ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2215

หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ เท่านั้นกับคำขู่ของหวูเลี่ยน และกล่าวเฉยเมยว่า “แคว้นว่านโซ่วแล้วอย่างไร ในสายตาของข้ามันก็แค่พวกอ่อนเท่านั้นไม่คู่ควรจะกล่าวถึง ล่วงเกินข้าต่อให้เจ้าเป็นโอรสราชันแท้จริงข้าก็จะสังหารเจ้าเหมือนกัน จัดการกินดินโคลนให้หมดเสียแต่โดยดี”

บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างใจหายใจคว่ำ ทุกคนถึงกับมองหน้ากันและกันเมื่อได้ฟังคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ คำพูดลักษณะนี้เป็นการประกาศศึกกับแคว้นว่านโซ่วชัดๆ

ถึงกับหาว่าแคว้นว่านโซ่วเป็นพวกอ่อนไม่คู่ควรจะกล่าวถึงต่อหน้าผู้คนมากมายเพียงนี้ ขอเพียงคำพูดเช่นนี้ได้ยินถึงหูผู้ยิ่งใหญ่ของแคว้นว่านโซ่วล่ะก็ เกรงว่าแคว้นว่านโซ่วไม่สามารถอดกลั้นความอัปยศเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน

เวลานี้หลี่ชิเย่พลันดึงผมของหวูเลี่ยนเอาไว้ และพันธนาการตัวของเขาเอาไว้ ในขณะนี้ตัวของหวูเลี่ยนกลายเป็นแข็งทื่อไปแล้ว ขณะที่อ้าปากกว้างเต็มที่ หลี่ชิเย่ลากเอาตัวของหวูเลี่ยนหมุนไปรอบหนึ่ง

หวูเลี่ยนอยู่ในท่าหันหัวลงเท้าชี้ฟ้า ขณะที่อ้าปากกว้างหุบไม่ลง เมื่อหลี่ชิเย่จับขาทั้งสองข้างของเขาแล้วลากบนพื้นไปรอบหนึ่ง ฟันของเขาก็คล้ายดั่งเป็นคราดที่ไถดินบนพื้นไปรอบหนึ่ง

แน่นอน ฟันของหวูเลี่ยนย่อมมีความแข็งแกร่งห่างไกลจากคราดเหล็กแน่นอน ดังนั้นเมื่อหลี่ชิเย่ลากตัวเขาเวียนไปรอบหนึ่งแล้ว ฟันหน้าของเขาก็ถูกกระแทกจนหลุด เลือดไหลหยดเป็นทาง ดินอุดเต็มปาก และเลือดกลบปาก

“การเป็นบุรุษต้องพูดได้ทำได้ ในเมื่อบอกแล้วว่าหากแพ้ก็จะกินดินโคลนบริเวณนี้ให้หมด แล้วไม่ให้เจ้าได้กินจนอิ่มล่ะก็นับว่าอธิบายได้ยากจริงๆ” หลี่ชิเย่ปล่อยตัวหวูเลี่ยนแล้วหัวเราะ จากนั้นคว้าเอาดินโคลนมาเต็มกำมือยัดใส่ปากของหวูเลี่ยน

ดินโคลนกำใหญ่กำแล้วกำเล่าถูกแข็งขืนยัดอัดเข้าไปในปาก เมื่อยัดเข้าไปไม่ได้หลี่ชิเย่ก็ใช้แรงอัดเข้าไปให้ได้ ยัดจนหวูเลี่ยนถึงกับตาถลน สำลักจนหายใจไม่ออก

สุดท้าย หลังจากที่ปากของหวูเลี่ยนถูกยัดอัดแน่นไปได้ดินโคลนแล้ว หลี่ชิเย่จึงยอมเลิกรา เขาสัมผัสมือสองข้างแล้วกล่าวเฉยเมยขึ้นมาว่า “ช่างเถอะ คาดว่าเจ้าก็คงกินดินโคลนที่นี่ให้หมดไม่ได้ วันนี้จะไว้ชีวิตเจ้าสักครั้ง คราวหน้ากล้ามาหาเรื่องข้าอีกล่ะก็ ข้าจะถลกหนังของเจ้าเสีย”

เวลานี้หวูเลี่ยนถูกยัดเต็มปากจนแน่น เขาได้แต่เบิกตากว้างทั้งสองข้าง กระทั่งหายใจยังแทบไม่ได้ยิ่งไม่ต้องให้เขาต้องพูดแล้ว

เวลานี้ทุกคนต่างมองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความงงงัน ทุกคนต่างรู้สึกว่าชายหนุ่มผู้นี้นับว่าความพาลมากจนไหลซึมเล็ดออกมา ไม่เพียงแค่พาลยิ่งเท่านั้น แต่เป็นคนโหดคนหนึ่งชัดๆ หาญกล้าจับหวูเลี่ยนมาเอาดินโคลนยัดเต็มปากต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า เท่ากับฆ่าเขาให้ตายยังจะดีกว่า

“เอาล่ะหนังสนุกๆ จบแล้ว แยกย้ายกันได้” หลี่ชิเย่ปรบมือทั้งสองจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วหันหลังจากไปทันที

