ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเงียบกริบดั่งจักจั่นยามหน้าหนาว แม้แต่คำว่าเชือดเทพก็ยังพูดออกมาแล้ว ไม่มีใครกล้าไปวิจารณ์ เกิดพลั้งพูดอะไรผิดไปทำให้เทพแท้จริงโกรธขึ้นมา ไม่แน่นักอาจนำมาซึ่งถูกล้างสำนักก็เป็นได้
“คุยโวโอ้อวดไร้ยางอาย…” เวลานี้เฉินไท่เหอร้องตวาดเสียงดังว่า “กล้าพูดคำว่าเชือดเทพ เจ้าคนเนรคุณ ทรยศอาจารย์ ทำให้บรรพชนต้องเสื่อมเสีย!”
“อย่าเข้าข้างตัวเองหน่อยเลย” หลี่ชิเย่พูดตัดบทคำพูดของเฉินไท่เหอด้วยท่าทีตามอารมณ์ว่า “แค่คำพูดว่าเชือดเทพไม่เห็นจะมีอะไรคู่ควรจะกล่าวถึง สำหรับคำพูดที่ว่าทรยศอาจารย์ทำให้บรรพชนต้องเสื่อมเสียนั้น แค่เทพจอมปลอมกลุ่มหนึ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นสายตรง ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง มีการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์อยู่ทุกชาติ สำนักต่างๆ ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงมีมากมายดั่งดอกเห็ด แค่คนกลุ่มหนึ่งอวดอ้างตัวเองว่าเป็นสายตรงเท่านั้นเอง!”
แม้ว่าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา แต่ว่ากับคำพูดของหลี่ชิเย่นั้น ผู้คนจำนวนไม่น้อยยังคงเห็นด้วยอย่างเงียบๆ
ความจริงแล้ว ในรอบล้านล้านปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์ สำนักและตระกูลขุนนางโบราณที่เคยปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงมีมากมายดั่งดอกเห็ด นับกันไม่หวั่นไม่ไหว ที่เรียกว่าเป็นสายตรงก็แค่ได้กุมอำนาจการปกครองเท่านั้นเอง วันนี้เจ้าสามารถเรียกตัวเองว่าเป็นสายตรง พรุ่งนี้เขาก็สามารถเรียกตัวเขาว่าเป็นสายตรงเช่นเดียวกัน
ภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงนั้น ผู้ที่กุมอำนาจการปกครองสามารถปรับเปลี่ยนได้ทุกวัน แต่ทว่า มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะไม่มีการเปลี่ยน นั่นก็คือต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง หนึ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนก็คือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธินี้
“เจ้าหนูที่อวดดี วันนี้พวกเราก็จะทำหน้าที่ผดุงคุณธรรมและความยุติธรรมแทนฟ้าดิน ทำการขจัดเจ้าศิษย์ทรยศให้กับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง” เวลานี้ เจ้าแห่งแดนอุดรก็คำรามเสียงดังออกมาด้วยความโกรธ
เวลานี้ เฉินไท่เหอและเจ้าแห่งแดนอุดรได้ยกตนเป็นตัวแทนของสายตรง และตั้งข้อหาให้หลี่ชิเย่เป็นศิษย์ทรยศ เพื่อให้พวกเขาได้ยืนอยู่บนคุณธรรมที่สูงเด่นขึ้น
“เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดพร่ำให้มากความ ลงมือเถอะ ข้ารออยู่” หลี่ชิเย่หัวเราะออกมาตามอารมณ์และกล่าวว่า “พวกเจ้าลงมือก่อน จะได้ไม่มาหาว่าข้าไม่ให้โอกาสพวกเจ้าได้ต่อสู้ขัดขืน”
คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้ยอดฝีมือกองกำลังซั่ง หอศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดโกรธจนแดงก่ำ คำพูดของหลี่ชิเย่ใช่จะเป็นเพียงยโสอวดดีเท่านั้น แต่เป็นการมองพวกเขาไม่มีตัวตนเสียแล้ว
“ตั้งขบวน…” ในเวลานี้เฉินไท่เหอก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง คำรามเสียงดังออกมา ทันใดนั้น ศิษย์จำนวนนับพันของตระกูลเฉินได้ตั้งเป็นรูปขบวนในทันที ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น ศิษย์ตระกูลเฉินเป็นพันคนได้กลับกลายเป็นวังวนขนาดยักษ์สุดเปรียบเปรย
ท่ามกลางวังวนนี้ได้ปะทุอานุภาพราชันที่น่ากลัวยิ่งนัก เนื่องจากในมือของเฉินไท่เหอในเวลานี้ถือคันฉ่องโบราณที่มีสีแดงเพลิงอันหนึ่ง เมื่อศิษย์หลายพันคนของตระกูลเฉินกลับกลายเป็นวังวนยักษ์นั้น คันฉ่องโบราณสีแดงเพลิงอันนี้ก็ได้แขวนอยู่กึ่งกลางของวังวนนี้
“คันฉ่องราชันหงส์เพลิง” ระดับผู้อาวุโสของสำนักผู้หนึ่งจดจำประวัติความเป็นมาของคันฉ่องโบราณสีแดงเพลิงที่อยู่ในมือของเฉินไท่เหอได้ รู้สึกตกใจอยู่เงียบๆ นี่เป็นอาวุธที่ราชันแท้จริงทิ้งเอาไว้ให้
ตระกูลเฉินพลันลงมือก็ด้วยอาวุธราชัน ซึ่งจุดนี้สำนักจำนวนมากไม่สามาถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว จะอย่างไรเสียตระกูลเฉินคือตระกูลขุนนางโบราณที่เคยให้กำเนิดราชันแท้จริงมาก่อน หลังจากที่บรรพบุรุษพวกเขาจากไปแล้ว ได้ทิ้งของวิเศษจำนวนไม่น้อยให้กับชนรุ่นหลัง
เสียงตูม…ดังสนั่น ตามติดด้วยเสียงตึง ตึง ตึงที่ดังขึ้นมา มองเห็นเจ้าแห่งแดนอุดรนำพาศิษย์ของแดนอุดรจำนวนหลายพันคนได้กลายเป็นแมงป่องขนาดยักษ์ตัวหนึ่งโดยพลัน
เจ้าแมงป่องยักษ์ตัวนี้มีขนาดสูงใหญ่กว่าภูเขาสิบลูกรวมกันเสียอีก ก้ามคู่นั้นของมันมีขนาดที่ใหญ่โตมโหฬารยิ่ง ก้ามยักษ์คู่นี้สามารถหนีบภูเขาลูกหนึ่งให้แหลกละเอียดได้อย่างง่ายดาย
หากก้ามคู่นี้ของแมงป่องทุบลงมาอย่างแรง เกรงว่าสามารถทำให้ทุกอย่างแหลกละเอียดได้
ยิ่งหางของแมงป่องยักษ์ตัวนี้ด้วยแล้ว มันมีความยาวและมีขนาดที่ใหญ่มาก เข็มพิษของมันที่ยิงออกมากะทันหัน เหมือนว่าสามารถยิงเอาดวงดาวบนท้องฟ้าตกลงมาได้อย่างนั้น
จังหวะที่กลับกลายร่างเป็นแมงป่องยักษ์นั้น มองเห็นมือทั้งสองของเจ้าแห่งแดนอุดรอุ้มโอ่งยักษ์เอาไว้ใบหนึ่ง โอ่งยักษ์ใบนี้แผ่กลิ่นอายความเยือกเย็นออกมา ด้วยความเยือกเย็นเช่นนี้หากปล่อยออกมาเหมือนว่าสามารถทำให้โลกทั้งโลกกลายเป็นน้ำแข็งได้อย่างนั้น
โอ่งยักษ์ใบนี้เสมือนหนึ่งถูกฝังเอาไว้ที่ตำแหน่งหัวใจของเจ้าแมงป่องยักษ์ตัวนี้ และโอ่งยักษ์ใบนี้เปรียบประดุจคือหัวใจของแมงป่องยักษ์ตัวนี้ ทำให้ผู้คนมองไปแล้วเหมือนเป็นหัวใจดวงหนึ่งที่กำลังเต้นตุ้บตุ้บอย่างนั้น
“โอ่งโบราณน้ำแข็งเย็น…” ระดับบรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณรู้สึกตกใจเมื่อได้เห็นโอ่งยักษ์ใบนี้
โอ่งโบราณน้ำแข็งเย็นใบนี้เป็นโอ่งโบราณที่ราชันแท้จริงของแดนอุดรได้ทิ้งเอาไว้ มีความเย็นที่น่ากลัวมาก หากสามารถเทเอาความเย็นที่อยู่ภายในโอ่งออกมา ต้องทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นน้ำแข็งอย่างแน่นอน
พริบตาเดียวนั้นเอง ทั้งตระกูลเฉินและแดนอุดรต่างตั้งเป็นค่ายกลที่น่ากลัวยิ่งขึ้นมา แมงป่องยักษ์หนึ่ง กับวังวนอีกหนึ่ง พวกมันอยู่ในรูปแบบที่ล้อมเพื่อโจมตีต่อหลี่ชิเย่แบบขนาบข้างหน้าหลัง
ครั้นหลี่ชิเย่มองเห็นแดนอุดรและตระกูลเฉินต่างตั้งเป็นค่ายกลขึ้นในชั่วพริบตาเดียว เพียงหัวเราะออกมาตามอารมณ์เท่านั้น เขาเพียงทำท่ากวักมือไปตามใจเท่านั้น ฉับพลันปรากฏพลังสัจธรรมตลบอบอวลขึ้นมา
ตึง ตึง ตึง…จากการที่พลังสัจธรรมตลบอบอวล ปรากฏเสียงคำรามของกระบี่ดังไม่ขาดสาย พริบตาเดียวนั้นเอง ปรากฎกระบี่ศักดิ์สิทธิ์จำนวนสิบล้านเล่มที่ดั่งน้ำตกสวรรค์ที่ทวนพุ่งสวนขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างไม่มีสิ้นสุด ฉับพลันนั้นเหมือนดั่งได้กลับกลายเป็นทะเลกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ไป เมื่อกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับสิบล้านเล่มได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว พลังกระบี่ที่น่ากลัวได้กลับกลายเป็นทะเลที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...