ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2131

การหลอมละลายของน้ำแข็งหนาเป็นไปด้วยความเชื่องช้ายิ่งนัก หลังจากผ่านไปหลายเดือนจึงค่อยๆ เริ่มต้นหลอมละลาย ได้ยินเสียงดังคร๊ากกเสียงหนึ่ง ทำเอาศิษย์สาวที่ทำหน้าที่เฝ้าก้อนน้ำแข็งหนาตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง เมื่อหลี่ชิเย่ที่อยู่ภายในก้อนน้ำแข็งหนาเริ่มมีการเคลื่อนไหว

หลายเดือนที่ผ่านมานี้ ศิษย์สาวผู้นี้เฝ้าอยู่ที่ตรงนี้ตลอด นับว่าทำให้ศิษย์สาวผู้นี้รู้สึกรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่บ้าง ที่ต้องเฝ้าผู้ที่อาจจะเป็นศพคนตายอยู่ทุกวันๆ เช่นนี้ เกิดคนตายที่อยู่ภายในก้อนน้ำแข็งหนาโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน กระโดดออกมาจากในนั้นจะทำอย่างไร?

โชคดีที่ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น คนที่อยู่ภายในน้ำแข็งหนาไม่ได้มีการเคลื่อนไหว จึงทำให้จิตใจของศิษย์สาวผู้นี้ค่อยสงบลงได้บ้าง

เวลานี้พลันได้ยินเสียงน้ำแข็งแตกละเอียดดังคร๊ากกขึ้นมา เหมือนว่าหลี่ชิเย่ที่อยู่ภายในก้อนน้ำแข็งหนามีการเคลื่อนไหวขึ้นกะทันหัน ทำให้ศิษย์สาวผู้นี้ตื่นตระหนกจนวิญญาณแทบออกจากต่าง นึกว่าจะเกิดเหตุศพปรากฏตัวออกมา โชคดีที่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นมา

หลังจากศิษย์สาวที่ถูกทำให้ตื่นตระหนกตกใจได้สติกลับมาแล้ว จึงรีบวิ่งแจ้นไปรายงานต่อเจ้าสำนัก จูฉีและระดับผู้อาวุโสหลายคนหลังได้รับรายงานก็ให้รู้สึกตกใจอย่างยิ่ง รีบเร่งรุดไปที่นั่นทันที

หลังจากที่จูฉีและระดับผู้อาวุโสหลายคนมาถึงแล้ว หลี่ชิเย่ที่หลับใหลอยู่ก็ได้ตื่นขึ้นมาแล้วในที่สุด หลังจากที่ตื่นแล้วเขาได้ลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ

ก่อนหน้านั้น ภายในใจของพวกจูฉียังเข้าใจว่า หลี่ชิเย่ที่อยู่ภายในก้อนน้ำแข็งหนาน่าจะเป็นคนตายแล้วแปดถึงเก้าส่วน เวลานี้เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ฟื้นขึ้นมา พวกของจูฉีก็จนด้วยเกล้า ไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นใดในเวลานี้

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ฟื้นตื่นขึ้นมาแล้ว ได้นั่งขัดสมาธิอย่างช้าๆ มองดูพวกของจูฉีที่ยืนอยู่ตรงหน้า ปริปากพูดออกมาช้าๆ ว่า “ใครเป็นผู้ครองลานกำแหงในเวลานี้!”

พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทำเอาจูฉีและระดับผู้อาวุโสหลายคนตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน สำนักกระบี่ยักษ์ของพวกเขาตกต่ำลงจนถึงขั้นเป็นสำนักขนาดเล็กที่ไร้ชื่อเสียงไปแล้ว ไม่มีสิทธิ์ได้เข้าใกล้ศูนย์กลางอำนาจของลานกำแหงได้อยู่แล้ว กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว เฉกเช่นเจ้าแห่งลานกำแหง หรือก็คือผู้ทรงอำนาจของราชวงศ์ลานกำแหงนั้น ถือว่าอยู่ในฐานะที่สูงส่ง พวกเขาไม่ปัญญาเอื้อมถึงอยู่แล้ว

เวลานี้ พลันที่หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาก็ถามถึงผู้กุมอำนาจของลานกำแหงว่าเป็นใคร แล้วจะไม่ทำให้พวกของจูฉีตกใจจนอกสั่นขวัญแขวนได้อย่างไร เวลานี้พวกเขาต่างไม่รู้ว่จะพูดต่อได้อย่างไรดี

“เรียน เรียน เรียนตอบท่าน ลานกำแหงเว เว เวลานี้ตำแหน่งยังว่างอยู่” ไม่ง่ายนักกว่าจูฉีจะได้สติกลับมา รู้สึกอกสั่นขวัญหาย ปากคอแห้ง พูดจาถึงกับติดขัดไม่ลื่นไหล

คนหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าแลดูหนุ่มแน่นมาก แต่พลันที่เปิดปากก็สอบถามถึงผู้กุมอำนาจของลานกำแหง หรือว่าจะเป็นบรรพบุรุษคนใดคนหนึ่งของลานกำแหงพวกเขา!

หลี่ชิเย่เพียงมองดูจูฉีด้วยท่าทีเรียบเฉยแวบหนึ่ง แต่ด้วยท่าทีที่เรียบเฉยเช่นนี้ของหลี่ชิเย่นี่แหละ ทำเอาจูฉีและระดับผู้อาวุโสหลายคนถึงกับอกสั่นขวัญแขวน เนื่องจากพวกเขาจับไม่ถูกว่าคนหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่ หรือจะเป็นบรรพชนคนใดคนหนึ่งของพวกเขาจริงๆ

“ไม่ ไม่ ไม่ทราบว่าท่าน ท่านควรจะให้เรียกว่าอย่างไร” ไม่ง่ายนักกว่าจูฉีจะกลืนน้ำลายเอื้อกทีหนึ่ง เพื่อปลอบใจตนเองให้มีความกล้ามากขึ้น รวบรวมความกล้า และเอ่ยถามขึ้นมาอย่างยากเย็น ขณะที่เขาเอ่ยถามคำถามนี้ออกไปต้องรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน รู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง

เนื่องจากเขาไม่รู้เลยว่าคนหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ามีประวัติความเป็นมาอย่างไรก็นแน่ ดีไม่ดีอาจก่อเกิดเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา สำนักกระบี่ยักษ์ของพวกเขาคงต้องจบลง

“ทำไมรึ? คิดจะล้วงหาฐานะของข้าอย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่มองหน้าจูฉีทีหนึ่ง เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “ขณะข้าสนทนาธรรมกับผู้เฒ่ากำแหง บรรพบุรุษของพวกเจ้ายังไม่ทันเกิดด้วยซ้ำ บอกชื่อของข้าไปแล้ว พวกเจ้าจะทราบได้หรือไม่?”

พลันที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา พลันทำเอาจูฉีและระดับผู้อาวุโสหลายคนตื่นตระหนกจนวิญญาณแทบออกจากร่าง พวกเขาตกใจจนใบหน้าขาวซีด พลันรู้สึกเข่าอ่อนทั้งสองข้าง และสั่นเทาตลอดเวลา

ผู้เฒ่ากำแหงคือปฐมบรรพบุรุษของลานกำแหงพวกเขา ลานกำแหงก่อตั้งขึ้นโดยผู้เฒ่ากำแหงนั่นเอง ต้นกำเนิดสัจธรรมของลานกำแหง ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ แผ่นดินของลานกำแหงล้วนแล้วแต่มาจากฝีมือของผู้เฒ่ากำแหงทั้งสิ้น

เวลานี้ ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพูดเองว่าเคยสนทนาธรรมกับผู้เฒ่ากำแหง เมื่อเป็นเช่นนี้ หากไม่ใช่ศิษย์ของผู้เฒ่ากำแหงก็ต้องเป็นหนึ่งในบรรพบุรุษที่ร่วมบุกเบิกแผ่นดินกับผู้เฒ่ากำแหงแล้ว!

ความที่เป็นผู้อยู่ในฐานะดึกดำบรรพ์เช่นนี้ แล้วจะไม่ให้จูฉีและระดับผู้อาวุโสหลายคนต้องตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่างได้อย่างไร มาคราวนี้พวกเขาได้พบกับบรรพบุรุษของลานกำแหงเข้าให้แล้วจริงๆ

ความจริงแล้ว คำพูดของหลี่ชิเย่ใช่จะเป็นการโอ้อวด ผู้เฒ่ากำแหงของลานกำแหงก็คือตาเฒ่าที่อยู่ใต้หน้าผาของหอศิลาโรย ตาเฒ่าผู้นี้เคยมาที่แดนสามเซียนในยุคสมัยของเขา เขาเองก็มาด้วยต้องการค้นหาคำตอบบางอย่างเช่นกัน

แต่ทว่า ภายหลังไม่ทราบด้วยเหตุผลใด ตาเฒ่าได้ไปจากแดนสามเซียนและกลับไปอยู่ในยุคสมัยของตน ขณะที่อยู่ในแดนสามเซียนนั้น ตาเฒ่าก็ได้ทำการทดลองอะไรไปมากมาย เคยคลำหาบนเส้นทางของการฝึกฝนสายนี้มาก่อน ดังนั้น เขาจึงได้ก่อตั้งลานกำแหงขึ้นที่แดนสามเซียน! และเรียกตนเองว่าผู้เฒ่ากำแหง

แน่นอน ขณะอยู่ในยุคสมัยของตนนั้น ตาเฒ่าไม่ได้มีชื่อว่าผู้เฒ่ากำแหง เพียงแต่ตาเฒ่าเรียกตนเองว่าผู้เฒ่ากำแหงขณะอยู่ที่แดนสามเซียนเท่านั้น

ต่อมาภายหลัง ตาเฒ่าสามารถจับตัวอีกาทมิฬได้ พวกเขาได้เข้าถึงความทรงจำร่วมกัน ในห้วงเวลาที่ยาวนานและน่าเบื่อ เป็นความจริงที่ตาเฒ่าเคยสนทนาธรรมกับอีกาทมิฬเกี่ยวกับสัจธรรมของแดนสามเซียนมาก่อน เพียงแต่เพื่อป้องกันถ้ำเซียนมาร หลี่ชิเย่จึงได้ทำการลบเลือนความทรงจำที่เกี่ยวกับที่นี่ออกไปทั้งหมดเท่านั้น มีเพียงขณะที่หลี่ชิเย่กลับขึ้นมายังแดงสามเซียนจึงทำให้สามารถก่อเกิดความทรงจำเหล่านี้ได้อย่างแท้จริง

ความทรงจำที่ถูกลบเลือนไปนั้น ไม่เพียงแต่เป็นความทรงจำของผู้เฒ่ากำแหงเท่านั้น ยังมีประสบการณ์ และความยอดเยี่ยมลึกซึ้งที่หลี่ชิเย่ได้บรรลุเกี่ยวกับสัจธรรมบางอย่างของแดนสามเซียน ความทรงจำเหล่านี้ที่ถูกลบเลือนไปเสมือนหนึ่งไม่ดำรงคงอยู่เสมอมา กระทั่งก้าวขึ้นสู่แดนสามเซียนในวันนี้ บรรดาความทรงจำที่ถูกลบเลือนไปจึงได้กลับมาอีกครั้ง Aileen-novel

ดังนั้น การที่หลี่ชิเย่บอกว่าเคยสนทนาธรรมกับผู้เฒ่ากำแหงในเวลานี้ จึงเป็นคำพูดที่ใช่จะนำมาขู่ แต่เป็นเรื่องจริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล