สภาพดินฟ้าอากาศของหุบเขาร้อยบุปผาดั่งวสันตฤดูตลอดทั้งปี ภายในหุบเขาเปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวา มีหญ้าหลินจือขึ้นอยู่เต็มไปหมด มีดอกไม้ประหลาดที่เบ่งบาน มีกิ่งหลิวที่เคลื่อนไหวอ่อนช้อยยามต้องลม ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหญิงงามที่เดินเข้าออก
ภายในหุบเขาร้อยบุปผาสามารถพานพบหญิงงามได้ทุกที่ หญิงงามแต่ละนางล้วนมีความงามที่แตกต่างกัน เรียกได้ว่าสาวงามมีกันมากมายดั่งดอกเห็ด
ท่ามกลางหุบเขาร้อยบุปผา สามารถพบเห็นสาวงามที่สูงส่งเย่อหยิ่งและงดงามเย็นชาดั่งดอกเหมยกำลังรดน้ำดอกไม้ประหลาด สามารถมองเห็นหญิงสาวที่น่ารักถูกใจยิ้มแบบไร้เดียงสากำลังไล่กวดกวางหมีลู่ และยังสามารถมองเห็นหญิงงามที่งดงามนุ่มนวลโอนอ่อนผ่อนตามกำลังเก็บสมุนไพรวิเศษ…
กล่าวได้ว่า หุบเขาร้อยบุปผานี้ไม่เพียงแต่มีภูมิอากาศที่เหมาะแก่การอยู่อาศัย ทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังมีหญิงงามมากมาย ทำให้ผู้ที่มาถึงหุบเขาร้อยบุปผาแล้วล้วนแล้วแต่เดินดูเพลินจนลืมกลับบ้าน
การเข้ามายังหุบเขาร้อยบุปผาของหลี่ชิเย่นั้น ได้ดึงดูดสายตาของสาวงามมากมาย มีสาวงามที่เม้มปากหัวเราะเบาๆ เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ มีสาวงามที่ดูหยิ่งทระนงเยื่อกเย็น แค่มองดูอย่างเย็นชาแวบหนึ่งเท่านั้นเมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ และมีสาวงามที่พยักหน้าทักทายและแสดงออกถึงความเป็นมิตรเมื่อได้เห็นหลี่ชิเย่…
สาวงามมากมาย เรียกได้ว่ามองดูจนตาลายไปหมด หากเปลี่ยนเป็นผู้ชายอื่นมาอยู่ในสถานที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เกรงว่าคงอดที่จะทำจิตใจให้สงบลงได้ แต่ว่าหลี่ชิเย่ที่มองดูเหล่าสาวงามมากมายเหล่านั้นแล้ว ก็เพียงแค่ยิ้มเฉยเมยเท่านั้นเอง ก้าวเดินไปช้าๆ อย่างมีความสุข ชื่นชมกับทิวทัศน์ที่งดงามของหุบเขาร้อยบุปผาอย่างละเอียด
การปรากฏตัวของผู้ชายคนหนึ่งที่หุบเขาร้อยบุปผากะทันหันก็ได้สร้างความประหลาดใจให้กับศิษย์สาวภายในหุบเขาแล้ว ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้นก็คือ หลี่ชิเย่ยังเป็นศิษย์อันดับที่หนึ่งของหุบเขาอมตะอีกด้วย
ดังนั้น เมื่อข่าวเช่นนี้แพร่ออกไปแล้ว ศิษย์สาวของหุบเขาร้อยบุปผาต่างทยอยกันออกมาดู แน่นอนที่สุด ศิษย์สาวจำนวนมากยังคงมองดูหลี่ชิเย่แวบหนึ่งแต่ไกล ท่าทางดูประหลาดใจ และเอียงอายอยู่บ้าง จะอย่างไรเสีย ศิษย์ผู้ชายน้อยคนนักที่สามารถเข้ามาพักอาศัยอยู่ในหุบเขาร้อยบุปผาได้อยู่แล้ว
บรรดาศิษย์สาวที่อยากรู้อยากเห็นบางส่วนได้แอบเล็งดูหลี่ชิเย่หลายทีแล้วเม้มปากหัวเราะเบาๆ และมีศิษย์สาวบางส่วนที่ใจกล้าขึ้นมาหน่อยก็จะทำชี้มือชี้ไม้และนินทางลับๆ กับเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน
หลังจากที่หลี่ชิเย่ซึ่งเป็นผู้ชายได้เข้ามายังหุบเขาร้อยบุปผาแล้ว ได้ทำให้เกิดลูกคลื่นขึ้นมาไม่น้อยทีเดียว และทำให้ศิษย์สาวจำนวนไม่น้อยทยอยกันหยุดมองดู เหมือนว่าหลี่ชิเย่ในเวลานี้ก็คือลิงที่ถูกขังอยู่ในกรงอย่างนั้น สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนไม่น้อย
แน่นอน หลี่ชิเย่ไม่ใส่ใจที่จะถูกใครมองอยู่แล้ว ก้าวเดินโดยแฝงรอยยิ้มบนใบหน้า ท่าทางเป็นไปตามธรรมชาติ
การที่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งมาเดินอยู่ในหุบเขาร้อยบุปผาของพวกนาง โดยที่ไม่แสดงท่าทางที่เคอะเขินแลดูเป็นอิสระ ก็ได้ทำให้ศิษย์สาวจำนวนมากต้องชำเลืองตามอง
จะไปโทษบรรดาศิษย์สาวเหล่านี้ที่มีความอยากรู้อยากเห็นก็ไม่ถูก ประการแรก ตลอดเวลาที่ผ่านมาหุบเขาร้อยบุปผาก็มีศิษย์ที่เป็นชายน้อยคนนักที่ได้เข้าไปพักอาศัย ต่อให้มีก็จะเป็นกรณีพิเศษมากๆ ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ ตำแหน่งศิษย์อันดับที่หนึ่งนี้ถูกแขวนว่างเอาไว้ตลอดมา
เนื่องจากตำแหน่งศิษย์อันดับที่หนึ่งนั้นโดยทั่วไปแล้วก็คือผู้สืบทอด ถ้าหากถูกคิดเลือกให้อยู่ในตำแหน่งศิษย์อันดับที่หนึ่งล่ะก็ ในอีกแง่มุมหนึ่งก็จะเป็นผู้สืบทอดของหุบเขาอมตะในอนาคต และคือผู้กุมอำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ
แต่ว่า เวลานี้นักพรตฉางเซินอายุยังน้องมาก มีทักษะยุทธที่ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง ได้รับการยกย่องจากทุกระดับชั้นในหุบเขาอมตะ และทุกฝ่ายในแดนลัทธิพรรษ ณ ขณะนี้จึงยังไม่ใช่วลาที่หุบเขาอมตะจะต้องแต่งตั้งผู้สืบทอดขึ้นมา
ด้วยเหตุนี้เอง ตำแหน่งศิษย์อันดับที่หนึ่งของหุบเขาอมตะจึงว่างเว้นมาโดยตลอด เวลานี้จู่ๆ ก็มีศิษย์อันดับที่หนึ่งโผล่ขึ้นมากะทันหัน แล้วจะไม่ให้รุ้สึกแปลกใจกันได้อย่างไร
ถ้าหากเป็นสภาพการณ์ปรกติ การที่คนเช่นหลี่ชิเย่โผล่ขึ้นมาแล้วเป็นศิษย์อันดับที่หนึ่งของหุบเขาอมตะพวกเขา จะต้องถูกมองว่าเป็นพวกแอบอ้างอย่างแน่นอน
แต่หลี่ชิเย่กลับถือหนังสือที่เป็นลายมือของนักพรตฉางเซินเจ้าหุบเขาของพวกเขามาด้วย อย่างอื่นสามารถปลอมได้ แต่ว่าหนังสือที่เป็นลายมือของนักพรตฉางเซินเจ้าหุบเขาของพวกเขาไม่สามารถปลอมได้ ดังนั้น กล่าวได้ว่าตำแหน่งศิษย์อันดับที่หนึ่งของหลี่ชิเย่เป็นของจริงแท้อย่างแน่นอน ไม่สามารถปลอมแปลงได้อยู่แล้ว
ขณะที่หลี่ชิเย่ก้าวเดินเข้าไปภายในหุบเขาร้อยบุปผานั้น ศิษย์อันดับที่หนึ่งเช่นหลี่ชิเย่คนนี้ดูไปแล้วเสมือนดั่งเป็นบุตรเขยอย่างนั้น ดึงดูดให้สาวๆ จำนวนมากมามุงดู มีสาวๆ จำนวนไม่น้อยที่เม้มปากหัวเราะเบาๆ เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่
แต่ว่า หลี่ชิเย่นั้นหน้าหนา และผ่านอุปสรรคมามากมาย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยังคงมีท่าทีที่เฉยเมย เดินไปช้าๆ อย่างมีความสุข เดินไปชมทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขาร้อยบุปผาและสาวงามไปพลาง
“นับเป็นจอมกักขฬะที่ใจกล้ามากคนหนึ่งจริงๆ” เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ชื่นชมทิวทัศน์และสาวงามของหุบเขาร้อยบุปผาอย่างสบายอกสบายใจอย่างนั้นแล้ว ศิษย์สาวของหุบเขาร้อยบุปผา ถึงกับแสร้งทำเป็นด่าเสียงแผ่วเบาออกมา
เป็นความจริงที่หลี่ชิเย่ไม่ได้รู้สึกกังวลใดๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ที่งดงามของหุบเขาร้อยบุปผา หรือจะเป็นสาวงามเขาก็จะมองดูอย่างละเอียด แววตาของเขาพาลอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นสาวงามที่ไม่คุ้นเคยเขายังคงพินิจพิเคราะห์นางอย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า ลิ้มลองสาวงามที่อยู่ตรงหน้าอย่างละเอียด
แต่ว่า ผู้หญิงย่อมหน้าบางกว่ามากทีเดียว ไม่มีศิษย์สาวคนใดในหุบเขาร้อยบุปผาสามารถรองรับกับสายตาที่อันธพาลได้ ภายใต้สายตาที่เปี่ยมไปด้วยความคุกคาม ผู้หญิงเหล่านั้นล้วนแล้วแต่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองนั้นเปลือยเปล่า เวลานี้ เสียงก่นด่าจากการเสแสร้งว่าโกรธดังขึ้นไม่ขาดสาย ศิษย์สาวจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกโกรธกับท่าทางที่อันธพาลของหลี่ชิเย่ ไม่กล้าสบตากับเขาโดยตรง ทยอยกันด่าเขาว่าจอมกักขฬะ
กล่าวได้ว่า ศิษย์อันดับที่หนึ่งเช่นหลี่ชิเย่ผู้นี้ยังมีผู้คนจำนวนมากไม่รู้จักชื่อของเขา แต่คำว่าจอมกักขฬะชื่อนี้กลับกลายเป็นฉายาของหลี่ชิเย่ไปแล้ว
การเสแสร้างเป็นโกรธและด่าว่ากระทบ เสียงนกเสียงกาฟังแล้วก็ดูจะสบายเป็นพิเศษ และไพเราะเสนาะหูเป็นพิเศษ แน่นอน ก่อนอื่นผู้นั้นจะต้องหน้าหนาพอ จึงสามารถทนฟังผู้หญิงจำนวนมากด่าว่าเจ้าเป็นจอมกักขฬะแล้วยังรู้สึกสบายได้
หลี่ชิเย่ไม่ใส่ใจต่อการด่าว่าเขาเป็นจอมกักขฬะจากศิษย์สาวเป็นจำนวนมาก เขายังคงมีรอยยิ้มที่สดใสและท่าทางที่เป็นธรรมชาติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...