ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2188

หลี่เชียน เทพกระบี่ผู้พิทักษ์สัจธรรม กล่าวสำหรับผู้เยาว์จำนวนมากแล้วกระทั่งไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่สำหรับยอดฝีมือรุ่นอาวุโสแล้ว หลี่เชียน เทพกระบี่ผู้พิทักษ์สัจธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นชื่อจริง หรือชื่อที่เป็นฉายาของเขาล้วนแล้วแต่ดังก้องอยู่ในรูหู

“หลี่เชียนคือใคร?” ผู้เยาว์รู้สึกเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เมื่อมองเห็นแม้แต่ป้าซั่งยังต้องหวั่นเกรงจนก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว จึงเอ่ยถามเสียงแผ่วเบาขึ้นมา

“เทพกระบี่ผู้พิทักษ์สัจธรรม ก็คือผู้ที่กล้าแข็งที่สุดในสายของผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรม และคือระดับบรรพบุรุษที่กล้าแข็งที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงในยุคปัจจุบัน” ระดับผู้อาวุโสได้เอ่ยเสียงแผ่วเบากับผู้เยาว์ของตน

“บรรพบุรุษผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรม!” ผู้เยาว์จำนวนมากรู้สึกหวั่นไหวในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ถึงกับสะดุ้งในใจ และมองดูเทพกระบี่ผู้พิทักษ์สัจธรรมหลี่เชียนด้วยความเคารพเลื่อมใสอยู่สามส่วน

ผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรม ชื่อที่ศิษย์ทุกคนในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงไม่ว่าจะสังกัดสำนักใดก็ตามต่างก็รู้จัก ครั้งนั้น ผู้เฒ่ากำแหงได้บุกเบิกต้นกำเนิดสัจธรรมขึ้นมา ขณะที่ต้นกำเนิดสัจธรรมก็อยู่ภายในราชสำนักนั่นเอง

ต้นกำเนิดสัจธรรมคือแก่นแท้ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง ถ้าหากแม้แต่ต้นกำเนิดสัจธรรมก็สลายหายไป และหรือต้นกำเนิดสัจธรรมหมดกำลังและอ่อนลง เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงก็จะแตกสลายตามมา กระทั่งผืนแผ่นดินของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงทั้งหมดก็จะแตกสลายตามไปด้วย

ดังนั้น ไม่ว่าต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดๆ ก็ต้องมีผู้พิทักษ์ เรียกได้ว่าผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดลัทธิหนึ่งก็คือส่วนของแกนหลักที่เป็นส่วนของหัวใจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ ราชวงศ์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลา แต่ทว่า ผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมโดยพื้นฐานแล้วเป็นการสืบทอดต่อๆ กันมาทุกยุคทุกสมัย

เฉกเช่นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงอย่างนั้น ในรอบล้านล้านปีที่ผ่านมา ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงมีราชวงศ์มาแล้วไม่รู้กี่ราชวงศ์ แต่ละราชวงศ์กำเนิดทดแทนกันไป ราชวงศ์แล้วราชวงศ์เล่าหมุนเวียนกันไป แต่ทว่าผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงโดยพื้นฐานแล้วเป็นการสืบทอดต่อๆ กันไปเรื่อยๆ และสืบทอดต่อกันไปรุ่นสู่รุ่น

เหมือนดั่งอำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง ยุคนี้อาจเป็นสำนักนี้ที่ยึดครอง ยุคต่อไปก็เป็นอีกสำนักมาปกครองแทน ขณะที่ผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมจะแตกต่างกัน มีน้อยมากที่ปรากฎเหตุการณ์สับเปลี่ยน ถ้าหากแม้นผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมของสำนักยังคงปรากฏการเปลี่ยนแปลงล่ะก็ ย่อมบ่งบอกว่าต้นกำเนิดสัจธรรมนี้ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

สายของหลี่เชียนก็คือผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง พวกเขาทำหน้าที่พิทักษ์ปกป้องระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงทุกยุคทุกสมัย ควงคุมพลังต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง ไม่ว่าจะเป็นสำนักใด ตระกูลขุนนางโบราณใดในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงก็ตาม ก็ไม่เข้าใจถึงต้นกำเนิดสัจธรรมเท่ากับพวกเขา แม้จะกล่าวว่าสายของพวกเขาไม่สามารถควบคุมพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงอย่างสิ้นเชิง แต่ว่า ในด้านนี้พวกเขาทำให้ดีกว่าทุกๆ คนและทุกๆ สำนัก

ปรกติแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรม คนของสายหลี่เชียนไม่เคยก้าวก่ายสำนักหรือตระกูลขุนนางใดๆ กระทั่งไม่เคยก้าวก่ายเรื่องราวใดๆ ของราชวงศ์

กล่าวสำหรับผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมแล้ว สำนักใดได้กุมอำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง สำนักใดได้ก่อตั้งราชวงศ์ขึ้นมาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรนัก ท้ายที่สุดจะอย่างไรเสียก็สังกัดระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงอยู่ดี เรียกได้ว่า ผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมน้อยครั้งมากที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวทางโลก

ถ้าหากว่า แม้แต่ผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมยังปรากฏตัวล่ะก็ นั่นแสดงว่าจะต้องเกิดเรื่องที่สะเทือนฟ้าอย่างแน่นอน

แต่ว่าในหลายๆ ยุคสมัยล่าสุดนี้ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงนับว่ามีความสงบยิ่งนัก บวกกับการที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงได้ปิดตัวเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสำนักของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดๆ ในแดนลัทธิพรรษ ดังนั้น ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงจึงนับว่ามีความสงบไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น เนื่องเพราะเหตุนี้เอง ในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรม รุ่นเยาว์จึงมีน้อยคนนักที่รู้จักชื่อของหลี่เชียน

แต่ทว่า หากพูดถึงอาจารย์ของหลี่เชียน และหรือก็คือผู้นำผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมรุ่นก่อนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง เกรงว่าคงมีผู้คนจำนวนมากที่รู้จัก เขาก็คือซิวหลอจ้านเทียนนั่นเอง!

ในครั้งนั้น ‘มารคลั่งดูดเลือด’ ได้ลามไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงดั่งพายุร้าย ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนมากมายเท่าไรที่ฝึกวิชา ‘มารคลั่งดูดเลือด’ ภายใต้การนำของเทพแท้จริงเทียนเต๋อ และด้วยเหตุนี้เองทำให้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงถูกผู้คนทั่วไปขนานนามว่าเป็นพรรคมาร ทุกคนสามารถที่จะสังหารได้ และต้องตกอยู่ในสภาวะถูกล้อมปราบโดยความร่วมมือของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิอื่นๆ จำนวนมาก

ภายหลัง ซิวหลอจ้านเทียนในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมได้นำพาพวกของเขาที่เป็นสายของผู้พิทักษ์ทำการกำจัดศิษย์ทรยศให้กับสำนัก ด้วยการสังหารผู้ติดตามข้างกายเทพแท้จริงเทียนเต๋อไปเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ได้สังหารเทพแท้จริงเทียนเต๋อด้วย จากนั้นได้บรรลุข้อตกลงใหม่กับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิอื่นจำนวนมากของแดนลัทธิพรรษ หลังจากนั้น ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงทำการปิดสำนักถอนตัวออกจากแดนลัทธิพรรษ

เป็นเพราะซิวหลอจ้านเทียนที่พยายามเปลี่ยนแปลงสถานการณ์อย่างเต็มกำลัง จึงสามารถช่วยให้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงที่ตกอยู่ในลัทธิมารกลับมา ทำให้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงมีโอกาสได้พักและฟื้นฟูกำลัง

หลังจากที่ซิวหลอจ้านเทียนเสียชีวิต หลี่เชียนได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของซิวหลอจ้านเทียน คอยปกป้องต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง

ตามหลักแล้วในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรม พวกเขาจะไม่ไปก้าวก่ายกิจการงานใดๆ ในราชวงศ์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง ไม่ว่ากองกำลังซั่ง จวนหวังพวกเขาจะแย่งชิงอำนาจกันอย่างไร พวกเขาก็จะไม่เข้าไปสอดแทรกยุ่งเกี่ยวด้วยอยู่แล้ว แต่ มาวันนี้หลี่เชียนในฐานะผู้นำของผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมกลับมาปรากฎตัวที่นี้ แล้วจะไม่ให้พวกเขาต้องรู้สึกตกใจได้อย่างไรเล่า

กล่าวสำหรับผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจวนหวังหรือกองกำลังซั่งที่กุมอำนาจ ล้วนแล้วแต่ไม่ได้แตกต่างอะไรมากนัก

แต่ว่า เทพกระบี่ผู้พิทักษ์สัจธรรมหลี่เชียนกลับจะมาปรากฏตัวในเวลานี้ นับว่าอยู่เหนือความคาดคิดของทุกคน แม้แต่ป้าซั่งก็นึกไม่ถึง

สีหน้าของป้าซั่งแปรเปลี่ยนไปมากทีเดียว ขณะมองดูหลี่เชียนที่อยู่ตรงหน้า เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ดวงตาทั้งสองดูเข้มขึ้นแต่ยังคงมีท่าทีที่ชิงความได้เปรียบก่อนก้าวหนึ่ง กล่าวเย็นชาขึ้นมาว่า “หลี่เชียน ในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรม ถ้าหากท่านยุ่งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์ล่ะก็ เท่ากับขาดซึ่งความเป็นธรรม!”

“การแย่งชิงอำนาจของราชวงศ์ สายผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมไม่สนใจ ที่ข้ามาที่นี่ในวันนี้มาเพื่อเจ้า!” หลี่เชียนที่กอดกระบี่โบราณแนบอกกล่าวเย็นชาขึ้นมา

ป้าซั่งหัวเราะเยาะ และกล่าวว่า “สามารถรบกวนผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมได้ มิเท่ากับเป็นเกียรติของข้าหรอกรึ แต่ว่าไม่รู้ว่าตาเฒ่าอย่างข้าไปกระทำความผิดใหญ่หลวงอะไร ถึงกับทำให้ใต้เท้าผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมของพวกเราต้องทำอึกทึกคึกโครม คู่ควรให้ใต้เท้าผู้พิทักษ์ต้นกำเนิดสัจธรรมของพวกเราต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล