้วดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่หลี่ชิเย่กลับทำได้แล้ว!
การที่หลี่ชิเย่ทำลายทักษะยุทธของตนเองไป ไม่เพียงต้องการผ่านฉากกั้นที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ การที่เขาทำลายทักษะยุทธทั้งหมดของตน เพราะต้องการผงาดขึ้นมาในโลกที่ใหม่ทั้งหมดโลกนี้ บุกเบิกสร้างระบบถ่ายทอดทางลัทธิของตนเอง เปิดศักราชของตนขึ้นมาเอง เนื่องจากที่ตรงนี้คือโลกที่หลุดพ้นจากสวรรค์ ดังนั้น ศักราชใหม่ของหลี่ชิเย่จะเริ่มต้นขึ้นที่โลกแห่งนี้
การที่หลี่ชิเย่ทำเช่นนี้ไม่เพียงเพราะต้องการมาถึงโลกใบนี้ เขาต้องการอาศัยโลกที่อยู่ท่ามกลางการแทรกแซงของฟ้าดินสร้างระบบการฝึกวิชาของตนขึ้นมา เป็นระบบที่ใหม่ทั้งหมด ระบบที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง!
“โลกใบนี้ จงต้อนรับการมาถึงของข้าเถอะ ในอนาคตจะต้องเป็นศักราชของข้า!” หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ทำลายทักษะยุทธแล้วก็ได้หัวเราะเสียงดัง ทันใดนั้นเอง หน้าอกของหลี่ชิเย่พลันเจิดจ้ายิ่งนัก เสียงตูมดังสนั่น ลำแสงสายหนึ่งพวยพุ่งออกมา
ชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ลอยขึ้นมา ลำแสงที่เจิดจ้ายิ่งพวยพุ่งออกมาจากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขานั่นเอง สุดยอดพลังสูงสุดที่พวยพุ่งออกมาจากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรนี้ไม่มีสิ่งใดสามารถขัดขวางได้ มันสามารถทะลุผ่านทุกสิ่งทุกอย่าง สามารถก้าวข้ามทุกสิ่งทุกอย่างในโลก
เสียงตูมดังสนั่น ลำแสงสายนี้เสมือนดั่งได้ทะลุผ่านฉากกั้นข้างหน้าไป เหมือนยิงทะลุผ่านโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลภายใต้ปณิธานที่เด็ดขาดของลำแสงสายนี้ ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านเอาไว้ได้
ได้ยินเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดขึ้นมา ในเวลานี้เอง ฉากกั้นที่อยู่ด้านหน้าสว่างไสวขึ้นมา นาทีนี้หาใช่เป็นฉากกั้นที่เปล่งแสงออกมาอีกต่อไป แต่เป็นหลี่ชิเย่ที่จุดติดฉากกั้น และหรือก็คือจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ที่จุดติดไปทั่วทั้งโลก เขาต่างหากที่เป็นผู้บงการทุกสิ่งของที่นี่ จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาสูงสุด ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่อยู่ในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขา แม้แต่โลกที่กว้างใหญ่ไพศาล แม้แต่โลกของเซียน ล้วนแล้วแต่จุอยู่ในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขา
สุดท้าย จากการที่ถูกจุดติดโดยจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ นาทีนี้ฉากกั้นทั้งหมดล้วนแล้วแต่สว่างไสวขึ้นมา ไม่ได้เป็นหลากสีสันอีกต่อไป และไม่ใช่สีสันของโลกมนุษย์ที่กว้างใหญ่ไพศาลอีกต่อไป ภายในฉากกั้นนี้มีเพียงสีเดียวเท่านั้น นั่นก็คือสีของความเจิดจ้า
สิ่งนี้แทนสุดยอดจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรสูงสุดของหลี่ชิเย่ แทนปณิธานสูงสุด แทนความความมั่นคงสูงสุดของหลี่ชิเย่ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำให้หวั่นไหวได้ ไม่มีสิ่งใดสามารถสั่นคลอนได้!
“ต่อให้บนโลกมีเซียน เมื่อข้าหลี่ชิเย่มาแล้ว คงมีสักวันก็ต้องรู้จักเจียมตน! มิฉะนั้นล่ะก็ต้องถูกสังหารแน่นอน! ลอยล่องเป็นนิรันดร์ มีข้าเท่านั้นที่สู้จนถึงคนสุดท้าย!” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นช้าๆ
นาทีนี้ เสียงของหลี่ชิเย่ดังก้องไปเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน เหมือนว่าเขาได้กลายเป็นผู้บงการของโลกนี้ ต่อให้โลกนี้มีเซียนอยู่ก็ต้องรอรับมือหนักแน่นจริงจัง เมื่อมองเห็นจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ก้าวข้ามฉากกั้นไปได้
จี๊ด จี๊ด จี๊ด…ในเวลานี้เองฉากกั้นทั้งหมดได้กลับกลายเป็นน้ำทะเลสาบ อีกทั้งมีหมุนเร็วขึ้นๆ เรื่อยๆ จนค่อยๆ กลายเป็นวังวน สุดท้ายฉากกั้นทั้งบานหมุนวนขึ้นมา กลายเป็นวังวนขนาดยักษ์สุดเทียบเทียม ส่งประกายเจิดจ้าดูงดงามยิ่งนัก ประทับใจผู้คนยิ่งนัก
ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น ชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ร่างของหลี่ชิเย่ถูกดูดเข้าไปทั้งร่าง นาทีนี้หลี่ชิเย่ะลุผ่านฉากกั้นนี้ไปได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...