ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2197

การศึกที่เขาฟันหลอ สถานการณ์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงนับว่าชัดเจนแล้ว กองกำลังซั่ง หอศักดิ์สิทธิ์พ่ายแพ้อย่างราบคาบ เฉกเช่นสำนักอย่างแดนอุดร บ้านตระกูลเฉิน ไม่จำเป็นต้องให้หวังหานที่เป็นกษัตริย์ปริปาก และไม่จำเป็นต้องให้ราชสำนักส่งกำลังทหารไปปราบปรามพวกเขา ภายในของกองกำลังซั่ง และหอศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ทำการกำจัดศิษย์ทรยศ ภายในระยะเวลาอันสั้นบ้านตระกูลเฉิน และแดนอุดรที่เป็นสำนักเสมือนดั่งต้นไม้ใหญ่ที่สูงเสียดฟ้าก็ได้ล้มครืนลงมา

หลังจากเสร็จสิ้นการศึกที่เขาฟันหลอแล้ว หวังหานได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกษัตริย์ กลายเป็นผู้กุมอำนาจการปกครองของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง และกลายเป็นหนึ่งในกษัตริย์หญิงที่มีจำนวนไม่มากในประวัติศาสตร์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง

เวลานี้ สำนัก และผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงต่างคึกคักยิ่งกับสิ่งนี้ สำนักและตระกูลขุนนางโบราณจำนวนนับไม่ถ้วนต่อมาเข้าเฝ้าที่ราชสำนัก

แน่นอน กล่าวสำหรับสำนักและตระกูลขุนนางโบราณจำนวนมากที่มาเข้าเฝ้านั้น ไม่เพียงแค่ต้องการมาเข้าเฝ้าหวังหานที่เป็นกษัตริย์องค์ใหม่เท่านั้น กล่าวสำหรับสำนักและตระกูลขุนนางโบราณจำนวนมากแล้ว พวกเขากระหายอยากจะได้คารวะต่อหลี่ชิเย่ที่เป็นบรรพบุรุษมากกว่า

เนื่องจากการฟื้นคืนชีพของบรรพบุรุษเช่นหลี่ชิเย่นี้ ได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงไปแล้ว เรียกได้ว่าข่าวนี้ได้สร้างความฮึกเหิมให้กับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงทั้งหมด

แม้ว่าสำนักและตระกูลขุนนางโบราณจำนวนมากล้วนแล้วแต่ไม่ได้เข้าร่วมการแย่งชิงอำนาจในครั้งนี้ และสำนักและตระกูลขุนนางโบราณเหล่านี้ยินดีที่จะเฝ้าปกป้องดินแดนของตนเองมากกว่า

แต่ทว่า กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว การได้เห็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงเสื่อมลงก็เป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับได้เช่นกัน จะอย่างไรเสีย ไม่ว่าจะเป็นสำนักใดหรือตระกูลขุนนางโบราณใดในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงก็ตาม ล้วนแล้วแต่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงทั้งสิ้น

ถ้าหากว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงเสื่อมลง เมื่อเป็นเช่นนั้นพลังสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงโดยรวมก็จะอ่อนแอตามไปด้วย สถานการณ์ของสำนักใดหรือตระกูลขุนนางโบราณใดๆ ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงก็ต้องเสื่อมตามไปด้วย หากถึงวันที่ต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงถึงคราวแห้งเหือดในวันนั้นจริงๆ ล่ะก็ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงทั้งหมดก็ต้องแตกสลายไป เมื่อถึงเวลานั้นแล้วก็จะไม่มีสำนักใดหรือตระกูลขุนนางโบราณใดในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงรอดไปได้

ต่อให้วันนั้นมาถึงแล้ว ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงไม่ถึงกับแตกสลายไป แต่มันก็จะเสื่อมโทรมจนกลายเป็นที่ดินรกร้าง ราษฎรอดอยากเดือดร้อนจนมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ สุดท้ายก็จะกลายเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า สำนักใดหรือตระกูลขุนนางโบราณใดที่ตั้งอยู่ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงนี้ก็จะเสื่อมตาม กระทั่งไม่คงอยู่อีกต่อไป

ดังนั้น หลี่ชิเย่ในฐานะที่เป็นบรรพบุรุษและสามารถฟื้นคืนชีพมาจากหุบเหวบรรพชนได้ จึงทำให้ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงจำนวนมากต่างฝากความหวังที่สูงมาก พวกเขากระหายต้องการให้หลี่ชิเย่เป็นผู้นำพาให้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง กลับไปยังแดนลัทธิราชัน กระทั่งกลับไปยังแดนลัทธิเซียนอีกครั้ง

โดยเฉพาะบรรพบุรุษที่ฟื้นคืนชีพในครั้งนี้ได้นำอาวุธบรรพบุรุษมาให้กับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงถึงสองชิ้นด้วยกัน นั่นก็คือทวนราชันขวางตี้ และกระบี่เซียนพิโรธ!

สิ่งนี้ยิ่งทำให้บรรดาสำนักใดหรือตระกูลขุนนางโบราณใดในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงทั้งหมดพลันดูคึกคักขึ้นมาทันที อาวุธบรรพบุรุษนั้นประเมินค่ามิได้ เวลานี้ได้ติดตามหลี่ชิเย่กลับคืนมา ทำให้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงมีอาวุธบรรพบุรุษในครอบครองรวดเดียวถึงสองชิ้น แล้วจะไม่ให้ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงต้องดีใจได้อย่างไร เวลานี้ ได้ทำให้บรรดาสำนักใดหรือตระกูลขุนนางโบราณใดในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงจำนวนมากล้วนแล้วแต่มองเห็นความหวังที่จะเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา

แม้ว่าสำนักหรือตระกูลขุนนางโบราณจำนวนมากในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงต่างดีใจเป็นอย่างยิ่งกับเรื่องนี้ กระทั่งมีระดับบรรพบุรุษของสำนักหรือตระกูลขุนนางโบราณจำนวนมากต้องการมาคารวะหลี่ชิเย่ แต่หลี่ชิเย่กลับไม่รู้สึกสนใจแม้แต่น้อยกับสภาพที่แออัดยัดเยียดด้านนอก เรียกได้ว่าหลายวันที่ผ่านมาเขาได้ปฏิเสธไม่พบแขก และไม่พบกับบุคคลภายนอกใดๆ ทั้งสิ้น

ภายในราชสำนักของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง บริเวณส่วนที่ลึกเข้าไปภายในราชสำนัก ที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่สำคัญที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง และเป็นสถานที่ต้องห้ามของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง นั่นก็คือต้นกำเนิดสัจธรรม

เรียกได้ว่า คนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงไม่ว่าใครก็ตามไม่สามารถเข้าไปภายในต้นกำเนิดสัจธรรมได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้พิทักษ์เท่านั้น มิฉะนั้นล่ะก็ ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามเข้าไปภายในต้นกำเนิดสัจธรรม ต่อให้เป็นหวังหานที่อยู่ในฐานะของกษัตริย์ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปภายในต้นกำเนิดสัจธรรม

ภายในต้นกำเนิดสัจธรรม พลังของสัจธรรมตลบอบอวล ความจริงแล้วต้นกำเนิดสัจธรรมมีขนาดไม่เล็กเลย มันหาใช่เป็นเพียงบ่อน้ำพุขนาดเล็กๆ เท่านั้น ทั่วทั้งอาณาบริเวณของต้นกำเนิดสัจธรรมเมื่อทอดสายตามองออกไป เสมือนดั่งเป็นทะเลสาบขนาดยักษ์ โดยมีพลังสัจธรรมที่ล้อมรอบ

เมื่อทอดสายตามองออกไป ลักษณะของต้นกำเนิดสัจธรรมเช่นนี้สามารถมองเห็นคลื่นสีเขียวครามที่กระเพื่อม ด้านบนของทะเลสาบแห่งนี้มองเห็นเป็นปรากฎการณ์ประหลาดต่างๆ นานา มองเห็นด้านบนของต้นกำเนิดสัจธรรมปรากฎเป็นหอโบราณลอยล่อง และมีนางฟ้าที่บินท่องไปบนท้องฟ้า ยิ่งกว่านั้นยังมีบุปผาที่ลึกลับดั่งดอกไม้ในม่านเมฆ…

ในขณะนี้ หลี่ชิเย่นั่งอยู่ข้างทะเลสาบ หย่อนขาสองข้างที่เปลือยตีน้ำเป็นฟอง มีเพียงหลี่ชิเย่คนเดียวเท่านั้นที่กล้าทำเช่นนี้ด้วยการล้างเท้าในต้นกำเนิดสัจธรรม มีเพียงผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นหลี่ชิเย่เท่านั้นที่มีสิทธิ์ทำเช่นนี้ได้

แม้แต่หลี่เชียนที่เป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์ก็ไม่กล้าทำเรื่องเช่นนี้ ส่วนที่ว่าหลี่ชิเย่กระทำการเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

หลี่ชิเย่มองดูปรากฎการณ์ประหลาดต่างๆ นานาที่เกิดขึ้นเหนือทะเลสาบ กล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “ต้นกำเนิดสัจธรรมสารพันรูปลักษณ์มองดูแล้วนับว่าน่าดูชมยิ่ง ความจริงแล้วมันคือการเสื่อมลงอย่างหนึ่ง”

“ลูกหลานอกตัญญู” คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้หลี่เชียนต้องกัดฟันพูดออกมาและยิ้มเจื่อนๆ

หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “นับว่าอกตัญญูจริงๆ แดนลัทธิเซียนที่สง่าผ่าเผยกลับกลายเป็นสภาพเช่นนี้ ในครั้งนั้นผู้เฒ่ากำแหงก่อตั้งลานกำแหงขึ้นมาช่างพาลยิ่งนัก ลำพังคำว่า ’ลานกำแหง’ ก็เปี่ยมด้วยความพาล! เป็นการหมางเมินต่อแดนลัทธิเซียน หมางเมินต่อเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน”

คำพูดเช่นนี้ทำให้หลี่เชียนถึงกับเลือดในกายพลุ่งพล่าน แม้ว่าเขาไม่เคยได้เห็นสุดยอดเกียรติยศสุงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงด้วยตาของตนเอง และไม่ได้กำเนิดในยุคที่รุ่งเรืองสุดขีดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง แต่ทว่า จากบันทึกต่างๆ ที่ปรากฏ เขาก็รู้ว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงเคยมีช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ชัชวาลมาก่อน แม้ว่าจะอยู่ในแดนลัทธิเซียนที่สูงส่งยังคงหมางเมินทั่วหล้าได้ ด้วยท่าทีที่ไม่มีใครเหมาะสมมากไปกว่าข้าอีกแล้ว

น่าเสียดาย เมื่อล่วงเลยมาถึงวันนี้ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงได้ร่วงหล่นลงมาถึงแดนลัทธิพรรษ กระทั่งเกือบจะอยู่ในแดนลัทธิพรรษไม่ได้แล้ว สภาพโดยรวมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงเหมือนอยู่ในบั้นปลายของชีวิตอย่างนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล