เพียงชั่วพริบตาเดียว หลี่ชิเย่ได้เดินไปถึงข้างๆ สระบงกชแล้ว เขาเพียงกวาดสายตามองออกไปยังดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟเท่านั้นเอง สำหรับพวกของคุณชายหุยชุน เขาขี้คร้านจะไปสนใจ
“เจ้าเดรัจฉานน้อย เจ้ายังกล้ามาที่นี่อีก” เมื่อหวูเลี่ยนได้สติกลับมาจึงร้องตวาดออกไป และรายงานต่อคุณชายหุยชุนทันทีว่า “คุณชาย เขานี่แหละที่พูดจาเหยียดหยามแคว้นว่านโซ่วของพวกเรา”
เวลานี้หวูเลี่ยนไม่เอ่ยถึงเรื่องที่ตนผูกความแค้นกับหลี่ชิเย่ และไม่พูดถึงเรื่องที่หลี่ชิเย่บังคับให้ตนกินดินโคลน แต่พูดถึงเรื่องที่หลี่ชิเย่พูดจาเหยียดหยามแคว้นว่านโซ่วโดยตรง เขาต้องการลากเอาหลี่ชิเย่ถึงขั้นเป็นศัตรูกับแคว้นว่านโซ่วทั้งหมด
คุณชายหุยชุนถึงกับขมวดคิ้วขณะจ้องมองดูหลี่ชิเย่ เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “การกระทำของท่านออกจะเกินไปแล้วกระมัง ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านมา วันนี้เหล่าบรรพบุรุษ และผู้กล้าต่างกำลังนั่งบัวบรรลุธรรม ท่านบุกรุกเข้ามาก่อเรื่องโดยพละการ นี่มันเท่ากับไม่เห็นบรรดาบรรพบุรุษผู้ทรงคุณธรรมมีความรู้และชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในสายตา!”
คำพูดของคุณชายหุยชุนดูมีระดับมากยิ่งกว่าหวูเลี่ยนเสียอีก เขาไม่เพียงอยู่ในฐานะเป็นตัวแทนของแคว้นว่านโซ่ว ขณะเดียวกันยังได้ลากหลี่ชิเย่เข้าไปเป็นศัตรูกับบรรดาเหล่าบรรพบุรุษที่อยู่ในเหตุการณ์อีกด้วย
“อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “สถานที่ตรงนี้ใช่ว่าจะเป็นบ้านของเจ้า ข้าคิดอยากจะมาก็มา คิดอยากจะทำอะไรก็ได้ หากมีใครมาขวางทางข้า ก็จัดการสั่งสอนมันให้สาสมก็แล้วกัน”
คำพูดที่ตรงและอันธพาลเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ง่ายๆ และป่าเถื่อน ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ด้านนอกหุบเขาได้ยินแล้วต่างรุ้สึกสะใจอย่างยิ่ง การที่พวกของคุณชายหุยชุนยึดเอาสระบงกชเอาไว้เฉพาะสำหรับตนเอง โดยไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปได้สร้างความไม่สบอารมณ์ให้กับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนอยู่ในใจเป็นจำนวนมาก เพียงแต่พวกเขาได้แต่โกรธแค้นแต่ไม่กล้าพูดออกมาเท่านั้น
เวลานี้หลี่ชิเย่บุกรุกเข้าไปยังสระบงกชโดยตรง เผยความพาลออกมาฟาดใส่หน้าของคุณชายหุยชุนโดยตรง ทำให้ผู้คนไม่รู้จำนวนเท่าไรที่รู้สึกสบายอกสบายใจ และช่างสะใจอย่างนั้น
คุณชายหุยชุนถึงกับทำหน้าบึ้งตึง เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟในสระบงกชมีจำนวนจำกัด บรรดาบรรพบุรุษผู้มีความรู้และอาวุโสจะได้สิทธิ์ชำระกายาบรรลุสัจธรรมก่อน มันคือกฎเกณฑ์ที่มีมาเป็นพันล้านปี…”
“กฎกงกฎเกณฑ์อะไร” หลี่ชิเย่สะบัดมือตัดบทคำพูดของคุณชายหุยชุน หัวเราะและกล่าวว่า “ในสายตาของข้า จะเป็นกฎเกณฑ์อะไรก็ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง คำพูดของข้าก็คือกฎเกณฑ์! ดังนั้น วันนี้สระบงกชนี้ข้าเหมาเอาไว้หมดเลย”
ฉับพลันที่หลี่ชิเย่คำพูดนี้ออกมา ทำให้สีหน้าของคุณชายหุยชุนเปลี่ยนไปมากทีเดียว บรรดาบรรพบุรุษผู้มีความรู้และอาวุโสก็มีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปเช่นกัน คำพูดเช่นนี้คืออันธพาลและถืออำนาจบาตรใหญ่ ถ้าหากหลี่ชิเย่ยึดครองสระบงกชนี้เอาไว้เพียงคนเดียว ต่อไปพวกเขายังจะทำอะไรได้อีก?
“อวดดีมากเหลือเกิน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร” อัจฉริยะบุคคลของตระกูลขุนนางโบราณอดกลั้นเอาไว้ไม่ได้ จึงออกปากตำหนิหลี่ชิเย่ทันที
“เจ้าคนที่ไม่รู้จักคำว่าตาย อยู่ต่อหน้าบรรดาบรรพบุรุษผู้มีความรู้และอาวุโสทั้งหลาย ต่อหน้าคุณชายของพวกเรา ถึงกับกล่าววาจาสามหาวไร้ยางอาย!” หวูเลี่ยนร้องตวาดเสียงดังขึ้นมาว่า “วันนี้เจ้าจะต้องตายอย่างไร้ที่ฝัง!”
เวลานี้ คุณชายหุยชุนก็จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่อย่างน่าเกรงขาม และกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “หากว่าท่านต้องการยึดครองสระบงกชไว้แต่เพียงผู้เดียวก็ต้องแสดงฝีมือออกมา ตลอดเวลาที่ผ่านมาผู้ที่คิดจะใช้ประโยชน์จากดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟต้องเรียงตามลำดับอาวุโส เกรงว่าวันนี้คงยังไม่ถึงทีของเจ้าที่จะมารั้งอยู่ที่ตรงนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าคิดอยากจะยึดครองสระบงกชไว้แต่เพียงผู้เดียว! พูดคำที่ไม่น่าฟังก็คือ ท่านยังไม่มีคุณสมบัติข้อนี้!”
เวลานี้คำพูดของคุณชายหุยชุนก็ไม่อ้อมค้อมแล้ว เขาพูดดันกลับไปทันที ภายใต้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะมันคือถิ่นของแคว้นว่านโซ่วพวกเขา คุณชายหุยชุนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วหล้าเคยเกรงกลัวใครที่ไหนมาก่อนล่ะ เฉกเช่นหลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามเขาจึงไม่ใส่ใจ ต่อให้หลี่ชิเย่เป็นยอดฝีมือเขาก็ไม่หวั่น
ในพื้นที่ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือเช่นใดก็ตาม หาญกล้าเป็นศัตรูกับแคว้นว่านโซ่วของพวกเขาคือการหาเรื่องลำบากใส่ตัว เป็นการรนหาที่ตายเอง!
“อย่างนั้นรึ?” เวลานี้ เสียงที่เย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้น และเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “หากคุณชายหลี่ไม่มีสิทธิ์ แล้วใครล่ะที่มีสิทธิ์ เจ้ารึ?”
เสียงที่หยิ่งและเย็นชานี้ไพเราะน่าฟังยิ่งนัก ต่อให้เป็นคำพูดที่บีบคั้นจิตใจผู้คนก็ตาม ฟังดูแล้วก็มีความไพเราะน่าฟังเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนต่างหันมองไปยังต้นเสียง มองเห็นด้านนอกหุบเขามีผู้หญิงที่เยี่ยมยอดยิ่งยืนอยู่คนหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้มีบุคลิกลักษณะที่ปราศจากผู้เทียบเทียม รูปโฉมสวยหยาดเยิ้ม ทำให้ผู้พบเห็นต้องเคลิบเคลิ้มหลงใหล
“เทพสงครามสตรีแห่งจูเซียง” ไม่รู้ว่าใครที่ส่งเสียงร้องด้วยความตกใจเมื่อได้เห็นผู้หญิงคนนี้แล้ว
“เทพสงครามสตรีมาแล้ว” เวลานี้ทุกคนต่างรู้สึกมีกำลังวังชาขึ้นมา โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ต่างมองดูรูปโฉมที่สวยหยาดเยิ้ม และบุคลิกน่าประทับใจของหวู่ปิงหนิงด้วยความรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง
เทพสงครามสตรีแห่งจูเซียงมีชื่อเสียงที่โด่งดัง ต่อให้เป็นผู้ที่ไม่เคยเห็นหน้าของนางมาก่อนก็รู้จักชื่อของนาง ยิ่งกว่านั้นยังมีจำนวนมากกว่าที่หลงใหลในความงามที่เลิศล้ำปราศจากผู้เทียบเทียมของนาง
“สมดังคำเล่าลือ เทพสงครามสตรีไม่เพียงมีทักษะที่สูงส่ง ทั้งยังมีรูปโฉมงามดั่งเทพธิดา” มีผู้บำเพ็ญตนหนุ่มอดที่จะชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง
สำหรับผู้ที่เคยพบเห็นหวู่ปิงหนิงมาก่อน ถึงกับเคลิบเคลิ้มหลงใหลในตัวหวู่ปิงหนิงอย่างลึกซึ้งนานแล้ว และผู้ที่เพิ่งจะพบเห็นหวู่ปิงหนิงเป็นครั้งแรกนั้น มีอยู่จำนวนไม่น้อยถึงกับเหม่อลอย และเคลิบเคลิ้มหลงใหลจนลืมทุกสิ่งที่อยู่รอบข้างไปสิ้น
แม้แต่คุณชายหุยชุนเองก็ต้องรู้สึกเคลิบเคลิ้มหลงใหลขณะหวู่ปิงหนิงปรากฎ เขาไม่ได้พบเห็นหวู่ปิงหนิงเป็นครั้งแรก แต่กับผู้หญิงที่งดงามปราศจากผู้เทียบเทียมตรงหน้าแล้ว ผู้ที่มีความโดดเด่นเช่นเขาก็อดที่จะทุ่มเทความรักให้ตั้งแต่แรกพบ
“เทพสงครามสตรี” แม้แต่บรรดาบรรพบุรุษผู้มีความรู้และอาวุโสก็ต้องแสดงความเคารพเมื่อหวู่ปิงหนิงก้าวเดินเข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...