ในขณะนี้ซ่งหวี่เฮ่าได้สติคืนกลับมา รีบเร่งวิ่งตามหลี่ชิเย่จนทัน ร้องกล่าวเสียงดังว่า “ท่านผู้มีพระคุณ ขอทราบนามของท่าน!” เขาได้รับบุญคุณใหญ่หลวงจากหลี่ชิเย่ ถึงกับไม่ทราบกระทั่งว่าหลี่ชิเย่เป็นใคร

“เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ใยต้องกล่าวถึง” หลี่ชิเย่ลอยล่องจากไป แม้ซ่งหวี่เฮ่าคิดจะติดตามแต่ก็ไม่ทัน

ซ่งหวี่เฮ่ายืนเซ่ออยู่ตรงนั้น หลังจากผ่านไปชั่วครู่ใหญ่จึงได้สติกลับมา ร่างของเขาสั่นเทิ้มนิดหนึ่งแล้วรีบหันหลังกลับไปทันที มารดาของเขายังรอคอยหนอนไฟเหมันต์มาต่อชีวิตอยู่นะเนี่ย เขาจะต้องรีบกลับไปที่บ้าน

หลังจากที่หลี่ชิเย่จากไปแล้วครู่ใหญ่ หวูเลี่ยนจึงได้ฟื้นคืนสติกลับมา ในขณะนี้เหล่าศิษย์ของหวูเลี่ยนกำลังกุลีกุจอช่วยกันล้วงเอาดินออกจากปากของหวูเลี่ยนจนหมดสิ้นอย่างยากเย็น

“สวะ สวะ สวะทั้งนั้น!” หวูเลี่ยนโกรธจนคลั่ง ประเคนหน้ามือหลังมือใส่หน้าของบรรดาศิษย์เหล่านี้ เป็นการระบายความคับแค้นใจทั้งหมดลงบนตัวของศิษย์เหล่านี้

“เจ้าเดรัจฉานน้อย ข้าจะไม่ขออยู่ร่วมโลกกับเจ้า ข้าไม่ละเว้นเจ้าอย่างเด็ดขาด” สุดท้ายหวูเลี่ยนคำรามเสียงดังด้วยความโกรธและมองไปยังทิศทางที่หลี่ชิเย่หายไป เวลานี้ดวงตาทั้งสองของเขาเผยให้เห็นแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความอาฆาตพยาบาทและความโหดร้าย กัดฟันจนแหลกละเอียด นาทีนี้เขาอยากจะสับร่างของหลี่ชิเย่เป็นหมื่นๆ ชิ้นให้มันรู้แล้วรู้รอดไป

ทุกคนต่างมองตากันและกันเมื่อได้เห็นภาพนี้ คราวนี้หลี่ชิเย่กับหวูเลี่ยนและแคว้นว่านโซ่วได้ก่อเกิดความแค้นขึ้นมาแล้ว!

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ไปจากแล้วก็ได้เดินทางไปข้างหน้า มุ่งสู่ส่วนที่ลึกมากขึ้นไปอีก จากการที่เดินทางลึกเข้าไป ความร้อนจากดินแดนต้นกำเนิดไฟได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ร้อนแผดเผายิ่งนัก ทำให้ยากที่จะทนได้

เนื่องเพราะเหตุนี้เอง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่พบเจอระหว่างทางจึงน้อยลงทุกทีๆ เนื่องจากยิ่งลึกเข้าไปมากเท่าไร สถานการณ์ของไฟก็ยิ่งจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้เป็นยอดฝีมือก็ต้องถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าธุลีไป และลึกมากกว่านี้เข้าไปอีกล่ะก็ แม้แต่เทพแท้จริงก็อาจไหม้เป็นจุณก็เป็นได้

จากการเดินทางลึกเข้าเรื่อยๆ ในมือของหลี่ชิเย่ได้ปรากฏสิ่งของสิ่งหนึ่ง มันคือไม้บรรทัดวัดสวรรค์ที่ได้มาจากศาลเจ้าทองคำนั่นเอง

ไม้บรรทัดวัดสวรรค์คือสมบัติล้ำค่าประจำศาลเจ้าทองคำ มันคือของวิเศษที่ฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งตั้งแต่ยุคสมัยนั้น มีประวัติความเป็นมาที่สะเทือนฟ้ายิ่งนัก

แม้ว่าไม้บรรทัดวัดสวรรค์จะไม่เน้นในด้านของการรุก แต่มันกลับจะมีความลึกซึ้งและยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง มันสามารถวัดสวรรค์ วัดปฐพี วัดโลกมนุษย์ วัดนิรันดร์กาล วัดความลับสวรรค์…

เวลานี้ ขณะที่ไม้บรรทัดวัดสวรรค์อยู่ในมือของหลี่ชิเย่อยู่นั้น ปรากฏประกายจากดวงดาวมารวมตัวกัน และประกายดาวล้วนแล้วแต่ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน และมีการปรับตำแหน่งอยู่ตลอดเวลาตามการเคลื่อนที่ของหลี่ชิเย่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล